Group Blog
 
All Blogs
 

เปิดสอนแต่งหน้ารอบใหม่ 28 มีนาคมนี้





ขอบคุณคุณนิค พรีเซนเตอร์จากคลาสที่แล้วค่ะ ^O^



why make up ?!?





บุคลิก ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง และจะดียิ่งกว่าถ้าเราสร้างบุคลิกได้ด้วยตัวเองซึ่งการแต่งหน้าก็เป็นหนึ่ง ในนั้น เพราะทุกวันนี้ชีวิตประจำวันก็วุ่นวาย มีเวลาไม่มากมาย หรือโอกาสพิเศษต่างๆ ที่เราต้องดูดีเป็นพิเศษ จะดีแค่ไหนถ้าเรารู้ความต้องการของเราเอง รู้ว่าเหมาะกับอะไรบ้าง และสามารถทำเองได้




be yourself by your makeup
รู้จัก ตัวเอง จุดเด่น จุดด้อย อะไรที่ชอบ และอะไรที่ใช่ สีสัน ลายเส้น ทิศทางที่เหมาะสม เพื่อการสร้างความแตกต่างในการแต่งหน้าอย่างไม่รู้จบ



my beauty, my face, my skin
ผิว สวยคือจุดเริ่มต้นของความงาม ร่วมรู้จักผิวจากภายใน และขั้นตอนการสร้างผิวแบบละเอียด ที่ว่ายากก็จะไม่อีกต่อไป พร้อมทั้งการแก้ไขรูปหน้าให้ได้รูปสวยจากการไฮไลท์-เฉดดิ้ง เพื่อความสมบูรณ์ของการแต่งหน้าสไตล์นู้ด



10 minutes makeup
สวย แบบด่วน เร่งให้ทันคลาสเรียน หรือเข้างานยามเช้า เรียนรู้การปรับการแต่งหน้าให้เข้ากับชีวิตประจำวัน ทั้งการแต่งแบบใสๆ ถึงทดลองลูกเล่นที่หลากหลายเพื่อการเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างรวดเร็ว



my experience, your experience
ร่วมแชร์ประสบการณ์ที่สวยงาม และฝันร้ายจากการแต่งหน้า รวมถึงร่วม review เครื่องสำอางที่ว่าเจ๋ง จากปากของผู้ใช้จริง


Let's make up
ถ้า ไม่ได้ลอง ก็คงไม่เป็น กับ work shop ที่ได้ลงมือปฏิบัติกันแบบจริงจังทุกขั้นตอน พร้อมเทคนิคมากมายจากประสบการณ์จริงที่จะช่วยให้การแต่งหน้าเป็นเรื่องหมูๆ








Make-up Workshop for Beginners

วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2553
เวลา 09.30-17.00
สถานที่ : salon de bear [พัฒนาการ37]

วิทยากร : แป๊ะ [sushiboy69] , กุ้ง [the kung]

ค่าใช้จ่าย 2000 บาท / คน [รวมอาหารกลางวัน]
คอร์สละ 8 ท่าน (คอร์สนี้คอนเฟิร์มอย่างน้อย 5 ท่าน ถึงจะเปิดนะคะ)
สอบถามรายละเอียดติดต่อ กุ้ง 0899677061
email: makeup.debear@gmail.com

* อุปกรณ์ และเครื่องสำอางพื้นฐานทั้งหมดมีเตรียมไว้ให้ค่ะ แต่ก็แนะนำให้นำของที่มีอยู่มาร่วมใช้ในการเรียนด้วยค่ะ


* สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย แนะนำให้เตรียม skin care และเครื่องสำอางที่ใช้กับผิวมาด้วยนะคะ






แล้วพบกันค่า ^O^




 

Create Date : 30 กันยายน 2552    
Last Update : 6 มีนาคม 2553 12:13:19 น.
Counter : 10505 Pageviews.  

Sun Kisses & Red Dances

...Sun Kisses...

หายหน้าหายตาจากวงการไปนาน เพราะงานยุ่งมาก ไม่รู้ยังมีมิตรรักแฟนเพลงแถวๆ นี้คิดถึงกันบ้างไหม *จุ๊บๆ*

พอดีได้รับเทียบเชิญให้ไปทำ How To ที่เวป jeban ก็เลยแอบแหนบมาลงที่นี่ด้วย เพราะรู้ตัวว่าไม่ได้อัพนานแล้ว แหะๆ


โจทย์ก็คือ sexy chic ช่างเป็นอะไรที่ยากมากเหลือเกิน เพราะหนูถนัดแต่แอ๊บแบ๊วนะคะ คุณขา จะให้หนูไป sexy อะไรได้ไง แต่ไหนๆ คุณพี่ขอร้องทั้งที คุณน้องก็จะพยายามนะคะ แต่ถ้า sexy ไม่สาแก่ใจ หนูก็ต้องขออภัยไว้ด้วย เพราะนิโคล เอ้ย กั้งถนัดแต่แอ๊บแบ๊วฮ่ะ

ไม่อยากจะโชว์หน้า before เลยให้ตาย เพราะเพิ่งไปทำงานแถวทะเลกลับมา สิวเพียบแถมอดนอน งานนี้ก็ต้องพึ่งรองพื้นกันเต็มๆ ฮ่ะ







1. ก่อนจะลงรองพื้น ก็ต้องลง MAC Prep+Prime ช่วยปรับสภาพหนังหน้ากันนิดนึงก่อน









2. หลังจากเตรียมผิวเสร็จ ก็มาถึงขั้นตอนกลบเกลื่อนความผิด (ปกติของผิว) ลงรองพื้นแบบ 3-in-1 ให้หน้าเรียวขึ้นและมีมิติมากขึ้น โดยการใช้รองพื้น 3 เฉดสี โดยลงสีเข้มสุด (True Match N7) บริเวณกรอบหน้าและข้างแก้มที่สุดแสนจะอูม จากนั้นใช้สีขาวสุด (True match N1) เป็นไฮไลท์ลงบริเวณ T-Zone ส่วนบริเวณที่เหลือก็ลงรองพื้นสีเข้มกว่าผิวประมาณ 1 เฉดสี (True Match G3) เวลาลงแป้ง ซึ่งสีจะขาวกว่าผิวนิดหน่อยก็จะออกมาดูพอดี






เกลี่ยให้เรียบเนียนเสมอกัน







3. เนื่องจากใต้ตาคล้ำมาก เพราะอดนอน ก็เลยต้องมีกรรมวิธีลบรอย ด้วยชอล์คมุจิสีเบจ และลงรอบขอบปากด้วย เพราะอยากลบขอบปากตอนที่ลงลิปขั้นสุดท้าย






4. ใช้พู่กันคอนซีลเลอร์เกลี่ยให้เรียบ แล้วใช้นิ้วนางกดย้ำๆ เบาๆ ให้เนียนอีกครั้ง





5. หลังจากนั้นก็ถึงขั้นตอนลงแป้ง True Match Minerals หลังจากใช้มา 3-4 หนแล้ว ชอบเนื้อแป้งนะคะ แต่แปรงที่ติดมากับกระปุกเนี่ย... --*-- ยังกะทำจากทางมะพร้าว แข็งอย่างแรง แต่รู้สึกว่า True match จะเหมาะกับคนหน้ามันที่สุด แต่คนหน้าแห้งก็ใช้ได้ค่ะ แต่ตอนแต่งหน้าอย่าใจร้อนต้องรอแป้งเซตตัวนิดนึง เราก็หน้าแห้ง ตอนแรกที่ทาจะรู้สึกว่า หน้าแห้งมาก แป้งดูลอยๆ ไม่ค่อยเกาะผิว แต่พอเดินไปเดินมาสักพักหลังเหงื่อออกแล้ว หน้าดูดีขึ้นมากเลยค่ะ ดูฉ่ำๆ เด้งๆ ดี ขนาดออกไปข้างนอกมาทั้งวัน กลับบ้านแล้วหน้าก็ยังเด้งอยู่





อ่อ เม้าเพลินเกือบลืม ฮาวทู แหะๆ ลงแป้ง True match mineral N6 (สีเข้ม) บริเวณกรอบหน้าและใช้ True match G3 ลงส่วนที่เหลือ เกลี่ยให้เนียนค่ะ ใช้พู่กันเล็กเก็บรายละเอียดในส่วนที่แปรงกลมเข้าไปไม่ถึง







6. ถึงขั้นตอนแต่งตา ขั้นตอนนี้ขอรวบรัดหน่อย เพราะไม่ยาก
- เริ่มจากใช้ดินสอเขียนขอบตาสีดำ (Make up store pencil liner - black) แล้วใช้พู่กันเล็กเกลี่ยให้ดูฟุ้งๆ





- หลังจากนั้นลงอายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อน (Kate Eye shadow palette BR-1) ลงให้ทั่วเปลือกตา แล้วใช้สีน้ำตาลเข้มลงบริเวณหางตา (ลงแบบคัดเบ้า เลยไปจนถึงหางตา) จากนั้นใช้สีขาวสุดในพาเลต ลงเป็นไฮไลต์ เบลนด์ให้เนียน









- หลังจากนั้นใช้สี moonstone (4U2 eyeshadow-Gemstone) ทาทับให้ทั่วเปลือกจาก จนถึงโหนกคิ้ว รวมถึงขอบตาล่างด้วย








7. ใช้ดินสอสีดำ (หรือเจล) เขียนอินเนอร์ไลน์เนอร์ทั้งขอบตาบนและล่าง หลังจากนั้นใช้สีไฮไลต์แตะบริเวณหัวตา (ขอบตาล่าง) แล้วเบลนด์ให้เนียนกับสีมูนสโตนที่ลงไว้






8. ใช้อายไลน์เนอร์สีดำ (kate liner supersharp) กรีดเส้นให้เล็กและบางแบบชิดขอบตาให้มากที่สุด




9. ดัดขนตา แล้วปัดด้วยมาสคาร่าสีดำ (Black Shine –Mistine + Jet Set Cute Press)







10. เขียนคิ้วด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาลเข้ม ( Kate Eye shadow palette) แล้วปัดด้วยมาสคาร่าสีน้ำตาลทอง (Fasio -golden brown)





11. วันก่อน MA ของ Makeup Store แนะเคล็ดลับการปัดแก้มให้ดูมีโหนกแก้มขึ้นมา โดยให้ลองใช้นิ้วโป้งกดหากระดูกโหนกแก้มของเราแล้วเริ่มปัดจากตรงนั้นค่อยๆ ไล่เข้าหาสันจมูก ให้ปัดตามแนวกระดูก อย่าปัดลงเป็นแนวยาวจะทำให้ดูแก้มห้อย หลังจากนั้นใช้ bronezer (shuuemura luminizer) ลงให้ทั่วใบหน้า ค่อยๆ ลงอย่าใจร้อน เพราะถ้าหนักมือ จะดูหน้ามันไปทันที พยายามเกลี่ยสีอายแชโดว์และ bronzer ให้ดูกลมกลืนกันทั่วทั้งหน้า





ปัดขวางๆ แถวสันจมูกนิดหน่อยให้พอมีสีสัน จะได้เหมือนโดนแดดเผาหน่อยๆ



12. แล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ ลิปสติก (มีคนแอบลุ้นอยู่ใช่ป่าวว่าเราจะทาลิปแบบไหน ยังไง)

ใช้ลิปสติกสี cinnamon (L’oreal Color Riche #618) ลงตรงบริเวณริมฝีปากด้านใน โดยทิ้งขอบปากที่ลงแป้งไว้ เบลนด์อย่าให้เห็นรอยต่อชัดเจน แล้วใช้ bronzer ลงทับบริเวณขอบปาก ก่อนลงทับด้วยลิปกลอส ( L’oreal Gram Shine #404) เป็นอันเสร็จพิธี





เสร็จแล้วค่า....




คราวนี้ลุคสโมกกี้ ดูใสๆ กว่าทุกที แต่อยากแต่งหน้าแบบแอบๆ sexy บ้างเหมือนกัน ดูเหมือนไม่ค่อยตั้งใจดี อิอิ ไม่ได้ทำ How to มานาน ไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ ตกหล่นอะไรไปบ้าง ก็อย่าถือสากันนะคะ อาจจะไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ แต่หวังว่าคงชอบกันนะคะ ^^





...Gallery...


























...Red Dances...


เนื่องจากตัดสินใจไม่ถูกว่าอยากจะปากแดง หรือปากนู้ดดี ก็เลยทำมาสองแบบฮ่ะ อันนี้เป็นฉบับเดอะ กั้ง กินลาบก้อย (ที่น้องแป๊ะตั้งให้ กั่กๆ) ลองดูนะคะ ว่าชอบ เดอะ กั้งแบบแดดเดียวเหมือนข้างบน หรือชอบแบบกินดิบๆ อย่างนี้


1. เนื่องจากเป็นลุคต่อเนื่อง เลยไม่ลงรองพื้นใหม่ แต่ใช้วิธี โบ๊ะแป้งทับไปเลยค่ะ




2. งวดนี้ไม่เน้นตา เลยลงแค่อายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อน




3. ไม่เน้นตา แต่เน้นขนตาแทนค่ะ อิอิ




4. กรีดอายไลน์เนอร์ยาวๆ ตาคมกริบ





5. ทาปากแดง





6. เรียบร้อย










...Gallery...






















 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2551 1:50:32 น.
Counter : 3571 Pageviews.  

How To: Red Allure

ตาแดงๆ จะไว้ใจได้ก๋า....



ไม่ได้มาอัพฮาวทูเสียนาน เนื่องจากขี้เกียจ เอ้ย ไม่ค่อยว่างค่ะ แหะๆ

แต่ฮาวทูวันนี้ ดูแล้ว ก็คงจะแต่งออกไปเดินถนนไม่ได้อยู่ดี นอกจากเวลาฮัลโลวีนหรือมีแฟนซีปาร์ตี้ เพราะตอนแรกกะจะทำเข้าแข่ง red eye project ของจีบาน ดอท คอม แต่เนื่องจากทั่นประธานมัดมือชกให้สละสิทธิ ก็เลยเอามาแปะเฉยๆ แล้วกันนะคะ

กรรมวิธีการแต่งหน้าเค้ก ก็ไม่ได้มีอะไรพิศดารมาก เทคนิคก็แสนจะธรรมดา ดูแล้วจะเห็นว่า แต่งเองก็ได้ง่ายจัง อิอิ สวยหรือเปล่า ถือว่าเป็นเรื่องของรสนิยมและความชอบของผู้ชมค่ะ เข้ามาแล้วชอบไม่ชอบก็ถือว่าดูไว้เป็นไอเดียแล้วกันนะคะ ^-^


ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปโดยละเอียดไว้ รวมทั้งเครื่องสำอางด้วย ขอแปะไว้ก่อนแล้วจะมาอัพเพิ่มทีหลังนะคะ

1. รูปก่อนแปลงร่าง




2. ขั้นตอนการลงรองพื้น



หลังจากเตรียมผิวโดยลงมอยซเจอร์ไรเซอร์ กันแดด และเบสม่วงแล้ว ก็ใช้รองพื้นสองสีแต้มให้ทั่วใบหน้า โดยใช้สีเข้ม (ต่างกันประมาณ 2-3 เบอร์) ทารอบกรอบหน้า เกลี่ยให้กลมกลืนกัน






อำพรางตัวไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นญาติกะหมาแพนดี้ โดยใช้รองพื้นสีขาวกว่ากลบรอยหมองคล้ำ และทาบริเวณ T-zone เพื่อเพิ่มมิติให้กับใบหน้า เราไม่ได้ใช้คอนซีลเลอร์ เพราะว่าใช้แล้วมีปัญหาเป็นคราบและเข้าไปเกาะตามร่องผิว ก็เลยใช้รองพื้นสีสว่างแทนค่ะ เพราะเนื้อบางกว่าคอนซีลเลอร์เยอะ




เกลี่ยๆ ปาดๆ กลบๆ ทำลายหลักฐานทุกริ้วรอยบนใบหน้าให้เรียบร้อย

3. ขั้นตอนการแต่งหน้า



เนื่องจากว่าลุคนี้ เราต้องการเน้นตา และอยากได้คิ้วสีอ่อนมาก เลยทำการกลบคิ้วให้จางลง โดยการใช้รองพื้น+คอนซีลเลอร์โปะเข้าไปค่ะ




หลังจากนั้น ใช้แปรงลงแป้งผสมรองพื้นให้ทั่วใบหน้า จะได้หน้าตาสาวเผือกเช่นนี้


3.1 ดวงตาคือหน้าตาของหัวใจ




เริ่มละเลงตาแดงๆ ด้วยลิปไลน์เนอร์ ซึ่งตอนซื้อเราเข้าใจผิดว่าเป็นอายไลน์เนอร์สีแดง กร๊ากกก เริ่มจากการร่างก่อนแล้วใช้พู่กันทาปากนี่ละ ระบายให้เต็ม




หลังจากนั้นใช้พู่กันอายแชโดว์เบลนด์ให้ฟุ้งๆ








ลงทับครึ่งบนโหนกคิ้วด้วยอายแชโดว์ สีมูนสโตน เบลนด์ให้เนียนกลืนกัน





หลังจากนั้น ใช้อายไลน์เนอร์สีดำ (จะเป็นแบบดินสอหรือเจลก็ได้) เขียนรอบดวงตาเบลนด์ให้ฟุ้งนิดๆ แล้วเขียนอินเนอร์ไลน์เนอร์ซ้ำอีกครั้ง ให้คม เพื่อเสริมความเด่นของดวงตา




ดัดขนตา ปัดมาสคาร่าและติดขนตาปลอม ให้ตาดูปิ๊งๆ ขึ้นไปอีก 3 สเต็ป (ขออภัยที่ขั้นตอนช่วงนี้ รูปถ่ายไม่ชัดเลยไม่ได้เอามาลงค่ะ) และเขียนคิ้วด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาลทอง




เพิ่มความแปลกให้ใบหน้าโดยการเพนท์ลาย เราเลือกลายและสีที่สลับกัน เพื่อให้รู้สึกว่ามีจุดที่ทั้งขัดแย้งและบาลานซ์กันไปในตัว การเขียนคิ้วสีอ่อน ก็เพื่อไม่ให้ไปแย่งจุดเด่นของลายเพ้นท์ด้วยค่ะ

ลายที่สีแดงที่เห็น เขียนด้วยลิปสติกสีเดียวกับที่ทาตา โดยใช้พู่กันทาปากช่วย ส่วนลายสีดำเขียนด้วยอายไลน์เนอร์แบบดินสอค่ะ





ปัดแก้มด้วยสี copper bronze แล้วลงปากสีแดงเข้ม ออกมาแล้วจะได้ลุคประมาณนี้





















ภาพอื่นๆ ค่ะ

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=the-kung&month=24-07-2007&group=8&gblog=26




กระทู้ How to @ Jeban.com

//www.jeban.com/viewtopic.php?t=991




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2550 15:49:15 น.
Counter : 1716 Pageviews.  

Do It Yourself: แต่งหน้ารับปริญญา

…Basic Rules....

มีคนหลังไมค์มาหลายคน ถามเรื่องแต่งหน้ารับปริญญายังไงดีคะพี่ แต่จะให้แนะนำกันหลังไมค์เป็นอะไรที่ยากมากกกกก ก็เลยพยายามหาเวลามาทำ how to แบบด่วนๆๆๆๆๆ มาให้เป็นไอเดียน้องๆ กัน

ใครที่จะรับพรุ่งนี้แล้ว อาจจะช้าไปหน่อยนะคะ เพราะคงจะเตรียมตัวแต่งหน้าทำผมกันไปเกือบหมดแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่มีไอเดียจริงๆ ก็หวังว่าจะพอช่วยได้นะคะ


แต่งหน้ารับปริญญา ควรยึดหลักทางสายกลางไว้ ถ้าใครคิดไม่ออกว่าจะแต่งแบบไหน ก็ให้แต่งแบบแนวธรรมชาติไว้จะดีที่สุดค่ะ แต่ควรคำนึงถึงด้วยว่า วันที่รับต้องมีการถ่ายรูปเยอะ ยิ่งคนไหนจ้างช่างภาพมา ย่อมต้องเจอแสงแฟลชมากกว่าที่ให้ญาติหรือเพื่อนถ่ายแน่ๆ เพราะช่างภาพจะระดมยิงแสงแฟลชเพื่อกลบเงาบนใบหน้าของบัณฑิต ถ้าแต่งหน้าไปต้องให้เข้มนิดนึง เน้นตา และปาก (แต่ไม่ต้องมากจนเหมือนไปงานกลางคืน) เพราะแสงแดดและไฟทั้งหลายจะทำให้สีบนใบหน้าดรอปลงไปอีก


สีที่เหมาะกับการแต่งหน้ารับปริญญา ก็คือสีแนวเอิร์ธโทน ทอง ส้ม และชมพู โดยเฉพาะสีเอิร์ธโทน เข้าได้กับทุกสีผิว ดูเป็นธรรมชาติ และเรียบร้อยเข้ากับชุดครุย

เครื่องสำอางที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ เครื่องสำอางแบบ shimmer ซุปเปอร์วิ้งกระจายทั้งหลาย งานนี้พับเก็บใส่กระเป๋าไว้ที่บ้านก่อนจะดีกว่านะคะ เพราะเวลาโดนแสงแฟลชแล้ว ไอ้วิ้งๆ นี่จะทำให้หน้าเราดูมันกว่าความเป็นจริง และบางมุมดูเราจะเหมือนนางเอกลิเกเลยค่ะ


เครื่องสำอางแบบมุกๆ ก็ยังใช้ได้อยู่ ทำให้หน้าดูไม่เรียบเหมือนการใช้เครื่องสำอางแบบแมทๆ แต่ก็ไม่ควรลงจนหนักมือจนเกินไป ก็อาจให้ผลเดียวกับ shimmer ทั้งหลายได้เช่นกันค่ะ


อีกอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ลิปกรอส มันๆๆๆๆ วาวๆๆๆๆๆๆ พวกนี้ถ้าโดนแสงแฟลช แล้วจะสะท้อนแสงแฟลชมากๆ ทำให้ดูไม่สวยเช่นกันค่ะ ลิปสติกเนื้อแมท เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับงานนี้ หรือถ้ากลัวปากแห้งมาก จะใช้ลิปพวก watershine หรือ กรอสแบบไม่มีสีและไม่วาวจนเกินไปก็ยังพอไหวค่ะ




…Eyes and Eyebrow....


How to วันนี้เป็นแบบเร่งด่วนหน่อยนะคะ เพราะไม่มีเวลาทำแบบละเอียด ^^”










1. ลงด้วยสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ไล่ระดับความเข้มจากหางตาเข้ามาหากึ่งกลาง ประมาณ 1/3ของดวงตา ถ้าต้องการให้ตาดูโตขึ้น ให้ทาอายแชโดว์ต่อจากหางตาออกไปเล็กน้อย และเกลี่ยให้ลงมาถึงขอบตาล่าง จากห่างตาเข้าไปประมาณ 1/3 ของตาเช่นกัน

2. ลงทับด้วยสีน้ำตาลอ่อน หรือสีทอง (ลงทับสีน้ำตาลที่ทาไว้ตอนแรก จะทำให้สีอ่อนลง และหางตาดูมีมิติมากขึ้น) ลงให้ทั่วเปลือกตา เกลี่ยสีให้เข้ากับสีแรกที่ลง และทาเกินบริเวณรอยพับเปลือกตาเล็กน้อย กะดูว่าเมื่อลืมตาแล้วเห็นสีน้ำตาลฝทองที่ลงไว้ แต่ไม่ต้องลงจนถึงโหนกคิ้ว (ส่วนบนสุดของโซน 3)

3. ใช้อายแชโดว์สีขาวหรือครีมเป็นไฮไลต์ ลงเหนือบริเวณที่ 2 และ เกลี่ยให้เข้ากันจนมองไม่เห็นรอยต่อของสี ถ้าลงบริเวณที่ 2 เข้มมาก สามารถลงสีไฮไลต์ทับลงไปได้

- อาจลงน้ำหนักสีที่ 2 บริเวณหัวตาเพิ่มนิดหน่อย (ประมา 1/3) เพื่อให้ตาดูมีมิติและบาลานซ์กับหางตา
- หรือ อาจใช้ไฮไลต์ หรือ shimmer แตะตรงกึ่งกลางดวงตาเพียงนิดเดียว และ เกลี่ยเป็นช่วงแคบๆ (บริเวณตรงกลางระหว่างเลข 1 และ 2) ให้ตาช่วงกลางดูสว่างขึ้น

4. ใช้สีน้ำตาลอ่อน (สีที่2) ลงทับสีเข้มที่ลงไว้ในตอนแรก จากหางตาเข้ามาประมาณ ¾ ของตา และใช้ไฮไลต์สีขาวลงตรงหัวตา (ไม่ต้องเด่นมาก ถ่ายภาพจะทำให้ดูหลอก) เกลี่ยให้ไม่เห็นรอยต่อของสีเข้มและอ่อน

5. ลงไฮไลต์ใต้ตา และเกลี่ยให้เนียน





…Eyeliner....


* จะใช้หรือไม่ก็ได้ ไม่จำเป็นมาก ถ้าลงอายโดว์ตรงหางตาเข้มพอประมาณ ก็ไม่จำเป็นต้องกรีดไลน์เนอร์ซ้ำก็ได้








* กรีดอายไลน์เนอร์ลิควิดสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เป็นเส้นเล็กๆ อาจจะกรีดแบบทั้งตา หรือเขียนแค่ครึ่งเดียวก็ได้ หากต้องการให้ดูธรรมชาติ ควรกรีดแค่พอดีหางตาหรือเกินมาเล็กน้อย และเขียนขอบตาล่างเล็กน้อย

* ถ้ากรีดไลน์เนอร์แบบลิควิดไม่เป็น ใช้ดินสอไลน์เนอร์เขียนก็ได้ แต่ให้เขียนแค่ครึ่งตา และพยายามเขียนให้เส้นเล็กชิดขอบตามากที่สุด อาจใช้คอตต้อนบัดช่วยเกลี่ยเส้นให้ดูกลมกลืนกับอายแชโดว์ที่ลงไว้ก็ได้


* หลังจากนั้นก็ ดัดขนตา ปัดมาสคาร่าตามระเบียบ

* การเขียนคิ้ว ไม่ควรใช้สีดำลงคิ้ว ให้ใช้สีน้ำตาล หรือน้ำตาลอ่อนจะดีกว่า จะทำให้ใบหน้าดูซอฟท์ลงและสว่างขึ้น





…Cheek and Lips....


* ปัดแก้มให้พอดูมีสีสันแต่ไม่ต้องเข้มมาก เริ่มปัดจากส่วนที่ต้องการจะเน้นแล้วค่อยๆ เกลี่ยให้กระจายออกไป

* สุดท้ายและท้ายสุด สีลิปสติก เอามาเปรียบเทียบให้ดู 3 แบบ แล้วลองเลือกเอาละกันนะคะ ว่าชอบแบบไหน










…Cosmetic....

ด้านบนคือ Idea และ เทคนิคในการแต่งหน้า ให้ไว้เป็นแนว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามสบาย

ส่วนข้างล่างคือรายการเครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าด้านบนค่ะ
ราคาย่อมเยาและหาซื้อได้ไม่ยากค่ะ


ตา

Kate Line Spicy Eyeshadow - พอดีเพิ่งได้มาใหม่เลยลองเล่นซะเลย

ภาพที่เห็นนี่นำมาจากอินเตอร์เนตค่ะ เพราะไม่ได้ถ่ายตลับไว้ สีจะไม่ค่อยเหมือนที่ใช้อยู่จริงๆ ภาพนี้จะออกหม่นๆ กว่านะคะ แต่สีที่เราใช้จะเป็นสีออกทองกว่านี้ค่ะ รู้สึกจะเป็น BR-1 (ขอโทษด้วย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้และตลับไม่ได้อยู่กับตัว)

สีจะออกโทนเดียวกัน และเราลงสีตามหมายเลขที่กำกับไว้ค่ะ








Eyeliner & Mascara

eyeliner และ มาสคาร่าใช้ jetset ของ cutepress แต่ตอนปัดมาสคาร่า ใช้ fasio ปัดบางๆ ก่อน 1 รอบ เพราะ jetset จะไม่ติดทนทั้งวัน แต่ปัดแล้วขนตายาวสวยกว่า fasio ค่ะ (ตามประสบการณ์นะคะ)


แก้ม
ใช้สี Missha Blusher สี Cooper Bronze


ปาก

1. รูปซ้ายใช้ hazelnut sauce ของ เมเบลีน ผสมกับ carnation ของ BB
รูปที่ 2 ใช้ carnation ของ BB
รูปที่ 3 ใช้ Burnt Red


จบแล้วค่า.... สอนแต่งแบบง่ายๆ ดูไว้เป็นไอเดียว ขอให้สวยๆ วันงานกันทุกคน และแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ทุกคนเลยนะคะ

\(^o^)/








 

Create Date : 09 สิงหาคม 2549    
Last Update : 23 มกราคม 2550 1:36:44 น.
Counter : 1502 Pageviews.  

:::::::: จากวันนั้น....ถึงวันนี้ ::::::::

ไปขุดเอารูปถ่ายวิวัฒนาการตั้งแต่สมัยยังแต่งหน้าไม่ค่อยเป็น จนมาถึงเริ่มยุคเริ่มหัดแต่งหน้าและหัดถ่ายรูป

เอามาโพสต์ให้ดูไว้เป็นกำลังใจ สำหรับคนที่ไม่เคยแต่งหน้า แล้วคิดว่าคงทำไม่ได้แน่ๆ :P


นี่เป็นรูปสมัยเมื่อ 5-6 ปีก่อน ตอนยังวัยรุ่น (กว่านี้) ไปแรดงานคอนเสิร์ตทีโบนกะเจ๊บาน (Jeban) เมื่อก่อนมีคนบอกว่าเหมือนทอมมาก มีแต่สาวๆ ติดตึม 555 + ตอนนั้นก็คิด (ผิด) ว่าเราก็ดูโอเคแล้วนะ สวยแบบธรรมชาติ (ลงโทษ) หน้าตาไม่ต้องแต่งก็พอไปวัดไปวาตอนกลางคืนได้ เลยไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่







(ภาพโดย Jeban)




แต่พอเริ่มทำงาน ต้องออกงานบ่อยขึ้นก็ต้องหัดแต่งหน้า แต่งตัวให้เข้ากะกาละเทศะบ้าง แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร เพราะขี้เกียจเป็นหลัก


นี่เป็นสมัยเริ่มหัดแต่งหน้า สัก 3 ปีก่อน ดูออกไหมคะ ว่าแต่งแล้วน่ะ








หลังๆ พออายุมากขึ้น แต่ยังมุทำงานหามรุ่งหามค่ำเหมือนเดิม ไม่ค่อยสนใจตัวเองเท่าไหร่ เอาแค่ได้นอนวันละ 4 ชม. นี่ก็เต็มที่แล้ว แถมที่ทำงานก็ไม่ต้องได้พบเจอผู้คนมากมาย ก็ลืมไปเลยเรื่องแต่งตัวแต่งหน้า.... แต่อยู่มาวันนึงได้หยุดพัก ตื่นขึ้นมาส่องกระจก ถึงกับสะดุ้ง เฮ้ยยยยย....ผีแพนด้าขึ้นอืดที่ไหนมานอนตายอยู่หน้ากระจกในห้องเรา ...ดูไปดูมา...กรี๊ดดดดดด....นี่ช้านนนนนนเองหรือนี่ .....


ผิวแห้งกร้าน ตาโหลเป็นวงคล้ำ ปากคล้ำและลอก ถึงจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องความสวยเท่าไหร่ แต่นี่ออกจะเกินไปหน่อยนะ มิน่าเรียกแท๊กซี่กลับบ้านดึกๆ ทีไร แท๊กซี่ไม่ค่อยจะจอดรับกันเลย

จากนั้นเลยเริ่มคิดได้ว่า เวลาแห่งความเยาว์มันเริ่มเหลือน้อย ยังไม่ทันจะได้สวยเลย ก็แก่ซะละ เลยคิดว่าควรจะต้องปฎิวัติตัวใหม่ซะหน่อย ไม่สวย ไม่บำรุงตอนนี้ เดี๋ยวแก่กว่านี้จะไม่ทันการณ์ แต่ตอนแรกก็ออกจะท้อๆ เหมือนกัน เพราะตัวใหญ่มาก จะแต่งตัว แต่งหน้าอย่างไรให้ดูดีได้ จะรอผอมก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ชาติ ยืนส่องกระจกซ้าย-ขวาๆ คิดเอาเองว่า ตัวเรานี่ก็พอดูได้นะ ถ้าแต่งหน้าปัดแก้มซะนิดหน่อย ก็คงจะดีขึ้น ถึงจะไม่ผอมไม่สวยแบบนางแบบ แต่เราก็สวยตามแบบของเราได้ คิด (เข้าข้าง) ปลอบใจตัวเองได้ดังนั้นแล้ว ก็เริ่มลงมือทำ....


หลังจากทำการบำรุงฟื้นฟูสภาพร่างกาย ให้รู้สึกว่าสุขภาพและผิวพรรณดีขึ้นแล้ว ก็เริ่มหัดแต่งหน้า เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวบ้าง


นี่รูปเมื่อต้นปี 48 ตอนไม่แต่งหน้า หลังจากเรียกความเยาว์วัย คืนมาได้หน่อยนึง (แต่หน้ากลมมาก)









รูปเมื่อไม่นานมานี้ (อึ๋มมะๆ :P)










จะเห็นได้ว่า จขบ. ตัวใหญ่ เลยไม่ค่อยถ่ายเต็มตัวค่ะ ถ่ายแต่หัว มีคนชมด้วยว่า สวยเหมือนกระเทียม....แปลว่า ต้องตัดหัวมาอย่างเดียวถึงจะใช้ได้





เอารูปตอนเพิ่งหัดแต่งหน้า-ถ่ายรูป จนถึงยุคปัจจุบันมาให้ดู (สังเกตุได้จากความยาวของผม ^-^ )










ดูสิคะ เมื่อก่อนเราแต่งตาเขียว ปากแดงแปร๊ดด... ทำไปได้ไงฟระ ตรู





อืม ภาพนี้ก็ยังดูแมนๆ อยู่เลยเนาะ

















ตอนแรกๆ เพื่อนก็งง เอ๊ะ ทำไมเราเอารูปใครมาใส่ใน display msn พอบอกว่ารูปเราเอง อึ้งไปเป็นแถวๆ อิอิ หลังๆ เริ่มมีคนอยากได้มั่ง ได้แรงบันดาลใจว่า (e) กุ้ง ยังสวยได้ ทำไมช้านนน จะสวยไม่ได้ :P

แรกๆ ก็เขินๆ นะคะ หลังๆ เริ่มด้าน 555 อีกอย่างเราชอบถ่ายรูปเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อยากถ่ายรูปคนให้สวยๆ ก็เลยลองเริ่มหัดจากตัวเองก่อน เพราะเคยถ่ายรูปให้เพื่อนแล้ว ไม่รู้จะบอกยังไงว่าจะให้เขาทำท่าไหน เก๊กยังไงจะสวย แต่พอเริ่มถ่ายเอง โพสเอง เวลาไปถ่ายรูปให้คนอื่นมันก็เข้าใจได้ง่ายขึ้นนะ










ตอนนี้หัดสโมกกี้อาย (แต่ได้แค่สโมกกี้ ไบท์)











หัดแต่งหน้า หัดถ่ายรูป หัดโพสต์ไปเรื่อยๆ เริ่มมีพัฒนาการขึ้นมั่งไหมคะ?















กล้องถ่ายรูปที่ใช้ ก็กล้องดิจิตัลคอมแพค ธรรมดาๆ นี่ล่ะค่ะ แต่อุปกรณ์เสริมที่ควรมี คือ ขาตั้งกล้องและกระจกบานใหญ่ๆ หน่อย ลองบิด ลองหมุน หามุมตัวเองไปเรื่อยๆ ถ้าคิดมุกไม่ออก ก็เปิดนิตยสารดูก็ได้ค่ะ อยากเป็นใคร สวยแค่ไหน act ไปเลย ถ่ายเอง จะอายใคร ใช่ไหมคะ












หรือ ถ้ามีเพื่อนสนิทๆ ที่บ้าๆ คอเดียวกัน ก็ชวนกันไปถ่ายรูปด้วยกันก็ได้ ผลัดกันถ่ายรูปเล่นก็สนุกดี

รูปนี้ไปถ่ายเล่นกับป้าจีน ตอนเริ่มแรด (ป้าจีนถ่าย)



นี่เซตแรกเลย










ครั้งที่ 2 อยากลองสโมกกี้กัน















นานๆ เดอะ กั้ง จะเปลี่ยนแนว มาแต่งหน้าหวานๆ สักที











ปกติชอบหน้าดุๆ (รูปนี้ใช้ webcam ถ่าย)










ภาพปัจจุบันค่ะ ถ่ายเมื่อไม่กี่เดือนมานี้














สรุปไม่รู้ว่าพัฒนาการดีขึ้นหรือแย่ลงนะคะ แต่ทาทา มั่นใจ (ผิดๆ) เอาเองว่า ดีขึ้นค่ะ (จริงๆ รูปร่างหน้าตาไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย แต่ความ self นี่พัฒนามาเกินพิกัด 555+ )


ใครที่คิดว่าตัวเองดูไม่ดีหรือยังสวยไม่พอ ก็ดูเอาไว้เป็นกำลังใจได้นะคะ ^^” ขุดตัวเองมาขายสุดริด... คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะสวยได้ค่ะ ผู้หญิงเราสวยทุกคนค่ะ มีมุมสวยมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าเราจะกล้าเอาออกมาอวดชาวบ้านกันไหม ยังไงก็มั่นใจ (แต่อย่าให้เกินงาม อย่างเดอะ กั้ง -_-“) กันไว้ค่ะสาวๆ ไก่งามเพราะขน คนงามพราะแต่ง (จขบ.สวยได้ด้วย โฟโต้เฉาะ) รักษาสุขภาพกายและความสวยงามแล้ว ก็อย่าลืมรักษาสุขภาพใจกันด้วยนะคะ







ปล. ตอนนี้เปิด blog ใหม่อีกหมวด เอาไว้ให้คนฝากคำถามไว้ เพราะบางทีก็ไม่ได้กลับอ่าน blog เก่าๆ นะคะ แล้วไม่แน่ใจด้วยว่า คนถามไว้จะหาเจอหรือเปล่าด้วยนี่สิ

ถ้ามีคำถามคาใจอะไร ก็โพสต์ถามได้ที่นี่เลยนะคะ อาจจะตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็จะพยายามนะคะ แต่ที่จะไม่ตอบเลย คือเรื่องยืมเงิน กะยืมแฟนค่ะ เพราะไม่มีให้ยืมทั้งคู่

หรือจะหลังไมค์มาถามก็ได้ยินดีค่ะ

หลังไมค์หา เดอะ กั้ง




 

Create Date : 04 สิงหาคม 2549    
Last Update : 5 สิงหาคม 2549 17:46:02 น.
Counter : 1204 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

เดอะ กั้ง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Some magic from above
Made this day for us, just to fall in love

Just love me tenderly
And I'll give to you every part of me

Be always true to me
Keep this day in your heart eternally






free-counter
counter


Image hosting by Photobucket
หลังไมค์หา เดอะ กั้ง




...Reading...





เสียดายคนอินเดียไม่ได้อ่าน- ใบพัด




คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ พ.1 : Kafka on the Shore - ฮารุกิ มุราคามิ



***********

ข้อความข้างล่างนี่จริงๆ ไม่อยากเขียนไว้เลย แต่ใส่ไว้กันหลายๆ คนอ้างว่าไม่รู้กฎหมายและมารยาท ก็แล้วกันนะคะ


สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add เดอะ กั้ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.