Do It Yourself: แต่งหน้ารับปริญญา
Basic Rules.... มีคนหลังไมค์มาหลายคน ถามเรื่องแต่งหน้ารับปริญญายังไงดีคะพี่ แต่จะให้แนะนำกันหลังไมค์เป็นอะไรที่ยากมากกกกก ก็เลยพยายามหาเวลามาทำ how to แบบด่วนๆๆๆๆๆ มาให้เป็นไอเดียน้องๆ กัน ใครที่จะรับพรุ่งนี้แล้ว อาจจะช้าไปหน่อยนะคะ เพราะคงจะเตรียมตัวแต่งหน้าทำผมกันไปเกือบหมดแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่มีไอเดียจริงๆ ก็หวังว่าจะพอช่วยได้นะคะ แต่งหน้ารับปริญญา ควรยึดหลักทางสายกลางไว้ ถ้าใครคิดไม่ออกว่าจะแต่งแบบไหน ก็ให้แต่งแบบแนวธรรมชาติไว้จะดีที่สุดค่ะ แต่ควรคำนึงถึงด้วยว่า วันที่รับต้องมีการถ่ายรูปเยอะ ยิ่งคนไหนจ้างช่างภาพมา ย่อมต้องเจอแสงแฟลชมากกว่าที่ให้ญาติหรือเพื่อนถ่ายแน่ๆ เพราะช่างภาพจะระดมยิงแสงแฟลชเพื่อกลบเงาบนใบหน้าของบัณฑิต ถ้าแต่งหน้าไปต้องให้เข้มนิดนึง เน้นตา และปาก (แต่ไม่ต้องมากจนเหมือนไปงานกลางคืน) เพราะแสงแดดและไฟทั้งหลายจะทำให้สีบนใบหน้าดรอปลงไปอีก สีที่เหมาะกับการแต่งหน้ารับปริญญา ก็คือสีแนวเอิร์ธโทน ทอง ส้ม และชมพู โดยเฉพาะสีเอิร์ธโทน เข้าได้กับทุกสีผิว ดูเป็นธรรมชาติ และเรียบร้อยเข้ากับชุดครุย เครื่องสำอางที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ เครื่องสำอางแบบ shimmer ซุปเปอร์วิ้งกระจายทั้งหลาย งานนี้พับเก็บใส่กระเป๋าไว้ที่บ้านก่อนจะดีกว่านะคะ เพราะเวลาโดนแสงแฟลชแล้ว ไอ้วิ้งๆ นี่จะทำให้หน้าเราดูมันกว่าความเป็นจริง และบางมุมดูเราจะเหมือนนางเอกลิเกเลยค่ะ เครื่องสำอางแบบมุกๆ ก็ยังใช้ได้อยู่ ทำให้หน้าดูไม่เรียบเหมือนการใช้เครื่องสำอางแบบแมทๆ แต่ก็ไม่ควรลงจนหนักมือจนเกินไป ก็อาจให้ผลเดียวกับ shimmer ทั้งหลายได้เช่นกันค่ะ อีกอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ลิปกรอส มันๆๆๆๆ วาวๆๆๆๆๆๆ พวกนี้ถ้าโดนแสงแฟลช แล้วจะสะท้อนแสงแฟลชมากๆ ทำให้ดูไม่สวยเช่นกันค่ะ ลิปสติกเนื้อแมท เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับงานนี้ หรือถ้ากลัวปากแห้งมาก จะใช้ลิปพวก watershine หรือ กรอสแบบไม่มีสีและไม่วาวจนเกินไปก็ยังพอไหวค่ะ
Eyes and Eyebrow.... How to วันนี้เป็นแบบเร่งด่วนหน่อยนะคะ เพราะไม่มีเวลาทำแบบละเอียด ^^ 1. ลงด้วยสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ไล่ระดับความเข้มจากหางตาเข้ามาหากึ่งกลาง ประมาณ 1/3ของดวงตา ถ้าต้องการให้ตาดูโตขึ้น ให้ทาอายแชโดว์ต่อจากหางตาออกไปเล็กน้อย และเกลี่ยให้ลงมาถึงขอบตาล่าง จากห่างตาเข้าไปประมาณ 1/3 ของตาเช่นกัน 2. ลงทับด้วยสีน้ำตาลอ่อน หรือสีทอง (ลงทับสีน้ำตาลที่ทาไว้ตอนแรก จะทำให้สีอ่อนลง และหางตาดูมีมิติมากขึ้น) ลงให้ทั่วเปลือกตา เกลี่ยสีให้เข้ากับสีแรกที่ลง และทาเกินบริเวณรอยพับเปลือกตาเล็กน้อย กะดูว่าเมื่อลืมตาแล้วเห็นสีน้ำตาลฝทองที่ลงไว้ แต่ไม่ต้องลงจนถึงโหนกคิ้ว (ส่วนบนสุดของโซน 3) 3. ใช้อายแชโดว์สีขาวหรือครีมเป็นไฮไลต์ ลงเหนือบริเวณที่ 2 และ เกลี่ยให้เข้ากันจนมองไม่เห็นรอยต่อของสี ถ้าลงบริเวณที่ 2 เข้มมาก สามารถลงสีไฮไลต์ทับลงไปได้ - อาจลงน้ำหนักสีที่ 2 บริเวณหัวตาเพิ่มนิดหน่อย (ประมา 1/3) เพื่อให้ตาดูมีมิติและบาลานซ์กับหางตา - หรือ อาจใช้ไฮไลต์ หรือ shimmer แตะตรงกึ่งกลางดวงตาเพียงนิดเดียว และ เกลี่ยเป็นช่วงแคบๆ (บริเวณตรงกลางระหว่างเลข 1 และ 2) ให้ตาช่วงกลางดูสว่างขึ้น 4. ใช้สีน้ำตาลอ่อน (สีที่2) ลงทับสีเข้มที่ลงไว้ในตอนแรก จากหางตาเข้ามาประมาณ ¾ ของตา และใช้ไฮไลต์สีขาวลงตรงหัวตา (ไม่ต้องเด่นมาก ถ่ายภาพจะทำให้ดูหลอก) เกลี่ยให้ไม่เห็นรอยต่อของสีเข้มและอ่อน 5. ลงไฮไลต์ใต้ตา และเกลี่ยให้เนียน
Eyeliner.... * จะใช้หรือไม่ก็ได้ ไม่จำเป็นมาก ถ้าลงอายโดว์ตรงหางตาเข้มพอประมาณ ก็ไม่จำเป็นต้องกรีดไลน์เนอร์ซ้ำก็ได้ * กรีดอายไลน์เนอร์ลิควิดสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เป็นเส้นเล็กๆ อาจจะกรีดแบบทั้งตา หรือเขียนแค่ครึ่งเดียวก็ได้ หากต้องการให้ดูธรรมชาติ ควรกรีดแค่พอดีหางตาหรือเกินมาเล็กน้อย และเขียนขอบตาล่างเล็กน้อย * ถ้ากรีดไลน์เนอร์แบบลิควิดไม่เป็น ใช้ดินสอไลน์เนอร์เขียนก็ได้ แต่ให้เขียนแค่ครึ่งตา และพยายามเขียนให้เส้นเล็กชิดขอบตามากที่สุด อาจใช้คอตต้อนบัดช่วยเกลี่ยเส้นให้ดูกลมกลืนกับอายแชโดว์ที่ลงไว้ก็ได้ * หลังจากนั้นก็ ดัดขนตา ปัดมาสคาร่าตามระเบียบ * การเขียนคิ้ว ไม่ควรใช้สีดำลงคิ้ว ให้ใช้สีน้ำตาล หรือน้ำตาลอ่อนจะดีกว่า จะทำให้ใบหน้าดูซอฟท์ลงและสว่างขึ้น
Cheek and Lips.... * ปัดแก้มให้พอดูมีสีสันแต่ไม่ต้องเข้มมาก เริ่มปัดจากส่วนที่ต้องการจะเน้นแล้วค่อยๆ เกลี่ยให้กระจายออกไป * สุดท้ายและท้ายสุด สีลิปสติก เอามาเปรียบเทียบให้ดู 3 แบบ แล้วลองเลือกเอาละกันนะคะ ว่าชอบแบบไหน
Cosmetic.... ด้านบนคือ Idea และ เทคนิคในการแต่งหน้า ให้ไว้เป็นแนว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามสบาย ส่วนข้างล่างคือรายการเครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าด้านบนค่ะ ราคาย่อมเยาและหาซื้อได้ไม่ยากค่ะตา Kate Line Spicy Eyeshadow - พอดีเพิ่งได้มาใหม่เลยลองเล่นซะเลย ภาพที่เห็นนี่นำมาจากอินเตอร์เนตค่ะ เพราะไม่ได้ถ่ายตลับไว้ สีจะไม่ค่อยเหมือนที่ใช้อยู่จริงๆ ภาพนี้จะออกหม่นๆ กว่านะคะ แต่สีที่เราใช้จะเป็นสีออกทองกว่านี้ค่ะ รู้สึกจะเป็น BR-1 (ขอโทษด้วย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้และตลับไม่ได้อยู่กับตัว) สีจะออกโทนเดียวกัน และเราลงสีตามหมายเลขที่กำกับไว้ค่ะEyeliner & Mascara eyeliner และ มาสคาร่าใช้ jetset ของ cutepress แต่ตอนปัดมาสคาร่า ใช้ fasio ปัดบางๆ ก่อน 1 รอบ เพราะ jetset จะไม่ติดทนทั้งวัน แต่ปัดแล้วขนตายาวสวยกว่า fasio ค่ะ (ตามประสบการณ์นะคะ)แก้ม ใช้สี Missha Blusher สี Cooper Bronzeปาก 1. รูปซ้ายใช้ hazelnut sauce ของ เมเบลีน ผสมกับ carnation ของ BB รูปที่ 2 ใช้ carnation ของ BB รูปที่ 3 ใช้ Burnt Red จบแล้วค่า.... สอนแต่งแบบง่ายๆ ดูไว้เป็นไอเดียว ขอให้สวยๆ วันงานกันทุกคน และแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ทุกคนเลยนะคะ \(^o^)/
Create Date : 09 สิงหาคม 2549
Last Update : 23 มกราคม 2550 1:36:44 น.
Counter : 1502 Pageviews.
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
Some magic from above Made this day for us, just to fall in love Just love me tenderly And I'll give to you every part of me Be always true to me Keep this day in your heart eternally หลังไมค์หา เดอะ กั้ง ...Reading... เสียดายคนอินเดียไม่ได้อ่าน - ใบพัด คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ พ.1 : Kafka on the Shore - ฮารุกิ มุราคามิ *********** ข้อความข้างล่างนี่จริงๆ ไม่อยากเขียนไว้เลย แต่ใส่ไว้กันหลายๆ คนอ้างว่าไม่รู้กฎหมายและมารยาท ก็แล้วกันนะคะ สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด