It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 

ขำไม่ออก

หลังจากกลับมาจากรับสาวน้อยแล้ว

ฉันก็มานั่งดูละครตอนค่ำกับหลานๆ

สองคนเถียงกันไปมา จนเวียนหัวไปหมด พอได้เวลาก็แยกกันมานั่งทำ ฮิฮ่า

ฉันทำไม่เป็นหรอกค่ะ อาศัยเจ้าตัวโตคอยบอกคอยสอน

เออนะโลกสมัยนี้ถ่าจะให้ทันเด็กๆ ก็ต้องเดินตามก่อนจริงไหม

สองสาวนั่งนินทาตัวละคร ที่ชื่ออิรวดี เป็นคนป่าหรืออะไรสักอย่าง ฉันก็ดูผ่านๆ

มีออกความเห็นกันด้วยว่า คนป่าทำไมพูดโอเคได้

นั่นสิ ฉันก็นั่งทำงานไปด้วยเลยไม่ได้ดูหรือฟังละเอียดนัก แต่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นไม้กันแมวกัดกันแค่นั้นเอง

ตกดึก ต้องใช้คำนี้คะ เพราะเกือบๆ เที่ยงคืนสองสาวก็ไม่ยอมนอน ฉันก็ นั่งงมเข็มในมหาสมุทรไปพลางๆ หลังจากที่คิดโครการพันแปดร้อยล้านเรื่องทำชั้นวางของหน้าบ้านกับพ่อของสองแสบเสร็จ

เอารูปแต่งงานของแม่เจ้าสองแสบมาดู มองไปก็นึกว่า คนในรูป หายไปจากโลกนี้กี่คนแล้ว


ที่แน่ๆ 4 คน หายไปจริงๆ และพัฒนาการของฉันกับพี่และน้องชายก็ใหญ่โตจนคับกล้อง

สองแสบนินทากันว่า "น้าๆ ถ้าไปถ่ายรูปงานแต่งครั้งนี้ น้าว่าใครจะล้นกล้องก่อนกัน"

ดูดิคำถามขำไม่ออก โผล่มาอีกแล้ว

ได้แต่นิ่งเงียบไม่ตอบ แล้วก็มีเสียงบ่นว่า

ดูดิ แม่นะแม่ไปงานแต่งงานแม่กับพ่อก็ไม่เอาหนูไปด้วยจะได้มีรูปถ่ายงานแต่งแม่กับพ่อ

เฮ้ย !!! คิดได้ไงฟร่ะ หลานฉาน ถ้ามีรูปเจ้าแสบ ก็แสดงว่าท้องก่อนแต่งสิ นั่งกุมขมับ

แล้วคำถามที่ทำให้อึ้งไปอีกพักจากปากของหลานก็คือ

น้าๆ ทำไมปล่อยให้น้าแต่งงานก่อน เป็นหนูๆ ไม่ยอมหรอกนะ น้องแต่งก่อนพี่

ไม่อยากจะบอกเล๊ยว่า

อยากแต่งเว่ย!!!

แต่เค้าไม่มีกฏหมายรองรับ หรือถ้าให้น้องชายรองฉันแต่งงาน คงอายุร้อยปีก็ไม่ได้แต่ง

เปิดทางหลีกทางให้น้องดีกว่า ฉันไม่คิดจะแต่งงานตอนนี้หรอกน่า


ขำไม่ออกจริงๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเด็กๆ ไม่ได้คิดอะไร

แต่ผู้ใหญ่อย่างฉันสะอึก จนพูดไม่ออกไปเลยเชียว




 

Create Date : 30 กันยายน 2551    
Last Update : 30 กันยายน 2551 8:10:40 น.
Counter : 466 Pageviews.  

จดหมาย

จากผลพวงของการเก็บหนังสือที่บรรดาปลวกมากัดแทะโลมหนังสือของฉัน

ทำให้ฉันพบจดหมายที่ไม่คิดว่าจะได้เจอและได้อ่านอีกครั้ง

มันเป็นจดหมายที่ฉันและเพื่อนคนหนึ่งเขียนถึงกันเมื่อครั้งที่ต้องแยกจากกันสมัยยังเรียน ม.ต้น

ฉันอ่านข้อความในนั้นแล้วก็ขำตัวเอง และขำเพื่อนของฉัน ทั้งๆ ที่เราสอคนบ้านอยู่ไม่ไกลกัน โรงเรียนก็ไม่ไกลกัน ยังจะเขียนจดหมายถึงกัน

อาจเพราะสมัยนั้นเรากำลังนิยมเขียนจดหมายก็เป็นได้ ใครมีจดหมายส่งมาที่บ้านก็จะดีใจ แล้วก็เอามาอวดเพื่อนๆ ว่านี่ไง คนนั้นคนนี้เขียนจดหมายมาถึงฉันแล้วนะ

ถ้าใครเคยอ่านนิยายที่ฉันเขียน คงจะขำ เพราะบางส่วนฉันก็แอบเอาชีวิตจริงๆ ของตัวเองเขียนลงไปในนิยายด้วย มีคนเคยบอกว่าเรื่องที่เราจะเขียนได้ดีที่สุดก็คือเรื่องใกล้ตัว และเรื่องใกล้ตัวที่สุด ก็คือเรื่องของตัวเอง เรื่องของครอบครัว และเรื่องเพื่อน

เพื่อนฉันที่เคยเรียนด้วยกัน ได้อ่านเรื่องที่ฉันเขียนแล้วก็ขำ บอกว่าฉันแอบเอาตัวจริงๆ ของเธอมาใส่ในตัวละคร ฉันก็ได้แต่ขำ และขำ แล้วก็ยืดตัวตรง เบ่งกล้าม(ที่ไม่เคยมี) แล้วตอบว่า

"เออใช่ มีอะไรหรือเปล่า"

ไม่มีคำตอบจากเพื่อน เพราะฉันเอาความอ้วนเข้าข่ม ตัวเท่ากุ้งตากแห้งหรือจะมากล้าสู้หมูขึ้นอึด อย่างฉัน

คุณรู้ไหม จดหมายฉบับนั้น ไปรษณีย์ตีตรา ลงวันที่ 5-4-27 พศ.2527 คร๊าบท่านคร๊าบ

ปี 27 ฉันกี่ขวบ ก็คงราวๆ 14 เห็นจะได้ คงจะปิดเทอมและกำลังจะขึ้น ม.2 เห็นๆ กันไปเลยว่าลงทะเบียนมาจริงๆ (นึกถึงภาพยนต์เรื่อง The letter ขึ้นมาทันทีเลยฉัน)




เนื้อในจดหมายคงไม่อาจเปิดเผยได้ทุกแผ่นเพราะเป็นการเล่าเรื่องราวต่างๆ ของเธอให้ฉันได้รับรู้

แต่การเขียนจดหมายแบบที่เอากระดาษมาต่อกันแล้วเขียนทับเพื่อให้รู้ว่าแผ่นไหนเป็นแผ่นแรก คุณเชื่อไหมว่าทุกวันนี้ฉันเองก็ยังเอามาเขียนสันแฟ้ม เป็นรูปเฉียงลงเวลาจัดแฟ้มเข้าตู้เก็บเอกสาร

จะบอกว่า ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ อะไรจะเปลี่ยนไป ทุกอย่างก็ยังคงเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี

อาจเพราะพ่อกับแม่มักบอกฉันเสมอๆ ว่าเก็บของให้เรียบร้อย เวลาจะหาอะไรจะได้หาง่ายๆ พวกฉันก็เลยซึมซับคำพูดเหล่านั้นมาจนทุกวันนี้

บางครั้งเก็บดีเกินไป เก็บจนหาไม่เจอเลยก็มี อย่างเช่นจดหมายฉบับนี้ ถูกเก็บอยู่ในกล่องเหล็กใส่ขนมปังแครกเกอร์ วางอยู่บนชั้นวางหนังสือด้านใน เพราะความที่อยู่ในกล่องเหล็ก ปลวกก็เลยไม่ได้แอ้ม ทั้งๆ ที่หนังสือโดยรอบโดยเล่นงานไปเกือบหมด

ยังขอบคุณที่ฉันยังเก็บความทรงจำบางส่วน แม้จะเป็นเพียงเสี้ยวนิดๆ ของชีวิตในวัยเด็ก

และยังอมยิ้มเมื่อได้อ่าน ข้อความเหล่านั้น กี่ปีผ่านไปแล้วนะ 24 ปี ยังคงอยู่ แล้วต่อจากนี้ ก็จะถูกเก็บไว้ในตู้ลิ้นชัก เหล็กที่ถูกจัดใหม่อีกครั้ง







ฉันก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ เจ้าของจดหมายจะเป็นอย่างไร เพราะเราไม่ได้พบหน้าตากันอักเลยตั้งแต่ฉันเรียนจบม.6

แต่จะบอกว่า 24 ปี ผ่านไป จดหมายเธอก็ยังอยู่นะเพื่อน จานน้อยตอนนี้กลายเป็นโอ่งไปแล้ว แล้วกบอย่างเธอจะกลายเป็นอึ่งหรือเปล่าน้อ

อิอิอิ

ปล. ถ้าเจ้าของ จม.อ่านเจอคงจับ ฉันตีหัวแตกแน่ๆ กร๊าก.......




 

Create Date : 27 กันยายน 2551    
Last Update : 27 กันยายน 2551 13:25:40 น.
Counter : 736 Pageviews.  

ปลวก

เคยปลวกขึ้นบ้านไหมคะ

บ้านของฉันในห้องที่เก็บหนังสือ บนชั้นวาน เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ

หนังสือเก่าสมัยฉันยังเป็นเด็ก สมัยเรียนดรุณศึกษา หรือ หนังสืออื่นๆ จนถึงหนังสือนิยายที่ฉันขนซื้อมาเก็บสะสม พออ่านเสร็จ หนึงปีก็ขนกลับมาเก็บที่ลำปางสักครั้ง

ห้องเก็บหนังสือจึงมีทั้งหนังสือที่วางไว้อย่างดีในกล่องพลาสติกใบโตและหนังสือที่วางอยู่บนชั้นวาง

สภาพข้างนอกยังคงเป็นเล่มปกติดีทุกอย่าง วางตั้งๆ เรียงสวย ฉันก็ไม่เคยจะหยิบจับ เพราะฝุ่นค่อนข้างจะเยอะ

เมื่อวานไม่รู้ทำไม อยากอ่านเจ้าเงา ก็เลยลองไล่นิ้วไปตามสันหนังสือดู และหยิบออกมา ปรากฏว่า หยิบไม่ออก

ตอนแรกนึกว่าหมันสือดูดกันเอง ออกแรงอีกนิด ง้างสันหนังสือออกมา ก็หลุดค่ะ หลุดออกมาแต่สัน และเผยให้เห็นโฉมด้านใน

พระเจ้าช่วย งานเข้า หนังสือหายไป เหลือแต่โครงดิน ดินที่ปลวกทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า

ฉันโวยวายลั่น ไปหาแม่ ถามว่าเค้าไม่ได้มาฉีดปลวกหรอกเหรอ แม่ก็บอกว่ามาทุกเดือน แล้วก็เอา หนังสือให้แม่ดู

สรุปก็คือ ทิ้งทั้งหมด ออกแรงยกมาทิ้ง และบางเล่มก็ยังมีปลวกอวบๆ กัดกินอยู่ตลอด เรียกว่างานเข้าอย่างจัง

ที่น่าโมโหก็คือ หนังสือเก่าๆ ที่ฉันว่าจะเก็บลงหล่องพลาสติก ตอนนี้มันกลายเป็นอาหารอันโอชะของปลวกไปแล้ว

ฉันได้แต่บ่นๆ แล้วบ่น แม่เคยว่าฉันว่าฉันกับน้องชายขนซื้อหนังสือมาทำอะไรนักหนา อ่านหนเดียวก็เอากลับมารกบ้าน ถ้าพวกฉันตายแม่จะเอาหนังสือไปเผาแทนฟืน

ตอนนี้หนังสือโดนปลกหม่ำไปแย้ว สงสัยต้องขนซื้อมาอีก เพราะว่าฉันสองคนตัวโต คาดว่าหนังสือที่มีอยู่จะไม่พอให้แม่เอามาเผา เดี๋ยวจะเผาไม่หมด

คาดว่างานหนังสือเดือนหน้า ต้องขนมาอีกสักกระเป๋าสองกระเป๋า เผื่อแม่จะเอาไปทำฟืน อิอิ

ขอบใจนะน้องปลวก ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่การเก็บหนังสือใหม่ๆ ที่กำลังจะตามมาเอิ๊กๆๆๆ




 

Create Date : 27 กันยายน 2551    
Last Update : 27 กันยายน 2551 9:37:06 น.
Counter : 427 Pageviews.  

เกือบจวย แย้วกั๊ป

เห็นอากาศดีๆ ฝนพึ่งตก น้ำคงมีหลงเหลืออยู่บนใบไม้บ้าง

แม่บอกว่า ให้ฉันถ่ายต้นเทียน ออกดอกสวยเชียว แม่ชอบ ฉันก็เลยเดินจากหลังบ้าน เพราะกำลังจามฝูงนกพิราบที่เมื่อเช้าเอาข้าวไปโปรยไว้ให้ ฃ

ต้องมีการหลอกล่อสรรพสัตว์กันนิดๆ หน่อยๆ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้รูป นกฝูงใหญ่


กำลังถ่ายรูอยู่ดีๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง



เห็นด้านบนซ้ายมือไหมค่ะ รูปนี้รูปแรกเจ้าตัวคนถ่ายเองยังไม่ได้มอง เพราะตามัวแต่ก้มๆ เงยๆ กับดอกแดงๆ




และแล้วความจริงก็ปรากฏ เกือบตายแล้วอ้วนเอ๊ย



ดีนะ ที่ก้มอยู่ห่างๆ ไมเช่นนั้น ตอนนี้คงอยู่โรงพยาบาล เพราะเจ้าตัวจ้อยกัดหน้าไปแล้ว

เค้าถึงว่า ทำอะไรให้ดูดีๆ อย่าประมาท เพราะในความสวยงาม ซ่อนพิษร้ายแรงไว้เสมอ

หุหุ อย่างกับหนังจีนกำลังภายใน




 

Create Date : 27 กันยายน 2551    
Last Update : 27 กันยายน 2551 8:47:41 น.
Counter : 420 Pageviews.  

ในที่สุด ฝนก็ตก

หลังจากที่มาอยู่ลำปางได้ 2 วัน ตั้งแต่ก้าวลงจากรถทัวร์ก็รับรู้ถึงอากาศอบอ้าวมากๆ ตอนกลางวันฉันแทบไมอยากจะออกไปไหน

เรียกว่าลงจากรถแอร์เย็นฉ่ำได้ก็ต้องรีบเข้าในที่ร่ม แดดแรงจนแสบผิว

เมื่อคืนฝนก็ได้ปรอยๆ ตกลงมา ค่อยสบายหน่อย อากาศเย็นๆ

แม่ว่าฉันขี้บ่น ร้อนดีกว่าหนาว ก็เห็นจะจริงอย่างแม่ว่า เพราะเวลาหนาวที่นี่ก็หนาวจนไม่อยากจะเดินไปบนพื้น ขดตัวอยู่แต่ในผ้าห่มอุ่นๆ ไม่อยากอาบน้ำ และไม่อยากจะทำอะไร ขี้เกียจซะไม่มีล่ะฉัน

แต่พอร้อนก็เล่นเอาไม่อยากจะทำอะไรอีกเหมือนกัน แค่นั่งทำงานหน้าคอมฉันยังแทบแย่

แม่ว่าลูกคนนี้ท่าจะประสาท มีแอร์ก็ไม่เปิด มานั่งบ่นร้อนๆ

เอ๊า ก็เค้ารณรงค์ประหยัดไฟ อีกอย่างฉันนั่งอยู่คนเดียวไม่มีคนอยู่ด้วย เปิดทำไม ให้ความร้อนจากเครื่องคอมแอร์มันพ่นออกไปหน้าบ้าน

เวลาฝนตกแบบนี้ สมัยก่อนพวกฉันชอบเอารองเท้าผ้าใบไปผึ่งลมที่พ่นออกมาจากแอร์ แห้งเร็วดีนัก อาศัยความร้อนที่พ่นออกมาทำให้รองเท้าที่หนาๆ แห้งลงได้

พอโตมาหน่อย ฉันไม่ชอบนอนห้องแอร์ เพราะผิวมันแห้งจนต้องทาครีมบำรุง ถ้าขี้เกียจทาครีมก็แก้ที่ต้นเหตุ คือมีแอร์ก็ไม่เปิด ยกแว้นร้อนแบบทนไม่ได้จริงๆ

และเมื่อคืนฝนก็ตกลงมา ทำให้อากาศสบายๆ หลับฝันเป็นตุเป็นตะ สงสัยจะมีอะไรในหัวสมองมากไปหน่อย แถมยังฝันเรื่องนิยายที่ตัวเองเขียนค้างเอาไว้ ฝันเป็นฉากๆ จนนึกว่าเป็นเรื่องจริง

หุหุ บางทีอะไรที่ทำฝันออกมาเป็นตัวหนังสือได้ก็น่าจะดีนะคะ แต่น่าเสียดายที่ฉันเขียนหนังสือไม่เก่ง สื่อออกมาพอรู้ความบ้างเท่านั้น ถ้าเก่งกว่านี้ ฉันอาจจะติดบทบรรยายจนเต็มไปหมดก็ได้ ใครจะรู้

ตอนนี้จะแปดโมงแล้ว ฟ้ายังครึ้ม เมื่อเช้าไปเดินตลาดสดแถวๆ โรงเรียนเก่า ได้ผักได้ของมาจะทำกับข้าว

พอจะลงมือทำเองแม่ไล่ ไปไกลๆ ฉันเลยทำเองเดี๋ยวก็กินไม่ได้หรอก

เออนะ แม่ไม่รู้อะไรซะแล้ว ลูกแม่นี่แหละ กุ๊ก อันดับหนึ่งเลยนะขอบอก (ทั้งบ้านมีฉันคนเดียวที่ทำเองกินเองนี่นา แล้วใครจะมาแซงอันดับของฉันได้ จริงมะ อิอิ)




 

Create Date : 27 กันยายน 2551    
Last Update : 27 กันยายน 2551 7:53:34 น.
Counter : 424 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.