|
หรือฉันเป็นคนไม่มีหัวใจ
ฉันมักจะถามตัวเองเสมอว่าฉันเป็นคนมีหัวใจกับเขาหรือเปล่า คำตอบคือฉันมีหัวใจค่ะ และยังคงเป็นเหมือนคนทั่วๆ ไป
แต่บางเรื่องที่ซ้ำซากจำเจฉันก็จะเบื่อและไม่อยากจะพูดถึง อาจเป็นเพราะฉันถูกเลี้ยงมาแบบนี้ แบบที่ไม่ชอบอะไีรยุ่งยาก วุ่นวาย หรือเพราะว่าฉันเป็นคนขี้เบื่อขี้รำคาญกันแน่ ฉันไม่ชอบคนเซ้าซี้กวนใจ พูดอะไรครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ยิ่งใครมาเร่งงานหรือบอกใ้ห้ด่วน ฉันจะละจากงานนั้นและไม่ทำเลย หุหุ น่าโดนไล่ออกไหมนี่ จนเค้ามาถามฉันว่าเสร็จหรือยังรองานชิ้นนั้นอยู่ ฉันตอบกลับไปว่าไม่ได้ทำ
ผลก็คือฉันโดนพิภาคษาให้หยุดงาน 3 วัน ตัดเงินเดือน และจากนั้นฉันลาออก เพราะเบื่อไม่ใช่ว่าฉันจะแน่นะค่ะ ฉันตกงานอยู่หลายเดือนแต่ฉันก็เที่ยวทั่วไทยไม่ไปไม่รู้ ฉันปลีกวิเวกไปป่าค่ะเข้าป่าเข้าไร่ดูสภาพทั่วไปของคนที่ยากจน คนในเมืองมักบอกว่ารายได้ไม่พอเพียงแต่คนในป่าหามาไม่พอกิน
สองการดำรงค์ชีพนั้นต่างกันอีกคนปากกัด (กัดกันด้วยคารมเพื่อแย่งชิงอำนาจที่เมื่อได้มาแล้ว พอลาออกก็สุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น ไม่เห็นมีบริษัทไหนเห็นพนักงานอย่างเราเป็นพระเจ้า นอกจากลูกค้า) อีกคนอดทนเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารหาข้าวกรอกหม้อ ชีวิตในไร่นาไม่ต้องใช้เงิน แต่เงินก็เป็นปัจจัยที่ทำให้คนมีปัจจัยสี่
ถึงแม้ในบางครั้งฉันจะคิดถึงอดีตที่เคยผ่านพ้นทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีก็ตามที การตอกย้ำซ้ำไปที่จุดเดิมๆ บางทีก็เบื่อจนฉันรับไม่ได้ อาการเบื่อของฉันเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ
จากการทำงานที่เิริ่มแรกก็ทำในระบบราชการและเบื่อมากๆ ลาออกมาทำงานเกี่ยวกับงานทางด้านบุคคล จากนั้นก็เบื่ออีกลาออกมาทำขนส่ง และก็เบื่ออีกครั้งย้อนกลับมาทำงานด้านบุคคลอีกสักหน ถึงตอนนี้ฉันเหมือนคนทำอะไรจับจด หาที่หมายของตัวเองไม่ได้
ฉันเคยคิดว่าการเป็นฉันนี้มันทำไมถึงยากแบบนี้ ทำไมไม่เคยจะรู้จักตัวเองสักที
มีเพื่อนเคยถามว่าทำไมฉันถึงไม่ชอบไปงานแต่งงาน ฉันถามกลับไปว่า "ถ้าไม่มีฉันเค้ายังจะแต่งานกันหรือไม่" คำตอบก็คือยังคงแต่งอยู่ และถ้าไม่มีฉันเค้าจะรู้ไม๊ว่าฉันไม่ไป เพราะบางงานแต่งคนเยอะมหาศาล เจ้าภาพยังแทบเดินไม่ครบโต๊ะ
มีรุ่นพี่ท่านนึงเค้าแต่งงานทั้งหมดก็ 3 รอบแล้วค่ะ แต่งแล้วหย่า หย่าแล้วแต่ง ไม่ใช่กับสาวคนเดิมหรอกนะค่ะ เรียกว่าแต่งกันไปหม้อข้าวยังไม่ทันดำ นกยังไม่ทันมาทำรังที่ชายคาบ้านเค้าก็หย่ากันแล้ว ฉันจึงเฉยๆ กับการไปร่วมแสดงความยินดีกับงานแต่งงาน แค่ฝากซองไปเท่านั้นพอ
มีอยู่งานหนึ่งเป็นงานที่ฉันไปพร้อมน้ำตา ฉันไปร่วมแสดงความยินดีกับเธอ และอยู่ได้ไม่นานก็ขอตัวกลับ เพราะนั่นคืองานแต่งของแฟนเก่า ตลกดีนะค่ะกับคนที่ไม่ชอบไปงานแต่งแต่ก็ต้องไป หุหุ
แต่สำหรับงานศพฉันไปค่ะ ไปทุกงานและถ้าไปได้ทุกวันที่มีสวดฉันก็จะไป เพื่อนถามว่าทำไมไปทุกวัน คำตอบของฉันคือ เพราะเค้าจะไม่ตายอีกแล้ว คนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว งานศพที่ฉันร้องไ้ห้ออกมาไม่หยุดก็คืองานของญาติ ค่ะ ในปีที่ผ่านมาฉันสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักถึงสองท่าน น้ำตาไหลจนแทบไม่มีจะให้ไหล
คนที่ฉันห่วงมากที่สุดก็คือแม่ แม่ของฉันท่านเสียทั้งน้องชายและน้องสาวติดๆ กันไม่ถึง 6 เดือน ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้ร้องไห้ออกมาให้เห็น แต่ฉันรู้ว่าท่านเสียใจ
ในงานศพฉันเห็นคนมากหน้าหลายตา แต่จะมีใครสักกี่คน ที่มางานด้วยใจ ไม่นั่งพูดคุยกันเป็นงานพบปะสังสรร ทั้งที่เจ้าภาพนั่งน้ำตานองหน้าแต่เสียงพูดคุยก็ยังไม่หยุดกลบเสียงพระสวดจนฉันแทบไม่ได้ยิน
ฉันเคยไปงานที่วัดชลประทานค่ะ ที่นั่นใครเคยไปต้องรู้ว่าห้ามพูดคุยเวลาพระสวด ฉันว่าเป็นการให้เกียรติกับเจ้าภาพมากเลยนะค่ะ ร่างในโลงคงพอใจที่แขกให้เกียรติกับเค้า
บ่นๆ ไปเพราะฉันกำลังคิดว่าตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร หรือเกิดมาหายใจทิ้งให้หมดไปวันๆ หรือฉันต้องตามน้ำเช้าชามเย็นชาม หรือฉันก็แค่คน คนที่ไม่มีหัวใจ...
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2551 23:47:23 น. |
|
1 comments
|
Counter : 435 Pageviews. |
|
|
|
โดย: pamaano วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:06:40 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
ปทุมธานี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|