รีวิว ลงสีปากชมพู เทคนิคใหม่ Contour สีสดใส ไม่เจ็บเลย
คลิกบนรูปเพื่อขยาย หลีเป็นคนชอบทานอาหารและเครื่องดื่มแทบจะตลอดเวลาค่ะ ไม่เติมลิป ไม่เติมสีปาก วันธรรมดานี่ไม่ทาลิปติกเลย เวลาถ่ายรูปหมู่ก็จะดูดรอป ดูจืด ดูหมอง ดูไม่สดใสเท่าเพื่อนๆ ก็เคยคิดนะคะกับการทำปากชมพูถาวร
แต่พอไปศึกษาดูจากรีวิวที่มีในอากู๋แล้วก้ต้องเอาทีนก่ายหน้าผากแล้วส่ายหัว ยอมเป็นนังจืดแบบเดิมก็ได้ เพราะกลัวว่าปากจะบึนประหนึ่งว่าไปอัดซิลิโคนมา (ปากบวมหลังทำ) จนไม่สามารถทำงานแบบโชว์หน้าได้ โดยส่วนตัวหลีไม่สะดวกกายไม่สะดวกใจที่จะพักฟื้นนานๆค่ะ
ด้วยคำที่ว่าฝังสีลงไปแบบถาวรก็ทำให้คิดหนักว่าเราจะต้องหน้าสวยดีไซน์เดียวไปตลอดชีวิตหรือนั่น Oh No!
เรื่องความเจ็บและทรมาณ อารมณ์นอนทำแล้วกัดฟัน จิกทีนอนทนเจ็บนี่ก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่ทำให้ไม่ได้เสริมสวยแนว "ถาวร" สักที ไม่อยากเอาชีวิตน้อยๆมาแลกกับความเจ็บตอนทำ เดี๋ยวขาดใจตายคาเตียงจะเป็นภาระเจ้าหน้าที่เขาต้องมาหามไปโรงพยาบาลให้วุ่นวายอีก 555
วันปกติของหลีเพื่อนสีสันแซ่บเวอร์แย่งซีนหมด 555
จนได้มารู้จักสาวน้อยคนใหม่แห่งวงการความงาม Claire by SLC ด้วยความที่เป็นสาวน้อยรุ่นใหม่ที่มาเนรมิตความงามนี่แหละ เธอจึงมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ๆ อุปกรณ์ที่ทันสมัย และหัวเข็มมีความละเอียดละออมากๆ จนทำให้ไม่เจ็บ ไม่ช้ำ แคลร์ทำได้ หลังจากที่ได้ไปงานแถลงข่าว แล้วศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือ Contour Micropigmentation ที่มีความแม่นยำสูง มีระบบป้องกันการติดเชื้อ และไม่ทำให้ผิวหนังฉีกขาด จึงบวมช้ำน้อย และสีไม่ลงสู่ผิวจนเข้มเกินไปเหมือนเทคนิคการสักแบบสมัยโบราณ
Claire มีเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ทันสมัยและฉลาดมาก
-มีเข็มที่เหมาะกับผิวบริเวณต่างๆของร่างกายมากถึง 11 แบบ
-เครื่องสามารถปรับความแรงแบบอัฉริยะ ทำให้ผิวไม่บวม ไม่ช้ำ
-สีติดบนผิวหนังชั้นตื้น เป็นระยะเวลา 8-12 เดือนเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปทำเลเซอร์เพื่อลบสีออกภายหลัง
Contour Micropigmentation เทคนิคทันสมัยของ Claire เป็นการฝังเม็ดสีลงสู่ผิว ซึ่งจะมีความเป็นธรรมชาติสูงสุด โดย Claire ได้ศึกษาการลงสี ใช้เทคนิคการดีไซนืจากสถาบันในไทยและนานาชาติ ผสมผสานทั้งศาสตร์และศิลป์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตที่สดใสยิ่งขึ้น ไปพร้อมๆกับการลดจุดด้อยบนใบหน้า
เทคนิค Contour Micropigmentation สามารถทำได้หลากหลาย อาทิเช่น การลงสีคิ้ว ตา ปาก ไปจนถึงหัวนมชมพู
เทคนิคการลงสีจาก Claire จะต่างจากการสักค่ะ
เทคนิคการสัก คือ การฝังสีไปที่ผิวหนังชั้นลึก แต่
เทคนิคของ Claire จะฝังไปที่ผิวหนังชั้นบนอ่อนโยน ทำให้บวมช้ำน้อย ใช้สีที่ผลิตสำหรับผิวหน้าเท่านั้น สีจะไม่ลอยเขียว เปลี่ยนสีแบบการสักที่เราเห็นสมัยก่อน
1 คอร์สต้องทำ 3 ครั้ง และจะอยู่ได้นาน 8-12 เดือน ค่ะ อนาคตเมื่อเทรนด์การแต่งหน้าเปลี่ยน เราสามารถดีไซน์ใหม่ไปตามยุคสมัยได้ โดยไม่ต้องยุ่งยากกับการใช้เลเซอร์ลบรอยเลยค่ะ
งั้นก็โทรนัดวันไปทำกันเถอะ
แต่ต้องจองล่วงหน้า 3 วันนะเออ ถ้าดิ่งเข้าไปเลยน่ะได้...แต่อาจจะไม่ได้ทำ
ก่อนเข้าห้อง
(ทุกรูปสีปากจริงๆค่ะ บางรูปไฝจางเพราะทารองพื้นบนหน้านะคะ ไม่ได้ใช้แอปเพื่อเพิ่ม-ลดสีสันค่ะ)
-Stylist คุยเรื่องเลือกสี
-แปะยาชา แบบป้ายและเอาพลาสติกปิดไว้ไม่ให้เข้าปาก นั่งรอเวลา (แปะไปประมาณ 5 นาทีก็เริ่มชาแล้วค่ะ จริงๆควรนั่งนิ่งๆ หุบปากรอ เราเจอน้องโยชิเน็ตไอดอลคนสวย มาเติมปากเลยถ่ายลิปเม้าท์มอยไปเรื่อย ของโยชิทำสีโทนแดง เวลางานสมบรูณ์สีจะออกมาระเรื่อแบบปากคนทานของเผ็ดๆ)
-เมื่อถึงเวลา ก็เข้าห้องเลยจ้า
บรรยากาศ
- ห้องสะอาด สว่างไม่น่ากลัว
- Stylist จะอธิบายก่อนทำ และคอยเช็คความรู้สึกของเราระหว่างทำ (ความรู้สึกเจ็บที่สุดที่เราได้สัมผัส ตอนทำ คือรู้สึกเจ็บเบามากเหมือนปากแตกหน้าหนาว หลังเติมยาชาแอบแสบนิดเดียวก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว ก็กังวลนะว่าหลังทำจะช้ำหนักไหม)
- ระหว่างการ ฝังสีบนริมฝีปาก ไม่มีเลือดออกเลย เห็นหัวเข็มเป็นเข็มสามแฉก เล็กมากๆ จ้องอยู่นานกว่าจะเห็นเข็ม (ก่อนทำก็กลัวว่าเลือดจะย้อยเต็มปากไหม คิดเอง มโนเอง แต่ของจริงไม่มีเลือดไหลสักหยด มีแต่สี 555)
- แรกๆก็นอนดูนะคะ หลังๆนอนหลับ ก็มันไม่เจ็บอ่า
ความรู้สึกหลังทำ
-วันแรก หลังออกห้องรู้สึกปากชาขยับปากได้แต่ชาอยู่แน่นอนว่าไม่เจ็บ 555
หลังทำเสร็จ 2 ชั่วโมง รู้สึกตึงๆปาก ตอนอ้าปากทานข้าวรู้สึกแสบๆขอบปากบนนิดๆ หลังทาขี้ผึ้งที่คลินิกให้มาก็รู้สึกไม่ค่อยตึง ลองอ้าปากกว้างๆแสบเบาๆ ไม่ทรมาณ
ถึงบ้านก็สบายปากดี ไม่มีปัญหาอะไร พอรู้สึกว่าปากตึงๆก็ทาขี้ผึ้งที่ทางแคลร์ให้มา ไม่ต้องทาลิป (แค่เราไม่กล้าจับปากกลัวสีหลุด คิดเอง มโนเองอีกแระ)
ภาพถ่ายตอนเช้าหลังแปรงฟัน เพิ่งตื่นสดๆ ปากอิ่มนิดๆ แต่ตกเย็นคือเริ่ดมาก หน้าสวย ปากงามตามท้องเรื่อง
แนะนำ พูดเยอะๆ ยิ้มบ่อยๆ การไหลเวียนดี สูบฉีดดี ปากสวย ตามในคลิปนี้จ้า
VIDEO
-วันที่ 2 วันรุ่งขึ้น ปากบนเจ่อนิดหน่อย ไม่บวม ไม่ปากห้อยย้อยจนผิดปกติ มีความรู้สึกว่าผิวหนังบนริมฝีปากแห้งๆหนาๆกว่าปกติ แต่เวลาสัมผัสไม่รู้สึกว่าเป็นแผ่น ไม่เจ็บ ไม่มีอาการอักเสบ ทานข้าวได้ พูดได้ ไปทำงานได้ ไม่โดนล้อ (แค่โดนแซวๆว่าวันนี้ปากทาสีสวย) ไม่รู้สึกติดขัดหรือรำคาญ
(เรากังวลเรื่องหลังทำเสร็จปากจะยับเยิน บวม ปากตุ่ยเหมือนโดนสามีซ้อม อักเสบ ติดเชื้อ เนื้อเน่า หรือจะอะไรที่ดูน่ากลัวเป็นข้อแทรกซ้อนที่ไม่โอเค
หมายถึงในกรณีที่มันจะเกิดอาการเยินนะมันน่าจะสังเกตได้วันนี้ เราเลยให้ความสำคัญกับวันนี้เป็นพิเศษ ซึ่งถ้าเครื่องมือสะอาด เทคนิคปลอดเชื้อ ปัญหาน่ากลัวก็จะไม่มีจ้า)
VIDEO
-วันที่ 3 ไม่เจ็บ ยังไม่ลอก ยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นในวันนี้ แต่รู้สึกเหมือนผิวบริเวณริมฝีปากที่ทำสีมาจะหนาตัวขึ้นเป็นแผ่นเดียวกัน แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะหลุดลอก วันนี้เลยไม่ทาขี้ผึ้ง ไม่ทาลิปมัน จะได้เห็นชัดๆ (ควรทาให้ปากชุ่มชื่นลอกง่าย)
จนตอนดึกๆ หนังบริเวณมุมปากล่างชิ้นแรก เป็นหนังแห้งๆใสๆมีสีส้มติดอยู่ หลุดร่อนออกมาเองเพียงสะกิดเบาๆ ก่อนนอนทาขี้ผึ้งเพิ่มความชุ่มชื่นสักหน่อยละกัน
VIDEO
-วันที่ 4 ขณะแปรงฟันตอนเช้าพบว่าผิวหนังบริเวณที่ Stylist ได้ฝังสีไว้เริ่มลอกออกมา ลอกเอง ลอกง่ายมาก เริ่มตื่นเต้น เลยใช้นิ้วลูบๆออกจนเกือบหมด (เพิ่งนึกได้ว่าควรถ่ายรูปไว้เผื่อเอามาประกอบรีวิว เลยวิ่งไปหยิบกล้อง) เหลือบริเวณริมฝีปากบนโซนนึงที่บริเวณนั้นปากค่อนข้างแห้งเลยลอกออกไม่หมด
หลังลอกแล้ว ริมฝีปากมีสีชมพูเบาๆอ่อนๆ แต่ดูมีสีสันกว่าก่อนทำ (ต้องนัดซ้ำอีก 2 ครั้ง งานทำสีที่ปากจึงสมบรูณ์ เพราะสีจะติดที่ผิวแบบเบาๆมาก)
-วันที่ 5 ริมฝีปากปรติดี (ไม่มีรูปประกอบ)
-วันที่ 6 หนังบนริมฝีปากลอกอีกครั้งแต่เป็นเลเยอร์ที่บางกว่าครั้งแรกมาก ไม่มีการลอกแบบมีเลือด คือลอกแบบนุ่มนวลเหมือนผลัดผิวปากใหม่ สภาพโดยรวมคือผิวปากใหม่มาก มีสีสันขึ้นกว่าก่อนทำ สีเนียนเบาเป็นธรรมชาติมากๆค่ะ
-วันที่ 7 วันนี้ปากสีสวย ขอบปากบนชัดมาก แต่ไม่เป็นเส้นขอบคมๆแบบโบราณ อันนี้ไม่มโน 555 (เมื่อก่อนเป็นคนไม่มีขอบปากบนที่ชัดเจน)
คลิกบนรูปเพื่อขยาย
สรุปผล หลังทำเพียงครั้งเดียว ขอบปากมีสีสันชัดเจนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (ต้องลงสี 3 ครั้งจึงสมบรูณ์)
(ทุกรูปสีปากจริงๆค่ะ บางรูปไฝจางเพราะทารองพื้นบนหน้านะคะ ไม่ได้ใช้แอปเพื่อเพิ่ม-ลดสีสันค่ะ)
รู้สึกประทับใจผลงานและไม่ผิดหวังที่มาใช้บริการค่ะ เพราะผลงานออกมาดูดี สีไม่เว่อร์ ดูแล้วเห็นความต่างอย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญมากๆคือไม่เจ็บ ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ล้างหน้า แปรงฟัน ทานอาหารได้ พูดได้ ทำงานได้ตามปรกติ ไม่ต้องพักฟื้นหน้า และหายไวมากๆ
หลังจากนี้ต้องไปซ้ำอีก 2 ครั้ง เพราะในรูปทั้งหมดคือการลงสีครั้งแรกเพื่อปรับโทนสีปากค่ะ งานจะสมบรูณ์ สีสันชัดเจน เมื่อลงสีครบ 3 ครั้งค่ะ นะคะ ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไรจะมาอัพเดทให้ชมกันค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมที่หลีได้สอบถามและรวบรวมมาค่ะ
สำหรับผลงานที่หลีเอามาสรุปเพื่อรีวิวในบล็อกหัวข้อนี้ เป็นฝีมือของ Stylist ทางด้านการออกแบบคิ้ว ตา ปาก เสริมบุคลิกที่ Claire สาขา Central ชิดลม ค่ะ (ซึ่งสาวๆที่อยากสวยสามารถใช้บริการนี้ได้ที่ SLC ทุกสาขานะคะ)
จุดเด่นของบริการทำปากชมพูที่ Claire by SLC
(ด้วยเทคนิค Contour Micropigmentation)
- ขณะลงสีไม่เจ็บ หรือ เจ็บน้อยมาก
- หลังลงสีปากไม่ยุ่ย ไม่บวม
- ไม่มีเลือดออกระหว่างทำ
- มีสีให้เลือกเยอะมาก
- มี Stylist เลือก หรือออกแบบสีให้เหมาะกับบุคคลิก เหมาะกับผิวพรรณ หรือเลือกสีให้ออกมาตรงกับความต้องการของผู้รับบริการ
- ผลงานสวยเป็นธรรมชาติ ปากไม่ลอย
- งานละเอียดเพราะ Stylist เช็ดทุกจุดก่อนจบงาน
คำถามยอดฮิตสำหรับผู้ที่สนใจ
การทำ 1 ครั้งใช้เวลามากไหม?
- ใช้เวลารวมประมาณ 2 ชั่วโมง (แปะยาชา 45 นาที, Stylist ลงมือทำสีประมาณ 1 ชั่วโมง)
ต้องมาย้ำสีไหม กี่ครั้ง?
- งานจะสมบรูณ์เมื่อทำครบ 3 ครั้งค่ะ ใน 1 คอร์สของ Claire จะนัด 3 ครั้ง เพื่อมาเติมสีค่ะ โดยในแต่ละครั้งสีจะติดบางเบาเป็นธรรมชาติ หากชอบสีที่เด่นชัดขึ้นก็มาเติมซ้ำแล้วแจ้ง Stylist ได้ว่าอยากให้เข้มขึ้นในระดับไหน
ก่อนเข้ารับบริการ
- ควรบำรุงริมฝีปากให้มีความชุ่มชื่น ไม่แห้งแตก เพราะการที่ริมฝีปากแห้ง หรือแตกในวันที่รับบริการจะทำให้มีเลือดออก และเลือดจะทำให้สีติดไม่ดี หากวันที่รับบริการริมฝีปากไม่แห้งแตกจะไม่มีเลือดออกเลย และสีจะติดสม่ำเสมอ
- ควรมาตามเวลานัดหมายและนัดล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันค่ะ
ข้อปฏิบัติหลังรับบริการ Contour Micropigmentation บริเวณริมฝีปาก
เพื่อป้องกันสีเพี้ยนหรือการติดเชื้อจากอาหารที่ไม่สะอาดค่ะ
- ห้ามทานอาหารรสจัด
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารร้อนจัด
- งดทานอาหารหมัก-ดอง
- แปรงฟันได้ตามปรกติ
- มียาเนื้อขี้ผึ้งให้กลับไปทาต่อที่บ้าน
วันที่หลีเข้าไปรับบริการก็เจอน้องโยชิคนสวยมาเติมสีสันบนริมฝีปากที่ Claire ค่ะ
ในภาพน้องโยชิเพิ่งลงสีเสร็จสดๆร้อนๆเลยค่ะ ของน้องโยทำสีแดง (คนละสีกับที่หลีรีวิว) ผลหลังงานสมบรูณ์ปากจะเป็นสีชมพูระเรื่อเหมือนคนทานของเผ็ดๆ แซ่บๆ ค่ะ สไตลิตส์ได้กล่าวไว้
เพื่อนๆคงอยากทราบว่าน้องโยชิเน็ตไอดอลคนสวยจะกล่าวว่าอะไรมากกว่าใช่ไหมคะ หลีมีคลิปสั้นๆมาให้ได้รับชม รับฟังกันค่ะ
น้องน่ารักมากๆค่ะ แต่หน้าหลีประหลาดนิดนึงนะคะเพราะปากชามากนอนน้อยไม่สวยเลย แง
VIDEO
Update การเติมสีปากชมพูครั้งที่ 2/3 จ้า
Stylist ใช้สีส้มสว่างลงก่อนเพื่อปรับสีปากให้ดูไม่คล้ำ แก้ปากดรอป ปากดำ
แล้วลงด้วยสีชมพูที่ Stylist ผสมให้ตามภาพในขั้นตอนต่อมา
หลังทำเสร็จ รอบปากดูมีเลิอดฝาดปากไม่บวก แต่สีที่เห็นเป็นสีส้มสดมาก
Review หลังลงสีปากชมพูครั้งที่ 2 Day1
VIDEO
Review หลังลงสีปากชมพูครั้งที่ 2/3 day2
อยากอวดให้ดู ว่าเริ่ดมากตรงที่หน้าไม่เยิน ปากไม่มีบวมสักนิด
สบายๆ ชิลๆ ไม่ปวดเลย ประทับใจมาก เกินคาดมาก อยากบอกว่ามันดีจริงๆ
VIDEO
ผลหลังเติมสีปากครั้งที่ 2/3 เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์
หลังเติมสีครั้งที่ 2 ครบ 2 สัปดาห์
ปากอมชมพูระเรื่อๆค่ะ
บนหน้ามีทาเมคอัพกลบใต้ตาเล็กน้อย เขียนขอบตา-คิ้ว
ส่วนใบหน้าครึ่งล่าง สีจริง สิวจริงๆ No makeup ค่ะ
หลังจากที่สวงสะพรึงกันไปกับครึ่งหน้าสดแล้ว
เราลองไปสวยสะพรั่งแบบ Everyday Look กันดูบ้าง
ว่าหลังจากเติมที่ที่ Claire ครั้งที่ 2/3 แล้วจะออกสีมากน้อยแค่ไหน เมื่อประชันเมคอัพ
แสงธรรมชาติ ในร่ม สีออกมาแบบนี้จ้า
สำหรับริมฝีปาก เป็นสีธรรมชาติปาดลิปมันแบบไม่มีสีแค่นั้นเองค่ะ
คลิกบนรูปจะขยายใหญ่มากๆได้เลย
แสงในอาคารสีออกมาแบบนี้จ้า
เหนือปากแอบแต้มไฮไลท์นิดๆ ไม่ได้ไปดื่มนมเพื่อสุขภาพมานะคะ 555
ถ้าครบกำหนดลงสีครั้งหน้าจะมาอัพเดทอีกครั้งค่ะ
ขอบคุณ
Claire by SLC ที่ให้โอกาสได้สัมผัสประสบการณ์ความงามด้วยนวัตกรรมอันทันสมัย
ขอบคุณน้องเจน TwinsGamGlom แห่ง Nuffnang ที่เป็นสื่อกลางให้นะคะ
แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ
#Nuffnangth #Bloggerati #NuffnangthxClaire
#Pink #Nipples #Areola #Dark #Brown #Black #ปาก #หัวนม #ชมพู #ดำ #แก้ #สัก