Group Blog
 
All blogs
 

ลั้นลาสุดๆกับ Etude Korea TriP 23-27 Oct 2010 Part 1 Ja ><

...นานแล้วที่ไม่ได้อัพเดทบลอคเกี่ยวกับการท่องเที่ยว รอบนี้ทรายเลยของอัพๆพาสาวๆเที่ยวแต่ยังคงคงคอนเซปต์ของบลอคความสวยความงามด้วยการพาเที่ยวเกาหลีได้รับอภินันทนาการทริปสุดประทับใจครั้งนี้จาก Etude House Thailand บริษัท Cosmega จ้า ทริปนี้มีทีมงานจาก Cosmega ,แขกรับเชิญพิเศษคือคุณซี ศิวัฒน์ & คุณเอมี่ กลิ่นประทุม ,ผู้โชคดีจากทางบ้าน ,BA Etude สุดน่าร๊าก รวมทั้งเราเหล่าบลอคเกอร์อีกสี่ชีวิต รวมทั้งสิ้น 25 คนจ้า ไปทั้งหมด 4 วัน 3 คืน โดยออกเดินทางคืนวันที่ 23 ต.ค. และกลับมาวันที่ 27 ต.ค.จ้า มาเริ่มออกเดินทางไปพร้อมกันเล้ยยยย ^^



........20.30 น.ไอ้หมูน้อยกระเตงกระเป๋าใบเกือบใหญ่ 55 ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หาอะไรหม่ำรองท้องแล้วก็ไปรวมตัวกับบลอคเกอร์ผู้โชคดีทั้ง 4 ท่านอันได้แก่ ไอ้หมูน้อย พี่โอ๋-ชฎาแหลม พี่ปูเป้ PuPe_So_Sweet และน้องติ-ติศักดิ์ ซึ่งวันนี้มีอีกสองบลอคเกอร์ชื่อดังมาส่งพวกเราด้วยน๊าคือพี่เก๋ OHLA คนสวย และพี่ฟลุค Alwayfluke นั่นเองคร๊าบบบบ ลั้นลาเฮฮากันสุดฤทธิ์ Etude น่ารักมากกกแจกตารางการท่องเที่ยวครั้งนี้พร้อมพวงกุญแจน้องหมีพร้อมตัวอักษรย่อตามชื่อของแต่ละคนด้วย อร๊ายยยปลื้มๆ >< สามทุ่มครึ่งพวกเราก็เช็คอินผ่านตม.เข้าไปตะลุยกันในดิวตี้ฟรี รอบนี้สี่คนช่วยเหลือกันดีมั่กๆใครซื้อโดนตบ 555 เพื่อที่เราจะออมแรงและออมตังไปชอปกันที่เกาหลีนั่นเองจ้า ไอ้หมูเกือบโดนตบ อิอิ



        ประมาณ 23.30 น. เครื่องก็ Take Off ตรงสู่เกาหลี พร้อมกับเริ่มการหม่ำมื้อแรกของเราในทริปนี้คืออาหารบนเครื่องบินจากการบินไทยนั่นเองจ้า เราเดินทางไปเที่ยวบินที่ TG 658 เป็นข้าวปลาซอสมิโซะและหนมปังง่ำๆหม่ำเสร็จก็เมาท์ๆเพลินแทบไม่ได้นอนเลยทีเดียว แปร๊บบเดียวก็ผ่านไป 5 ชม.เราก็มาถึงสนามบิน Inchone กันแล้ว กรี้สๆเกาหลีๆๆๆ เราไปถึงกันประมาณ 7 โมงของเกาหลี เวลาที่เกาหลีจะเร็วกว่าที่ไทย 2 ชม.เป๊ะๆ จากสนามบินไปจุดรับกระเป๋าและขึ้นรถโค้ชต้องนั่งรถไฟไปเก๋มั่กๆรถเค้าเป็นล้อมิใช่เป็นรางนะคร๊า ระหว่างรอกระเป๋าหนุ่มสาวชาวบลอคเกอร์ก็ขอแต่งสวยเติมหล่อกันเพื่อพร้อมแก่การถ่ายรูป 555 พร้อมเสมอจริงๆ



        ก่อนออกจากสนามบินเรามานั่งรอรถกันตรงหน้าร้าน Etude House โอ้วแม่เจ้าแค่ร้านแรกเดินเข้าไปเหมือนกิเลสจะพุ่ง แทบสิ้นสติเหมือนเงินอยากออกจากกระเป๋าตัง ไม่ได้ๆต้องช่วยกันเรียกสติกลับมาเร๊วๆๆ เย้ๆรถโค้ชมาแล้วขึ้นรถกันเล้ยยยย ขึ้นปุ๊บบนรถมีหนมหม่ำอีกแล้ว ฮี่ๆ



        ทริปนี้เราได้รับการดูแลอย่างยอดเยี่ยมบริษัทไทยทราเวล โดยไกด์วันแรกคือพี่เอ๊ะไกด์สาวอารมณ์ดีที่ใจดีตลอดทริป รถพาเราเข้าเมืองตรงไปสู่กรุงโซลไปยังเขตพระราชวังซึ่งเราได้ผ่าน บลูเฮาส์ หรือ ชองวาแด คือทำเนียบของประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเกาหลีคือ ลี เมียง บัค นั่นเองจ้า แต่ตรงนี้ห้ามถ่ายรูปอดเลย แหะๆ ถัดจากตรงนั้นนิดเดียวเราก็ไปถึง อนุสาวรีย์นกฟินิกซ์ และวงเวียนน้ำพุ ที่ถือว่าเป็นนจุดที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุดในกรุงโซลเลยน๊า อากาศวันนี้สบ๊าย สบาย ไม่ร้อนไม่หนาวประมาณยี่สิบองศานิดๆจ้า โชคดีได้เจอช่วงใบไม้เปลี่ยนสีโอ๊ยยยยหลงเกาหลีแล้วน๊า



       เดินจากอนุสาวรีย์นกฟินิกซ์ไปนิดเดียวก็คือ พระราชวังเคียงบ็อค พระราชวังโบราณที่เก่าแก่ที่สุดแห่งราชวงศ์โชซอน อดีตเป็นศูนย์กลางการปกครองเลยนะจ๊ะ แค่ด้านหน้าก็งามเหลือหลายชักภาพกันแทบไม่ทันจิกกล้องกันลืมตาย 555



        ด้านในมีพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาของเกาหลีด้วยน๊าแต่อ่านมิออกแหะๆแค่ดูก็เพลินตาเพลินใจแล้วจ้า



        พระราชวังแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ ค.ศ. 1394 โอ้วววตอนนี้ 2010 นานม๊ากกกแต่ความสวยงามยังคงตรึงตาตรึงใจเค้าดูแลดีมั่กๆ เวลาที่ไปประมาณบริเวณลานด้านหน้าพระราชวังมีแสดงโชว์ทหารแต่งตัวแบบโบราณด้วยน๊า เพลิดเพลินๆนั่งกันกลางแดดได้แบบไม่แสบไม่ร้อน ว๊าววฟ้าวันนี้ฟ้าสดใสดีจริงๆ



        ถ่ายรูปผลาญพลังงานกันไปชุดใหญ่ก็ถึงมื้อเที่ยงมื้อแรกที่เกาหลีแล้วจ้า มื้อแรกวันนี้หม่ำชาบู ชาบูสไตล์เกาหลี ร้านนี้เป็นร้านที่เราฝากท้องไว้หลายมื้อมากๆในเวลาสี่วัน คนเยอะขายดีจริงๆค่า มาถึงปุ๊บบนโต๊ะเต็มไปด้วยถ้วยเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ในทุกมื้อคือ กิมจิหรือผักดองเกาหลีนั่นเองจ้าเปรี้ยวๆเค็มๆแต่มื้อแรกกิมจิคุณป้าหมักหนักเกลือไปนิดนะคร๊าแอบเค็ม อิอิ เครื่องเคียงอื่นๆมี ปลาตัวเล็กๆเสริมแคลเซียม สาหร่ายกรุบกรอบอันนี้โดนใจ >< ถั่วดำของเกาหลีอร่อยง่าเคี้ยวมันส์กรุบๆ แป๊บเดียวหม้อก็มาตั้งเต็มไปด้วยผักส๊ด สด ,เส้นวุ้นเส้นที่ใหญ่เท่าเส้นเล็กเริ่ศสุดยอดขอบอก และจานหมูสไลด์น่ากิน อร๊ายยยย น้ำเดือดแล้วเอาหมูจุ่มๆพอสุกกินกับข้าวเกาหลีหนึบๆ สุดยอดมว๊ากกกก แต่รอบนี้ต้องขอบคุณพี่เอ๊ะไกด์สาวที่เตรียมน้ำจิ้มสุกี้พันท้ายนรสิงห์มาให้เรา 555 บนโต๊ะเค้าจะมีแต่ซอสแดงๆที่ไม่เผ็ดเล้ยและซีอิ๊วขาวไม่มีเครื่องปรุงน้ำจิ้มอื่นๆ คนไทยเราติดรสจัดเนอะอาจจะไม่ชินกับอาหารแนวเพื่อสุขภาพสไตล์เกาหลีเราจึงต้องขอตัวช่วยนิดนึงจ้า ^^



      ออกมาหน้าร้านก็มีแผงลอยเล็กๆขายไอศรีมและของฝากที่คนขายน่ารักๆแอบพูดไทยได้นิดนุงด้วยน่ารักงี้จัดไปค่ะไอศกรีมคนละโคน โคนละ 1500 วอน = 45 บาท อร่อยยยมั่กๆๆ นมๆนุ่มๆเนื้อไอศครีมยาวลงไปจนสุดโคน >< อยากหม่ำอีกจังเลย อิ่มท้องแล้วก็ออกเดินทางต่อไปยังเมืองชุนชอนเพื่อไปที่ หมู่บ้านฝรั่งเศส ( Petite France Village ) เป็นหมู่บ้านสีสันสดใสถ่ายละครเกาหลีมาหลายเรื่องทรายว่าคล้าย Pimo Posto บ้านเรานี่หล่าแต่สีแอบซีดกว่านิดนึง 555



เดินลั้นลาๆๆถ่ายรูปมีเป็นห้องๆให้เราเข้าไปแชะๆได้ทุกซอกทุกมุมมีพรอพเช่นหมวก กระเป๋า ให้เราหยิบมาใส่หยิบมาถือเก๋ๆได้ด้วยน๊า ^^



เริ่มเย็นเราก็นั่งรถไปขึ้นเรือเฟอร์รี่เพื่อข้ามไปยัง เกาะนามิชื่อดังนั่นเองจ้าเป็นเกาะรูปใบไม้ลอยน้ำ ที่โด่งดังจากซีรีย์เกาหลีเรื่อง Winter Love Song ซึ่งไอ้หมูมิได้ดูอนาถจริง แหะๆ นั่งเรือประมาณ 10 นาทีก็ถึงเกาะแล้วจ้าอากาศเริ่มเย็นแล้วค่าหนาวกว่าตอนกลางวันเยอะเล้ยยยแต่เราก็ยังสู้นะ อิอิ ตอนนั่งเรือมาพี่ๆทีมงานซื้อข้าวโพดปิ้งเนยมาฝากด้วยฝักละ 60 บาท ราคาสุดยอดแต่อร่อยมากมายค่าเหมาะกับอากาศเย็นๆมากๆ



ใบไม้บนเกาะเป็นสีส้มและแดง อร๊ายยยยยเกาหลีมากกก หนุ่มสาวเกาหลีเค้ามากันเป็นคู่ๆเดินกันกระหนุงกระหนิงโรแมนติกที่สุด.......ชิส์ๆ หมั่นไส้ 5555 พลาดไม่ได้อีกหนึ่งจุดคือพี่แบยองจุนนั่นเองค่า เราออกจากเกาะตอนฟ้าเริ่มมืดแล้วขอบอกคนต่อแถวขึ้นเรือยาวมากกกกกกกกเป็นกิโลโอ้วววงี้ต้องดูเวลาดีๆจะไปจะกลับต้องรอแถวกันนานนิดนึงจ้า



และแล้วก็ถึงอาหารมื้อเย็นอันได้แก่ ทักคาลบี้ คือ ไก่บาบีคิวผัดซอสเกาหลี จ้า เนื้อไก่หมักซอสบาบีคิวมาชุ่มๆเอามาผัดในกระทะแบนพร้อมกับผัก ซอสสีแดงแรงฤทธิ์ และต๊อก>>>แท่งแป้งหนุบหนับเคี้ยวเพลิน ผัดๆรวมกันโอ้วไก่เนื้อนุ่มๆเอามาห่อด้วยผักสีเขียวสดใส หม่ำกับข้าวร้อนๆ พอผัดเหลือก้นกระทะก็เอาข้าวลงไปคลุกๆในกระทะให้ข้าวกรอบๆติดก้นกระทะ พิมพ์ไปน้ำลายสอไป 5555



                 หนังท้องตึงหนังตาเริ่มจะหย่อนจึงได้เข้าที่พักคือนี้เรานอนกันที่ โรงแรม DaeMyung Resort (แดเมียง)”  อยู่นอกกรุงโซลเพราะตอนที่ไปมีการประชุม G20 เลยทำให้ที่พักในโซลเต็มเกลี้ยงเลยจ้า มีเหตุการณ์ตื่นเต้นเกิดขึ้นด้วย อิอิ ทรายนอนกับพี่โอ๋ลากกระเป๋าปุเรงๆกันไปถึงห้องไขประตูปุ๊บเปิดเข้าไปอร๊ากกกก เจอหนุ่มเกาหลีนั่งเล่นคอมฯอยู่ O.o พี่โอ๋และหนุ่มเกาหลีวัยกลางคนอุทานพร้อมกัน เอ๋อออออ !!!! แม่เจ้าห้องนี้ยังไม่เช็คเอาท์เกิดความผิดพลาดทรายกับพี่โอ๋เลยได้ย้ายลงมานอนอีกชั้นนึงซึ่งได้ห้องยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างกว่าเดิมสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำมีห้องนั่งเล่นและครัว สุดยอดดดดด !!!!! อาบน้ำเตรียมเข้านอนได้ประสบการณ์ใหม่จากเกาหลีอีกแว๊วววว.....เกาหลีไม่ใช้ผ้าเช็ดตัวกันคร๊าบบมีผ้าผืนเล็กเท่าผ้าเช็ดผมให้คนละสองผืน ใช้กันไม่ถูกเลยทีเดียว 555 ต้องเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำไม่มีผ้าให้นุ่งออกมานะจ๊า โรงแรมนี้ใต้โรงแรมมีมินิมาร์ทด้วยเริ่ศๆไม่ต้องกลัวหิวตอนกลางคืนจ้า ประทับใจสุดๆคือหมอน หมอนนุ่มมว๊ากกกใบหนาฟูรับต้นคอสุดๆ อร๊ายยยยหมดวันแรกบนเตียงสบายๆหมอนนุ่มๆ ชาร์จพลังเพื่อไปตะลุยเกาหลีต่อพรุ่งนี้..........อย่าลืมติดตามกันนะจ๊าของจบวันแรกเท่านี้ก่อนบะบายคร๊าบบบบ ^____________^


ปล.ชมภาพแบบชุดใหญ่ได้ที่....www.facebook.com/mhunoiii หรือ


Etude Korea Trip : Day 1 (Part 1)><


Etude Korea Trip : Day 1 (Part 2)><


คลิกได้เลยจ้า ^^




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2555 1:44:16 น.
Counter : 3254 Pageviews.  

Birthday Dinner : Chao Phraya Princess II

..............มาเห่อวันเกิดอีกรอบจ้า จากกระทู้เดิม //www.jeban.com/viewtopic.php?t=25294 แอบอวดของขวัญไปแล้ว วันนี้ได้ไปดินเนอร์มาด้วยเลยขอมาทำกระทู้กึ่งรีวิวเลียนแบบ Date Dining ของพี่พิ้ง Vodca นิดนึงน๊า เย็นวันนี้ทรายได้ไปทานอาหารค่ำกับคุณแฟนบนเรือเจ้าพระยาปรินท์เซส 2 กันเนื่องมาจากเมื่อวันอาทิตย์ไปเดินงานท่องเที่ยวไทยที่อิมแพคแล้วได้เจอบูทขายบัตรดินเนอร์บุฟเฟ่ต์ของที่นี่จัดโปรโมชั่นน่าสนใจมากๆ ฮี่ เห็นแก่ของถูกน๊านี่ จากราคาท่านละ 1300 บาท เหลือเพียงท่านละ 700 บาท ก็เลยทำการสอยมาสองใบ แล้วจองมาวันจันทร์เลย แหมโชคดีมากๆ มีที่ว่างพอดีเลยค่า

...............ก่อนจะไปเราก็มาดู Dress Code กันซักกะหน่อย จากรูปเรือที่ทรายดูจากเว็บ //www.thaicruise.com/ เห็นว่าแอบหรูนิดหน่อย คาดว่าเดรสโค้ดถ้าไปสวีทกันกับคุณแฟนก็น่าจะใส่เดรส หรือชุดหวานๆ ไปนั่งกินลมชมวิวล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาจะได้อารมณ์กว่าผ้าใบเสื้อยืดกางเกงยีน 555 แต่จริงๆแล้วพอไปบนเรือเค้าก็แนวสบายๆค่ะ มีหรู มีสบายๆ แต่งกันได้ตามอัธยาศัยเลยจ้า มาดูชุดที่ทรายใส่ไปกันดีกว่า ทรายเลือกใส่เดรสผ้าชีฟองลายดอกไม้สีหว๊าน หวาน ที่เลือกตัวนี้เพราะคุณแฟนซื้อให้ยังไม่เคยใส่เลยนั่นเอง อิอิ คุณแฟนทรายชอบหวานๆ ผ้าพริ้วๆ เค้าบอกน่าร๊าก เอิกส์ๆ ชุดแนวหวานก็เลยเมคอัพหวานๆ รองพื้นใช้ Lunasol รุ่นเก่าแบบบางเบา ทาทับด้วยแป้งฝุ่น Impress ของขวัญวันเกิดที่ได้เมื่อวาน เทพไม่เทพมะรู้แต่หนูปลื้มค่า 555+ ทาตาสีอ่อนๆมีวิ้ง เขียนขอบตาด้วยสีน้ำตาลเพื่อให้ตาหวานๆ ปัดแก้มด้วย Nars Orgasm ของขวัญวาเลนไทน์ปีก่อน อิอิ พร้อมกับทากรอสสีชมพูอมส้มเล็กน้อยจ้า จากเสื้อผ้าและเมคอัพแล้วประมาณว่าคุณแฟนเซตมาให้เลยทีเดียว 555+


...........ท่าขึ้นเรือเจ้าพระยาปรินท์เซสคือท่าเรือ River City ซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือสี่พระยาจ้า ทรายเดินทางมาโดยนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงสถานีหัวลำโพง (ถ้า BTS ก็ลงสถานีสะพานตากสินจ้า) แล้วต่อแทกซี่อีกนิดเดียวก็ถึงแล้วค่ะ ทรายมาถึงเร็วเรือจะมาเทียบให้ขึ้นตอน 19.30 น. ทรายเลยเดินเล่นถ่ายรูปบริเวณท่าเรือนิดหน่อย ท่าเรือตรงนี้จะมีเรือของหลายที่มาเทียบไว้คราวหน้าเก็บตังค์ได้แล้วจะมาลองหลายๆแบบน๊า


..............พอ 19.30 น.ปุ๊บเรือก็มาตรงเวลาเลย คนเยอะพอสมควรค่ะ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมีฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ชาวต่างชาติประมาณ 80% ของเรือเลยทีเดียว ทรายจองเป็นที่นั่งชั้นล่างที่เป็นห้องแอร์ไว้ จริงๆแล้วอยากนั่งชั้นบนที่เป็น Open Air เหมือนกันแต่ทรายแพ้บุหรี่ เลยไม่ขอเสี่ยงนั่งข้างล่างชัวร์กว่าค่ะ พอเห็นโต๊ะปุ๊บ ว๊าวแจ่มมากๆเลย โต๊ะทุกตัวจะจัดเป็น 6 ที่ริมหน้าต่างทั้งหมด แต่เค้าจะจัดจำนวนจานช้อนส้อมไว้เท่ากับจำนวนคนที่จอง ของทรายมาสองคนเลยแจ่มมากๆโต๊ะกว้างนั่งสบาย เก้าอี้บุนุ่มนั่งสบายจังเลยยยย บนโต๊ะจะมีอาหารทานเล่นเป็นเลย์ + ถั่ว พร้อมกันน้ำพันช์ และน้ำเปล่าเย็นๆ แต่น้ำพันช์แอบยังไม่ค่อยอร่อยง่า คุณแฟนบอกออกแนวน้ำสัปปะรด แต่ทรายว่าคล้ายน้ำบ๊วย 555+


...........บนโต๊ะนอกจากขนมทานเล่น + น้ำแล้ว ก็จะมีโคมไฟคล้ายเชิงเทียน และแจกันใส่ดอกกุหลาบไว้ให้สร้างบรรยากาศ พอเรือจะแล่นออกเค้าจะหรี่ไฟในเรือให้สลัวๆนิดนึง เหลือไฟไว้แต่ในโซนของอาหารค่ะ ได้อารมณ์ประมาณทานข้าวใต้แสงเทียนเลยน๊านี่ อิอิ พนักงานที่นี่เค้าก็น่ารักน๊า เดินถ่ายรูปคู่ให้แต่ละโต๊ะด้วย แต่เอ่อเจอกล้องทรายกะคุณแฟนเข้าไป แอบงงเลย หนักด้วย เพราะทรายใส่เลนส์ไวด์ ต้องบอกเค้าเดินเข้ามาถ่ายใกล้ๆเลยค่ะ เลนส์มันมุมกว้างมากกก 555+


..............มาถึงโหมดอาหาร อันนี้ทรายให้คุณแฟนเดินไปตักอาหารเลย ส่วนทรายก็ขอเดินไปเก็บภาพซักหน่อย แสงน้อยภาพอาจจะเบลอๆหน่อยนะค๊า พอคนขึ้นเรือครบเรือเริ่มออกประมาณ 20.00 น. พนักงานก็จะมาเดินเปิดฝาคลุมอาหารออก และเชิญให้แขกรับประทานอาหารกัน เดินมาดูโซนด้านหน้าจะมีพวก สลัดบาร์ หมูแฮม สลัดทูน่า ยำวุ้นเส้นกุ้งสด สปาเกตตี้ซอสเนื้อ ซอสทะเล ส้มตำ ฯลฯ
..........................ในโซนนี้เป็นอาหารเบาๆค่ะ รสชาติจะกลางๆไม่จัดมาก ส้มตำรสชาติน่ารักแบบว่าเด็กกินได้ แต่ทรายว่ารสแบบนี้ก็โอเคเนื่องจากเป็นชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย ถ้าทำรสจัดเกินไปอาจจะขายไม่ออกได้ อิอิ ทรายก็ตักมาไว้แกล้มแก้เอือม เส้นกรอบๆเย็นๆอร่อยดีเหมือนกันจ้า สปาเกตตี้ทรายลองราดซอสเนื้อ ก็ข้นๆดีค่ะ แต่เส้นอาจจะไม่ค่อยเหนียวมากจ้า


...............มาต่อที่โซนกลางๆเป็นอาหารคาวล้วนๆจ้า เอาเท่าที่จำได้น๊า
- ผัดไทย : เส้นใหญ่เหนียวหนึบ บีบมะนาวใส่หน่อยก็ใช้ได้จ้า
- ทอดมัน : เนื้อเหนียวกลางๆ เนื้อปลาเยอะไม่แป้งมาก
- ปลาทอดชุปเกล็ดขนมปัง : ไม่ค่อยร้อนเลยไม่ค่อยเวิร์ค
- ไก่ผัดเม็ดมะม่วง : เค็มๆไม่มีรสอื่นเลยง่า
- ไก่ทอดแบบญี่ปุ่น : อร่อยๆราดซอสแบบเทอริยากิรสออกหวานหน่อยจ้า
- ไส้กรอกเยอรมัน : อร่อยใช้ได้เลยค่า
- สเต็กเนื้อสันราดซอสเห็ด : เนื้อนุ่มหั่นเป็นชิ้นเคี้ยวง่ายจ้า
- เฟรนช์ฟราย : แท่งใหญ่หน่อยกรอบอร่อยกินเล่นเพลินเลยค่า
- แกงเผ็ดไก่ย่าง : อันนี้ทรายชอบแต่กินไปรอบเดียวเองง่า น้ำแกงข้นกะทิมันได้ใจค่า
- **กุ้งอบเกลือ : อันนี้จี้ดดดด โดนค่า ฟาดกุ้งกะคุณแฟนไปเป็นกิโลๆเลย 555 จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เสียอย่างเดียวน้ำจิ้มถ้าเผ็ด + เปรี้ยวกว่านี้อีกหน่อยน๊าจะสุดยอดมากๆ
- ต้มยำกุ้ง : ซดน้ำได้เพลินๆเพราะไม่เผ็ดมาก รสกลางๆ แต่ที่เด็ดคือเนื้อกุ้งเยอะมากกกกเลยค่า
- ซุปครีมเห็ด : มัน + ข้นใด้ใจจ้า
ฯลฯ


............มาที่โซนสุดท้าย โซนของหวานมีรายการดังนี้จ้า
- เค้กวนิลา : เนื้อครีมมันเค็มนิดๆอร่อยทรายชอบแต่เนื้อของเค้กข้างในไม่แจ่ม เนื้อไม่ละเอียดอ่าจ้า
- คัสตาร์ท : ยังไม่ค่อยแจ่ม บอกมะถูกไม่กลมกล่อมง่า
- เค้กโรล : ธรรมดาๆ
- ผลไม้มี แคนตาลูป สัปปะรด แตงโม มะละกอ : สัปปะรดหวานฉ่ำได้ใจคุณแฟนชอบ อิอิ
- ขนมปังฝรั่งเศส : เนื้อข้างนอกกรอบ ข้างในนุ่มพอประมาณ ปาดเนยแล้วทาน คุณแฟนทานไปหลายชิ้นเลยค่า
- ขนมปังลูกเกด : อันนี้ทรายชอบเป็นทุน เนื้อขนมปังไม่หนักมาก ฟาดไปหลายชิ้นเช่นกัน 555+
..........ในส่วนของขนมหวานจะมีชาและกาแฟให้ชงทานเองด้วยค่ะ ชาใช้ได้เลยมีนมให้ด้วยแต่อาจจะไม่เข้มข้นมาก


.............ที่ประทับใจสุดๆกับการมาทานอาหารครั้งนี้คือ "บรรยากาศ" ดีมากกกเลยค่ะ นักร้องที่นี่เอนเตอร์เทนน์แขกใช้ได้เลย ไม่วุ่นวายกับแขกมาเกินไป แถมขอเพลงได้ด้วย ซึ่งคุณแฟนก็ขอเพลง "แทนคำนั้น" ที่ทรายเปิดไว้ด้านบนกระทู้ให้อ่าจ้า แอบเขิลล์ 555+ นอกจากบรรยากาศในเรือแล้ว วิวรอบสองข้างแม่น้ำเจ้าพระยาแจ่มมากค่ะ สวยจังเลย ได้เห็นวัดวาอาราม บ้านเรือนยามค่ำคืน แสงไฟที่สะท้อนลงมาบนน้ำที่เป็นลอนคลื่นๆ สวยจนบอกไม่ถูกเพลินมากๆ ที่สวยที่สุดเลยก็คือสะพานพระรามแปด ตอนลอดใต้สะพานมองสะพานในมุมสูงมันดูสวยและยิ่งใหญ่มากๆ นอกจากนั่งชมในเรือแล้วทางด้านหัวเรือเรายังสามารถออกมาชมวิวรับลมภายนอกได้ค่ะ แต่ทรายออกไปได้แว๊บเดียวเพราะมันเป็นจุดที่เค้าอนุญาตให้สูบบุหรี่ได้ ทรายแพ้บุหรี่ก็เลยขอเข้าไปชมวิวจากด้านในเรือละกัน สรุปว่าบรรยากาศเหมาะแก่การมาสวีทมากๆๆๆเลยจ้า


................ปิดท้ายไปด้วยภาพของทรายกะคุณแฟน อิอิ คุณแฟนไม่ค่อยชอบถ่ายรูปเล้ยยย ถ่ายทีไรชอบทำหน้าตลกๆ ก็เลยออกมาฮาทั้งคู่เลย 555++ ถือเป็นวันเกิดที่มีความสุขมากๆเลยได้อยู่กับคนที่เรารัก และก่อนหน้าที่จะมาลงเรือทรายก็ได้โทรไปขอบคุณแม่กับป๊าที่ให้กำเนิดและเลี้ยงทรายมา แม่ได้อวยพรวันเกิดให้ ดีใจและมีความสุขมากๆเลย ขอบคุณทุกๆคนที่รักและเอ็นดูทรายมาตลอด กำลังใจเหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เราพร้อมจะสู้และก้าวเดินต่อไปค่ะ

"ขอบคุณมากๆค่ะ"




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2555 1:43:52 น.
Counter : 2438 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]




..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน
http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้
ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!

---------------------------------------------------------

hits
New Comments
Friends' blogs
[Add SaRaY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.