Group Blog
 
All blogs
 
Review : Japan Trip [Part 2]วันที่3หม่ำโซบะชื่อดัง ณ วัดJindai-ji & วันที่4ตะลุยชินจูกุชมวิวบนตึกสูง




มาถึงวันที่ 3 ในญี่ปุ่นวันนี้อากาศดีได้เห็นท้องฟ้าสีฟ้าแล้วเย้ๆ
หลังจากเห็นแต่ฝนกะฟ้าครึ้มๆมัวๆมาสองวัน อากาศวันนี้ (27ต.ค.56) ประมาณ 16 องศาจ้า



มื้อเช้าคุ้ยตู้เย็นขุดโยเกิร์ตที่สะสมมาจากเซเว่นมาลอง
วันนี้ลองสองรสของ Morinaga ถ้วยเขียวใส่ว่านหางจระเข้
รสนี้หวานน้อยโยเกิร์ตเนื้อเนียนละมุนลิ้นมว๊ากความเป็นนมเข้มข้า
125g 108kcal แหม่แคลอรี่ต่ำด้วยเริ่ด และอีกอันยี่ห้อ Ispahan
ถ้วยชมพูรสลิ้นจี่&ราสป์เบอร์รี่ อันนี้เนื้อข้นปั๊กมีเนื้อผลไม้ผสม
อันนี้บอกเลยว่าหวานแหลมไม่มีความเปรี้ยวแบบโยเกิร์ดซักกะติ๊ด
แต่กลิ่นหอมมมากจริงๆคล้ายซูกัสแต่ใส่นม ถ้าใครชอบหวานๆจัดไป
ถ้วยนี้ 120g 175kcal ฮับ ส่วนราคาจำไม่ได้เป๊ะๆแต่โยเกิร์ตในญี่ปุ่นทั่วไป
ราคาจะอยู่ที่ประมาณถ้วยละร้อยกว่าเยน แต่ถ้วยเค้าใหญ่กว่าบ้านเรามากฮะถ้วยเดียวอิ่ม



ภารกิจแรกของวันนี้แชร์เทคนิกแต่งหน้าให้เพื่อนชาวญี่ปุ่น ฮี่ๆ



My Outfit TodaY [27/10/2013] ด้านในใส่ Uniqlo Heattech แขนขาว
ทับด้วยเชิ้ตผ้าชีฟองสีชมพูมีระบายหวานเว่อร์จับคู่กับกระโปรงดำ
ทั้งเสื้อและกระโปรงของร้าน Zereta เค้าชอบมากตรงที่ผ้าไม่ยับไม่ต้องรีด555
<https://www.facebook.com/zeretadesign>
แมทช์กะถุงเท้ายาว
Uniqlo Heattech เช่นกัน เห็นโปร่งๆแต่อุ่นน้า
ส่วนรองเท้าของ Forever21 สอยที่เมกะบางนา ราคาประมาณพันสี่

กระเป๋า Charles & Keith สอยมาจากสิงคโปร์ใบละประมาณสองพันกว่าบาทค่า



วันนี้เพื่อนพานั่งรถเมล์ไปวัด Jindai-ji อยู่ในย่าน Chofu ไม่ไกลจากบ้านเพื่อน
ขึ้นรถเมล์กันตรงหน้า Chofu Station นั่งบัสสาย No.34 ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงจ้า
การขึ้นรถเมล์ของที่นี่ถ้าเราไม่มีบัตรรถ Suica แบบเติมเงิน (เหมือนบัตร Rabbit บ้านเรา)
ขึ้นรถปุ๊บให้ซื้อตั๋วกับคนขับได้เลย ส่วนใหญ่จะราคาเดียวตลอดสาย 220 yen ค่า
ได้ตั๋วมาแล้วให้สอดเข้าเครื่องตรงข้างคนขับ ตั๋วที่ใช้แล้วจะถูกเจาะรูกลมๆ
ขาขึ้นจะขึ้นที่ประตูหน้าข้างคนขับได้จุดเดียวเท่านั้นเพราะต้องสอดหรือแตะบัตร
แต่ตอนลองไม่ต้องทำอะไรถึงป้ายลงได้เลยประตูด้านหลังจะเปิดให้ลงได้ฮับ



เป้าหมายที่แท้จริงของการมาวัด
Jindai-ji นั้นคือการมาหาโซบะทาน555
เพื่อนบอกช่วงนี้เป็นฤดูที่โซบะอร่อยที่สุด เห็นว่าเป็นช่วงของต้นที่นำมาทำเส้นงอกงามดี
และต้นตำรับเส้นโซบะแบบทำมือ (Hand-made) ก็คือร้านตรงหน้าวัดนี้หล่ะคร๊าบ
ชื่อร้านเค้าเองก็มิทราบภาษาญี่ปุ่นล้วน แหะๆ แต่สังเกตง่าย
มีคนต่อแถวยาวๆอยู่หน้าร้านก็ถูกต้องฮะ ด้านในเป็นโต๊ะนั่งแบบญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น



สั่งมาลองสองแบบแต่เป็นโซบะเย็นทั้งคู่ เพราะเค้ากะคุณแฟนชอบหม่ำโซบะเย็นชื่นจายยย Smiley
เซ็ตโซบะเทมปุระเป็นเซ็ตพิเศษราคาเซ็ตละ 2,600 yen (816บาท)
ได้กุ้งเทมปุระเนื้อกรอบเด้งมาสามตัว พร้อมผักทอดใบชิโสะ กะมะเขือม่วง
เสิร์ฟกะโซบะเย็น น้ำซุปโซบะเข้มข้นแอบเค็มนิดนึงแต่กินคู่กันแล้วลงตัวมั่กๆ
ส่วนอีกชามเป็นโซบะเย็นแบบไม่แยกน้ำใส่บ๊วยญี่ปุ่นชามละ 800 yen (251บาท)
เค้าว่าบ๊วยเค็มไปหน่อยไม่ใส่บ๊วยแหล่มกว่าเพราะซุปมันเข้มข้นมากแล้วอ่าฮะ
ต้องยอมรับว่าเส้นโซบะที่นี่เค้าเด็ดจริงอะไรจริง คือเส้นนุ่มแต่เหนียวหนึบเคี้ยวเพลินมากกกก!!!




ไหนๆก็มาแล้วหม่ำโซบะเสร็จก็แวะเข้าวัดซักหน่อย
แต่แหม่ได้จังหวะห้าโมงนิดๆวัดได้เวลาปิดทำการพอดี 555
โฉบๆพอให้เห็นบรรยากาศละกันเนอะ Smiley



อีกหนึ่งจุดที่ต้องแวะมาก็คือร้านของฝาก
GeGeGe no Kitarō (ゲゲゲの鬼太郎)
เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดังเมื่อน๊านนานมาแล้วตั้งแต่ปี 1959 โอ้แม่เจ้า 54 ปีก่อน
สาเหตุที่มาตั้งร้านที่นี่ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกคนเขียนเรื่องนี้จะเป็นคนที่นี่
เคยมีหนังชีวประวัติซี่งก็ถ่ายทำที่นี่เช่นกันฮะ



ทั้งขนมและของฝากจะดีไซน์ตามตัวการ์ตูนเรื่อง
GeGeGe no Kitarō
น่ารักดีเนอะแต่ราคาไม่ค่อยน่ารักนะเลยไม่ได้สอยอิหยังมาเลยแหะๆ



หมดหนึ่งวันไปอย่างรวดเร็วนั่งบัสสายเดิมกลับมา Chofu Station
จากนั้นเพื่อนพาเดินและเดินและเดิน ประมาณห้ากิโลครึ่งเพื่อไปหม่ำมื้อเย็น!!!
เดินเยอะๆจะได้หิวจัดๆเพราะมื้อเย็นนี้จะไปหม่ำบุฟเฟ่ต์ชาบูชาบู&สุกี้ ฮี่ๆ
ณ ร้าน DON TEI ที่ตั้งบอกเลยว่าจำมิได้เพื่อนพาเดินไปอ่าฮะ
แต่เค้าลองหาใน Google Map หาเจอเลยนะพิมพ์ว่า DON TEI Chofu ฮับ



หน้าตาของเมนูบุฟเฟ่ต์
ชาบูชาบู&สุกี้ ราคาจะแบ่งตามระดับคุณภาพของเนื้อ
เพื่อนสั่งให้แบบระดับกลางไม่เอาสลัดและของหวานอยู่ที่หัวละ 2,780 yen (873บาท)
ถ้าจำไม่ผิดจำกัดเวลากินที่ 90 นาที มีชาเขียวร้อนบริการให้ฟรีฮับ



บรรยากาศภายในร้านที่นั่งกั้นเป็นส่วนตัว
พนักงานคลุกเข่า
มารับออเดอร์เห็นแล้วเกรงใจเลย แหะๆ



บุฟเฟต์เค้าจะแยกหม้อมาสำหรับชาบูชาบูเลือกซุปได้สองอย่าง
เค้าเลือกเป็นซุปธรรมดารสจืดๆกับซุปเผ็ดที่ไม่เผ็ดแต่อย่างใด555
ส่วนสุกี้ยากี้จะมาเป็นหม้อสีดำจริงๆเหมือนกระทะมากกว่าหม้อเนอะ
สุกี้แบบญี่ปุ่นจะใส่น้ำแบบขลุกขลิก ไม่ใช่แบบเอ็มเคบ้านเราเน่อ
ถ้าหน้าตาแบบเอ็มเคเราคนญี่ปุ่นคงมองเป็นชาบูมากกว่า
การทานสุกี้เค้าจะเอามันหมูทาก้นหม้อแล้วเอาหอมญี่ปุ่นลงไปจี่ๆ
เสร็จแล้วเอาเนื้อตาม <<<สำหรับสุกี้ยากี้ต้องเป็นเนื้อวัวเท่านั้นไม่ใส่เนื้อหมูฮะ
แล้วค่อยราดน้ำสุกี้รสหวานๆเค็มๆตามลงไปแค่พอขลุกขลิก
แล้วตามด้วยผักดูตามคลิปใน IG เค้าได้เลยฮะตามลิงค์ด้านล่าง ฮี่ๆ ดูเองหิวเอง
//web.stagram.com/p/575906813260670355_9197120



หน้าตาสุกี้ยากี้ซึ่งเค้าฟินม๊วกกกกกกกก!!! เนื้อนุ่มโฮกละลายในปากSmiley
ลวกเนื้อแค่พอสุกอย่าลวกนานเพราะจะแข็งเสร็จแล้วเอาขึ้นมาจุ่มไข่ดิบ
อย่าเพิ่งกลัวไปมันอร่อยมากจริงๆน้า เพราะน้ำสุกี้มีรสเข้มข้นอยู่แล้ว
จุ่มไข่ดิบแล้วจะยิ่งนุ่มๆเคี้ยวเพลิน บอกเลยว่ามื้อนี้เค้าไม่แตะชาบูเลยซัดแต่สุกี้ ฮี่ๆ



ดูขนาดเนื้อที่เสิร์ฟมาจิสไลด์ได้บางฝุดๆ
แผ่นใหญ่กว่าหน้าเค้าอีก นึกว่ามาส์กพอกหน้า 555
ซัดไปหลายถาดมากๆไม่กล้านับเลยวัววิ่งเต็มพุง Smiley
หมดไปอีกหนึ่งวันกับการตระเวนกิน แต่อยู่นี่ไม่ต้องกลัวอ้วนเลย
เพราะเดินเยอะกว่าที่กินเข้าไปอีก นับๆดูแล้ววันนั้นเดินประมาณ 15 กม. OMG!!!



My Makeup TodaY วันที่สี่ในญี่ปุ่น [28/10/2013]
โทนเดิมๆขี้เกียจคิดน้ำตาลเบสิกแต่งไงก็ไม่พลาด
แต่วันนี้ไม่กรีดไลน์เนอร์ แต่งเป็นสโมคกี้อายซอฟต์ๆฮับ



My Outfit TodaY อากาศวันนี้อุ่นขึ้นมาหน่อยประมาณ 20 องศาชิลๆ
ด้านในใส่
Uniqlo Heattech ให้ความอบอุ่นเหมือนเดิม
ด้านนอกเสื้อซื้อจากชั้นล่าง Digital Gateway สยาม ตัวละ 350 บาท
กางเกงยีนส์ขาสั้น Wranglers เลกกิ้งดำ
Uniqlo Heattech
รองเท้าแบรนด์ RIOTINO ซื้อในช็อปที่ Terminal21 ชั้นที่มีแมวกวักตัวใหญ่ๆ
เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นหนังแท้ใส่สบายมั่กๆราคาคู่ละประมาณ 2-3 พันบาทคร้าบ



มื้อเช้าวันนี้ฟาดนมกล้วยจาก 7-11 เค้าว่าเข้มข้นหวานมันกว่าของเกาหลีอีกนะ
หม่ำคู่กะข้าวปั้นอันละ 157 yen (50บาท) ร้านแถวๆบ้านเปิดถึงตีหนึ่ง
นี่แหละแหล่งฝากท้องประจำของเค้าเวลาอยู่ญี่ปุ่นเลย ก้อนเดียวอิ่ม
ข้าวปั้นอร่อยมว๊ากกอ้ะ ข้าวนุ่มๆหนึบๆไม่ต้องจิ้มอะไรเลยมันเค็มกลมกล่อมอยู่แล้ว
ไส้โปรดของเค้าคือทูน่ามายองเนส ส่วนของคุณแฟนคือไส้ไข่ปลา Smiley



จากบ้านเพื่อนที่เค้ามาพักด้วยเดินตุเรงๆไปสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด Nishi Chofu Station
ระยะทางประมาณ 1.5 กม. ดังนั้นแค่เดินไปกลับบ้านกะสถานีทุกวัน
เค้าก็เดินขั้นต่ำวันละ 3 กม.ละ ไม่รวมที่เดินเที่ยวอีกนะ มาญี่ปุ่นเลยกินได้แบบจัดเต็ม
เดินเยอะเว่อร์จริงๆกล้ามขาเฟิร์มขึ้นอย่างสังเกตได้ น้ำหนักไม่เพิ่มเลยลดลงมานิดนึงด้วย ฮี่ๆ
เป้าหมายของเราวันนี้คือไปตะลุยชินจูกุ วันนี้ไม่มีเพื่อนพาไปแล้วหล่ะต้องมั่วเอง
แต่ไม่ยากการซื้อตั๋วและการดูสถานีที่จะไปเข้าไปอ่านได้ในบล็อคแรกเลยฮะ >>>CLICK<<<
จากบ้านเพื่อนเค้า
Nishi Chofu Station เป็นสถานีย่อย
ต้องนั่งไปลง
Chofu Station แล้วค่อยต่อรถไปลง Shinjuku อีกที



ถึงแล้วชินจูกุผู้คนขวักไขว่ทั้งวันจริงๆ
เป็นย่านร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งชอปปิ้ง
เอาว่ามีทุกสิ่งให้เลือกสรรหล่ะ หมูเดินมั่วๆเลย



ร้านขายกล้องและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีเยอะมาก
และของในร้านเยอะเว่อร์อ้ะเดินวนไปวนมาจนตาลายอยากได้อะไรมีหมด



ตู้ไข่หยอดเหรียญเรียงเป็นตับ



ร้านหนังสือผู้ใหญ่ก็มี อรั๊ยยยละลายตา555



เดินเล่นเพลินๆใกล้เวลาเย็นๆก็เดินมาถึงจุดนัดพบหลักของย่านนี้
ตรงห้างใหญ่ ODAKYU Shinjuku



ภารกิจหลักจริงๆของวันนี้คือนัดเพื่อนญี่ปุ่นอีกสองคนไว้
ว่าจะมาเจอกันที่ชินจูกุ พอดีเพื่อนเลิกงานเย็นเค้าเลยมาเดินเล่นรอบๆฆ่าเวลา
ที่ญี่ปุ่นเราจะเห็นที่จอดจักรยานอยู่เต็มไปหมดเลย คนเค้าใช้จักรยานเยอะ
และจะมีทางจักรยานบนทางเท้าด้วย เวลาเดินต้องระวังนิดนึงฮับ



เจอเพื่อนแล้วเย้ๆ เพื่อนพามาหม่ำมื้อเย็นที่ร้านอาหารพื้นเมืองสไตล์โอกินาว่า
"โอกินาว่า" เป็นชื่อจังหวัดของเกาะเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น



ร้านอยู่ในย่านชินจูกุแต่เค้าจำที่ตั้งบ่ได้แหะๆเดินตามเพื่อนไป
ไม่ไกลจากห้าง ODAKYU เท่าไหร่
ชื่อร้าน Churari ตั้งอยู่บนชั้นสองของตึกหน้าตาแบบนี้อ่าจ้า



หน้าตาเมนูมีรูปประกอบแต่ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆเกินจะคาดเดา แหะๆ



อาหารอย่าได้ถามเลยว่ามีอะไรบ้างคือมันเป็นสไตล์พื้นเมืองมั่กๆ เพื่อนเป็นคนสั่งมาให้ลอง
ซึ่งหลายๆเมนูเพื่อนเค้าเองก็บอกพึ่งเคยได้ลองเหมือนกันนี่แหละ 555
ซ้ายบนเป็นสลัดเต้าหู้ ขวาบนเป็นข้าวผัดน้ำหมึกของปลาหมึก
ซ้ายล่างเหมือนพิซซ่าเกาหลีเลย ส่วนขวาล่างคือปลาอะไรซักอย่างทอด
ขอบอกว่ารสชาติดีกลมกล่อมทุกเมนูเลยคร้าบ Smiley



สองอันนี้เด็ดถ้าใครได้มาร้านนี้หรือได้ไปโอกินาว่าเค้าแนะนำเลย
คือหูหมูกรุบกรอบ กะ สาหร่ายพวงองุ่นเคี้ยวเพลินจริงๆ
แต่มีคนบอกเค้ามาว่าสาหร่ายแบบนี้ภาคใต้บ้านเราก็มีหล่ะไว้ต้องลองๆ



กินอิ่มเพื่อนพาเดินทัวร์แหล่งอโคจรซะงั้น 555 ไปให้รู้เนอะ
เป็นซอยที่มีผับเล็กๆตั้งอัดแน่นชื่อซอย "Golden Gai" (Golden Street)
คือเป็นซอยแคบๆแต่ฝรั่งเที่ยวเยอะมากเป็นร้านนั่งดริงค์มืดๆหน่อย



ตามมาด้วยย่านโฮสท์ อ่าหือละลานตา Smiley
แต่ก็คุยกะเพื่อนว่านี่ถ้าเป็นผู้ชายไทยหน้าตาแบบนี้
แต่งตัวแบบนี้ สาวไทยมองปุ๊บต้องคิดว่าเป็นเกย์แน่นอน 555



ปิดท้ายวันนี้ด้วยการไปชมวิวแบบไม่เสียกะตัง
ที่ Tokyo Metropolitan Government Building
รายละเอียดที่ตั้ง แผนที่ และเวลาเปิด-ปิด >>>CLICK<<<



จุดชมวิวตั้งอยู่ชั้น 45 เป็นกระจกรอบ
เห็นวิวแบบ 360 องศาเริ่ดอ้ะ เริ่ดตรงที่ฟรีด้วยนี่หล่า 555 Smiley



ปิดท้ายทัวร์ญี่ปุ่นภาคสองด้วยภาพวิวสวยๆถ่ายจากชั้น 45
ของตึก
Tokyo Metropolitan Government Building
แนะนำจริงๆคร๊าบไม่ควรพลาด วิวญี่ปุ่นยามค่ำคืนสวยอลังการจริงๆ

----------------------------------------------------------------------

แล้วเจอกันใหม่ใน [PART 3] น้า
ใครยังไม่ได้อ่านภาคแรกเข้าไปชมได้ตามลิงค์ด้านล่างฮับ

Review : Japan Trip [Part 1] เปิดฉากตะลุยประเทศในฝัน
ต้องเตรียมอะไรบ้าง & วันที่สอง ณ Akihabara


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าคร๊าบ Smiley




Create Date : 24 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 12 มกราคม 2557 15:36:18 น. 9 comments
Counter : 9921 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา:6:15:31 น.  

 
อาหารน่าทานมากค่ะขอบคุณที่มารีวิวให้อ่านนะค๊ะ


โดย: Nattaya Foy IP: 46.7.187.71 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2556 เวลา:6:40:45 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่มาแชร์ประสบการณ์ดีๆแบบนี้ให้ได้อ่าน จะตั้งหน้าตั้งตารอ part3 ค่ะ ^^


โดย: inn2shop IP: 110.169.39.198 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2556 เวลา:10:48:48 น.  

 
สาหร่ายเป็นพวงๆ ที่ภูเก็ตมีขายเยอะเลยคะคุณทราย เราเรียกว่าสาหร่ายน้ำ พี่แม่บ้านที่ออฟฟิศเอามาคลุกทานกับน้ำส้มตำก็อร่อยเหาะเลยนะคะ ^^


โดย: Hong IP: 118.173.74.241 วันที่: 14 ธันวาคม 2556 เวลา:10:07:57 น.  

 
แอร๊ยยย ละเอียดเว่อออ รูปสวยมากกก เค้าอยากไปญี่ปุ่น งุงิๆๆ


โดย: FayZereta IP: 180.180.87.97 วันที่: 14 ธันวาคม 2556 เวลา:20:49:04 น.  

 


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 15 ธันวาคม 2556 เวลา:13:58:27 น.  

 
hi!,I love your writing so much! share we be in contact more approximately your post on AOL? I require a specialist on this area to resolve my problem. May be that is you! Taking a look forward to see you.
Louis Vuitton outlet Online Sale //www.strategis.co.uk/footer.cfm


โดย: Louis Vuitton outlet Online Sale IP: 94.23.252.21 วันที่: 21 สิงหาคม 2557 เวลา:8:09:30 น.  

 
Pok05P //www.FyLitCl7Pf7kjQdDUOLQOuaxTXbj5iNG.com


โดย: Bradley IP: 94.23.252.21 วันที่: 8 สิงหาคม 2558 เวลา:0:26:02 น.  

 
cX4wcZ //www.FyLitCl7Pf7kjQdDUOLQOuaxTXbj5iNG.com


โดย: JimmiXzS IP: 188.165.240.145 วันที่: 14 ตุลาคม 2559 เวลา:0:28:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]




..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน
http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้
ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!

---------------------------------------------------------

hits
New Comments
Friends' blogs
[Add SaRaY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.