เราบ่นไปเรื่อย ๆ เราไม่เมื่อย เราไม่เหนื่อย
|
||
I Hear Your Voice & Nine ดูสองเรื่องนี้เพราะ BoA ชอบ park hyung shik(Nine) และ lee jong suk (I hear your voice) ดูแล้วประทับใจและอิจฉาว่าทำไมประเทศเกาหลีมีละครเนื้อเรื่องดี, บทดี, กำกับดีเยอะจัง :') สองเรื่องนี้มีจุดคล้ายกันตรงพระเอกของเรื่องพ่อโดนฆ่าตายตั้งแต่เด็กและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรคล้ายกันเลย ใน Nine พระเอกจุดธูปย้อนเวลากลับไปพยายามช่วยชีวิตพ่อตัวเองเก้าครั้ง(ที่มาของชื่อเรื่อง) ละครสนุกมาก พระเอกหล่อมาก (กรี๊ด) แต่เนื้อเรื่องแอบเดินช้า ครึ่งหลังจขบ.เริ่มดูแบบข้าม ๆ จนจบเรื่อง ถ้ามีเวลาก็แนะนำให้หามาดูกัน ไม่เคยเจอเรื่อง time travel แบบนี้มาก่อน ปกติมันจะมีแค่ 2 แบบ คือ 1. ย้อนเวลากลับไปแล้วไปทำอะไรเข้าในอดีต แต่นั่นไม่ได้ทำให้อนาคตเปลี่ยน แต่เป็นการทำให้เหตุการณ์ทั้งหมดลงล็อค และเกิดอย่างที่เคยเกิดมาได้แล้วตะหาก <= เรื่องที่เกี่ยวกับย้อนอดีตส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ เพราะดูแล้ว make sense ที่สุด 2. ย้อนเวลากลับไปแล้วไปทำอะไรเข้าในอดีต ทำให้อนาคตเปลี่ยนไป แต่อนาคตที่เปลี่ยนไปเป็นของ alternate universe เวลาตัวเอกกลับมาที่เดิมจะพบว่าเหตุการณ์ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย <= แบบนี้ก็ดีเพราะไม่มั่ว แต่ในเรื่อง Nine เป็นแบบใหม่ คือ กลับไปแก้ได้จริง มีผลต่อปัจจุบัน ตัวเอกกลับมาแล้วก็ยังจำอดีตเก่าได้ และได้อดีตใหม่มาอีกต่างหาก สับสนมาก ๆ ที่ตลกก็คือ คนอื่นจะมีแต่อดีตใหม่ ยกเว้นคนที่รู้ความลับเรื่องธูปย้อนอดีตที่จะยังจำอดีตเก่าได้ด้วย จขบ.ไม่ค่อยชอบการย้อนอดีตที่เงื่อนไขเป็นแบบนี้ ตอนย้อนแรก ๆ มันก็ยังพอไหวอยู่ พอย้อนหลาย ๆ ครั้งเข้า มันยิ่งเละตุ้มเป๊ะ(หมายถึงเหตุการณ์และความทรงจำนะ ละครไม่เละ)เกินทนไหว ก็เลยดูแบบข้าม ๆ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากดูละครเรื่องนี้ให้สนุกต้องรับ setting แบบนี้ให้ได้ ไม่งั้นดูไปก็จะหงุดหงิดไป มาพูดถึง I hear your voice(너의 목소리가 들려) บ้าง ได้ยิน "너의 목소리가 들려" ปุ๊บ จขบ.นึกถึงเพลง chow, chow ของ delispice ทันที เพราะทั้งเพลงมันร้องวนไปเวียนมาอยู่แค่ว่า "ฉันได้ยินเสียงเธอ" จนดูละครจนจบเรื่องยังงงอยู่ว่าทำไมละครไม่คิดเอาเพลงนี้มาใช้เป็น OST บ้าง เหมาะจะตาย (จริง ๆ แล้ว OST ที่ชื่อ echo ก็มีเนื้อเพลงว่าฉันได้ยินเสียงเธอเหมือนกัน แต่ไม่ได้ร้องซ้ำไปซ้ำมาทั้งเพลงขนาด chow,chow แต่ก็เพราะทั้งสองเพลงน่ะแหละ) I hear your voice เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กที่พ่อถูกฆ่าตาย และมีสาวไฮสคูลมาช่วยเป็นพยานชี้ตัวฆาตกร เด็กคนนั้นก็เลยตัดสินใจว่าโตมาจะต้องแข็งแกร่งเพื่อจะได้ปกป้องพี่สาวคนนั้นให้ปลอดภัยเวลาฆาตกรถูกปล่อยตัวออกจากคุกหลังใช้โทษเสร็จ ฟังแล้วคนดูละครน่าจะกลัว ต่อไปนี้คงไม่มีใครกล้าไปเป็นพยานชี้ตัวอะไรให้ใครอีกแล้ว เพราะพอฆาตกรถูกปล่อยตัวเมื่อไร เราจะไม่มีวันอยู่อย่างเป็นสุขได้อีกต่อไป ต้องหวาดกลัวอยู่ทุกวินาที ละครตั้งคำถามอีกหลายคำถาม หนึ่งในนั้นที่ละครถามหลายเที่ยวคือคำถามที่ว่า ถ้าเราไม่ได้ทำผิดแต่ไม่มีใครเชื่อเราเลย เราจะเลือกอะไรระหว่าง 1.ยอมรับผิดไปซะ แล้วรับโทษเพียงกึ่งหนึ่ง 2.ยืนยันความบริสุทธิ์ แล้วรับโทษ(ที่เราไม่ได้ก่อ)เต็ม ๆ คิดหนักเลย กฎหมายมันออกแบบมาเชียร์ให้เรายอมรับผิดที่ไม่ได้ก่อจริง ๆ ตอนแรกจขบ.เริ่มดูละครแบบไม่รู้เรื่องอะไร นึกว่าเป็น rom-com เบา ๆ ที่ไหนได้ ละครมันเบาได้อยู่ไม่กี่ตอนก็หนักและหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่เขาแต่งเรื่องและเขียนบทได้ดีจริง ๆ นักแสดงก็เยี่ยม พระเอกจากตอนแรก "ฮะ? หน้าจิ้งจกนี่อ่ะนะพระเอก?" กลายเป็นน่ารักไปได้ แน่นอน ละครไม่ได้ perfect มีหลุดอะไรน่าเกลียด ๆ มาบ้างเหมือนกัน ข้ามไปถ้าไม่อยากโดนสปอยล์(เช่น มีที่ไหนไม่เจอศพ แต่ดันจะตัดสินคดีฆาตกรรม ตำรวจและอัยการประเทศนี้ทำงานกันยังไงฟะ?,มีที่ไหนว่าความคดีฆาตกรรม แต่ไม่พูดถึงมูลเหตุของแรงจูงใจในการฆาตกรรมเลย?, มีที่ไหนว่าความไปคิดไป(แถมยังตามสืบไป!)ราวกับไม่ได้่เตรียมตัวมาก่อน) แต่ความผิดพลาดทั้งหมดนั้นก็ลบล้างความดีของละครไม่ได้เลย เขาเขียนตัวละครมาดีมาก เรารักตัวละคร(แม้แต่คนร้าย เรายังไม่เกลียด) เห็นพัฒนาการของตัวละครชัดเจน ละครมีหลายอารมณ์ ทำให้เราตื่นเต้น ลุ้น โมโห โล่งใจ เห็นใจ เข้าใจ ภูมิใจ ฟิน ฯลฯ สรุปว่าชอบและแนะนำให้ดูสุด ๆ :D ปล. นี่จขบ.ถึงกับคิดจะตามไปดูละครไอดอลอย่าง Dream High ที่ไม่เคยคิดจะดูเลยนะ เพราะคนเขียนบทคนเดียวกับ I Hear Your Voice :P |
All Blog
Link |
|
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
สนุกกับเรื่องราว พล๊อต และฟินกับคู่พระเอกนางเอกมาก