แนะแนวการเรียนในระดับป.4-ป.6 เด็กในระดับนี้เป็นเด็กที่กำลังเริ่มต้นพัฒนาไปในแนวทางต่างๆ แบบอย่างในครอบครัวมีผลอย่างมากต่อการพัฒนาที่จะตามมาในอนาคต ผู้ปกครองควรเข้าใจถึงธรรมชาติของเด็กและมองจุดเด่นจุดด้อยให้ออก ค่อยๆปลูกฝังสิ่งที่ดีงามในด้านต่างๆให้กับเด็ก อะไรที่เป็นนิสัยเสียที่ติดตัวมาแต่กำเนินก็ค่อยๆหาวิธีแก้หรือหาจุดเด่นมาลบข้อเสียเหล่านั้น ควรเริ่มต้นวางรากฐานและพื้นฐานของเด็กให้ดีเสียก่อน สอนให้เด็กคิดและทำในสิ่งที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง และเข้ากับสภาพความเป็นอยู่ในสังคมของตนเอง อย่าเริ่มสอนหรือฝึกให้คิดในแบบที่ขัดต่อความเป็นจริง และผู้ปกครองต้องมีความเข้าใจและวางแนวทางในด้านต่างๆของลูกหลานของท่าน เพื่อเริ่มต้นค่อยๆฝึกความพร้อมในด้านต่างๆเช่น ความรับผิดชอบ ความมีคุณธรรม ความมีน้ำใจ การรู้หน้าที่ การรู้ว่าอะไรควรไม่ควร และความมีเหตุผล ความมีไหวพริบ ความเฉลียวฉลาด และความสามารถในทักษะการอ่าน พูด ฟัง เขียน ความจำ และความคิด ต้องเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำได้ในเวลาอันสั้น การเรียนของเด็กในระดับนี้พื้นฐานเป็นเรื่องสำคัญ ท่านสามารถทดสอบเด็กได้ว่าอ่านออกเขียนได้ดีหรือยัง มีสมาธิหรือไม่ เข้าใจในเนื้อหาที่เรียนมาแค่ไหน ความจำมีระยะยาวแค่ไหน ทักษะทางด้านคำนวณและภาษาเป็นอย่างไร ถ้ามีด้านไหนบกพร่องท่านต้องรีบแก้ก่อนและสามารถฝึกเด็กของท่านเองได้ที่บ้าน อย่าคิดแต่ว่าเรียนที่โรงเรียนหรือไปเรียนพิเศษคือการแก้ปัญหาแล้ว ซึ้งเป็นการคิดที่ผิดอย่างมากท่านอาจทำให้ปัญหาเหล่านั้นเลยเวลาที่จะแก้ไข จนกลายเป็นจุดอ่อนของเด็กในอนาคต เด็กระดับ ป.4 ป.5 เป็นระดับที่ปรับพื้นฐานง่ายที่สุด ถ้าท่านเข้าใจปัญหาและมุ่งเตรียมความพร้อมในทุกๆด้านของเด็ก อย่าไปเน้นแต่ว่าจบป.6 เด็กต้องสอบเข้าให้ได้โรงเรียนโน้นโรงเรียนนี้แล้วโหมแต่ให้ไปเรียนอะไรที่ยากๆเกินกำลังและลืมดูพื้นฐานของเด็กไปว่ามีอะไรบกพร่อง พยายามกดดันให้เด็กรับในสิ่งที่เกินกำลังหรือเรียนในสิ่งที่ยังไม่ถึงเวลา ฝึกให้เด็กเริ่มคิดหรือทำผิดขั้นตอนจนกลายเป็นความเคยชิน และทำทุกอย่างให้เด็กโดยไม่ค่อยๆฝึกให้คิดเอง ทำให้เด็กเริ่มทำหรือเรียนอะไรเพราะท่านต้องการ ไม่ใช่ทำเพราะความต้องการหรือมีแรงจูงใจให้อยากทำ และเมื่อถึงป.6 เด็กที่มีพัฒนาการที่ดีพอ เด็กกลุ่มนี้จะโตเร็วมีความคิดและเก่งได้เลยในชั้นนี้ ซึ่งมีไม่มากนักและใช่ว่าจะดีเสมอไปถ้าลูกหลานของท่านเป็นเด็กในกลุ่มนี้ ท่านต้องดูแลให้ดีอย่าให้เครียดเกินไปและอย่าให้สร้างนิสัยที่ผิดๆติดตัวไปในวันข้างหน้า ส่วนเด็กปานกลางซึงเป็นเด็กกลุ่มใหญ่ก็ค่อยๆพัฒนากันต่อไปเวลายังมีอีกยาวไกลไม่ต้องรีบร้อน ส่วนกลุ่มเด็กอ่อนซึ่งมีไม่มากนักแต่น่าเป็นห่วง ท่านปล่อยให้ปัญหาสะสมต่อกันมาจนถึง ป.6 ซึ้งเริ่มจะเป็นปัญหาที่นับวันจะแก้ยากขึ้นทุกที ถ้าเด็กขึ้นป.6 ยังอ่านไม่ค่อยออก เขียนไม่เป็นตัว จำไม่ค่อยได้ คิดไม่ค่อยเป็น ทักษะคำนวณไม่มีท่านต้องอดทนนับหนึ่งใหม่และคิดเสมอว่าเวลายังพอมีที่จะแก้ไขและเข้าใจว่าปัญหาส่วนหนึ่งเป็นนิสัยเสียที่ถ่ายทอดจากตัวของท่านเองสู่เด็กครับ ข้อเสียที่ติดตัวมากับเด็กในระดับนี้อีกกลุ่มคือ ความขี้เกียจ ความเฉื่อย ความซน ความกร้าวร้าว สิ่งเหล่านี้บางอย่างเด็กเพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ บางอย่างติดมาจากท่าน วิธีแก้ปัญหาคือฝึกให้เด็กทำอะไรที่ตรงข้ามกับความเคยชินเดิมๆ ฝืนเด็กบ้างถ้าจำเป็น อธิบายให้เห็นข้อเสียที่เกิดขึ้นถ้าเป็นอยู่อย่างนั้น ใช้การอธิบายพยายามหลีกเลี่ยงการสั่งให้ทำเพราะเด็กจะครับลูกเดียวจนเคยชิน สุดท้ายฝากถึงน้องๆที่อยู่ป.6 แล้วคิดว่าตัวเองพร้อมที่จะแข่ง ให้คิดเสมอว่าการเรียนพิเศษเรียนเอาแนวทางส่วนการจะเก่งแค่ไหนอยู่ที่การฝึกด้วยตนเองในทุกๆวิชา คณิตศาสตร์ก็ทำโจทย์เยอะๆทำสม่ำเสมอ วิทย์ก็อ่านและฝึกวิเคราะห์อย่างเป็นขบวนการ สังคมก็อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าและดูข่าวทีวีด้วย ภาษาไทยสำคัญเพราะทุกวิชามีตัวหนังสือทั้งนั้น อังกฤษยากที่สุดถ้าพื้นฐานดีโตขึ้นได้เปรียบ ส่วนข้อสอบวัดความถนัดการเรียนรู้ก็คือวัดไอคิวของเรานั้นเองถ้าคิดว่าฉลาดก็ทำได้อยู่แล้ว อยากสอบเข้าสาธิต หรือโรงเรียนรัฐบาล หรือเรียนนานาชาติก็สุดแท้แต่ขอให้เข้าใจว่าสังคมใหญ่ๆที่มีตัวอย่างเยอะๆหลากหลายย่อมดีกว่าสังคมที่ปรุงแต่งมาแล้ว และมีหลักง่ายๆสำหรับคนเก่งว่า....คนที่จะเก่งไม่ต้องให้ใครมาสอนมาก คนที่ต้องเรียนตลอดเวลาไม่มีวันเก่ง....
Create Date : 01 กันยายน 2548 |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2561 21:58:38 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1215 Pageviews. |
|
|
|
โดย: merry IP: 222.129.209.200 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:13:38 น. |
|
|
|
|
|
|