|
|
หลินอาศัยอยู่หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งห่างจากเมืองกวางเจา เมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง ราว120 กม ครอบครัวของหลินมีอาชีพเกษตรกรรม ปลูกผักเลี้ยงหมู เป็ด ไก่ มาตั้งแต่รุ่นปู่-ยา แม่เล่าให้หลินฟังว่าเมื่อก่อนหมู่บ้านนี้ทำเกษตรกรรมทั้งหมู่บ้าน แต่พอสมัยประธานเติ้งความเป็นอยู่ของหมู่บ้านก็ค่อยๆเปลี่ยนไป ที่ดินที่เคยปลูกผักก็กลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กขนาดใหญ่ เพื่อนบ้านหลายคนก็ผันตัวเองเป็นลูกจ้างในโรงงาน ซึ่งเจ้าของส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่นที่เข้ามาลงทุนในที่ดินรอบๆหมู่บ้าน บางคนก็เปลี่ยนจากอาชีพเกษตรกรรมไปเป็นเจ้าของโรงงาน เริ่มจากเล็กๆแล้วค่อยขยายใหญ่โตขึ้น ฐานะความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นแต่ครอบครัวหลิน เลือกที่จะทำอาชีพเกษตรกรรมแบบดั่งเดิม ที่ทำต่อๆกันมาหลายชั่วอายุคน แม่บอกว่าอาจเป็นเพราะผู้ชายในครอบครัวของเราไม่มีความคิดที่จะทำอะไรที่ดีกว่านี้ เลยต้องทำอาชีพนี้ต่อๆกันมาแม้หมู่บ้านจะเปลี่ยนไปเพียงใด ตึกใหม่ๆจะถูกสร้างขึ้นมามากมาย ถนนหนทางก็เกิดขึ้นมารอบๆหมู่บ้านหลายเส้นจะนำพาความเจริญเข้าสู่หมู่บ้านมากเพียงใด แต่ครอบครัวหลินก็ยังทำอาชีพเกษตรกรรมแบบดั่งเดิมที่ต้องใช้แรงกาย หยาดเหงื่อแลกกับเงินเพียงน้อยนิด มีแค่พอดำรงชีวิตไปวันๆซึ่งเป็นต่อๆกันมาตั้งแต่รุ่นปู่-ยาแล้ว หลินมีโอกาสเรียนหนังสือได้ถึงแค่ระดับ 8 (เทียบเท่าป.6) เพราะเป็นระดับที่รัฐบาลบังคับให้เด็กทุกคนต้องจบในระดับนี้ ครอบครัวของหลินยอมให้หลินไปเรียนเพราะเรียนฟรี พอจบระดับนี้ หลินอยากเรียนต่อเหมือนกับเพื่อนๆของหลินที่เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นในโรงเรียนของรัฐบาลแต่ต้องเสียค่าเล่าเรียน คุณครูสอนว่าคนเราจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ต้องมีการศึกษา หลินจำคำนี้ได้ขึ้นใจและอยากเรียนหนังสือจะได้ทำงานหรือมีความเป็นอยู่ที่ดีๆ แบบนางเองในหนังหลายเรื่องที่ หลินมีโอกาสได้ดูที่โรงเรียนในชั่วโมงสังคมศึกษา แต่หลินก็ต้องผิดหวังลุงใหญ่ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ไม่ให้หลินเรียนต่อ ลุงบอกว่าค่าเรียนแพง ต้องเข้าไปเรียนในตำบลระยะทางมันไกล และทางครอบครัวก็ต้องการให้หลินมาทำงาน เพราะมีคนไม่พอใกล้จะถึงฤดูเพาะปลูกอีกแล้ว ลุงบอกต่ออีกว่าเรียนไปทำไมไม่เห็นมีอะไรเรียนแล้วก็ต้องมาทำงานที่บ้าน ซึ่งลุงสอนให้เองก็ได้ไม่เห็นต้องไปเรียน ทุกคนรวมทั้งหลินต้องรับฟังคำตัดสินของลุงเพราะลุงเป็นหัวหน้าครอบครัว ดังนั้นหลินจึงต้องจบชีวิตการเรียนของหลินด้วยวัยเพียง12 ขวบ หลินช่วยแม่ทำงานบ้าน ทำงานที่ไร่และที่ฟาร์มเลี้ยงหมูทุกวันๆ หลินจึงเข้าใจว่าทำไมครอบครัวของหลินถึงทำอาชีพนี้ต่อๆกันมาโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เหตุเพราะว่างานมันมีมากมายในทุกวัน ทำตั้งแต่เช้าจนมืดเสร็จแล้วก็เหนื่อยหมดแรงต้องเข้านอนแต่หัวค่ำ ไม่มีเวลาที่จะไปคิดอะไรที่จะยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ไม่ทำต่อเนื่องก็ไม่มีเงินพอมาเลี้ยงทุกชีวิตในครอบครัว หลินจึงเข้าใจอีกว่าทำไปอีกซักพักก็กลายเป็นผู้ใหญ่และเลยวัยที่จะเรียนหนังสือแล้ว อีกไม่นานก็ต้องแต่งงานและมีครอบครัวมาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวใหญ่ มาสืบทอดอาชีพนี้ต่อไปเหมือนสมัย ปู่-ยา ลุง-ป้า น้า-อา พ่อ-แม่ และมาถึงรุ่นหลิน
เมื่อหลินอายุได้ 15 ปีหลินเริ่มรู้แล้วว่าหลินผ่านวัยที่จะเรียนหนังสือสูงๆเพื่อไปทำงานที่ดีๆในโรงงานหรือในเมืองแล้วทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นเวลาผ่านไปแล้วอย่างไม่มีวันหวนกลับ ถ้าจะมีความหวังก็คงต้องเป็นวันพรุ่งนี้ ในวันที่หลินจะมีครอบครัวมีลูกและส่งเขาไปเรียนหนังสือสูงๆเพื่อชีวิตที่ดีกว่า มีการงานที่ดีกว่ารุ่นหลินและรุ่นก่อนๆ ไม่ต้องมาทำงานใช้แรงกาย รายได้น้อยแบบนี้ หลินยอมรับในชีวิตความเป็นอยู่ปัจจุบันไม่โทษลุงใหญ่ที่ไม่ยอมให้หลินเรียน อย่างน้อยลุงใหญ่ก็ทำงานหนักหาเงินมาเลี้ยงดูหลินจนโตขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่โทษพ่อแม่ที่ให้หลินเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ไม่มีฐานะร่ำรวยเหมือนครอบครัวอื่นๆอีกหลายครอบครัว แม้หลินจะมีโอกาสได้เรียนหนังสือมาน้อยนิดแต่เพียงชั่วเวลาสั้นๆนั้น ก็เพียงพอที่จะจุดประกายความคิดความมีเหตุผลให้เกิดขึ้นในใจหลิน ทำให้หลินเข้าใจอดีต ยอมรับปัจจุบันและมีความหวังถึงอนาคตในรุ่นลูกรุ่นหลาน พออายุ16หลินก็มีแฟนที่ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักเป็นลูกชายหมู่บ้านใกล้ๆ หลินชื่นชมในตัวแฟนของหลินเพราะเป็นคนขยันขันแข็ง ทำงานอยู่โรงฆ่าหมู มีความคิดและสามารถคุยกับหลินได้ในทุกๆเรื่อง หลินคิดว่าชายคนนี้น่าจะช่วยหลินสานความหวังเล็กๆให้เกิดขึ้นได้ในชั่วชีวิตนี้ วันนี้เป็นวันที่ 24 ธ.ค ในเมืองกวางเจามีงานฉลองวันส่งท้ายปีเก่า แฟนของหลินชวนหลินติดรถเถ้าแก่เข้าเมืองไปเดินเล่นถนนคนเดิน หลินดีใจมากเพราะนานๆทีถึงได้มีโอกาสเข้าเมืองซักครั้งรถเข้าเมืองมาส่งทั้งสองที่หัวมุมถนน ทั้งสองเดินมากลางสายลมอันหนาวเหน็บ พอเห็นร้านเสื้อผ้าราคาถูกลดราคาก็ตรงเข้าไปแวะดู ที่ร้านนี้เป็นที่ๆผมมีโอกาสได้พบหลิน หลินและแฟนมาในชุด กางเกงยีนส์ เสื้อยืดแขนยาวและเสื้อกันหนาว รองเท้า ราคาถูกที่ส่วนใหญ่มีขายที่ร้านนี้ หลินดูเสื้อผ้าตัวละ 10 หยวนที่กองๆทับกันอยู่ เลือกดูและคุยกับแฟนของเธออย่างอารมณ์ดีและดูมีความสุข ผมเฝ้ามองหลินอย่างสนใจ ซักพักหลินก็เดินออกจากร้าน ควงแขนแฟนของเธอเดินผ่าความหนาวไปสู่ถนนคนเดินที่มีร้านขายเสื้อผ้าราคาแพงมากมาย และอาจพบเพื่อนเก่าๆของหลินสมัยเรียนประถมที่เข้ามาเรียนในเมือง มีความเป็นอยู่ที่ดี แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพงและมีแฟนรวยๆ หลินไม่แคร์และไม่สนใจยังคงอารมณ์ดี คุยหยอกล้อเดินควงแขนกับแฟนอย่างมีความสุข ผมได้แต่มองตามหลังทั้งสองไปและส่งยิ้มนิดๆตามหลินไป เพราะรู้ว่าเธอมีความหวังเล็กๆในขวดแก้วแล้ว....
Create Date : 01 กันยายน 2548 |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2561 22:05:20 น. |
|
2 comments
|
Counter : 904 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ตี๋น้อยคับ วันที่: 1 กันยายน 2548 เวลา:1:46:06 น. |
|
|
|
โดย: aaa IP: 222.129.209.200 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:09:37 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
 |
|
|