|
ครั้งหนึ่งนานมาแล้วผมเคยเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา...ภาคสอง |
|
หลังจากที่เราสร้างมิติใหม่ให้โรงเรียนเทพศิรินทร์ ได้เป็นที่เรียบร้อยและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี งานของเราทำกันได้เป็นระบบดีพอสมควรแล้ว หลังจากขายหนังสือเสร็จไม่นานเราก็ประชุมในกลุ่มแกนนำเพื่อรับฝังเสียงสะท้อนจากรอบทิศ และเปิดใจคุยกันถึงปัญหาต่างๆที่เราเจอมาซึ่งก็ไม่ใช่น้อยเลย เราทำความเข้าใจกันอีกรอบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เตรียมข้อมูล หาเงิน ทำคอมพิวฯ ทำอาร์ต และงานขาย และนำเรื่องที่ฝ่ายบริหารของโรงเรียนตักเตือนเรามาเช่นเรื่องการเย้าแหย่เพื่อนรักของเรา(โรงเรียนสวนกุหลาบ) และการใช้คำบางคำเมื่อเอ่ยถึงอาจารย์ในโรงเรียน ซึ่งเสียงสะท้อนจากทุกทิศมีมามากมาย จนเราต้องกำหนดเวลาที่จะรับฟังและนำมาคุยกันในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น ไม่งั้นงานไม่เดินหน้าแน่นอน
ตัวผมเองไม่ได้อยู่ฝ่ายงานใดๆเด่นชัดเลย จึงคิดว่าเล่ม2-3 ไม่น่ามีปัญหา พวกแกนนำร่วมก่อการที่เป็น ม.6ยังทำงานได้ แต่เล่ม4-6 ไม่น่าจะหวังพึ่งแกนกลุ่มนี้ได้เพราะ ใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว และเพื่อนหมอยังใกล้จะถึงช่วงยุ่งกับการแปรอักษรงานซีเกมส์อีก เห็นทีต้องเตรียมแผนมาลองรับเรื่องเหล่านี้ซะแล้ว คิดได้ดังนั้นเลยมีงานเพิ่มขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องคนที่จะมารับช่วงงาน(ควรเป็น ม3-4 เพราะม.5 ปีหน้าก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยอีก) เรื่องหาเงิน เรื่องที่ทำอาร์ต โรงพิมพ์(ซึ่งผมคิดว่าพิมพ์ที่เนชั่น ช้างานเขาเยอะต้องคิดหาที่ใหม่) ไหนจะเรื่องคอยเป็นที่ปรึกษาให้ทุกฝ่ายเพื่อกระตุ้นให้งานมันเดินไปข้างหน้าตามกำหนด เรื่องมันไม่ใช่น้อยๆเลย แต่รับปากทำแล้วก็ต้องลุยเต็มที่ งานหาน้องม3-4 มาทำนั้นยากที่สุดเพราะน้องปราบดาอยู่ม.3ก็จริงแต่จบม.3แล้วปราบดาก็จะไปเรียนต่อเมืองนอก ผมคุยกับปราบดาว่าไม่เป็นไรทำให้สนุกในปีนี้ก็แล้วกัน ปราบดาก็ดีรับปากว่าจะเตรียมทีมทำอาร์ตให้ซัก 1 ทีมก่อนจากไป นอกนั้นต้องค่อยๆหาต่อคิดว่าไม่เป็นไรยังพอมีเวลา เรื่องเงินอาจารย์พรรณี ช่วยแนะนำรุ่นพี่ที่จบไปแล้วและท่านผู้ปกครองหมดปัญหาไปเรื่องนี้
รั้วรำเพยเล่มสองก็เสร็จต้นเดือน สิงหาคมและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีเช่นเดิม ช่วงนี้ผมรับหน้าที่วางแผนการขายอย่างเต็มตัวและจัดการเรื่องเงินทั้งรายรับและรายจ่ายทั้งหมดเป็นหน้าที่หลัก และทำหน้าที่ประสานทั้งตอนรวมข้อมูลจากกองบ.ก เสร็จแล้วฝ่ายอาร์ตก็ทำคอมพิวฯและมาทำอาร์ต เอาหน้าสปอนเซอร์มาให้ อาร์ตเสร็จก็ประสานกับโรงพิมพ์ทั้งเรื่องทำเพลตและงานพิมพ์ แล้วก็จัดจำหน่ายประสานมันทุกเรื่องเหตุเพราะกลัวไม่เสร็จตามกำหนด ทุกขั้นตอนต้องแก้ปัญหาในรายละเอียดตลอดไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย กลางเดือนกันยายน รั้วรำเพยเล่มสามก็ออกมาสู่สายตาพวกเรา และก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมาทันที เรื่องมีอยู่ว่า เรามีคอลัมส์รั้วริมทาง ที่เป็นเรื่องเขียนซุบซิมในโรงเรียน หมอเป็นคนเขียนเองและมีตอนหนึ่งซึ่งในชุมนุมเชียร์ของหมอไม่เห็นด้วยที่อาจารย์ท่านหนึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหมวดศิลป์ เลยเขียนแซวในรั้วริมทาง และหมอก็ไม่ได้ส่งต้นฉบับไปให้อาจารย์เฉลียวตรวจก่อน เพราะเขียนเติมตอนทำอาร์ต พอส่งอาร์ตให้อ.เฉลียวตรวจ ซึ่งปรกติอเฉลียวเป็นคนที่ตรวจละเอียดมาก ผิดตัวเดียวยังมองเห็นเลยสุดยอดจริงๆอาจารย์ท่านนี้ พอส่งอาร์ตไปให้อ.เฉลียวตรวจ ด้วยความรีบร้อนกลัวหนังสือออกช้าของผม เร่งอาจารย์ใหญ่เลยครับขอร้องให้ตรวจไวไวหน่อย อ.เฉลียวก็เห็นแก่ผมถามเพียงว่าเหมือนตอนที่ส่งต้นฉบับมาให้ดูหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ว่าหมอไปเติมอะไรเข้าไปอีก ก็รับปากอ.เฉลียวว่าเหมือนเดิมทุกประการ อ.เฉลียวบอกถ้ารีบก็ผ่านไปได้เลยก็ผ่านไปโดยที่ผมไม่ได้อ่านก่อนเหมือนกัน
พอออกมาขายเท่านั้นแหละขายไปได้1500 เล่ม ยังไม่ได้ขายม.ต้น ผู้อำนวยการเรียกผมและอ.เฉลียวเข้าพบและถามว่าเขียนอย่างนี้ได้อย่างไร อาจารย์ท่านนั้นร้องเรียนมา ให้เก็บหนังสือทั้งหมดและให้หยุดทำหนังสือโดยทันที เอาแล้วไงยุ่งซะแล้ว อ.เฉลียวก็ดีครับท่านฟังเหตุผลของผมท่านก็เข้าใจและรับปากว่าจะคุยกับผู้อำนวยการให้ หนังสือจะเก็บยังไงขายไปแล้วตั้ง1500 เล่มและตอนบ่ายฝ่ายขายม.ต้นก็ขายไปอีก500 เล่มผมเลยต้องแก้ปัญหาด้วยการเอา300เล่มวนไปวนมาไปให้เป็นของกลางที่ห้องปกครองเสมือนว่ามันเยอะมากและจะเอามาเพิ่มอีก อาจารย์ท่านนั้นและผอ ต้องการทราบว่าใครเป็นคนเขียน ผมบอกว่าโดยหลักแล้วเราบอกไม่ได้เป็นความลับของการทำหนังสือ อ.เฉลียวก็เห็นด้วยและแนะนำว่ามีอะไรบรรณาธิการและหัวหน้าบก ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ผมโชคดีมากครับเพราะในเล่มสามนี้ ผมได้เลื่อนตำแหน่งจากผู้ประสานงานเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์และผู้โฆษณา พอดีเลยและหมอก็ไม่ค่อยว่างต้องทำงานแปรอักษร ผมเลยต้องเล่นการเมืองแบบเต็มๆเลยงานนี้ ผมยอมรับกับผอ เรื่องการผิดพลาดโดยอ้างว่านึกว่าขอบเขตการวิจารณ์ไม่มีขีดจำกัด เพียงแต่ตั้งอยู่ในความเป็นจริงและรั้วริมทาง ก็เป็นงานเขียนที่เขียนจากความคิดเห็น ที่อาจจะถูกหรือผิดก็ได้ เลยไม่มีข้อจำกัดของความพอดี ผ.อ ก็เข้าใจหรืออาจเป็นเพราะท่านรู้จักผมมาตั้งแต่ผมยังอยู่ชั้น ม1 แล้วก็ได้ทำให้ท่านยกโทษให้ แต่ให้เพิ่มอาจารย์คนกลางมาช่วยตรวจข้อมูลเพิ่มอีก 1 ท่านและให้ระวังเรื่องนี้มากขึ้น ผมรับทราบแต่คิดว่าจบเล่มสามแล้วกลุ่มเพื่อนม.6 คงไม่ทำต่อแน่แล้วเพราะใกล้เอ็นฯแล้ว.....ต่อตอนหน้าครับ
Create Date : 01 กันยายน 2548 |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2561 22:03:23 น. |
|
1 comments
|
Counter : 808 Pageviews. |
|
|
|
โดย: merry IP: 222.129.209.200 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:12:46 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|