บ่ายวันหนึ่งของเดือน ต.ค ปี 2525 ลุงนั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนในห้องทำงานแผนก 5 ของ ตำรวจสันติบาล ลุงนั่งมองออกนอกหน้าต่างท่าทางเหมือนคุ่นคิดอะไรอยู่ในใจ หนังสือพิมพ์ฉบับภาษาจีนของสำนักพิมพ์จีน ที่ขายดีที่สุดยังเปิดคาอยู่บนโต๊ะ ลุงเป็นหัวหน้าแผนก 5 มาได้ปีกว่าๆแล้ว ลุงไม่ได้เป็นนักเรียนนายร้อย แต่มาจากสายนิติศาสตร์ที่จบมาจากไต้หวัน มีความชำนาญด้านภาษาจีนจึงได้ไต่มาถึงระดับนี้ได้อย่างรวดเร็ว ลุงหันมามองผมเหมือนอยากจะถามอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็หันออกไปนอกหน้าต่างเช่นเดิม ลุงไม่สบายใจนักกับสิ่งที่อ่านเจอในหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาจีนของวันนี้ ลุงรู้ว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นและไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานส่งเสียงดังขึ้น ลุงรู้อยู่ก่อนแล้วว่าปัญหาได้มาถึงแล้ว ลุงรับโทรศัพท์แล้วสั่งให้นายตำรวจที่โทรมาขึ้นมาพบที่ห้องทำงาน ไม่นานนักลูกน้องลุงก็เข้ามาพร้อมทำแฟ้มหอบใหญ่ในมือ แล้วบรรยายสรุปให้ลุงทราบว่า ข้อความหนึ่งที่ลงในหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว หมิ่นฯโดยจงใจไม่ใช่ความเข้าใจผิดด้านภาษา เป็นความผิดที่ร้ายแรงแต่ไม่มีผลสรุปจากลูกน้องลุงว่าต้องดำเนินการอย่างไร ลุงรู้ว่าบทสรุปนั้นเป็นหน้าที่ของลุง ก่อนลูกน้องคนนั้นจะออกนอกห้องไปได้ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ลุงแล้วทำหน้าไม่สู้ดีนัก ก่อนทำความเคารพแล้วออกจากห้องไป ลุงอ่านข้อความในกระดาษแผ่นนั้นอย่างไม่ค่อยสนใจมากนัก เพราะลุงรู้ถึงข้อความในกระดาษแผ่นนั้นดีอยู่แล้ว ลุงรู้อยู่ก่อนแล้วว่าหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับนั้น มีสัมพันธ์อันดีกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่อนาคตมีโอกาสสูงที่จะขึ้นถึงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ รู้ถึงกิติศักดิ์ของตำรวจผู้นั้นว่า รักทุกคนที่อยู่ฝ่ายตนแต่กัดไม่ปล่อยถ้าใครอยู่ฝ่ายตรงข้าม ลุงยังคงนั่งคิดอย่างลังเลว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี จนในที่สุดลุงยกหูโทรศัพท์ขึ้น แล้วสั่งให้ลูกน้องทำหนังสือสั่งปิดหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวเป็นเวลา 60 วันขึ้นมาให้ลุงเซนต์ในเช้าวันรุ่งขึ้น เช้าวันต่อมาลูกน้องคนเดิมเอาเอกสารเข้ามาให้ลุงเซนต์หน้าตาไม่สู้ดีนัก ลุงอ่านเอกสารแล้วเซนต์อย่างไม่ลังเลไม่มีท่าที่ลังเลเหมือนเมื่อวาน ลูกน้องรับเอกสารแล้วลาจากไปไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้น นายตำรวจใหญ่ผู้นั้นโทรมาสั่งให้ลุงยกเลิกคำสั่งนั้นเดี๋ยวนี้ ลุงบอกว่าทำไม่ได้ลุงต้องทำตามหน้าที่และไม่สามารถยกเลิกคำสั่งนั้นได้ การสนทนาเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ในที่สุดนายตำรวจผู้นั้นก็หมดความอดทนกับลุง แล้วบอกว่าแล้วจะได้เห็นดีกัน ลุงไม่ได้ตอบอะไรกับคำขู่นั้นเมื่อวางหูโทรศัพท์แล้ว ลุงหมุนเก้าอี้มองออกนอกหน้าต่างคิดถึงอดีตที่ผ่านมาลุงไม่กลัวคำขู่นั้นเพราะลุงรู้ดีว่าเป็นการทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา แล้วในเมื่อลุงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจเรื่องนี้ก็ต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ ลุงไม่สนใจตำแหน่ง ไม่ห่วงตัวเองเลยถ้าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะการตัดสินใจในครั้งนี้ แต่ลุงรู้ดีว่าที่ผ่านมาเคยมีตัวอย่างผู้ที่ทำตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับนายตำรวจท่านนั้นจะลงเอยอย่างไรบ้าง ลุงไม่ห่วงตัวเองเลยแม้แต่น้อย แต่ที่ลุงห่วงคือรอบครัวและผู้ที่เกี่ยวข้องกับลุง จะต้องมาพลอยได้รับผลจากการตัดสินใจในครั้งนี้ของลุง ที่ลุงคิดหนักและไม่สบายใจมาตั้งแม่เมื่อวาน และต่อมาถึงวันนี้ก็เรื่องนี้แหละ ลุงได้แต่หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่รู้เรื่องด้วย และคิดเพียงว่าทุกๆคนคงเข้าใจและเห็นใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้ของลุง ลุงทำทุกอย่างตรงไปตรงมาและรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ ลุงรู้ว่าพายุใหญ่กำลังจะมาแต่ลุงไม่รู้ว่าความเสียหายต่อมาจะมากแค่ไหน แต่ลุงรู้แค่ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้เป็นความถูกต้องที่จะติดตัวลุงไปตลอด และหวังว่าทุกคนจะเข้าใจตัวลุง จากนั้นมามีเหตุการณ์ที่เกิดจากผลของการตัดสินใจในวันนั้นตามมามากมายอย่างคาดไม่ถึง ผมซึ่งไม่มีคำตอบให้ลุงในวันนั้น แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงวันนี้วันที่ผมนั่งรถไฟฟ้าผ่านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มองเห็นห้องทำงานเก่าของลุงมองเห็นหน้าต่างบานนั้น ถึงแม้ลุงจะจากผมไปแล้วด้วยวัยเพียง 54 ปี มีหนี้บุญคุณมากมายที่ผมยังไม่ได้ชดใช้ ตัวผมจะได้รับผลกระทบจากเหตการณ์ในวันนั้นด้วย แต่ผมก็มีคำตอบกับคำถามที่ลุงอยากจะถามแต่ไม่ได้ถามผมในวันนั้นแล้ว...แด่ลุงผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจผมเสมอมา
Create Date : 01 กันยายน 2548 |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2561 22:05:48 น. |
|
3 comments
|
Counter : 887 Pageviews. |
|
|
|
โดย: k.j วันที่: 2 กันยายน 2548 เวลา:0:14:16 น. |
|
|
|
โดย: merry IP: 222.129.209.200 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:08:01 น. |
|
|
|
|
|
|