|
ฟุตบอลในวัยเด็กกับยอดคน(ที่ผมรู้จัก)ภาคแรก |
|
ตอนเด็กๆผมชอบเล่นกีฬาเล่นหลายชนิดทั้ง ฟุตบอล ปิงปอง แบดฯ แชร์บอล วอลเลย์บอล เทนนิส ว่ายน้ำ วิ่ง กระโดดยาง ตี่จับ มีกีฬาชนิดหนึ่งที่เขาฮิตกันแต่ผมไม่ชอบเล่นคือบาสเก็ตบอล ผมไม่ชอบลูกก็หนัก ห่วงก็เล็ก และอะไรก็ไม่รู้ผู้ชายด้วยกันมายกมือกันๆ กอดๆแย่งๆแบบใกล้ชิดกัน ไม่เห็นสนุกเลย แต่กีฬาที่เล่นมากๆยิ่งตอนเรียนมัธยมแล้วยิ่งเล่นมากคือฟุตบอล ฟุตบอลในวัยเด็กของผมเมื่อมองย้อนกลับไปแล้วก็มีสิ่งดีๆให้จดจำมากมาย โดยเฉพาะยอดคนที่ผมรู้จักดังที่จะเล่าต่อไปนี้
ตอนช่วงป.5-6 ที่โรงเรียนศิริมงคลศึกษาเป็นช่วงแรกที่ผมเล่นฟุตบอล โรงเรียนเราเล็กมีสนามปูนใหญ่กว่าสนามบาสหน่อยหนึ่ง เราเลยเล่นได้เพียงบอลพลาสติก ตอนนั้นเราเล่นรวมกันทั้งป.5-6 เล่นด้วยกันอย่างสนุกสนานทุกเย็น เรามีคุณครู 2 ท่านมาเล่นด้วยเป็นประจำ ท่านหนึ่งอ้วนแต่เก๋า อีกท่านสูงเล่นบอลฉลาด ครูทั้งสอง เล่นกับเราเกือบทุกเย็นที่ว่าง เล่นไปสอนพวกเราเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆทำให้พวกเราพัฒนาฝีมือกันขึ้นมาจนอยู่ชั้นแนวหน้าของตลาดกันเลย พูดจริงนะไม่ได้โม้แถวซอยจรัญฯ47ไม่มีใครเคยชนะเราได้ เพราะเราไม่เคยแข่งกับใคร พูดถึงครูทั้งสองท่านนี้เวลาท่านสอนหนังสือ ท่านก็สอนเราจริงจัง สอนทั้งทางตรงและทางอ้อม ท่านสอนเราทุกเรื่องทั้งวิชาการและชีวิตประจำวัน นอกเวลาเรียนนั่งเล่นหมากรุก หรือนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ หรือเล่นฟุตบอลกัน ท่านก็สอนเราหลายๆเรื่องแบบที่เราไม่รู้ตัว คุณครูทั้งสองจริงจัง ตลก ขี้เล่น และทำตัวแบบที่คนธรรมดาเขาเป็นกัน วางตัวน่าเคารพแต่เป็นกันเองและจริงในกับพวกเราเสมอ แต่จริงใจแค่ไหนนั้นผมไม่เคยลองยืมเงินท่านดูเลยไม่รู้ครับ นี้คือยอดคนในวัยเด็กที่ผมเริ่มจำความได้ครับ
พอจบป.6ผมก็มาสอบเข้าโรงเรียนเทพศิรินทร์ แล้วเข้าเป็นนักเรียนม1/8 ที่นี่ก็มีสนามบอลใหญ่ขึ้น(แต่ไม่ให้เล่นเท่าไหร่) ต้องอาศัยเล่นสนามบาสแคบๆคนก็เยอะ แต่ฟุตบอลช่วงนั้นฮิตมากเด็กร้อยละ 70 เล่นฟุตบอลกัน พอเข้ามาได้ซักพักโรงเรียนก็จัดฟุตบอลภายในแข่งบอลหนังข้างละ 11 คนแบ่งเป็นม.ต้นและม.ปลาย ผมซึ่งเป็นหัวหน้าห้อง1/8 เลยตั้งตัวเป็นหัวหน้าทีม ระดมเพื่อนร่วมอุดมการณ์ได้ 20 กว่าคนจัดแจงเตรียมทีมสมัครเข้าแข่งขัน ทั้งๆที่เล่นบอลหนังกันยังไม่ค่อยเป็นเลย เพราะตอนเด็กๆเล่นแต่บอลพลาสติก แต่คิดแค่ว่าอีกหลายเดือนกว่าจะแข่งหัดเล่นและซ้อมกันทัน และเราตั้งเป้าใว้ว่าปีนี้เป็นหมูสนามไปก่อน ปีหน้าค่อยหวังผล พอคิดได้ดังนั้นก็นำเรื่องประกาศและขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆในห้องจนได้ข้อสรุปร่วมกันแบบเด็กๆว่าเอาไงเอากัน ใครอย่างเล่นมาหัดกันใครไม่ชอบเล่นก็เป็นเป็นพี่เลี้ยงคอยสนับสนุน เราเริ่มหาที่ซ้อมบอลและได้ที่สนามกีฬาแห่งชาติข้างๆสนามเทพหัสดิน เป็นสนามทรายในขณะนั้น เราใช้ที่นั่นเป็นที่ซ้อมตลอด 2 ปีต่อมา
ต่อมาเราก็เล่นบอลพลาสติกวันธรรมดาที่โรงเรียนซะส่วนใหญ่ และซ้อมกันแบบจริงๆจังๆในวันเสาร์ เราจำเอาวิธีการซ้อมมาจากในทีวีเริ่มหัดกันตั้งแต่พื้นฐาน เลี้ยงบอล จับบอล ส่งบอล เตะลูกโด่ง โหม่ง ยิงประตู และวิ่งเพื่อสร้างความฟิตให้ร่างกาย ซ้อมไปเรื่อยๆดูบอลโรงเรียนและดูบอลทางทีวีและซื้อสตาร์ซอกเกอร์มาอ่าน ต่อมาใครมีแววตำแหน่งไหนก็จัดตำแหน่งกันและซ้อมพื้นฐานกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไปแต่ละคนก็เปลี่ยนไปทีละน้อย บางคนจากไม่เป็นเลยก็ค่อยๆเข้าที่ บางคนพัฒนาเร็วมาก มีระเบียบวินัย ทำอะไรทำจริงจัง ทุ่มเทเต็มที่ บางคนมีพรสวรรค์อยู่แล้ว ฝึกเดี๋ยวเดียวก็เก่งแต่ไม่ค่อยมีความอดทนแต่ต้องซ้อมตามโปรแกรมเพราะอยากลงแข่ง(เรามีกฏเหล็กใครไม่ซ้อมไม่ได้เล่น) คนที่มีความอดทนมีระเบียบวินัย ขยันและตั้งใจซ้อมก็ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ แต่เราก็ไม่เสียการเรียน การเรียนยังมาก่อนเป็นอันดับแรก เรื่องอื่นๆเป็นเรื่องรอง กลับบ้านก็เล่นเกมส์ ดูทีวีทำอะไรอื่นๆอีกมากมายตามที่เด็กๆเขาทำกัน ส่วนคนที่ไม่ค่อยตั้งใจซ้อม ต้องคอยใช้กฏเหล็กควบคุมกัน บางคนมีพรสวรรค์อยู่แล้วซ้อมน้อยแต่เก่งเร็วและเล่นบอลได้ดี แต่ไม่ค่อยอดทนแต่ต้องซ้อมตามโปรแกรมเพราะอยากเล่น เวลาเรียนก็ไม่ค่อยยอมเรียน เรียนๆหลับๆก็เป็นไปตามแบบฉบับของแต่ละคน
แต่ทั้งหมดนี้ก็คือพวกเราที่รวมกันเป็นทีมฟุตบอลที่ได้ชื่อทีมว่า...นฤมิตร... และมีชุดทีม(ได้เงินสนับสนุนจากผู้ปกครอง) คล้ายทีมชาติอังกฤษในยุคนั้นมีหมายเลข 1-22 เต็มทีม เราหัดเล่นบอลกันไปเพิ่มทักษะในทุกๆด้าน เวลาเราไปดูบอลโรงเรียนแข่งเราก็นั่งด้วยกัน ใครเล่นตำแหน่งไหนก็ดูนักบอลโรงเรียนตำแหน่งนั้นเป็นแบบอย่าง คุยปรึกษากันเกี่ยวกับแผนการเล่นต่างๆ พอเริ่มจะเข้าที่แล้วเราก็ลงเล่นเป็นทีมแข่งกับทีมอื่นๆแถวๆนั้น วันเสาร์บ้างวันอาทิตย์บ้างบางครั้งเจอทีมผู้ใหญ่เตะเอาซะปางตาย แต่เราก็รู้สึกสนุกและเล่นอย่างเมามันส์ทุกครั้งที่ได้เล่น เราทำกันอย่างงี้ไม่เว้นปิดเทอมตลอด 2 ปี(ม1-2) ผลการแข่งขันไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจนัก แต่เพื่อนๆแต่ละคนของผมที่ได้ร่วมเล่นด้วยกันมาตลอด 2 ปีมียอดคนที่ผมได้รู้จักเยอะเลยครับ เริ่มจาก
เพื่อนยุ่น....ยุ่นเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นสูงใหญ่ ขี้โรคเล่นกีฬาไม่เป็น พอเราจัดทีมขึ้นยุ่นเดินมาหาผมแล้วถามว่าอย่างกูจะพอเล่นตำแหน่งไหนได้บ้าง ผมตอบว่ามึงต้องเล่นตัวเปิด ยุ่นถามว่าปีกรึ ผมบอกว่าเปล่าตัวเปิดกระป๋องน้ำ ยุ่นไม่ละความพยายามบอกอย่างน่าสงสารว่า กูเป็นคนอ่อนแออยากเล่นกีฬาเป็นบ้างเผื่อจะแข็งแรงกว่านี้ ให้กูเล่นเถอะตำแหน่งไหนก็ได้ ตัวสำรองก็ยังดีผมเห็นความตั้งใจของยุ่นแล้วก็ต้องยอมให้ยุ่นเข้าทีม ในตำแหน่งผู้รักษาประตูยุ่นสูงเกือบ 170 ซม(ในขณะนั้น) แต่เล่นกีฬาไม่เป็นจริงๆไร้ทักษะ พอเริ่มซ้อมยุ่นตั้งใจมากให้ทำอะไรยุ่นทำเต็มที่ ซ้อมหนักแค่ไหนยุ่นไม่มีบ่น ซ้อมยังไงยุ่นก็ไม่เก่งขึ้นเพราะขาดทักษะ แต่ยุ่นแข็งแรงขึ้น เข้าใจเกมส์ฟุตบอลทุกอย่างแต่ทำยังไงก็ไม่เก่งขึ้น ยุ่นไม่สนตั้งหน้าตั้งตาซ้อมตามที่บอกอย่างเต็มที่ ลงแข่งทีไรยุ่นไม่เคยได้ลงยุ่นก็ไม่ว่าอะไรเพราะรู้ตัวเองดี ผมซึ้งยุ่นมากแต่ก็ช่วยอะไรยุ่นไม่ได้แต่เห็นยุ่นสนุกผมก็สบายใจ ผิดกับโกล์ตัวจริงของผมซื่อโฮกเล่นบอลเก่งมาก ถ้าเอาจริงได้ซักครึ่งของยุ่นป่านนี้เป็นโกล์ทีมชาติไปแล้ว แต่วันๆโฮกเอาแต่กวนประสาท เรียนก็ไม่เรียนหาเรื่องให้ปวดหัวได้ทุกวัน อู้ซ้อมเป็นประจำแต่ทักษะดีมากบอกอะไรทำได้หมด ถ้าไม่บอกทำไม่ได้ต้องบอกทุกอย่างและคอยคุมให้ทำ ผิดกับยุ่นราวกับฟ้ากับดิน ยุ่นทำอะไรทำจริงทุกเรื่อง เรียนก็เก่งเกือบที่สุดในโรงเรียน พอจบม2 เพื่อนยุ่นก็สอบเทียบม3 ได้แล้วสอบเข้าเตรียมอุดมได้ตอนจบม.2 เรียนเตรียมอุดมฯแค่ม.5 ก็สอบเทียบม6 ได้แล้วสอบติดวิศวฯจุฬาได้ ป่านนี้คงทำงานเป็นใหญ่เป็นโตไปแล้ว ถึงจะไม่ได้ข่าวกันอีกแต่ผมมั่นใจได้ ยุ่นเอาจริงในทุกเรื่อง รุ่งแน่นอน
เพื่อนสุย...สุยเป็นคนสุภาพพูดจาฉลาด เวลาคุยกับสุยต้องคิดตลอดสุยมักจะพูดอะไรแล้วเราต้องคิดตามถึงแปลความหมายออก สุยเล่นบอลเป็นนิดหน่อยแต่เล่นกีฬาเป็นหลายอย่าง ทักษะด้านกีฬาดี สุ่ยเข้าทีมมาผมจัดให้สุยเล่นตำแหน่งแบ็คขวา สุยขยันซ้อมมีการให้ความคิดเห็นและมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการซ้อมเสมอ อะไรไม่ถูกสุยไม่ลังเลที่จะออกความคิดเห็น แต่ต้องแปลให้ดีเพราะสุยชอบพูดให้คิด ผมถูกสุยด่าแบบไม่รู้ตัวก็หลายครั้ง สุยเล่นบอลไม่ได้ใช้กำลังแต่ใช้สมอง สุยทำทุกอย่างด้วยสมองสุยถามทุกอย่างที่เป็นหลักการแล้วสุยจะเจาะลึกมันด้วยตัวเอง สุยเล่นบอลในตำแหน่งของตนเองได้อย่างไม่มีที่ติไม่ว่าจะหนักแค่ไหนสุยหยุดได้หมด ปีกซ้ายทีมไหนก็อย่าหวังจะผ่านสุยไปได้ง่ายๆเลย งานของสุยสุยรับผิดชอบเต็ม 100 และทำได้ดีแต่สุยจะไม่ยอมตายเพื่อใคร เพราะสุยเชื่อว่าการทำอย่างนั้นโง่สิ้นดีไม่มีประโยชน์ สุยจบม.3ก็ไปเข้าเตรียมอุดม จบเตรียมม6ก็เข้าหมอจุฬาต่อป่านนี้สุยคงเป็นหมอที่ฉลาดคนหนึ่ง แต่ยังไงสุยก็ไม่ยอมตายเพื่อใครเพราะสุยบอกว่ามันโง่สิ้นดีที่ทำอย่างนั้น
เพื่อนเฮี้ยง...เฮี้ยงเป็นเด็กตัวเล็กหน้าตี๋เล่นบอลไม่เก่งแต่เรียนรู้เร็ว มีความพยายามและหัวดีไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในตัวเองแต่มองโลกในแง่ดี มีความเห็นในทางที่ดีๆให้เพื่อนๆเสมอ เฮี้ยงก็เหมือนสุยกับยุ่นคือเรียนดี มีความขยันมีความคิดและหัวไว เฮี้ยงเล่นตำแหน่งปีกขวาไม่เด่นเท่าไหร่แต่รับผิดชอบดี ทำอะไรตามหลักการและวางแผนก่อนทำอะไรเสมอ ไม่ค่อยประยุกต์ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม เฮี้ยงเป็นตัวอย่างที่ดีของเพื่อนที่รู้จักหาปมเด่นมาข่มข้อด้อยของตนเอง รู้ว่าเล่นบอลสู้เพื่อนๆหลายคนไม่ได้ ก็รู้จักอยู่ฝ่ายวางแผนและเป็นสมองแทนเพื่อนๆหลายคนที่เก่งแต่ไม่ค่อยโต เฮียงจบม3สอบเข้าเตรียมอุดมไม่ได้ เฮี้ยงก็เรียนที่เทพศิรินทร์ต่อ พอม5 เฮี้ยงก็สอบเทียบม.6 ได้แล้วสอบติดบัญชี จุฬาจากนั้นก็เจอเฮี้ยงน้อยลงหลังสุดเห็นเป็นใหญ่อยู่ฝ่ายบัญชีของ nec เฮี้ยงเล่นบอลไม่เก่งและไม่ชอบฟุตบอลเท่าไหร่แต่เฮี้ยงเป็นตัวจริงในทีมของผมทั้งม.ต้นและม.ปลาย ในชีวิตจริงตอนนี้เฮี้ยงก็คงเก่งแบบนั้นแหละครับ
เพื่อนเทพ...อดิเทพเป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในทีมผม มีพรสวรรค์ในแบบที่นักบอลดังๆมีกัน เทพเล่นบอลเหมือนซีดานรวมกับแบ็คแฮ่ม เทพมีความเก่งเหลือเฟือ หน้าตาดีหล่อเหลา คารมเป็นต่อแต่นิสัยพร้อมที่จะเป็นเพลย์บอย ไม่ค่อยมีระเบียบเป็นคนสบายๆไม่ชอบอะไรยุ่งยาก ชีวิตมีแต่เรื่องสบายๆต้องคอยดึงเอาใว้ไม่ให้เสียคนแต่เวลาเล่นบอลเทพเด่นเสมอ ใครเห็นใครต้องชมถ้าเทพมีระเบียบอีกนิดรับรองติดทีมโรงเรียนสบายๆ เทพเป็นเด็กบ้านหมี่อยู่บ้านเช่ากับพี่ๆในกรุงเทพฯ เทพมักชวนเพื่อนๆไปบ้านดูวีดีโอดูหนังสือ...พอจบม2 เทพก็อยู่คนละห้องกับผมเลยห่างๆกันไป เทพก็ไปเรื่อยๆจบม3ก็ออกจากเทพศิรินทร์ไป ได้ข่าวว่าชีวิตไม่ค่อยสวยนักแต่ก็จนปัญญาได้แต่ส่งใจไปช่วย ยังไงเทพก็เป็นเพื่อนที่ผมสนิทมากคนหนึ่งเพราะเราร่วมเป็นร่วมตายในทีมนฤมิตรด้วยกัน ชีวิตเทพจะเป็นไงก็แล้วแต่ แต่เรื่องฟุตบอลเทพไม่เคยทำให้ผมผิดหวังและเป็นนักบอลที่เก่งที่สุดที่ผมเคยร่วมทีมด้วยตลอดกาล
เพื่อนโน...อาโนเป็นนักบอลตำแหน่งเซ็นเตอร์อาโนเรียนไม่เก่งพื้นฐานการเรียนไม่ดี ครอบครัวยากจนอาโนเอาดีทางเรียนไม่ค่อยได้เพื่อนๆต้องช่วยเสมอ แต่เรื่องฟุตบอลอาโนแกร่งไม่เป็นรองใคร อาโนขยันซ้อม มีความเด็ดขาด ตายแทนเพื่อนๆได้เป็นกองหลังที่เพื่อนๆอุ่นใจได้เสมอ ทุ่มเทเกิน100 ไม่เคยกลัวใครทำทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ เป็นมือปืนประจำตัวของผมที่ฝากชีวิตไว้ด้วยได้ อาโนรักเพื่อนมีความจริงใจ เรียบง่ายอดทน แข็งแกร่ง แต่พื้นฐานครอบครัวไม่ดีและอาโนเอาชนะมันไม่ได้ จบม.3อาโนก็ต้องออกจากเทพศิรินทร์ไปและเรียนพาณิชย์และชีวิตก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่...
Create Date : 01 กันยายน 2548 |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2561 22:00:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 865 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|