ในกรณีที่ชุดคอยล์เย็น (Fan coil Unit) และชุดคอยล์ร้อน (Condensing Unit) ถูกติดตั้งในระยะที่ใกล้กันมากๆ หรือแบบประมาณว่า ท่อที่ออกจากคอยล์เย็น พอทะลุกำแพงออกมากก็เจอชุดคอยล์ร้อนเลย ซึ่งกรณีลักษณะนี้ท่อทองแดงยาวประมาณ 4 เมตร ที่มาพร้อมเครื่องจะต้องเหลืออยู่มากกว่าครึ่งแน่นอน
ช่างที่ติดตั้งแอร์โดยทั่วไปหากเจอกรณีดังกล่าวก็จะมีวิธีจัดการอยู่สองวิธีด้วยกัน คือ ตัดท่อส่วนที่เกินออกไป หรือไม่ก็ขดม้วนท่อส่วนที่เกินมาเก็บหลบเอาไว้ด้านข้างหรือด้านหลังคอยล์ร้อน ซึ่งจะใช้วิธีไหน ก็ขึ้นกับประสบการและดุลยพินิจของช่างแต่ละราย
แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นกรณีที่เดินท่อสั้นมากๆ มีท่อส่วนเกินเยอะช่างทั่วไปก็มักจะใช้การตัดส่วนเกินออกเสียมากกว่า เพราะท่อส่วนเกินที่ตัดออกมานั้น ช่างสามารถเก็บกลับไปใช้ประโยชน์ในงานอื่นๆได้อีก หรือไม่ก็เอาไปรวมๆกันขายเป็นทองแดงก็ได้ราคาดีไม่น้อย และอีกเหตุผลหนึ่งที่เจ้าของแอร์ฟังแล้วรู้สึกโอเคกว่า ก็คือเหตุผลเรื่องความสวยงามนั่นเอง เพราะมุมมองเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ก็มักจะเห็นว่า การติดตั้งแบบที่ท่อเดินเข้าเครื่องพอดี ย่อมดูดีกว่าการขดม้วนท่อที่เหลือไว้
แต่หากท่านใดที่ว่าจ้างช่างมาติดแอร์ให้ แล้วหลังจากที่ติดตั้งเสร็จกลับพบว่าช่างเดินท่อแอร์โดยขดม้วนท่อที่เหลือเอาไว้ใกล้ๆกับคอยล์ร้อน ก็อาจจะตกใจหรือรู้สึกรับไม่ได้ จนอยากจะโวยวายว่าช่างรายนี้ขี้เกียจหรือทำงานชุ่ย
ซึ่งถ้าเจอเช่นนี้ อย่าเพิ่งตกใจหรือโวยวายใส่ช่าง และไม่ต้องกังวลจนต้องเรียกช่างมาแก้งานทันที เพราะการติดตั้งโดยขดม้วนท่อที่เหลือเอาไว้ ทั้งๆที่ถ้าหากช่างจะตัดท่อส่วนเกินออกไปเก็บไว้ใช้เองก็สามารถทำได้ แต่ก็กลับเลือกขดท่อเก็บไว้ให้แทน ก็แสดงว่าช่างได้พิจารณาแล้วว่าระยะมันสั้นเกินหากจะตัดท่อออกเลย และอีกเหตุผลหนึ่งที่ช่างที่ม้วนท่อไว้ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าช่างที่มาติดตั้งให้นั้น เป็นผู้ที่เคยผ่านการอบรมจากผู้ผลิตแอร์มาแล้วก็เป็นได้ เพราะการอบรมทางด้านเทคนิคที่ผู้ผลิตแอร์แต่ละรายได้จัดขึ้น ก็พบว่าบ่อยครั้งที่วิทยากรผู้บรรยายมักจะแนะนำให้ใช้วิธีการม้วนท่อส่วนเกินเอาไว้แทนการตัดทิ้ง
ผู้ผลิตแอร์บางยี่ห้อ ก็ได้แนะนำให้ใช้วิธีการม้วนท่อเป็นขด แทนการตัดท่อส่วนที่เหลือออกไป เพราะการม้วนท่อขดเก็บไว้จะทำให้ระยะทางที่น้ำยาแอร์ไหลผ่าน มีอยู่พอดีตรงตามที่ผู้ผลิตได้กำหนดและออกแบบมา ทั้งนี้ผู้ผลิตแอร์บางรายก็อาจจะไม่ได้แนะนำในส่วนนี้เอาไว้ ซึ่งจะทำแบบไหนก็ขึ้นกับความเห็นสมควรของช่างผู้มีประสบการณ์
หากจะพูดกันตามตรง ในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ ตามหลักการแล้วการที่แอร์แต่ละเครื่องจะถูกผลิตออกมาเพื่อวางจำหน่ายและใช้งานจริง ผู้ผลิตแอร์แต่ละรายได้ออกแบบและคำนวณรายละเอียดส่วนต่างๆไว้หมดแล้วไม่เว้นแม้แต่เรื่องการใช้ท่อ ซึ่งท่อที่ผู้ผลิตได้ให้มาพร้อมกับตัวเครื่องนั้นย่อมมีขนาดและความยาวที่เหมาะสม ตรงตามการออกแบบที่สุดแล้ว
โดยความยาวท่อประมาณ 4 เมตร ที่ผู้ผลิตแอร์แต่ละยี่ห้อได้ให้มาพร้อมกับตัวเครื่อง ก็เป็นระยะความยาวท่อโดยประมาณ ที่ผู้ผลิตคิดคำนวณออกมาแล้วเห็นว่าว่าเหมาะสมที่สุด และในกรณีที่ซื้อแอร์มาใหม่ส่วนใหญ่ทุกยี่ห้อจะบรรจุสารทำความเย็น(น้ำยาแอร์) มาให้พร้อมที่ในชุดคอยล์ร้อนเพียงพอต่อการนำไปติดตั้งใช้งานได้ทันที
ปริมาณน้ำยาแอร์ที่ใส่มาให้ในแอร์แต่ละเครื่องจะเป็นปริมาณที่เพียงพอสำหรับการใช้งาน อิงตามความยาวท่อที่ประมาณ 4 - 5 เมตร และส่วนใหญ่ก็มักจะเผื่อสำหรับการติดตั้งที่ต้องต่อท่อเพิ่มได้อีกประมาณไม่เกิน 10 - 15 เมตร ซึ่งหากเพิ่มท่อมากกว่าที่ระบุมาในคู่มือ ก็จะต้องเพิ่มน้ำยาตามสัดส่วนที่กำหนดในคู่มือ เพราะระยะความยาวของท่อที่ใช้นั้นมีผลโดยตรงกับปริมาณน้ำยาและประสิทธิภาพที่ได้
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ระยะการเดินท่อที่สั้นมากๆระยะของท่อที่ใช้มีไม่ถึง 1 เมตร การตัดท่อส่วนเกินออก จะทำให้ระยะของท่อสั้นเกินไปเยอะ อาจจะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ เพราะต้องไม่ลืมว่าปริมาณน้ำยาที่ใส่มาให้จากโรงงานนั้นอ้างอิงตามความยาวท่อที่ประมาณ 4 - 5 เมตร แต่เมื่อท่อที่ใช้จริงถูกตัดออกไปมากเกินกว่าครึ่ง ในขณะที่ปริมาณน้ำยายังคงเท่าเดิมตามที่ผู้ผลิตให้มา ย่อมมีผลต่อกระบวนการเปลี่ยนสถานะของน้ำยาแอร์อย่างแน่นอน
เนื่องจากในกระบวนการทำความเย็นของแอร์ คือน้ำยาในระบบที่ถูกฉีดลดแรงดันแล้วจะมีการระเหยเปลี่ยนสถานะจากของเหลวระเหยเป็นไอ กระบวนการระเหยเปลี่ยนสถานะของน้ำยาจะดึงเอาความร้อนที่อยู่รอบๆเข้ามาทำให้บริเวณนั้นเกิดอุณหภูมิต่ำลง แล้วจากนั้นไอของน้ำยาที่ระเหยแล้วก็จะถูกดูดกลับเข้าสู่คอมเพรสเซอร์ เพื่อเริ่มกระบวนการอัดออกไปและเริ่มวัฏจักรใหม่อีกครั้ง
และการที่ท่อแอร์ถูกตัดออกไปเกินกว่าครึ่ง แต่ปริมาณน้ำยายังคงเท่าเดิม เมื่อน้ำยาแอร์มีระยะทางให้ไหลไปสั้นลงกว่าเดิมมากๆ ก็จะมีผลทำให้น้ำยาบางส่วนระเหยไม่ทันหมด ก็ต้องเข้าสู่คอมเพรสเซอร์แล้ว แต่เนื่องจากลิ้นของคอมเพรสเซอร์แอร์ ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ดูดน้ำยาในสถานะแก๊สหรือไอเข้ามาเท่านั้น การที่น้ำยาระเหยไม่ทันหมด ทำให้มีน้ำยาบางส่วนที่มีสถานะเป็นของเหลวอยู่ ถูกดูดเข้าไปในคอมเพรสเซอร์ด้วย และนี่จะส่งผลเสียทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์มีอายุการใช้งานที่สั้นลง อีกทั้งค่าแรงดันที่วัดได้จากท่อทางดูดจะมีค่าสูงกว่าค่ามาตรฐานไปเยอะ และกระแสไฟฟ้าที่แอร์ใช้งานก็ย่อมมีค่าสูงตามไปด้วย
ในกรณีของแอร์รุ่นที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุุบัน ส่วนใหญ่คอมเพรสเซอร์จะเป็นแบบโรตารี่ ซึ่งที่ด้านข้างของคอมเพรสเซอร์แบบโรตารี่จะมีส่วนที่เป็นเหมือนถังแคปซูลขนาดเล็กติดอยู่ ซึ่งนั่นก็คือส่วนของถังพักน้ำยา (Accumulator) โดยถังพักน้ำยาจะเป็นเหมือนปราการด่านสุดท้ายที่ป้องกันสารทำความเย็นเหลวที่ระเหยไม่หมดกลับเข้าสู่คอมเพรสเซอร์
แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าถังพักน้ำยาก็มีระดับขีดความสามารถในการจัดการน้ำยาเหลวที่ไหลปนเข้ามา ซึ่งการออกแบบถังพักน้ำยาหลักๆจะเน้นไว้สำหรับรองรับน้ำยาเหลวที่เป็นสถานะไม่ทันเพราะแผงคอยล์มีประสิทธิภาพลดลงจากความสกปรกที่เกิดขึ้น ยิ้งแผงคอยล์แอร์สกปรกมากๆ น้ำยาก็มีอุปสรรค์ในการแลดเปลี่ยนความร้อน ส่งผลโดยตรงต่อการกลายสถานะไม่หมด และยิ่งมาเจอระยะท่อทางกลับที่สั้นมากๆ หากน้ำยาเหลวมีกลับเข้ามามากเกินไปก็คงไม่เป็นผลดีในระยะยาวแน่
ภาพตัดแสดงชิ้นส่วนภายในคอมเพรสเซอร์แบบโรตารี่ โดยหมายเลข 3 คือถังพักน้ำยา (Accumulator)
หากมีความจำเป็นที่จะต้องเดินท่อน้ำยาในระยะที่สั้นมากๆ อย่างเช่นใช้ท่อไม่ถึง 1 เมตร (ที่เหลือตัดออก) ก็ควรพิจารณาดูค่าแรงดันน้ำยาที่วัดได้ควบคู่กับค่ากระแส ซึ่งในขณะที่เดินเครื่องถ้าค่าแรงดันที่วัดได้มาอยู่ที่ระดับเกินกว่า 85 PSIG ก็ควรปล่อยน้ำยาส่วนเกินออกจากระบบบ้าง เพราะน้ำยาที่มีมากเกินความต้องการ มันก็ย่อมเป็นโหลดหรือเป็นภาระให้คอมเพรสเซอร์มายิ่งขึ้น ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนัก กินไฟมากขึ้น และในระยะยาวก็มีอายุการใช้งานที่สั้นลงกว่าเดิมด้วย
แต่หากเป็นไปได้ถ้าไม่ติดขัดเน้นความสวยงามมากเป็นพิเศษในบริเวณที่วางชุดคอยล์ร้อน การติดแอร์ที่มีระยะของท่อสั้นมาก ท่อส่วนที่เหลือนั้นจะใช้วิธีการขดม้วนเก็บไว้ในบริเวณใกล้ๆชุดคอยล์ร้อน ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีกว่าในด้านประสิทธิภาพ เพราะเราได้ใช้ความยาวท่อที่เหมาะสมที่สุดตามที่ผู้ผลิตกำหนดมา ไม่ต้องมีการปล่อยน้ำยาทิ้งแต่ประการใด ส่วนจะขดท่อได้สวยไม่สวยขึ้นอยู่กับฝีมือช่าง ซึ่งช่างบางรายก็ทำงานออกมาได้เนี๊ยบเก็บงานได้มิดชิด และนอกจากนี้การม้วนท่อส่วนที่เกินไว้ ก็มีข้อดีอีกอย่างคือ ถ้าหากแอร์เครื่องนี้มีการย้ายไปติดที่อื่นในอนาคต การขดท่อม้วนเก็บไว้ก็ช่วยให้ท่อของเดิมสามารถนำไปใช้ร่วมกันได้อีก