Group Blog
 
All blogs
 
9 ส่วนประกอบในอาหาร ที่นักโภชนาการร้องยี้

อาหารเพื่อสุขภาพ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

อาหารที่เราเข้าใจว่าอุดมไปด้วยสารอาหารและประโยชน์อย่างครบถ้วน บางทีอาจจะไม่ได้ดีต่อสุขภาพอย่างที่เราคิด อย่างเช่นข้อมูลที่เราจะมาบอกกล่าวให้ได้รู้กันในวันนี้ ซึ่งอาจทำให้ทุกคนตกใจกับความรู้ใหม่ที่จะได้รับกันเลยก็เป็นได้ Smiley

1. โพแทสเซียม เบนโซเอท (Potassium Benzoate)

          หลายคนเลือกที่จะดื่มเครื่องดื่มประเภทไดเอตโซดา เพื่อหวังจะช่วยลดแคลอรี่ให้ร่างกายได้ไม่มากก็น้อย แต่แทนที่จะได้รับผลดีต่อสุขภาพอย่างที่ตั้งใจ อาจจะได้รับโพแทสเซียม เบนโซเอท ซึ่งมักจะเป็นส่วนประกอบหนึ่งในเครื่องดื่มประเภทซอฟต์ดริงก์ เช่น น้ำผลไม้แทน เหตุผลที่เราควรเลี่ยงส่วนประกอบนี้ก็เพราะ หากโพแทสเซียม เบนโซเอท ได้เจอเข้ากับวิตามินซีเมื่อไร จะทำปฏิกริยาเคมีและกลายร่างเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่งได้ทันที

2. ข้าวโพด

          ข้าวโพดที่ผ่านการดัดแปลงเป็นแป้งข้าวโพด น้ำมันข้าวโพด น้ำตาลเด็กซ์โตรส (dextrose) และมอลโตเด็กซ์ตริน (maltodextrin) จะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 6 เหมือนจะดูดีใช่ไหมคะ แต่จริง ๆ แล้วอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดแผลอักเสบ, มะเร็ง และโรคหัวใจได้ หากร่างกายได้รับในปริมาณที่มากเกินไป 

          นักโภชนาการจึงแนะนำว่า เราควรให้ร่างกายได้รับโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ในสัดส่วน 1 ต่อ 1 เพื่อปรับระดับกรดไขมันดีที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันให้เหมาะสม เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกว่าร่างกายได้รับโอเมก้า 6 มากเกินไปจากการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบจำพวกมาการีน น้ำมันพืช และถั่วเหลือง ก็อย่าลืมเติมโอเมก้า 3 ให้ร่างกายด้วยการรับประทานปลาทู ปลากระพง ปลาแซลมอน ไข่ โยเกิร์ต เพื่อปรับสมดุลให้ร่างกายด้วย

ถั่วเหลือง


3. ถั่วเหลือง

          ถั่วเหลืองจัดได้ว่าเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ มีประโยชน์และราคาก็แสนถูก แต่ถั่วเหลืองก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะถั่วเหลืองที่ผ่านกระบวนการสกัดมาเป็นน้ำมันถั่วเหลือง โปรตีนถั่วเหลือง และถั่วเหลืองสกัดในรูปอื่น ๆ ก็มีส่วนทำให้การเจริญพันธุ์ลดลง สมรรถภาพทางเพศลดลง เร่งการเจริญเติบโตก่อนวัยอันควรในวัยเด็ก อีกทั้งยังมีผลกระทบกับฮอร์โมนเอสโตรเจนของผู้หญิงอีกด้วย นอกจากนี้ถั่วเหลืองยังเป็นสาเหตุให้ระดับโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ในร่างกายของเราปรวนแปร นักโภชนาการจึงแนะนำให้เลือกรับโปรตีนจากถั่วชนิดอื่น ๆ แทนจะปลอดภัยกว่าค่ะ

4. BHA

          BHA มีคุณสมบัติช่วยไม่ให้อาหารเหม็นหืน ส่วนมากจึงถูกนำไปใช้ในอาหารที่มีไขมันหรือใช้น้ำมันเป็นส่วนผสม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ประเภทขนมอบ อาหารทอดต่าง ๆ มาการีน เนยแข็ง ซึ่งหากร่างกายเราได้รับสารนี้มากเกินไป ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งมากขึ้น นั่นเพราะ BHA เป็นสารก่อมะเร็งอีกตัวหนึ่งเช่นกันค่ะ

5. น้ำมันปาล์ม (Fractionated Palm Kernel Oil)

          น้ำมันปาล์มที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของเราคือ น้ำมันปาล์มที่กลั่นมาจากเนื้อปาล์ม ที่ถูกนำไปใช้เคลือบบนหน้าช็อกโกแลตและลูกอมไม่ให้ละลาย อันตรายของมันก็คือ มีคอเลสเตอรอลชนิด LDL ซึ่งเป็นชนิดที่อันตรายต่อสุขภาพ หากรับเข้าร่างกายมาก ๆ ก็เสี่ยงจะเป็นโรคไขมันในเลือดสูงและโรคอ้วนได้

ผงชูรส

6. ผงชูรส Monosodium Glutamate (Msg)

          แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าหากรับประทานเจ้าผงชูรสมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการผมร่วง รู้สึกอยากอาหารมากกว่าปกติ และยังเสี่ยงเป็นโรคไมเกรนได้ แต่การใช้ชีวิตในสังคมสมัยนี้ก็ทำให้เราไม่มีเวลามากพอที่จะทำอาหารด้วยตัวเอง เราจึงต้องยอมรับสภาพไปวัน ๆ เหมือนเป็นชะตากรรมอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นความซื่อสัตย์ของผู้ประกอบการและร้านอาหารที่กล้ายอมรับว่าใช้ผงชูรสเป็นส่วนประกอบหนึ่งในอาหารจึงมีความสำคัญ เพื่อให้คนที่รักสุขภาพจริง ๆ ได้รู้และเลี่ยงได้ และเพื่อความปลอดภัยสำหรับใครที่แพ้เจ้าผงชูรสนี้ด้วยเช่นกัน

7. กลิ่นสังเคราะห์

          สารสังเคราะห์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นสังเคราะห์ รสชาติสังเคราะห์ หรืออะไรที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติย่อมไม่ให้คุณค่าทางสารอาหารใด ๆ แก่ร่างกายเราเลย เพราะฉะนั้นหากเลี่ยงได้ก็จะดีกว่าค่ะ อย่างเช่น ลดการดื่มน้ำอัดลมและน้ำผลไม้กระป๋อง แล้วหันมารับประทานน้ำผลไม้ที่คั้นสด ๆ หรือน้ำสมุนไพรแทน ซึ่งจะได้รสชาติที่ดีกว่าและยังได้รับคุณค่าทางสารอาหารมากกว่ากันเยอะเลย

แฮม

8. โซเดียมไนเตรทและไนไตรท์ (Sodium Nitrate And Nitrite)

แม้โซเดียมไนเตรทและไนไตรท์จะช่วยถนอมอาหารไม่ให้เสีย และช่วยคงสภาพสีของอาหารให้ดูสดอยู่เสมอ ซึ่งส่วนมากจะถูกนำไปใช้ในอาหารประเภท ไส้กรอก เบคอน กุนเชียง ปลาเค็ม แหนม เป็นต้น แต่ส่วนประกอบชนิดนี้มีส่วนช่วยให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโต โดยจากผลวิจัยบอกว่า ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีโซเดียมไนเตรทและไนไตรท์มากกว่าสัปดาห์ละครั้ง จะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคิเมียมากกว่าคนที่ไม่ค่อยได้รับประทานอาหารประเภทนี้เลย

9. แป้งสาลีเติมสารอาหาร (Enriched Wheat)

          ถ้าบนถุงขนมปังที่คุณถืออยู่เขียนว่าโฮลเกรน 100% อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจซื้อค่ะ ให้คุณขยับสายตาอีกนิดแล้วอ่านส่วนประกอบของขนมปังก่อน หากพบว่าส่วนประกอบหลักเป็นแป้งสาลีเติมสารอาหาร (Enriched Wheat) แล้วล่ะก็ ให้คุณวางถุงขนมปังนั้นไว้บนชั้นดังเดิม และเลือกหาขนมปังที่มีส่วนประกอบหลักเป็นแป้งโฮลวีทแทน เพราะแป้งสาลีเติมสารอาหารทำมาจากธัญพืชที่ผ่านการขัดสีและผ่านกระบวนการ ซึ่งเป็นการนำเอาสารอาหารที่มีประโยชน์ออกไปเรียบร้อยแล้ว

Smiley
เห็นข้อมูลแบบนี้แล้ว ต้องยอมรับว่า อาหารบางอย่างก็เลี่ยงยากเหลือเกิน เพราะฉะนั้นการรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ น่าจะเป็นวิธีที่จะช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงพอที่จะสู้กับโรคภัยทั้งหลายได้อย่างดีค่ะ Smiley

ปล.เพื่อนๆ คงตกใจและ ได้ประโยชน์จากเนื้อหา นี้เยอะเลยนะค่ะ เหมือนเจ้าของบล็อกค่ะ 




Create Date : 30 มีนาคม 2556
Last Update : 30 มีนาคม 2556 16:04:05 น. 0 comments
Counter : 1086 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.