คุ้มสมุนไพร "ภูมิปัญญาไทย เพื่อสุขภาพและความงามคุณ" บริการ อยู่ไฟ หลังคลอด ถึงบ้าน และจำหน่ายชุด อยู่ไฟ ด้วยตนเอง
 

ทำไมคนท้อง...ต้องทานหลาย ๆ มื้อ



หากคุณเป็นคนที่ชอบกินจิบอยู่แล้ว ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากคุณเป็นคนที่มีนิสัยการกินแบบผู้ชาย คือกินหนักเป็นมื้อ ๆ ละก็ คงต้องเปลี่ยนพฤติกรรมนี้แล้วล่ะ เมื่อคุณกำลีงเป็นแม่อีกไม่ช้า ทั้งนี้เพราะว่า ให้คุณลดปริมาณอาหารที่ทานในแต่ละมื้อลง (แต่ยังคุณค่าทางโภชนาการ) แต่เพิ่มจำนวนมื้ออาหารให้มากขึ้น เหตุที่แพทย์แนะนำเช่นนั้นเพราะว่า

การรับประทานอาหารจนอิ่มมากในแต่ละมื้อจะทำให้รู้สึกอึดอัดและท้องตึง จนเกินไป ทั้งนี้เพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนทำให้ท้องและลำไส้ทำงานไม่ดีเท่าที่ควรไป และจะอึดอัดมากยิ่งขึ้น เมื่อใกล้คลอดเพราะมดลูกขยายดันกระเพาะอาหาร ฉะนั้นการกินน้อย ๆ แต่หลายมื้อจะเป็นผลดีมากกว่าเพื่อให้ ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น


ถึงท้องก็ทานมังสวิรัติได้
ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพร่างกายโดยวิธีธรรมชาติมากขึ้นนี้ เคยสงสัยไหมว่าการทานมังสวิรัติ จะเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์หรือไม่ เรื่องนี้ตอบได้เลยว่าไม่เป็นปัญหาแน่ หากอาหาร มังสวิรัติที่คุณรับประทานในแต่ละมื้อมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ไม่ต้องห่วงว่าไม่ได้รับประทานเนื้อสัตว์ แล้วจะขาดโปรจีน

เพราะเรื่องนี้คุณควรจะรู้ดีว่าถั่วชนิดต่าง ๆ ไข่ และผลิตถัณฑ์จากนม สามารถให้โปรตีนได้ นอกจากนี้รวมถึงข้าวกล้อง ซึ่งมีทั้งโปรตีนและธาตุเหล็กอีกด้วย ส่วนวิตามิน เกลือแร่คงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเชื่อว่ามีอุดมในอาหารมังสวิรัติอีกแล้ว

ที่มา : นิตยสาร บันทึกคุณแม่




 

Create Date : 22 มีนาคม 2551    
Last Update : 22 มีนาคม 2551 12:56:44 น.
Counter : 609 Pageviews.  

ดื่มน้ำมะพร้าวช่วงท้อง ดีจริงหรือ ?




ดื่มน้ำมะพร้าวช่วงท้อง ดีจริงหรือ ?
ยามตั้งครรภ์ คุณแม่จะได้รายชื่อสารพัดอาหารบํารุงครรภ์ จากทุกสารทิศ หนึ่งในนั้นหนีไม่พ้น ‘น้ำมะพร้าว’ เรียกว่าเป็นเครื่องดื่มสําหรับคนท้องเลยก็ว่าได้ ด้วยสรรพคุณที่ได้ยินกันมาว่า เป็นน้ำที่สะอาด ดื่มเข้าไปแล้ว จะทําให้เด็กในท้อง ตัวสะอาด คลอดออกมาแล้วลูกจะผิวสะอาด ไม่มีไขมันติดตามตัว ฉบับนี้เราได้หาคําตอบ มาให้คุณแม่กันค่ะ

ดื่มน้ำมะพร้าว ลูกในท้องตัวสะอาด
จากการสอบถาม นพ.อนันต์ โลหะพัฒนะบํารุง กุมารแพทย์ คุณหมอได้ให้ความเห็นในเรื่องน้ำมะพร้าวว่า “ในน้ำมะพร้าวมีกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันอิ่มตัวก็มี มีทั้งสองอย่าง ซึ่งเป็นข้อดี เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ดื่มน้ำมะพร้าว จะทําให้การสร้างไขตัวเด็กได้สีค่อนข้างขาว เลยอาจจะดูว่าเด็กออกมาตัวสะอาด คงไม่ใช่ออกมาแล้วเด็กไม่มีไข

จริงๆ แล้วไขตัวเด็กนี้มีประโยชน์มาก เพราะจะทําให้เด็กคลอดง่าย ฉะนั้นคุณแม่ที่ดื่ม
น้ำมะพร้าวบ่อยๆ อาจจะทําให้ไขตัวเด็กมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพียงแต่สีจะสะอาด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไร เนื่องจากเป็นธรรมชาติที่เด็กต้องมีไขมันห่อหุ้มตัว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงจากอุณหภูมิจากภายนอกด้วย”


ในน้ำมะพร้าวมีอะไรบ้าง
เอ่ยถึงในแง่ธรรมชาติบําบัด น้ำมะพร้าว เป็นน้ำผลไม้ที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง เพราะมีแร่ธาตุสําคัญต่อร่างกาย ได้แก่ โปรตีน น้ำตาล แคลเซียม โปรแตสเซียม ฟอสฟอรัส และไขมันที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย แถมน้ำมะพร้าว ยังเป็นน้ำผลไม้ที่ไม่เหมือนใครตรงที่ มะพร้าวมีลําต้นสูง กว่าต้นมะพร้าวน้ำจะออกดอกเป็นผล มีน้ำให้ได้ดื่มกัน ต้องผ่านการกลั่นกรองตามชั้นต่างๆ มาแล้ว คนไทยจึงถือว่า น้ำมะพร้าวเป็นน้ำที่บริสุทธิ์มาก


ประโยชน์มากมาย
น้ำมะพร้าว สามารถดื่มเป็นยาระบาย แก้ท้องเสีย ขับปัสสาวะ แก้พิษ แก้นิ่ว บํารุงเส้นเอ็น บํารุงกระดูก มีฤทธิ์เป็นกลาง สามารถขับพยาธิ ร่างกายสามารถดูดซึมกลูโคสจากน้ำมะพร้าวไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ทําให้ร่างกายสดชื่น (ใครชื่นชอบน้ำอัดลมเพื่อดับกระหาย ลองเปลี่ยนเป็นน้ำมะพร้าวเย็นๆ สักแก้ว)

อาหารทุกชนิดถึงแม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ต้องมีข้อยกเว้น อย่างคนเป็นโรคไต โรคเบาหวานไม่ควรดื่มมาก และการซื้อน้ำมะพร้าวดื่ม ควรเลือกน้ำมะพร้าวอ่อนเป็นลูก ไม่ควรซื้อที่บรรจุขวดขาย ถ้าไม่แน่ใจในความสะอาด และสารฟอกขาวต่างๆ ที่สามารถฉีดใส่เข้าไปได้ (ส่วนมากพบในมะพร้าวเผา)

ที่มา : Mother&Care




 

Create Date : 22 มีนาคม 2551    
Last Update : 22 มีนาคม 2551 12:53:44 น.
Counter : 1232 Pageviews.  

คุณแม่มือใหม่ควรรู้



ในระหว่างที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์นั้น สารอาหารเป็นสิ่งสำคัญในการเจริญเติบโตของเด็กในท้อง ทำให้ความต้องการสารอาหารเพิ่มขึ้น แต่คุณแม่ทั้งหลายไม่จำเป็นที่จะต้องรับประทานอาหารเพิ่มขึ้น เพียงแต่เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากที่สุดเพื่อให้ได้สารอาหารตามความต้องการ

- โปรตีน
ระหว่างการตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องการโปรตีนเพิ่มขึ้น คุณแม่อาจเพิ่มโปรตีนจากอาหารปกติที่เคยรับประทานก่อนการตั้งครรภ์ เช่น เพิ่มเต้าหู้หรืออาจจะดื่มนมเพิ่มขึ้น

- แคลเซียม
แคลเซียมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับการสร้างกระดูก ฟัน และการทำงานของกล้ามเนื้อ คุณแม่จึงต้องการแคลเซียมเพิ่มขึ้น เพราะถ้าคุณแม่ได้แคลเซียมไม่เพียงพอ ลูกจะดึงแคลเซียมจากกระดูกของแม่มาใช้

- ธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณแม่ขณะตั้งครรภ์มีความต้องการสูง เพื่อช่วยสร้างเม็ดเลือดให้กับลูกในท้อง ถ้าคุณแม่ได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ จะทำให้คุณแม่เป็นโรคโลหิตจาง อ่อนเพลีย ซีด และลูกที่เกิดมาอาจเป็นโรคโลหิตจางได้

- วิตามินและเกลือแร่
วิตามินมีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย ซึ่งสามารถหาได้ในผักและผลไม้ที่มีสีเหลืองหรือสีส้ม เช่น แครอท ฟักทอง ผักใบเขียวจัด เช่น คะน้า ผักโขม ผักบุ้ง บร็อคเคอลี นอกจากนี้คุณแม่ควรเลือกรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีด้วย เช่น กะหล่ำปลี มะเขือเทศ มะนาว ส้ม มะละกอ เป็นต้น เพราะวิตามินซีจะช่วยการดูดซึมของธาตุเหล็กให้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน และป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน

เมื่อทราบแล้วก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อยของคุณ



ทีมา ชีวจิต




 

Create Date : 20 มีนาคม 2551    
Last Update : 20 มีนาคม 2551 14:52:57 น.
Counter : 631 Pageviews.  

เริ่มเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างไรให้สำเร็จ



1.ให้ลูกได้มีโอกาสมาดูดนมแม่ภายในหนึ่งชั่วโมงแรกหลังคลอก


2.ให้ลูกอยู่ในห้องเดี่ยวกับคุณแม่ที้งกลางวันและกลางคืน


3.ให้ลูกดูดนมแม่ทันทีเมื่อมีอาการหิว


4.ในวันแรกๆ ให้ลูกดูดนมได้ประมาณ 8-12 ครั้งภายในทุก 24 ชั่โมง ครั้งละประมาณ 10+15 นาที หรือจนกว่าลูกทำท่าจะอิ่ม หลังจากนั้นพอเข้าวันที่ 4-6 หลังคลอดลูกควรได้ดูดนมอย่างต่ำ 6-8 ครั้ง ภายในทุก 24 ชั่วโมง ถ้าลูกไม่ร้องขอเท่าที่คำแนะนำ ควรพยายามให้ดูดนมทุก 4 ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่าลูกได้รับอาหารเพียงพอ


5.ไม่ควรให้นมผสม น้ำ น้ำหวาน น้ำส้ม ฯลฯ โดยเด็ดขาด เว้นแต่ว่ามีเหตุจำเป็นทางการแพทย์


6.หากคุณต้องแยกจากลูกและไม่สามารถให้นมลูกดูดโดยตรงได้ให้บีบน้ำนมเก็บไว้ให้ผู้อืนป้อนลูกจากปลายช้อนหรือจากแก้วเล็กจะดีกว่าใส่ขวดป้อน โดยเฉพาะในช่วงแรก เพราะลูกอาจติดขวดนม และปฏิเสธการดูดนมแม่ในภายหลังได้


7.ระหว่างวันแรกและวันที่สองของการคลอด ควรหาโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาช่วยแนะนำให้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ทั้งเรื่องวิธีการให้นมแม่ ท่าให้นมที่ถูกวิธี ฯลฯ


8.ให้นมแม่อย่างเดียวตลอดเวลาในช่วงหกเดือนแรกของชีวิต หลังจากนั้นจึงเริ่มให้อาหารเสริม


9.ถ้าเป็นไปได้ ให้ลูกยังคงได้รับนมแม่ต่อไปในช่วงขวบแรกของปีหรือนานกว่านั้น


ขอบคุณข้อมูลจาก
จุลสาร สายธารรัก
กลุ่มนมแม่




 

Create Date : 19 มีนาคม 2551    
Last Update : 19 มีนาคม 2551 17:38:46 น.
Counter : 618 Pageviews.  

อย่าวางใจ! "ท่านอน"ฆาตกรบริสุทธิ์ฆ่าทารก

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ต้องอ่านข่าวเศร้าๆอย่างข่าวการตายของทารกน้อย โดยทารกต้องหมดลมหายใจเพียงเพราะเหตุผลจากการนอน อย่างล่าสุดทารกวัยเพียงไม่กี่เดือนต้องตายจากการนอนคว่ำหน้า จมูกปากกดทับหมอนที่นอนจนหายใจไม่ออกเสียชีวิต หรือย้อนไปก่อนหน้านั้นก็มีข่าวแม่กินยาแก้หวัดแล้วหลับสนิทนอนทับทารก



ปฎิเสธไม่ได้ว่าเด็กทารกใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอน การนอนหลับให้เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็กทารกทั้งร่างกายและสมอง คุณพ่อ คุณแม่อาจคิดไม่ถึงว่าการนอนก็เป็นอีกหนึ่งกิจวัตรที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน

ในเรื่องนี้ ผศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัย และป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) ได้ให้ความกระจ่างในเรื่องดังกล่าวว่า



ท่านอนที่อันตรายมากที่สุดสำหรับเด็กทารก คือ การนอนคว่ำ จากการวิจัยพบว่าการนอนคว่ำเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคการตายฉับพลันของเด็กทารกโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือที่เรียกกันว่า โรค SIDS ( sudden infant death syndrome) ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีโครงการให้เด็กนอนหงาย โดยแนะนำให้จัดท่านอนเด็กเป็นท่านอนหงายเสมอตั้งแต่ปี 1992 พบว่าการตายจากโรค SIDS ลดลงอย่างชัดเจน

"จากการวิจัยหลายแหล่งพบว่าการนอนคว่ำมีความเสี่ยงต่อการกดทับจมูกปากจนขาดอากาศหายใจมากกว่าการนอนหงาย 2-7 เท่าตัว ดังนั้นเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือนควรจัดท่าให้นอนหงายเท่านั้น การนอนคว่ำอาจเป็นอันตรายได้ เพราะเด็กทารกแรกเกิดยังตะแคงหน้ายกศีรษะไม่เป็น"

อย่างไรก็ตามนายแพทย์อดิศักดิ์ยังบอกอีกว่า คุณแม่ควรจับเด็กนอนคว่ำบ้าง แต่ทำได้เฉพาะในเวลาเด็กตื่นและมีผู้ดูแลเด็กเฝ้าดูอยู่ใกล้ชิด เพื่อให้เด็กได้ลดโอกาสการเกิดภาวะหัวแบนและได้ออกกำลังต้นแขนและหัวไหล่ให้เกิดความแข็งแรงด้วย


ในส่วนของเรื่องเครื่องนอน หมอน มุ้ง นายแพทย์อดิศักดิ์ ยังให้ความรู้ด้วยว่า อุปกรณ์เหล่านี้ก็เป็นปัจจัยร่วมที่ก่อให้เกิดการขาดอากาศหายใจได้ เบาะสำหรับเด็กต้องเป็นเบาะที่มีความแข็งกำลังดี เบาะ ฟูก หมอน หรือผ้าห่มหนาๆ ขนาดใหญ่ๆ หน้าเด็กอาจจุ่มลงไปแล้วกดจมูกและปากเป็นเหตุให้ขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตได้

"ต้องไม่ให้เครื่องนอน ของเล่น เสื้อผ้า อุปกรณ์อื่นๆมีลักษณะคล้ายเส้นสายที่มีความยาวเกินกว่า 15 ซม. เพราะอาจเป็นเหตุให้เกิดการรัดคอเด็กได้ อย่างเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังมีอีกกรณีที่น่าเศร้า คุณพ่อกลับจากที่ทำงานมาดึก หลังเข้ามาในห้องนอนมืดๆก็พบลูกชายวัย 7 เดือนกำลังนอนกับแม่ จึงเข้าไปหอมแก้มลูกด้วยความเอ็นดู พบว่าใบหน้าลูกเย็นเฉียบ จับมืดเท้าก็พบว่ามือเท้าเย็นเฉียบเช่นกัน จึงเปิดไฟดูพบว่าศีรษะลูกมุดรอดสายหูรูดหมอนข้าง สายรัดคอจนหน้าซีดเขียว เสียชีวิตแล้ว"

นอกจากนั้นต้องไม่นำของเล่นชิ้นเล็กๆหรือของเล่นประเภทอ่อนนิ่มตัวใหญ่ๆเช่นตุ๊กตาที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งอาจตกทับกดการหายใจได้ หรือเด็กใช้เป็นฐานในการปีนป่ายจนตกเตียงได้เช่นกัน

มาถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่อง เรื่องของเตียง ยังจำได้ข่าวเศร้าสลดของเด็กหนึ่งขวบเศษที่ไปนอนในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง นอนกับพี่เลี้ยงบนเตียงเดียวกัน ตีหนึ่งกว่าพยาบาลเข้าไปพบว่า เด็กตกจากเตียงแต่ศีรษะไปติดค้างที่ราวกันตกเป็นเสียชีวิต เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า เด็กทารกควรนอนบนเตียงที่เหมาะสม จากรายงานของ สำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี จำนวนมากถึง 180 รายในช่วงตั้งแต่มกราคม 1999 ถึง ธันวาคม 2001 ที่ต้องเสียชีวิตจากเตียงผู้ใหญ่

ผศ.นพ.อดิศักดิ์ แนะนำว่า เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีควรนอนเตียงเด็กเล็กที่ได้มาตรฐาน หรือนอนเบาะที่นอนของเด็ก แยกจากเบาะที่นอนผู้ใหญ่ เนื่องจากเตียงผู้ใหญ่อาจมีอันตรายจากช่องว่างที่เกิดขึ้นจากการจัดเตียง ดังนั้นโอกาสที่ลำตัวเด็กจะตกลงไปและศีรษะติดค้างในท่าแขวนคอได้จึงมีค่อนข้างสูง ซึ่งช่องว่างระหว่างเตียงกับกำแพงพบบ่อยที่สุด ส่วนเตียงสองชั้นก็ไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 6 ปี และไม่ควรเลือกเตียงที่มีช่องว่างระหว่างขอบล่างของราวกันตกกับขอบบนของที่นอนเกินกว่า 9 ซม. ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเตียงประเภทใด

"วัฒนธรรมไทยเรา พ่อแม่มักนอนเตียงเดียวกับลูกจนโต การปฏิบัติดังกล่าวมีความเสี่ยงในการนอนทับเด็กเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน คนที่มีความเสี่ยงในการนอนทับเด็กทารกคือ คนอ้วนมากๆ คนที่กินยานอนหลับ ยาทำให้ง่วงเช่นยาแก้หวัด ยากล่อมประสาท คนเมาเหล้า และเด็กโต เพราะคนเหล่านี้มักหลับสนิทเกินไป นอนทับแล้วไม่ยอมรู้สึกตัว"


อย่าปล่อยให้เรื่องปกติมาทำให้เกิดสิ่งผิดปกติ การปล่อยปละละเลยกับสิ่งเล็กน้อย อาจก่อให้เกิดความสูญเสียที่ยากจะเยียวยา

ขอขอบคุณข้อมูล จาก
หนังสือพิมพ์มติชน




 

Create Date : 19 มีนาคม 2551    
Last Update : 19 มีนาคม 2551 17:35:21 น.
Counter : 1474 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  
 
 

Healthy Service
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คุ้มสมุนไพรบริการอยู่ไฟ คุณแม่หลังคลอด
จำหน่าย ชุดอยู่ไฟ และสมุนไพร
สายด่วน 08-5426-7578 (24 ชม. ทุกวัน)http://www.KUMsamunpai.com/


จำนวนผู้เข้าเว็บ Best Free Hit Counters
Maternity Wear
Maternity Wear 234x60 70% off on over 3,000 designer fragrances SkinStore Special Offers Free Shipping
[Add Healthy Service's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com