คุ้มสมุนไพร "ภูมิปัญญาไทย เพื่อสุขภาพและความงามคุณ" บริการ อยู่ไฟ หลังคลอด ถึงบ้าน และจำหน่ายชุด อยู่ไฟ ด้วยตนเอง
 

10 อันดับ ผักไทยให้ธาตุเหล็กสูง

รายชื่อผักที่มีธาตุเหล็กสูงสุด 10 อันดับแรก

1. ผักกูด 36.3 มิลลิกรัม/ 100 กรัม

2. ถั่วฟักยาว 26 มิลลิกรัม/ 100 กรัม

3. ผักแว่น 25.2 มิลลิกรัม/ 100 กรัม

4. เห็ดฟาง 22.2 มิลลิกรัม/ 100 กรัม

5. พริกหวาน 17.2 มิลลิกรัม/ 100 กรัม

6. ใบแมงลัก 17.2 มิลลิกรัม/ 100 กรัม

7. ใบกะเพราะ 15.1 มิลลิกรัม/ 100 กรัม

8. ผักเม็ก 11.6 มิลลิกรัม/ 100 กรัม

9. มะกอก (ยอด) 9.9 มิลลิกรัม/ 100 กรัม

10. กระถิน (ยอดอ่อน) 9.2 มิลลิกรัม/ 100 กรัม



ธาตุเหล็กสำคัญต่อสตรีมีครรภ์อย่างไร


ธาตุเหล็ก สำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือดซึ่งจะเป็นตัวนำออกซิเจนไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งจากเลือดแม่ไปเลือดลูกด้วย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขให้ข้อมูลหน้าที่สำคัญของธาตุเหล็กว่า เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างฮีโมโกลบินเม็ดเลือดแดง นำเลือดดำไปฟอกที่ปอดกลายเป็นเม็ดเลือดแดงที่ร่างกายนำไปใช้ได้ สารสำคัญที่ฟอกเลือดดำเป็นเลือดแดง ซึ่งมีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบ หากร่างกายขาดธาตุเหล็กกระบวนการฟอกเลอืดดำเป็นเลือดแดงจะไม่เกิดขึ้นได้หัวใจต้องสูบฉีดเลือดมากขึ้นส่งผลให้หัวใจทำงานหนักเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ธาตุเหล็กจะถูกดูดซึมได้ดีต้องรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีควบคู่ไปด้วยค่ะ


อาการของคนที่ขาดธาตุเหล็ก


แม้ร่างกายจะต้องการธาตุเหล็กเพียง 1-2 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับคนทั่วไป แต่หากขาดธาตุเหล็กร่างกายจะอ่อนเพลีย เด็กจะมีพัฒนาการช้าลง ไม่เจริญเติบโต เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยทำให้สติปัญญาด้อยประสิทธิภาพการเรียนรู้ลดลง ในวัยเด็กเป็นวัยที่ต้องการธาตุเหล็กมาก ผู้ใหญ่และสตรีมีครรภ์ที่ขาดธาตุเหล็กจะอ่อนเพลีย ผิวพรรณซีด เมื่อเปิดเปลือกตาจะเป็นสีขาวไม่มีเลือดไปเลี้ยง ในทางตรงข้ามผู้ที่มีธาตุเหล็กจะมีเลือดฝาดแข็งแรงสมบูรณ์

ที่มา...นิตยสารบันทึกคุณแม่




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2550    
Last Update : 6 ตุลาคม 2550 15:40:28 น.
Counter : 774 Pageviews.  

ออกกำลังกายในน้ำทางเลือกของหญิงตั้งครรภ์



ทางการแพทย์ให้ความเชื่อมั่นว่าการออกกำลังกายที่พอเหมาะจะเป็นประโยชน์สำหรับหญิงตั้งครรภ์ แต่ต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ว่า สามารถออกกำลังกายได้มากน้อยเพียงใด เพราะหากมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้

โดย น.พ.วิชัย ชวาลไพบูลย์ สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รพ. กลาง ร่วมพูดคุยและให้ความรู้ด้านการดูแลพัฒนาครรภ์ให้มีคุณภาพ ในงานสัมมนาโครงการ คนรักลูกว่า คนที่ออกกำลังกายจะรู้สึกสดชื่น เพราะขณะออกกำลังกายจะมีสารแห่งความสุขที่เรียกว่าเอ็นโดรฟินหลั่งออกมา

แต่การออกกำลังกายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องไม่ทำแบบหักโหมจนเกินไป ควรลดลงจากเดิมเหลือเพียงร้อยละ 75-80 และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ทำให้ตนเองบาดเจ็บ

“กีฬาสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ แพทย์แนะนำคือ การว่ายน้ำ การออกกำลังกายในน้ำ การเดิน ถีบจักรยานบก และการเต้น แอโรบิกในน้ำ เป็นต้น เพราะ ไม่บาดเจ็บ ไม่ต้องลงน้ำหนัก ไม่ต้องกระแทก แต่ออกกำลังกายเพื่อให้เลือดได้หมุนเวียน

คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถออกกำลังกายได้ประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง การเริ่มต้นออกกำลังกายควรเริ่มจากวันเว้นวัน หรืออาทิตย์ละ 3 ครั้ง อย่าหักโหม และค่อย ๆ เพิ่มขนาดตามความสามารถ ก่อนออกกำลังกายควรปรึกษาแพทย์ว่าสามารถออกกำลังกายได้หรือไม่ และควรออกอย่างไร”

สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รพ. กลางกล่าวอีกว่า การออกกำลังกายแต่ละครั้ง คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับประโยชน์มากมาย ตัวอย่างประโยชน์ของการออกกำลังกาย ในน้ำ ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะการว่ายน้ำ อย่างเดียว แต่รวมถึงการออกกำลังกายที่ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เช่น

การเดิน จ๊อกกิ้ง ลอยตัว เต้นแอโรบิก การบริหารส่วนต่าง ๆในขณะตัวแช่น้ำอยู่ในสระ นอกจากการออกกำลังกายคุณแม่ตั้งครรภ์อาจใช้สระน้ำเป็นที่ผ่อนคลายความตึงเครียด และออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการมีบุตร

เพียงแค่ลงไปแช่ตัวอยู่ในน้ำเฉย ๆ ที่ระดับคอหรือไหล่โดยยังไม่ได้ออกกำลังก็ได้รับประโยชน์จากน้ำแล้ว จะรู้สึกสบายขึ้นเพราะน้ำหนักตัวและครรภ์ที่ร่างกายรับภาระอยู่ตลาดเวลาหายไปกว่าร้อยละ 90 ทำให้อาการปวดหลังทุเลาลง

“สภาพเหมือนไร้น้ำหนักที่คุณแม่รู้สึกขณะอยู่ในสระน้ำ ไม่ต่างไปจากในน้ำมีแรงดันที่ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นโดยอัตโนมัติ เลือดที่มักคั่งอยู่ตามขาและเท้าของหญิงมีครรภ์อันเป็นสาเหตุทำให้เส้นเลือดดำโป่งพอง จะไหลกลับสู่หัวใจได้ง่ายขึ้น

และหัวใจจะส่งโลหิตออกไปเลี้ยงอวัยวะภายในต่าง ๆ รวมทั้งมดลูกและรกมากขึ้น ไตซึ่งได้รับเลือดไปเลี้ยงมากกว่าปกติทำให้ปัสสาสวะมากขึ้น ช่วยลดอาการบวมน้ำตามมือและเท้า ที่มักเกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายในระหว่างการตั้งครรภ์”

อย่างไรก็ตาม น.พ.วิชัยกล่าวว่า แม้การออกกำลังกายให้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ แก่คุณแม่ตั้งครรภ์ แต่มีข้อพึงระวังถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น มีอาการครรภ์เป็นพิษ มีเลือดออก รกเกาะต่ำ หรือมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ในกรณีเช่นนี้ไม่ควรออกกำลังกาย หรือปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์.


ข้อมูลจาก


หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2550    
Last Update : 6 ตุลาคม 2550 15:18:53 น.
Counter : 1051 Pageviews.  

Top 5 ... ข้อสงสัยเรื่องนมแม่



No.5 : ให้นมแม่สลับกับนมผงได้ไหม?
Answer : ถ้าถามว่าสลับได้ไหมคงต้องบอกว่าได้ แต่ไม่ดีนักเพราะของแท้กับของเทียมคงเทียบกันไม่ได้นะคะ ผลกระทบเวลาสลับกันที่พบบ่อยคือเรื่องอุจจาระและท้องอืดค่ะ แต่ที่เป็นปัญหาเหมือนวงจรอุบาทว์คือ ยิ่งเสริมยิ่งสลับน้ำนมแม่ก็จะลดน้อยลง แถมยังต้องคำนึงถึงเรื่องอาการสับสนในการดูดถ้าไปใช้ขวดนมหรือป้อนนมชง ทางที่ดีอย่าดีกว่านะคะ แต่ถ้ามีเหตุให้เป็นอย่างนั้นก็บีบน้ำนมให้มีการผลิตน้ำนมอย่างสม่ำเสมอด้วยค่ะ

No.4 : ให้นมแม่แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกอิ่ม?
Answer : ถ้าลูกอิ่มก็จะหยุดดูดเอง หรือไม่ก็หลับมือไม้อ่อนผ่อนคลายไป ไม่แสดงอาการต้องการกินอีก ไม่ยอมเปิดปากก็แสดงว่ากินไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ
นอกจากนี้ก็คือดูที่น้ำหนักตัวลูกค่ะ หากเพิ่มขึ้นตามปกติ ถ่ายปัสสาวะวันละ 6 ครั้งขึ้นไป ดูสดใส ไม่ซีดเซียวปวกเปียกไม่มีแรงก็ถือว่ากินอิ่มแล้วค่ะ

No.3 : ให้ลูกหย่านมแม่เมื่อไหร่ดี?
Answer : ขึ้นอยู่กับเหตุและผลเป็นรายๆ ไปนะคะ แต่อย่างน้อยที่สุดควรกินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน หลังจากนั้นจะกินนมแม่ร่วมกับอาหารเสริมตามวัยไปได้เรื่อยๆ จนถึง 2 ขวบหรือมากกว่านี้ก็ได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแม่ลูกแต่ละคู่ด้วยนะคะ

No.2 : ของต้องห้ามของแม่ระหว่างที่ให้นมลูก?
Answer : ของแสลงที่เป็นของต้องห้ามในที่นี้รวมไปถึงของไม่ดีกับสุขภาพอย่าง บุหรี่และแอลกอฮอล์ค่ะ เพราะของสองอย่างนี้ขนาดว่าคนดีๆ ดื่มกินยังแย่เลย
ส่วนอาหารหมักดอง อาหารที่มีการใช้สารกันบูดหรือใส่สารเคมีต่างๆ ก็ควรจะห่างๆ ไว้ค่ะ
ส่วนอาหารที่ควรเลี่ยง เช่น เปบเปอร์มิ้น อาหารที่ไม่ได้ปรุงให้สุก (ไม่เกี่ยวกับผักสดผลไม้นะคะ) อาหารรสจัดชวนท้องร่วง คาเฟอีน อาหารหรือเครื่องดื่มประเภทนี้หากอยากก็กินก็ได้แต่ควรเลี่ยงได้จะดีที่สุดนะคะ
นอกจากนั้นก็ห้ามคิดและทำในสิ่งไม่ดี เพราะจะทำให้จิตใจขุ่นมัวน้ำนมจะน้อยจะแห้งลง คุณแม่ต้องคิดดีทำดีจิตใจจะผ่องใสลูกเห็นหน้าก็ชื่นใจไม่งอแงนะคะ

No.1 : ถ้าน้ำนมไม่ไหลหรือน้ำนมน้อยกระตุ้นอย่างไรดี?
Answer : เริ่มที่นมแม่ไม่ไหลก่อนนะคะ สาเหตุมักจะเกิดจาก
1.ดูดที่ตื้นเกินไปหรือดูดที่หัวนม คุณแม่ลองขยับให้ลูกแนบตัวมากขึ้น รอลูกอ้าปากกว้างก่อนแล้วจึงจะจับเต้าเข้าปาก คือจะต้องพาปากลูกมาหาเต้านมแม่ ไม่ใช่พาเต้าแม่ไปใส่ปากลูกนะคะ เพราะจะทำให้แม่ปวดเมื่อยหลังเพราะต้องก้มตัว สำคัญที่ว่าลูกต้องอ้าปากให้กว้าง คางชิดเต้านมแม่ ท้องแม่แนบท้องลูกนะคะ การอุ้มที่แนบชิดและปากลูกอ้ากว้างอมลึกถึงลานนมแม่แบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาหัวนมเจ็บได้ด้วยนะคะ
2.แม่เครียด! ก็เป็นอีกสาเหตุที่มักทำให้กลไกน้ำนมพุ่งหรือน้ำนมไหลหดหายไปโดยปริยายนะคะ เพราะฮอร์โมนรักที่ต้องการกลับถูกความเครียดมาขวางทางไว้ ทางที่ดีควรหาทางนอนไปพร้อมกับลูกนะคะ พยายามกินอาหารและพักผ่อนให้เพียงพอ สร้างบรรยากาศผ่อนคลายด้วยเสียงเพลง สายลมและสองหรือสามเราพ่อแม่ลูกกันหน่อยค่ะ เรื่องเลี้ยงลูกเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ใหม่กันหมด ทำได้อย่างใจบ้างไม่ได้บ้างอย่าเพิ่งท้อ ผ่านไปสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็จะดีขึ้นเอง รอบข้างมีใครพอแบ่งเบาช่วยเหลือได้ก็ขอช่วยไปก่อน ไม่นานก็เก่งทุกคนค่ะ
ข้อมูลจาก : นิตยสาร ดวงใจพ่อแม่




 

Create Date : 30 กันยายน 2550    
Last Update : 30 กันยายน 2550 9:58:18 น.
Counter : 1423 Pageviews.  

เลือกชุดชั้นในเพื่อรักษาหุ่นอย่างไร

หญิงตั้งครรภ์แทบทุกคน มักจะมีความกังวลใจในเรื่องของรูปร่าง ซึ่งโดยส่วนใหญ่ พอมีลูกแล้วรูปร่างก็จะเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ แต่ก็ยังมีคุณแม่อีกหลายท่านที่ถึงแม้จะมีลูกแล้ว สอง หรือสามคน แต่ก็ยังดูหุ่นเพรียวยังกะนางแบบ คุณทราบหรือไม่ว่าเขาทำกันอย่างไร?

ง่ายๆ ค่ะ อยากเป็นคุณแม่ หุ่นเซ็กซี่ ก็ต้องรู้จักดูแลเอาใจใส่ตัวเองกันเสียหน่อย เริ่มตั้งแต่ตอนตั้งท้อง ดูแลเรื่องอาหารการกินที่มีประโยชน์อย่าให้ขาด ขณะเดียวกันก็หมั่นเอ็กซ์เซอร์ไซด์ในท่าที่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คุณไม่ต้องเจ็บปวดมากในช่วงคลอดแล้ว ยังทำให้สัดส่วนต่างๆ ของคุณกลับเข้าที่ได้อย่างรวดเร็ว หลังคลอดอีกด้วยค่ะ

นอกจากนี้ การเลือกสวมใส่ชุดชั้นในที่เหมาะกับสรีระที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ต่อไปนี้จะเป็นวิธีการเลือกชุดชั้นในที่เหมาะสมกับสรีระในแต่ละช่วง โดยเราจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงใหญ่ๆ คือ ช่วงตั้งครรภ์ และช่วงหลังคลอด 1-6 เดือน

ช่วงตั้งครรภ์
เริ่มตั้งแต่ในช่วงแรก ร่างกายของคุณแม่จะมีการขยายรอบลำตัวทั้งส่วนหน้าอก ลำตัว และท้อง การเปลี่ยนแปลงโดยรวมยังไม่มากนัก แต่หัวถันจะไวต่อความรู้สึกระคายเคืองอย่างชัดเจน การเลือสวมชุดชั้นในที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์โดยเริ่มตั้งแต่ในช่วงแรกนี้ จะทำให้คุณสามารถควบคุมการขยายในส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าในช่วงนี้คุณยังไม่รู้สึกว่าอึดอัดมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ที่มีรูปร่างเล็ก อาจไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณอาจยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชุดชั้นในก็ได้ค่ะ

ต่อเมื่อส่วนต่างๆ ของคุณเริ่มขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งโดยปกตินับตั้งแต่ในช่วงเข้าเดือนที่ 4 เป็นต้นไป น้ำหนักตัวคุณแม่จะขึ้นประมาณ 0.5 กิโลกรัม ต่อสัปดาห์ ทรวงอกจะเพิ่มขนาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะทำให้อกคล้อยต่ำลง ส่วนท้องขยายใหญ่ น้ำหนักจะถ่วงไปข้างหน้า ถึงตอนนี้ คุณควรเลือกชุดชั้นในที่กระชับอย่างนุ่มนวล และช่วยพยุงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นด้วย

คุณควรเลือกยกทรงที่มีการออกแบบแผ่นพยุงเต้าที่ใหความยืดหยุ่นมากกว่าปกติ 1.2 เท่า เพื่อรับน้ำหนักเต้าทรงที่กำลังขยาย และมีตะขอหลังที่สามารถปรับได้ 4 แถว

ส่วนกางเกงในควรเลือกที่มีส่วนตัดต่อรอบใต้ท้องเพื่อรองรับการขยายส่วนท้องที่กำลังขยายใหญ่ และน้ำหนักถ่วงไปด้านหน้า มีการตัดเย็บด้วยผ้า 2 ชั้น ทำให้เกิดความยืดหยุ่นที่ปรับขนาดได้ตามหน้าท้องที่ขยาย

1-6 เดือนหลังคลอด
สภาพร่างกายทุกส่วนของคุณ จะกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็วในช่วง 3 เดือนแรก ยกเว้นเต้านมที่ยังคงเพิ่มขนาดขึ้น เพราะร่างกายยังคงผลิตน้ำนมให้ลูก ซึ่งอาจมีน้ำนมไหลออกมาบ้าง ดังนั้น คุณจึงควรหายกทรงที่เปิดเต้าทรงสำหรับให้นมลูกคุณได้ ขณะเดียวกันก็มีแผ่นซับน้ำนมด้วยผ้าที่มีความอ่อนนุ่ม ต่อผิวสัมผัส ไม่ทำให้ระคายเคืองได้ง่าย ส่วนหน้าท้องยังมีไขมันสะสมอยู่ คุณจึงควรหาซื้อสเตย์เอวสูงมาสวมทับกางเกงในอีกชั้นหนึ่ง รับรองว่าภายใน 6 เดือน ทุกอย่างจะเข้าที่จนคนรอบข้างต้องทักคุณและขอเคล็ดลับจากคุณแน่นอนค่ะ

ขอขอบคุณ นิตยสาร บันทึกคุณแม่




 

Create Date : 30 กันยายน 2550    
Last Update : 30 กันยายน 2550 9:13:46 น.
Counter : 511 Pageviews.  

เตรียมพร้อม 1 เดือน ก่อนคลอด

“เตรียมตัวพร้อม ซ้อมใจดี มีชัยไปกว่าครึ่ง…” ไม่ได้ชวนไปแข่งกีฬาที่ไหนหรอกค่ะ อีก 1 เดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เรามาเริ่มเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายและจิตใจเพื่อรอวันคลอดอย่างผ่อนคลายกันดีกว่านะคะ




อีก 1 เดือนก่อนคลอด คงเป็นช่วงเวลาแห่งการรอคอยของแม่ท้องทุกคน เพราะทั้งตื่นเต้น ดีใจที่จะได้เห็นหน้าลูก ขณะเดียวกันก็รู้สึกกลัวกับความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นและเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่จะตามมา


เรามีคำแนะนำดีๆ จาก รศ.นพ.ธีระพงษ์ เจริญวิทย์ หน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ รพ.จุฬาลงกรณ์ ให้กับคุณแม่ทั้งมือใหม่และมือเก่ากว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ห่วงก็แต่แม่มือใหม่ล่ะค่ะ เพราะยังไม่มีประสบการณ์…


ก้าวสู่เดือนที่ 9


ช่วงนี้คุณแม่จะนัดตรวจครรภ์ถี่ขึ้นทุกสัปดาห์ เพื่อดูความพร้อมและอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นว่าปกติหรือเปล่า


โดยช่วงนี้คุณแม่จะเริ่มมีอาการปวดหน่วงๆ ตรงท้องน้อยเวลาเดิน และถ้ามีอาการออกกำลังกายยืดแข้งยืดขาก็จะรู้สึกท้องแข็งบ่อย ขาจะบวม รู้สึกปวดแสบยอดอกเนื่องจากกรดไหลย้อน เพราะขนาดท้องที่โตขึ้นจะทำให้กระเพาะถูกดันสูงขึ้น อาหารไม่ย่อยทำให้ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ บางครั้งก็อาจตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะเป็นตะคริวที่ขา จนต้องอ้อนให้คุณสามีนวดให้เชียวค่ะ


เตรียมพร้อม…ก่อนคลอด


การเตรียมความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ และของใช้ต่างๆ จะช่วยให้คุณแม่ไปคลอดได้อย่างผ่อนคลายขึ้น ว่าแต่ต้องเตรียมเรื่องอะไรนั้น ไปดูกันค่ะ


1. โรงพยาบาล

ปรึกษากับคุณหมอตลอดเวลาหากมีปัญหาข้อสงสัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์


ในกรณีที่คุณแม่ฝากท้องที่เป็นโรงพยาบาลเอกชน (บางแห่ง) ช่วงนี้อาจจะขอเข้าไปดูสถานที่ เช่น ห้องคลอดหรือห้องเด็ก และลองสอบถามว่าคุณพ่อสามารถไปให้กำลังใจคุณแม่ในห้องคลอดได้หรือไม่ เพื่อจะได้เตรียมตัวให้พร้อมค่ะ


นอกจากนี้ก็ต้องคำนวณเรื่องค่าใช้จ่ายให้พร้อมด้วยนะคะ


อาจต้องลองขับรถเพื่อคำนวณระยะเวลาในการเดินทางจากบ้านไปโรงพยาบาลหรือหาเส้นทางที่เดินทางไปสะดวกที่สุด เร็วที่สุดค่ะ ถ้าเป็นไปได้ควรเตรียมเส้นทางสำรองไว้ด้วยก็ดีนะคะ


2. เตรียมกาย

เตรียมเรื่องอาหารการกิน ควรกินอาหารที่มีโปรตีนเยอะๆ แต่ลดอาหารรสจัดควบคู่ด้วย เพื่อลดอาการท้องผูก


ควรกินยาบำรุงตามที่คุณหมอให้มาให้ครบ เช่น ยาบำรุงเลือด วิตามินรวมและแคลเซียม เพราะช่วงคลอดคุณแม่ต้องสูญเสียเลือดเยอะ การกินยาบำรุงจะทำให้คุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น


หาซื้อของใช้ที่จำเป็นทั้งของคุณแม่และคุณลูกไว้ให้พร้อม เพราะหลังคลอดจะไม่มีเวลาออกไปหาซื้อแล้วค่ะ


3. เตรียมคลอด

จะคลอดเองหรือผ่าท้องคลอด ในกรณีที่คุณแม่ไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ว่าต้องผ่าท้องคลอด ก็ควรจะคลอดเอง


วางแผนหลังคลอด ว่าจะทำหมันหรือเปล่า ถ้าต้องการทำหมันจะได้แจ้งให้คุณหมอทราบล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการเตรียมตัวของคุณหมอด้วย


4. เตรียมจิตใจ

คุณแม่ควรฝึกเกร็งและคลายกล้ามเนื้อ ฝึกหายใจ ฝึกคลายอาการเจ็บท้องซึ่งส่วนใหญ่โรงพยาบาลที่ฝากครรภ์จะมีคอร์สแนะนำและฝึกคุณแม่เพื่อให้ทราบวิธีสังเกตตัวเองในช่วงก่อนคลอด รวมทั้งวิธีหายใจที่ถูกต้องในการคลอด เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณแม่คลายความกังวลได้ค่ะ


คุณแม่ต้องเตรียมรับอาการซึมเศร้าที่อาจเกิดขึ้นได้หลังคลอด เช่น ร้องไห้ทั้งวัน กลัวสามีไม่รักและถูกทอดทิ้ง กลัวไม่สวย เป็นต้น และสอบถามวิธีแก้ไขกันคุณหมอเพื่อนำมาปฏิบัติด้วยค่ะ


อาการเตือนก่อนคลอด

1. ปวดท้องอย่างรุนแรงตลอดเวลาทุก 3 นาที และเจ็บครั้งละประมาณ 40 วินาที


2. มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด แม้ไม่เจ็บท้องก็ต้องไปโรงพยาบาล


3. มีน้ำคร่ำไหลออกจากช่องคลอด ไม่ว่าจะมีอาการเจ็บท้องหรือไม่ก็ตาม ต้องรีบไปโรงพยาบาล เพราะถุงน้ำคร่ำอาจแตกหรือรั่วได้ ถ้าทิ้งไว้นานจะทำให้ติดเชื้อได้



ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

1. มีเลือดออก ซึ่งเป็นภาวะของรกเกาะต่ำ โดยรกจะเลื่อนมาเกาะอยู่ที่บริเวณปากมดลูกหรือส่วนล่างของมดลูก


2. ความดันโลหิตสูง เป็นสาเหตุของโรคครรภ์เป็นพิษ จะมีผลทำให้คุณแม่ขาบวม หน้าบวม บางคนก็ปวดศรีษะ ซึ่งอาจทำให้คุณแม่ชักหรือเส้นเลือดในสมองแตกได้


3. เด็กดิ้นน้อยลง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุมาจากรกเริ่มทำงานเสื่อม หรือรกพันคอทำให้เป็นอันตรายต่อเด็กมากเช่นกันค่ะ

เมื่อคุณแม่มีเกิดอาการดังกล่าวข้างต้น ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเลยค่ะ


เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม… คราวนี้คุณแม่ก็ไปคลอดด้วยความมั่นใจได้แล้วค่ะ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็จะหายไปเมื่อคุณแม่เห็นหน้าลูก และกลายเป็นความปิติ อิ่มเอมใจให้กับคุณแม่แทน

ที่มา..นิตยสารรักลูก




 

Create Date : 21 กันยายน 2550    
Last Update : 21 กันยายน 2550 20:41:05 น.
Counter : 958 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  
 
 

Healthy Service
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คุ้มสมุนไพรบริการอยู่ไฟ คุณแม่หลังคลอด
จำหน่าย ชุดอยู่ไฟ และสมุนไพร
สายด่วน 08-5426-7578 (24 ชม. ทุกวัน)http://www.KUMsamunpai.com/


จำนวนผู้เข้าเว็บ Best Free Hit Counters
Maternity Wear
Maternity Wear 234x60 70% off on over 3,000 designer fragrances SkinStore Special Offers Free Shipping
[Add Healthy Service's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com