ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

11 จุดใน “บ้าน” ที่คุณอาจมองข้ามเรื่องการทาสี (ทั้งที่จริงๆ ควรทา)

11 จุดใน “บ้าน” ที่คุณอาจมองข้ามเรื่องการทาสี (ทั้งที่จริงๆ ควรทา)

หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทาสีช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้กับ “บ้าน” แต่ก็มีหลายจุดในที่คุณคงไม่ทราบว่ามันจำเป็นสำหรับการทาสีมากกว่าที่คุณคิด มาดูกันว่าจุดไหนในบ้านที่คุณไม่ควรพลาดในการทาสี

1.ผนังตู้เสื้อผ้า เป็นพื้นที่ๆ หลายคนลืมนึกถึง และไม่ค่อยให้ความสำคัญกับผนังตู้เสื้อผ้า การทาสีผนังตู้เสื้อผ้าก็ช่วยทำให้ตู้เสื้อผ้าสดใสขึ้น

2.หีบโบราณ ถ้าคุณมีหีบหรือกล่องไม้โบราณ แม้ภายนอกมันจะดูเก่า แต่เราสามารถสร้างความแตกต่างให้ลักษณะภายในได้ด้วยการทาสี

3.ขอบประตู ถ้าคุณจำเป็นต้องทาสีนอกตัวบ้านกับภายในตัวบ้านให้เหมือนกัน ขอบประตูอาจเป็นจุดหนึ่งที่คุณสามารถทำให้มันน่าสนใจและเป็นจุดน่ารักๆ ได้

4.ภายในตู้กับข้าว ห้องครัวสีขาวล้วนดูทันสมัย แต่หากคุณต้องการเพิ่มสีสันและบรรยากาศการทาสีภายในตู้กับข้าว มันจะยิ่งเพิ่มความงดงาม และทำให้ชุดเครื่องจานของคุณดูโดดเด่นขึ้นอีกด้วย

5.ระฆังตรงประตูของคุณ ใช้สีเพียงเล็กน้อยในการทำให้ระฆังตรงประตูของคุณดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

6.รอบลิ้นชัก ทำลิ้นชักไม้ให้ดูโมเดิร์น ลองทาสีผิวด้านนอกของลิ้นชัก ยกเว้นตรงส่วนดึงลิ้นชักด้านหน้า

7.ภายในลิ้นชักโต๊ะทำงาน บางครั้งคุณอาจต้องการสีขาวสีพื้นๆ เพื่อจุดไฟด้านความคิดสร้างสรรค์ของตัวคุณเอง หรือบางทีคุณอาจต้องการสีสัน ตัดปัญหาในการตัดสินใจด้วยการใช้สีทาภายในลิ้นชักโต๊ะทำงานของคุณ

8.ตามขอบผ้าใบ งานศิลปะทั้งสีขาวและสีดำสามารถใช้สีสดๆ ทาตัดขอบเพิ่มความโดดเด่นได้ ยิ่งถ้ารอบๆ นั้นมีดอกไม้หรือโคมไฟ ก็จะยิ่งส่งเสริมให้ภาพนั้นเด่นชัดขึ้น

9.ด้านหลังตู้หนังสือ ส่วนด้านในของตู้หนังสือก็เป็นอีกจุดที่สมควรทาสีเพื่อเพิ่มความสดใส และทำให้หนังสือภายในชั้นมีความโดดเด่นชัดเจนขึ้น

10.ขอบหน้าต่าง เพิ่มความสดใสให้บ้านด้วยการทาสีขอบหน้าต่างตามที่ใจชอบเลยค่ะ

11.ส่วนที่ซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า ตู้เสื้อผ้าไม้สีน้ำตาลใบเก่า แม้ข้างนอกจะดูเป็นตู้รุ่นคุณปู่ แต่ถ้าทาสีภายในแล้วเปิดบานประตูออก จะกลายเป็นตู้สำหรับคุณหลานเลยทีเดียว

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก //www.housebeautiful.com
ภาพจาก //www.istockphoto.com




 

Create Date : 30 มีนาคม 2559    
Last Update : 30 มีนาคม 2559 21:53:40 น.
Counter : 669 Pageviews.  

11 เคล็ดลับขั้นเทพ “ตกแต่งบ้าน” ให้เหมือนในแมกกาซีน

11 เคล็ดลับขั้นเทพ “ตกแต่งบ้าน” ให้เหมือนในแมกกาซีน

เชื่อว่าหลายๆ คนมีแมกกาซีน หรือนิตยสารแต่งบ้านเป็นต้นแบบในการดีไซน์ จัดวางเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ภายใน แต่หลายคนก็ประสบปัญหาว่า แม้จะลอกเลียนมาจากแมกกาซีนชนิดเหมือนเป๊ะ แต่ก็มักจะไม่เหมือนแบบ 100 เปอร์เซ็นต์

Sanook ! Home เลยมีเคล็ดลับการจัดบ้านแบบให้เหมือนในนิตยสารมาฝาก รับรองว่าไม่ผิดหวัง ดูแล้วก็พอจะรู้ว่ามันไม่ได้ยาก

1.สีเขียวช่วยเพิ่มมิติ หาแจกันรูปทรงธรรมดาสักใบ แล้วเสียบต้นไม้ ใบไม้ลงไป สีเขียวหรือกิ่งไม้เป็นวิธีเพิ่มมิติให้กับบ้านได้เป็นอย่างดี

2.เก็บของจำเป็นที่ใช้ในห้องน้ำไว้ในถาด ข้าวของเครื่องใช้ประเภทน้ำหอม ของจำเป็นที่ปกติวางอยู่บนเคาน์เตอร์ในห้องน้ำ หรือเทียน รวมไปถึงแจกันประดับดอกไม้ สิ่งเหล่านี้ถ้านำไปวางรวมไว้ในถาดเก๋ๆ สักใบ มันก็ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับห้องน้ำ ซึ่งใกล้เคียงกับการตกแต่งในแมกกาซีนมากขึ้น

3.ผ้าเช็ดจานช่วยได้ ตกแต่งและเพิ่มบุคลิกให้ห้องครัวด้วยผ้าเช็ดจาน ที่อาจวางประดับไว้บนเคาน์เตอร์ในห้องครัว หรือวางไว้ด้านข้างซิงก์ล้างจาน

4.ผสมผสานแบบและขนาดของหมอนอิง การวางหมอนอิงหลายแบบ หลายไซส์คละกันบนโซฟาเพิ่มบรรยากาศของบ้านได้มากกว่าการวางหมอนอิงแบบหรือสีเดียวไว้ร่วมกัน นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญเรื่องจากจัดวางที่ไม่เน้นความสมบูรณ์ แต่เน้นการวางแบบธรรมชาติ

5.ถ้ามีกระดานดำก็ใช้ซะ ใช้กระดานดำเขียนคำพูดสร้างแรงบันดาลใจ หรือคำเก๋ๆ ก็ช่วยทำให้ห้องๆ นั้นดูน่าอยู่ยิ่งขึ้น

6.เพิ่มวัตถุที่เป็นสีตรงข้ามเข้าไป หลักการก็คือถ้าห้องของคุณตกแต่งด้วยสีโทนเย็น แนะนำให้เพิ่มของตกแต่งโทนอุ่นเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หรือของตกแต่งต่างๆ เช่นดอกไม้สีชมพูในห้องสีฟ้า หรือหมอนอิงสีม่วงในห้องสีเหลือง เชื่อเถอะมันจะทำให้ห้องของคุณน่าสนใจและมีจุดดึงดูดสายตาอย่างชัดเจน

7.ซ่อนของบนเคาน์เตอร์ ถ้าคุณมีของตกแต่งวางไว้บนเคาน์เตอร์ แนะนำให้ยกมันลงมาและเก็บไว้ในตะกร้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปิ้งขนมปัง หม้อหุงข้าว หลังใช้แล้วให้นำไปเก็บไว้ในตะกร้าและซ่อนใต้ตู้กับข้าวหรือบริเวณที่เหมาะสม

8.ใช้ผ้าเช็ดตัวสีขาว ไม่มีอะไรจะสร้างความหรูหราให้กับห้องได้ดีเท่ากับผ้าเช็ดตัวหรือผ้าขนหนูสีขาวแสนนุ่มที่กองอยู่ เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสปา

9.ลองดึงเก้าอี้ออกมาจากโต๊ะเล็กน้อย ในแมกกาซีนคุณจะเห็นว่าเขาเลือกที่จะดึงเก้าอี้ออกมาจากโต๊ะของมันเล็กน้อย เพื่อให้เห็นรูปร่าง ดีไซน์ และทำให้ภาพมีมิติ ในความเป็นจริง คุณเองก็สามารถทำแบบนั้นได้เช่นกัน เพียงแต่อย่าดึงออกมาให้ไกลมากเพราะมันอาจเป็นอันตรายกับสมาชิกในบ้าน

10.โชว์หม้อน่ารักๆ ไว้บนเตาอบ ถ้าคุณมีหม้อ หรือกาต้มน้ำสีสันน่ารัก แนะนำให้คุณนำมันออกมาวางไว้บนเตาอบ ถือเป็นการเพิ่มสีสันให้กับบ้านหรือห้องนั้นๆ

11.แสงสว่างและไฟ ไม่มีอะไรจะทำให้บ้านดูอบอุ่นและน่าอยู่เท่ากับแสงสว่างและไฟ ดังนั้นคุณควรออกแบบแสงสว่างภายในบ้านให้โรแมนติกเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้กับบ้าน

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก //www.mydomaine.com
ภาพจาก //www.istockphoto.com




 

Create Date : 28 มีนาคม 2559    
Last Update : 28 มีนาคม 2559 8:17:41 น.
Counter : 802 Pageviews.  

7 วัน 7 สี เลือก “เก้าอี้ทำงาน” ดีๆ ถูกสี ถูกโฉลก

7 วัน 7 สี เลือก “เก้าอี้ทำงาน” ดีๆ ถูกสี ถูกโฉลก

บทความนี้อาจเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจและมีความเชื่อในเรื่องของ “สี” กับความหมายและ “สิริมงคล” ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าบางคนเลือกสวมเสื้อผ้าตามสีมงคลที่เหมาะกับวันนั้นๆ ดังนั้นจะแปลกอะไรถ้าคุณจะเลือกโดยใช้ “สี” เป็นปัจจัยสำคัญ Sanook! Home เลยนำหลักการเลือกเก้าอี้ที่เหมาะกับวันเกิดของแต่ละคนมาเป็นไกด์ ถ้าใครเชื่อก็ลองทำตามดูนะคะ

คนเกิดวันอาทิตย์
เก้าอี้ : สีครีม หรือสีขาว
ห้องทำงาน : สีควันบุหรี่ หรือสีขาว แต่ถ้าห้องทำงานมีฝาผนังเป็นไม้หรืออิฐให้ใช้ม่านหรือลูกไม้ประดับ

คนเกิดวันจันทร์  
เก้าอี้ : สีเงิน สีฟ้าอ่อน หรือสีเหลืองอ่อน
ห้องทำงาน : สีครีม สีเหลืองนวล และสีเขียวอ่อน หลีกเลี่ยงสีสด

คนเกิดวันอังคาร
เก้าอี้และห้องทำงาน : เน้นการใช้สีเทา หรือสีฟ้าอ่อน

คนเกิดวันพุธกลางวัน
เก้าอี้และห้องทำงาน : เน้นใช้สีฟ้า สีแดง สีแสด สีขาวหรือสีดำ

คนเกิดวันพุธกลางคืน
เก้าอี้และห้องทำงาน : สีชมพู สีเทา สีเขียวอ่อนและขาวนวล สีเหล่านี้ทำให้รู้สึกสงบ

คนเกิดวันพฤหัสบดี
เก้าอี้และห้องทำงาน : เน้นใช้สีเอิร์ธโทน หรือสีน้ำตาล เพราะมอบความสงบสุขและปลอดภัยให้เป็นอย่างดี

คนเกิดวันศุกร์
เก้าอี้ : สีที่เหมาะสมควรเป็นสีอ่อน เช่นสีขาว สีควันบุหรี่ สีส้มอ่อนและสีเขียวอ่อนๆ  
ห้องทำงาน : ควรเลือกสีพีช สีเขียวอ่อน หรือสีขาว เพราะจะทำให้สุขกายสบายใจและอารมณ์ดี

คนเกิดวันเสาร์
เก้าอี้ : เน้นการใช้สีอ่อนทั้งสีขาว สีควันบุหรี่ หรือสีเขียวอ่อน
ห้องทำงาน : แนะนำให้เลือกสีเขียวและหลีกเลี่ยงสีฟ้าหรือสีน้ำเงินเพราะจะทำให้คนเกิดวันเสาร์ไม่มีความสุข

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก RicheMuller Ergonomic Chair
ภาพจาก //www.istockphoto.com




 

Create Date : 25 มีนาคม 2559    
Last Update : 25 มีนาคม 2559 21:00:22 น.
Counter : 911 Pageviews.  

ดูแล “เฟอร์นิเจอร์” อย่างไร ให้รอดตายในหน้าร้อน

ดูแล “เฟอร์นิเจอร์” อย่างไร ให้รอดตายในหน้าร้อน

อุณหภูมิที่สูงขึ้นจนทำให้แม้แต่เราเองก็ยังรู้สึกเพลีย บางคนอาจป่วย เป็นไข้เพราะอากาศและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน นับประสาอะไรกับสิ่งของต่างๆ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่เราตั้งประดับวางไว้ในบริเวณต่างๆ ของบ้านที่ต้องได้รับความร้อนไม่แตกต่างจากเรา  ดังนั้นนอกจากการดูแลตัวเองในช่วงหน้าร้อนแบบนี้แล้ว Sanook! Home จึงอยากนำเสนอวิธีการในหน้าร้อนว่าต้องทำอย่างไรให้พวกมันยังสามารถประดับตกแต่งอยู่ในบ้านของเราอย่างคงทน

เฟอร์นิเจอร์ Outdoor
แดดร้อน ลมแรงก็จริง แต่ถือเป็นช่วงเวลาดีๆ สำหรับการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งอยู่นอกตัวบ้าน ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้เราแนะนำให้คุณทาสีและน้ำยารักษาเนื้อไม้ซะเลย เนื่องจากแสงแดดและสายลมจะช่วยทำให้สีหรือน้ำยารักษาเนื้อไม้แห้งเร็วขึ้น แต่ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเหล็กและอาจเกิดสนิม แนะนำให้ขัดสนิทออกแล้วทาน้ำยากันสนิมทับก่อนจะทาสีทับอีกรอบ หรือถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีผ้าเป็นส่วนประกอบ ผ้าอาจเป็นที่เจริญเติบโตของเชื้อรา ดังนั้นอาจต้องทำความสะอาดหรือถอดออกไปซัก ก่อนจะใช้ผ้าหรือพลาสติกคลุมเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นไว้แทน สำหรับของตกแต่งบ้านบางชิ้นเช่นเปลญวนถ้าต้องถอดไปซักอาจยากลำบากเพราะมีขนาดใหญ่ แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่บิดหมาดๆ และเช็ดทำความสะอาดแทน และในระหว่างนี้หากคุณไม่ได้ใช้พื้นที่ภายนอก อาจนำเฟอร์นิเจอร์เอาท์ดอร์เหล่านั้นเข้ามาเก็บไว้ในที่ร่มก่อนเพื่อรักษาคุณภาพของวัสดุให้อยู่ได้อย่างคงทนถาวร

เฟอร์นิเจอร์ Indoor
ถึงอย่างไรเสียแสงแดดและฝุ่นในฤดูร้อนก็ยังทำลายวัสดุและความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์อยู่ดี ดังนั้นคุณควรเช็คดูว่าตำแหน่งที่ตั้งเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของคุณนั้นพ้นจากแสงแดดส่องถึงหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ที่ไม่สามารถขยับตำแหน่งได้ แนะนำให้ติดผ้าม่านหรือมู่ลี่ป้องกันแสงแดด นอกจากนี้คุณต้องหมั่นทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์โดยการปัดฝุ่นและเช็ดอยู่เสมอ เนื่องจากฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่ฝุ่นค่อนข้างเยอะ

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก //stagetecture.com

ภาพจาก //www.istockphoto.com




 

Create Date : 22 มีนาคม 2559    
Last Update : 22 มีนาคม 2559 8:38:13 น.
Counter : 709 Pageviews.  

STEP ON THE STAIR เชื่อมบ้านด้วยบันได

STEP ON THE STAIR เชื่อมบ้านด้วยบันได

ในทางสถาปัตยกรรมถือเป็นโครงสร้างหนึ่งของบ้านที่ทำหน้าเชื่อมชั้นต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ประกอบด้วยส่วนสำคัญอยู่ 3 ส่วนคือ ลูกนอน ลูกตั้ง และแม่บันได ในปัจจุบันบันไดไม่ได้ทำหน้าที่แค่เชื่อมชั้นต่าง ๆ เข้าด้วยกันเท่านั้น แต่ถือเป็นหนึ่งในงานสถาปัตยกรรมที่นักออกแบบต่างให้ความสำคัญมาก ทั้งในเรื่องของชนิดบันไดที่ใช้ การเลือกวัสดุ ตลอดจนการวางตำแหน่งบันไดให้ถูกที่ถูกทาง เพราะอีกนัยหนึ่งบันไดตามหลักของฮวงจุ้ยนั้นถือเป็นทางเชื่อมโยงของพลังงานภายในบ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังต้องออกแบบบันไดให้ถูกตามหลักกฎหมายที่กำหนดไว้ด้วย วันนี้เราจึงมีบันไดแบบต่าง ๆ มาให้คุณเลือกนำไปปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ของบ้าน ทั้งเท่  สะดุดตา และสีสันจี๊ดจ๊าด ตามใจชอบ

1. Simplex Styled (มีบรรยายภาพ)

ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องสำหรับบันไดที่ยื่นออกมาจากผนัง (Floating Staircase) เพราะดูเรียบเท่ ไม่ต้องเห็นโครงสร้างที่หนาเทอะทะเหมือนบันไดทั่วไป แถมยังเข้ากันดีกับผนังปูนเปลือยเซาะร่องและเจาะกริดไลน์ (Grid Line) แต่โดยแท้จริงแล้วบันไดชนิดนี้ได้ฝังโครงสร้างบันไดไว้ในผนัง ยึดกับเพลทเหล็กที่นำมาทำเป็นขั้นบันได เสร็จแล้วจึงกรุพื้นผิวให้เรียบร้อย ส่วนใหญ่นิยมใช้ไม้เนื้อแข็งเพื่อความทนทาน เช่น ไม้สักควรเลือกแผ่นหนา 1 นิ้ว หรือไม้ตะแบกควรหนา 2 นิ้ว


1.ผนังคอนกรีตรับแรง
2.บันได
3.ชานพัก
4.ผนังคอนกรีตรับแรง
5.ผนังปูนเปลือยเซาะร่องทำกริดไลน์
6.กรูไม้เนื้อแข็งหนา 1 นิ้ว
7.ขั้นบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กยื่นลอยจากผนัง

TIPS
เทศบัญญัติการสร้างบันไดสำหรับบ้านพักอาศัย
- ความกว้างของบันไดสำหรับอาคารที่พักอาศัยต้องมีอย่างน้อย 90 เซนติเมตร
- ลูกตั้งต้องสูงไม่เกิน 20 เซนติเมตร ส่วนลูกนอนต้องน้อยกว่า 22 เซนติเมตร
- บันไดช่วงหนึ่งจะสูงได้ไม่เกิน 3 เมตร หากสูงกว่านั้นต้องมีชานพักที่มีความกว้างไม่น้อยกว่าความกว้างของบันได

ระยะสบาย
- ความกว้างของบันไดควรอยู่ที่ 1.20 เมตร
- ลูกนอน 27.5-35 เซนติเมตร
- ลูกตั้ง 15.17.5 เซนติเมตร

2. Straight-Run Stair with Landing

หากบริเวณที่จะวางตำแหน่งบันไดเป็นห้องโถงหรือมีช่องโล่ง (Open Well) แล้วละก็ บันไดแบบตรงชนิดมีชานพักน่าจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดี เพราะบันไดชนิดนี้จะช่วยให้บ้านของคุณดูแกรนด์ขึ้น ตัวบันไดออกแบบให้ทันสมัยโดยใช้แผ่นไม้ยึดกับผนังและโครงเหล็ก เพิ่มลูกเล่นด้วยการนำไม้ 2 แผ่นมาประกบกัน แผ่นบนตัดให้มีขนาดสั้นกว่าแผ่นล่าง 2 เซนติเมตร แล้วใช้เหล็กเส้นยึดแทนลูกตั้งบันได เพื่อกันของตกและเพิ่มเส้นลายให้บันไดดูมีรายละเอียดมากขึ้น

TIP เลขคู่กับขั้นบันได

ในทางสถาปัตยกรรมสถาปนิกจะออกแบบให้จำนวนขั้นบันไดลงด้วยเลขคี่ เนื่องจากให้จำนวนก้าวของเท้าทั้งสองสมดุลกัน ส่วนตามหลักฮวงจุ้ยการที่ขั้นบันไดลงด้วยเลขคู่นั้นจะหมายถึงเลขของคนตาย



3. Newyork Stlyed Loft

ออกแบบบันไดให้เข้ากับบ้านสไตล์ลอฟต์แบบนิวยอร์ก ผนังที่ติดกับบันไดกรุอิฐคละสีโชว์แนวอิฐ ตัวบันไดเป็นลักษณะบันไดลูกนอนยึดติดกับโครงสร้างภายในผนัง เรียกว่าบันไดลอย หรือ Floating Staircase แล้วทำโครงสร้างลูกนอนบันไดคอนกรีตยื่นออกมาจากผนังด้านข้าง จากนั้นก็ยึดลวดสะลิงกับลูกนอนยกไว้กับเพดานด้านบนเพื่อความปลอดภัย และสามารถใช้เป็นราวจับไปในตัว ลวดสะลิงที่ใช้มักมีขนาดอยู่ที่ 4-6 มิลลิเมตร

4. Stair is Sculpture
บันไดวน คือบันไดที่มีรัศมีวงในแคบและมีความชันสูง แต่หากเพิ่มการดีไซน์และการเลือกวัสดุเข้าไปอีกนิด จากเดิมที่มักใช้เป็นบันไดช็อทคัทก็สามารถเป็นงานประติมากรรมสวย ๆ ให้บ้านของคุณได้ อย่างการทำบันไดวนกลางบ้านขึ้นมาจากสระว่ายน้ำ พันเกลียวอยู่รอบเสาคอนกรีตเสริมเหล็กที่เป็นโครงสร้างหลัก แม่บันได ขั้นบันได และราวจับทำจากสแตนเลส ปิดท้ายด้วยการใช้กระจกทำลูกราวบันไดแบบปิด แนะนำให้ใช้แผ่นกระจกหนา 12 มิลลิเมตร และเว้นรอยต่อระหว่างกระจก 5-10 มิลลิเมตร เดิมทีบันไดวนนิยมสร้างขึ้นสำหรับบ้านที่มีพื้นที่คับแคบ แต่ถ้าต้องการสร้างบันไดชนิดนี้จริง ๆ อย่าลืมคำนึงเรื่องผู้สูงอายุในบ้านด้วย เพราะบันไดชนิดนี้จะไม่มีชานพักและค่อนข้างชัน

5.Patterm ZigZag

นอกจากจะเป็นบันไดแล้วยังเป็นลวดลายตกแต่งผนังได้อีกด้วย สำหรับบันไดแบบลอยที่นำเหล็กโครงบันไดมาเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับเหล็กโครงสร้างผนังเพื่อถ่ายเทน้ำหนัก แล้วปิดทับด้วยแผ่นไม้เนื้อตะแบกหน้ากว้าง 8 นิ้ว หนา 2 นิ้ว ต่อเข้าลิ้น ทาน้ำมันรักษาเนื้อไม้ทีคอยล์ รองด้านล่างด้วยไม้อัดหนา 20 มิลลิเมตร  แล้วกรุใต้บันไดด้วยวิธีการเดียวกับด้านหน้า หรือจะกรุด้วยลามิเนตขนาด 8 มิลลิเมตร และ12 มิลลิเมตร ก็ได้เช่นกัน อย่าลืมเพิ่มแพตเทิร์นด้วยการกรุบัวเชิงผนังสีเดียวกับวัสดุปิดผิวบันไดเพื่อให้สีและสวดลายไปในทางเดียวกัน

6. Folded Sheet Steel
เพิ่มลุคให้บ้านดูดิบเท่แต่ไม่เถื่อนด้วยการทำบันไดจากแผ่นเหล็กหนา 6-8 มิลลิเมตร นำมาพับเป็นขั้นบันไดรูปตัวแอล  (L) แบบคว่ำ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ตัวแผ่นเหล็กจะยึดติดกับโครงสร้างด้านในผนัง ไม่ลืมทาสีกันสนิม 2 รอบก่อน แล้วจึงเลือกสีชนิดทาโลหะมาทาตามชอบ   

7.The Spiral (มีบรรยายภาพ)
เพิ่มความจี๊ดจ๊าดให้บ้านด้วยบันไดวนสีสันแสบทรวงอย่างสี Majorelle Blue โครงสร้างหลักของบันไดเป็นเหล็กทั้งหมด เพื่อความสะดวกในการก่อสร้างและทำสี ซึ่งสามารถทำสีแบบพาวเดอร์โค้ตติ้งได้ ชานพักและลูกนอนบันไดใช้เป็นตะแกรงเหล็กฉีกหรือตะแกรงเหล็กยืดทำสี หนา 4.5-6 มิลลิเมตร ขนาด 1.20x2.40 เมตร ราคาแผ่นละ 1,850-3,600 บาท ตัวตะแกรงเหล็กฉีกที่มีความแข็งแรงมากกว่าเหล็กแผ่นทั่วไป จะสามารถรับน้ำหนักบนแผ่นได้โดยไม่บิดงอหรือเสียรูป อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา และเพื่อความปลอดภัยอย่าลืมออกแบบกรอบครอบส่วนริมของตะแกรงเหล็กด้วย

แปลน
1.เสาเหล็กกลมทำสี Majorelle Blue ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 เซนติเมตร
2.ชานพักทำจากตะแกรงเหล็กฉีก
3.บันได
4.โครงสร้างชานพัก 2x4 นิ้ว

5.เสาเหล็กกลมทำสี Majorelle Blue ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 เซนติเมตร
6.ราวจับเหล็กกลมทำสี Majorelle Blue ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1นิ้ว
7.เสาลูกกรงเหล็กกลม Majorelle Blue ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร
8.ตะแกรงเหล็กฉีกเก็บมุมทำสี หนา 5 มิลลิเมตร
9.เสาลูกกรงเชื่อมติดกับตะแกรงเหล็กฉีก
10.โครงสร้างลูกนอนเหล็กกล่อง 1x1 นิ้ว

8. Real Steel
บางเฉียบแต่สะดุดสายตาต้องบันไดเหล็กพับแบบไม่มีแม่บันได ตัวแผ่นเหล็กใช้สีธรรมชาติ แนะนำความหนา 4 มิลลิเมตร อย่าลืมเคลือบด้วยน้ำยากันสนิม ตัวแผ่นเหล็กพับตามแบบและยึดติดกับเหล็กข้ออ้อย SD 30 หรือ SD40 มอก.24-2536 ทำสีขาว ทำหน้าที่ยึดบันไดเข้ากับโครงสร้างของบ้านที่เป็นเหล็กกล่อง อีกทั้งยังเป็นราวจับสุดเท่ไปในตัว

TIP
เหล็กข้ออ้อยตามท้องตลาดจะเรียกว่า DB ย่อมาจาก Defomed Bar เช่น DB12 คือ เหล็กข้ออ้อยที่หน้าตัด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 มิลลิเมตร ส่วนที่เรียกตามท้องตลาด คือ SD 30 นั้นหมายความว่า เหล็กเส้นนี้สามารถรับแดงดึงได้มากที่สุดที่ 3000 ksc (ถึงจุดคราก)

9. U-Return Stair (มีบรรยายภาพ)
ถ้าต้องการให้พระเอกของบ้านเป็นบันได อย่างบันไดขนาดใหญ่กลางโถงกลางบ้าน แนะนำเป็นบันไดเหล็กรูปพรรณ และมีชานพัก โดยใช้เหล็ก C-Chanel ขนาดหน้าตัด 125x250 มิลลิเมตร มาทำเป็นแม่บันได รวมไปถึงราวจับที่เป็นชนิดแบบเปิด เสริมราวกันตกสะลิง ส่วนราวจับทำมาจากเหล็กกล่องทาสีดำหน้าตัดขนาด 25x50 มิลลิเมตร  หนา 2.3 มิลลิเมตร  ลูกนอนบันไดทำจากไม้เนื้อแข็งหน้ากว้าง 12 นิ้ว หนา 2 นิ้ว ลบมุม 1x1 เซนติเมตร ทำเฉดสีธรรมชาติตามความชอบ

1.คานเหล็ก C-Chanel หน้าตัด 125x250 มิลลิเมตร
2.ลูกนอนบันไดทำจากไม้เนื้อแข็งหน้ากว้าง 12 นิ้ว หนา 2 นิ้ว ลบมุม 1x1 เซนติเมตร ทำเฉดสีธรรมชาติ
3.เหล็กแผ่นหนา 10 มิลลิเมตร พ่นสีดำ ยึดกับลูกนอนด้วยสกรู

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก




 

Create Date : 21 มีนาคม 2559    
Last Update : 21 มีนาคม 2559 8:47:25 น.
Counter : 3326 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.