ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

3 แบบห้องนอนต้องห้าม ผิดหลัก “ฮวงจุ้ย” ส่งผลชีวิตพัง

3 แบบห้องนอนต้องห้าม ผิดหลัก “ฮวงจุ้ย” ส่งผลชีวิตพัง

สำหรับผู้ที่ยึดหลัก “” ในการออกแบบและตกแต่งบ้านคงต้องใส่ใจกับทุกห้องว่าจะจัดวางตั้งเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกต้องตามหลัก Sanook! Home จึงนำตัวอย่างแบบห้องนอน 3 แบบที่ทุกบ้านห้ามจัดแบบนี้เด็ดขาด มิเช่นนั้นอาจพาชีวิตพังไม่เป็นท่า

1.ตำแหน่งเตียงนอนอยู่ใต้หน้าต่าง ถือเป็นการจัดห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยที่ไม่เหมาะสม แม้บางบ้านอาจรู้สึกว่าเตียงตั้งอยู่ใต้หน้าต่างดูโรแมนติกและสวยงามดี แต่การตั้งเตียงใต้หน้าต่างส่งผลให้พลังรอบๆเตียงนอนอ่อนแอ ทำให้คนที่นอนบนเตียงรู้สึกเศร้า อ่อนแอ และขาดการสนับสนุน แต่สำหรับใครที่ต้องนอนในห้องนอนที่มีเตียงอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวเพียงไม่กี่วันถือว่าไม่มีผลกระทบมากมาย ส่วนวิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือการย้ายเตียงนอนหรือติดตั้งหัวเตียง

2.ตำแหน่งเตียงนอนตั้งอยู่แนวเดียวกับประตู เป็นแบบแปลนห้องนอนที่ผิดหลักฮวงจุ้ยอย่างมาก หากเป็นคนจีนจะถือว่าเตียงนอนนี้เปรียบเหมือนโลงศพ ถ้าเป็นไปตามหลักฮวงจุ้ยการตั้งเตียงนอนตรงกับประตูนั้นทำให้เกิดการรั่วไหลของพลังงาน วิธีแก้ไขคือการย้ายเตียงนอน แต่ถ้าทำไม่ได้คือการติดตั้งฉากที่ปลายเตียง หรือหาเฟอร์นิเจอร์มากั้นระหว่างเตียงนอนกับประตูห้องเช่นโต๊ะกับหมอน หรือจะเป็นชั้นวางของเล็กๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยรักษาพลังบริเวณเตียงนอนไว้

3.ตำแหน่งของเตียงนอนที่ตั้งระหว่างประตูกับหน้าต่าง เป็นตำแหน่งเตียงนอนที่ไม่เหมาะสมเพราะพลังจะไหลออกไปทางประตูและหน้าต่างได้โดยตรง วิธีแก้ไขคือการย้ายเตียงนอน

อย่างไรก็ตามทั้ง 3 ข้อล้วนขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละท่าน

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก //www.knowfengshui.com
ภาพจาก www.istockphoto.com





 

Create Date : 03 ตุลาคม 2558    
Last Update : 3 ตุลาคม 2558 11:21:36 น.
Counter : 991 Pageviews.  

6 บัญญัติเลือก “โคมไฟ” แต่งบ้านทั้งสวย ทั้งประหยัด ถูกหลักฮวงจุ้ย

6 บัญญัติเลือก “โคมไฟ” แต่งบ้านทั้งสวย ทั้งประหยัด ถูกหลักฮวงจุ้ย

เวลาพูดถึงโคมไฟหลายคนมักคิดถึงสิ่งประดับตกแต่งบ้านที่มีราคาสูงเกินเอื้อม แต่ในปัจจุบันโคมไฟทั้งแบบทั่วไปที่เราเห็นและแชนเดอเลียช่อโตหรูหรานั้นต่างก็มีการสร้างสรรค์ออกมาได้หลายรูปแบบ หลายเรทราคา ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเศรษฐีเท่านั้นที่จะตกแต่งบ้านด้วยโคมไฟช่อใหญ่ๆ ได้ Sanook! Home จึงนำเทคนิคการเลือกโคมไฟที่จะทำให้บ้านธรรมดาๆ หรือบ้านเรียบๆ ของคุณสวยงามและมีเสน่ห์ขึ้นได้แบบไม่ต้องกลัวแพง

1.รูปแบบและสไตส์บ้าน สิ่งที่เจ้าของบ้านต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือบ้านของเราเป็นบ้านสไตล์ไหน เป็นบ้านแบบโมเดิร์น บ้านแบบร่วมสมัย หรือบ้านตกแต่งแบบโบราณ ทั้งนี้เพื่อจะได้เลือกรูปแบบและดีไซน์ของโคมไฟให้เข้ากับสไตล์และรูปแบบของบ้าน แต่ในปัจจุบันไม่ได้มีหลักตายตัวว่าบ้านโมเดิร์นจะตกแต่งด้วยแชนเดอเลียช่อหรูไม่ได้ เพราะบ้านปูนเปลือยเมื่อใส่แชนเดอเลียเข้าไปอาจจะกลายเป็นบ้านที่เก๋ไก๋ขึ้นมาทันที

2.ขนาดของโคมไฟ เรื่องของความกว้าง ความยาว และความสูงของโคมไฟเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการเลือกโคมไฟให้เหมาะกับห้องนั้นๆ

3.น้ำหนัก มีบ้านจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้เตรียมโครงสร้างไว้สำหรับติดประดับโคมไฟมาก่อน ดังนั้นคุณควรคำนึงถึงเรื่องน้ำหนักของโคมไฟว่าเหมาะสมและเข้ากับการรับน้ำหนักของบ้านคุณหรือเปล่า

4.จำนวนวัตต์ ถ้าโคมไฟเยอะเกินไป จะทำให้บ้านร้อน แต่เนื่องจากในปัจจุบันมีวิธีแก้ไขโดยการใช้หลอด LED ซึ่งจะทำให้บ้านเย็นลง และสามารถปรับความสว่างของไฟตามต้องการได้

5.งบประมาณ ถือเป็นอีกข้อหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ใช้ประกอบการพิจารณาเลือกโคมไฟ ซึ่งส่วนใหญ่ราคาของโคมไฟจะขึ้นอยู่กับวัสดุ เช่นโคมไฟที่มีวัสดุเป็นไม้ หวาย ผ้า หรือเหล็กจะมีราคาไม่แพง

6.ฮวงจุ้ย ปัจจุบันเจ้าของบ้านจำนวนไม่น้อยใส่ใจเรื่องฮวงจุ้ย และการติดตั้งโคมไฟตามหลักฮวงจุ้ยถือเป็นอีกข้อคำนึงที่มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องในการเลือกโคมไฟ ทั้งการเลือกสีที่เข้ากับธาตุเจ้าของบ้าน และดีไซน์รูปแบโคมไฟ เช่นโคมไฟสีน้ำตาลสื่อถึงธาตุดิน โคมไฟสีฟ้าสื่อถึงธาตุน้ำ หรือโคมไฟที่มีลักษณะเป็นลิ่มแหลมบางบ้านก็ปฏิเสธที่นำเข้าไปติดตั้ง เพราะมันสื่อถึงการทิ่มแทง และจะเลือกโคมไฟที่มีลักษณะทรงกลมแทน

Sanook! Home หวังว่าเมื่อได้หลักการเลือกโคมไฟ 6 ข้อนี้ไปแล้ว หลายคนคงเลือกโคมไฟได้เหมาะสมและเข้ากับบ้านของตัวเองได้ง่ายขึ้นนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก Bellitas
//home.sanook.com/6893/




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2558    
Last Update : 2 ตุลาคม 2558 8:54:02 น.
Counter : 3050 Pageviews.  

ใครว่า “หน้าฝน” ไม่ต้องกังวลเรื่อง “แอร์”

ใครว่า “หน้าฝน” ไม่ต้องกังวลเรื่อง “แอร์”

แอร์หรือเครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่เรารู้สึกว่าจะต้องดูแลเอาใจใส่ในช่วงฤดูร้อนมากเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการใช้งานอย่างหนัก แต่รู้หรือไม่ว่า ฝนตกๆ แบบนี้ ใช่ว่าเราจะละเลยเรื่องแอร์ เพราะเรายังคงต้องมีการเอาใจใส่และดูแลแอร์กับเรื่องความชื้นในหน้าฝนเช่นเดียวกัน Sanook! Home จึงนำวิธีการดูแลแอร์ในช่วงหน้าฝนมาฝากทุกบ้าน เพื่อให้คุณมีเครื่องปรับอากาศใช้ไปได้นานๆ

ปรับอุณหภูมิให้ถูกต้อง การปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศในช่วงหน้าฝนเราควรพิจารณาจากอุณหภูมิของร่างกาย ไม่ควรตั้งอุณหภูมิให้ต่ำมากจนเกินไป หากต้องการปรับอุณหภูมิควรปรับขึ้นทีละองศา

ติดตั้งสายดินทุกครั้ง เนื่องจากแอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้นในช่วงหน้าฝนที่มีความชื้นค่อนข้างสูง เราต้องระวังในส่วนของไฟในตัวแอร์และไฟรั่ว โดยเฉพาะเมื่อต้องไปสัมผัสแอร์หรือคอมเพรสเซอร์ในขณะทำงานอาจโดนไฟช็อตได้ ดังนั้นการติดตั้งเครื่องปรับอากาศทุกครั้งต้องติดตั้งสายดิน

ไฟตก ไปดับ ต้องรีบสับเบรกเกอร์ ในช่วงหน้าฝนจู่ๆ อาจเกิดไฟตกหรือดับ แต่ถ้าเรายังเปิดแอร์อยู่ให้รีบดึงเบรกเกอร์ลง เพราะหากเราไม่ดึงเบรกเกอร์ลง อาจทำให้ฟิลเตอร์ที่คอยส์เย็นหรือคอมเพรสเซอร์แอร์ขาด

อย่าวางคอมเพรสเซอร์แอร์ต่ำจนเกินไป หากเราตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ต่ำ หรือวางไว้ที่พื้นเมื่อฝนตกเป็นจำนวนมากและน้ำท่วมถึง เราควรยกคอมเพรสเซอร์ขึ้นเหนือพื้นเพื่อป้องกันน้ำท่วมหรือสัตว์ต่างๆ เข้าไปอยู่ในคอมเพรสเซอร์ ซึ่งจะทำให้เครื่องดับได้

เช็คว่ามีไฟรั่วหรือไม่ ตรวจเช็คกระแสไฟฟ้าจากสายไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับเครื่องปรับอากาศว่ามีการรั่วหรือไม่ รวมถึงต้องไม่ติดตั้งใกล้วัตถุไวไฟ

ตรวจเช็คกลิ่นอับ กลิ่นอับในแอร์มักเกิดขึ้นในช่วงหน้าฝนเพราะความอับชื้น ดังนั้นวิธีที่จะช่วยลดปัญหากลิ่นอับของแอร์คือการดึงแผ่นกรองอากาศออกมาทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

ลองกลับไปตรวจเช็คสภาพแอร์และการทำงานของเครื่องปรับอากาศที่ดู จะได้หมดกังวลเรื่องแอร์

ภาพจาก //energy.gov

//home.sanook.com/6813/




 

Create Date : 29 กันยายน 2558    
Last Update : 29 กันยายน 2558 8:40:08 น.
Counter : 689 Pageviews.  

6 ไอเดีย ออกแบบ “ห้องน้ำ” ให้ทำความสะอาดง่าย ไม่เปลืองแรง

6 ไอเดีย ออกแบบ “ห้องน้ำ” ให้ทำความสะอาดง่าย ไม่เปลืองแรง

แม่บ้าน Sanook! Home เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกเบื่อทุกครั้งที่ต้องทำความสะอาดห้องน้ำ ปกติจะทำความสะอาดทุกอาทิตย์ แต่พอครบรอบทำความสะอาดแล้วก็รู้สึกขี้เกียจตลอด ว่าแต่มันจะมีวิธีการอย่างไรที่ทำให้เราดูแลและทำความสะอาดห้องน้ำได้ง่ายขึ้นแบบประหยัดแรง ลองมาดูกันว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง

1.เปียก-แห้งแบ่งให้ชัดเจน การแบ่งแยกโซนเปียก-แห้งของห้องน้ำให้ชัดเจนเช่นบริเวณที่ใช้อาบน้ำซึ่งอาจเปียกอยู่เสมอ หรือบริเวณที่ใช้ขับถ่ายซึ่งควรจะแห้ง จะช่วยให้เราทำความสะอาดพื้นที่ในส่วนต่างๆ ในห้องน้ำได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าห้องน้ำใครยังไม่ได้แบ่งส่วนแห้งและส่วนเปียกออกจากกันก็อาจจะก่อพื้นกั้น กระจกกั้น ม่านกั้นส่วนอาบน้ำ หรืออาจจะแบ่งเป็นตู้อาบน้ำ (ซึ่งส่วนนี้อาจจะมีราคาสูง) โดยโซนเปียกนั้นควรอยู่ส่วนในสุด

2.เปิดช่องให้แสงธรรมชาติ ห้องน้ำเป็นห้องที่ต้องเจอกับความเปียกชื้นบ่อยครั้ง ดังนั้นตั้งแต่ออกแบบก่อสร้างควรเปิดช่องให้มีแสงสว่างจากภายนอกส่องถึงภายในห้องน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพราะมันจะช่วยระบายอากาศ ไม่ทำให้ห้องน้ำเหม็นอับ ลดการเกิดเชื้อราภายในห้องน้ำได้เป็นอย่างดี

3.เลือกกระเบื้องให้เหมาะสม กระเบื้องปูพื้นห้องน้ำหรือผนังห้องน้ำควรเป็นกระเบื้องที่ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นที่สะสมของสิ่งสกปรกหรือคราบสกปรกต่างๆ ได้ง่าย เช่นกระเบื้องแผ่นใหญ่จะได้ไม่มีร่องยาแนวเป็นจำนวนมาก เวลาทำความสะอาดแต่ละครั้งจะได้ประหยัดแรง

4.ลดความซับซ้อน ไม่ต้องใส่รายละเอียดภายในห้องน้ำมาก พยายามไม่ให้ห้องน้ำมีซอกหลืบหรือมุมต่างๆ มากจนเกินไป เพราะมันจะทำให้บ้านเกิดความสกปรกได้ง่ายและไม่สะดวกในการทำความสะอาด

5.เพิ่มชั้นหรือตู้เก็บของ ภายในห้องน้ำมีของใช้มากมายทั้งครีมอาบน้ำ แชมพูสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน รวมถึงบางบ้านอาจมีอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดห้องน้ำเก็บไว้ภายในห้องด้วย แต่หากเราเก็บของเหล่านั้นแบบแยกไว้เป็นสัดส่วน ไม่วางไว้เกะกะจะทำให้เราสามารถทำความสะอาดห้องน้ำได้ง่ายขึ้นเพราะการเก็บของอย่างเป็นระเบียบจะทำไม่ทำให้พื้นที่ในห้องน้ำมีความซับซ้อนจนเกินไป

6.รองเท้าเดินในห้องน้ำ การมีรองเท้าสำหรับใส่ในห้องน้ำโดยเฉพาะเป็นเรื่องที่แนะนำให้ทำเพราะนอกจากจะช่วยป้องกันเชื้อโรคบนพื้นห้องน้ำระหว่างการใช้งานห้องน้ำแล้ว การสวมรองเท้าเดินในห้องน้ำยังลดความสกปรกที่อาจเกิดขึ้นกับห้องน้ำได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องเปลืองแรงในการทำความสะอาดห้องน้ำมากนัก

ภาพจาก www.istockphoto.com

//home.sanook.com/6785/




 

Create Date : 28 กันยายน 2558    
Last Update : 28 กันยายน 2558 8:47:16 น.
Counter : 805 Pageviews.  

บ้านแคบ..แต่งอย่างไรให้ดูโล่ง โปร่งสบาย แถมสวยโดนใจทุกคนในบ้าน

บ้านแคบ..แต่งอย่างไรให้ดูโล่ง โปร่งสบาย แถมสวยโดนใจทุกคนในบ้าน

ขอบคุณภาพประกอบจาก //www.theartofbespoke.com/

เมื่อบ้านแคบจนดูน่าอึดอัด ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็รู้สึกไม่สบายตาเอาเสียเลย ลองนี่สิ การตกแต่งบ้านให้ดูสวย โล่งโปร่งสบายและน่าอยู่ ซึ่งคุณสามารถเนรมิตแคบๆ ของคุณให้กลายเป็นบ้านที่ดูกว้างขวางในทุกๆ ความรู้สึก ได้ไม่ยากเลยล่ะ

แต่งบ้านแบบชิดผนัง

การแต่งบ้านแบบชิดผนัง คือการจัดโซฟา ตู้และของประดับตกแต่งต่างๆ ให้อยู่ติดผนังบ้านทั้งหมด และอะไรที่สามารถวางซ้อนกันได้ ก็ควรจะนำมาซ้อนกันให้เป็นระเบียบ แค่นี้ก็จะทำให้บ้านดูกว้างขวางมากขึ้นแล้ว แถมยังมีพื้นที่ใช้สอยอย่างเหลือเฟืออีกด้วย

ขอบคุณภาพประกอบจาก //www.popsugar.com/

ตกแต่งอย่างกลมกลืน

บ้านที่มีพื้นที่น้อยและดูแคบแบบนี้ ควรตกแต่งด้วยของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่ดูกลมกลืนกันมากที่สุด หลีกเลี่ยงของตกแต่งที่มีความตรงข้ามกันอย่างเห็นได้ชัด เช่น ของตกแต่งสีอ่อนกับสีเข้ม เป็นต้น เพราะนั่นจะยิ่งทำให้บ้านดูเกะกะ และแคบกว่าเดิมได้ เพราะฉะนั้นเพื่อบ้านสวย เรามาเน้นที่มีกลมกลืนและความสวยงามอย่างลงตัวกันดีกว่า

ขอบคุณภาพประกอบจาก //www.theartofbespoke.com/

กระจกใสเพิ่มพื้นที่

การกั้นผนังห้องแบบเดิมๆ อาจจะดูไมค่อยเวิร์กสักเท่าไหร่ แถมยังทำให้บ้านดูแคบและน่าอึดอัดอีกด้วย ลองเปลี่ยนมากั้นผนังห้องด้วยกระจกดูสิ ซึ่งอาจจะใช้กั้นระหว่างห้องโถงกับห้องนั่งเล่นก็ได้ ส่วนห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัวก็กั้นแบบปกติ วิธีนี้จะทำให้บ้านดูโล่งโปร่งสบายมากขึ้น และยังช่วยเพิ่มความสวยงามและเรียบหรูอย่างมีสไตล์ด้วยนะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก //www.theartofbespoke.com/

ตกแต่งผนังด้วยสีสดใส

ถึงแม้ว่าคุณจะชอบตกแต่งผนังบ้านของคุณด้วยสีเข้มมากขนาดไหน แต่เพื่อความโล่งโปร่งสบาย และเพิ่มความกว้างขวางให้กับบ้านแล้ว แนะนำให้เลือกทาสีผนังบ้านหรือติดวอลเปเปอร์ที่มีสีสันสดใส อย่างสีเหลือง ฟ้า ชมพูอ่อนหรือสีเนื้อ ฯลฯ จะดีกว่านะเพื่อที่บ้านของคุณจะได้ไม่ดูแคบกว่าเดิม

ขอบคุณภาพประกอบจาก //blog.furnishmyway.com/

ใช้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน

เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินหรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชั่นหลากหลาย สามารถพับเก็บได้ เป็นได้ทั้งโซฟาและเตียงนอนในขณะเดียวกัน แบบนี้แหละเหมาะกับการตกแต่งบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่และความโล่งโปร่งให้กับบ้านมากทีเดียว แถมยังลดค่าใช้จ่ายเนื่องจากไม่ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นอีกด้วยนะ ซึ่งเดี๋ยวนี้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ก็กำลังเป็นที่นิยมไม่น้อยเลยล่ะ

บ้านแคบไม่ใช่ปัญหา หากคุณรู้จักที่จะตกแต่งและแปลงโฉมให้บ้านของคุณดูโล่งโปร่ง  สบายและน่าอยู่มากขึ้น ซึ่งเมื่อบ้านโปร่งก็จะทำให้บ้านดูกว้างขวางขึ้นไปด้วย ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ในการตกแต่งบ้านของคุณดูนะ แล้วบ้านหลังน้อยๆ จะกลายเป็นบ้านที่ดูกวางขวาง มีสไตล์สวยอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว


//home.sanook.com/6643/




 

Create Date : 24 กันยายน 2558    
Last Update : 24 กันยายน 2558 8:35:14 น.
Counter : 1213 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.