ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

จัดสวนน้อยๆ ด้วยงบ 250 บาท

จัดสวนน้อยๆ ด้วยงบ 250 บาท

ตามสไตล์ Sanook! Home นะคะ ที่ชอบแนะนำอะไรที่ทำได้จริง และราคาไม่แพง สามารถดัดแปลงทำได้เองแบบไม่ต้องลังเล เปิดปีใหม่มาแบบนี้เลยมีไอเดียขยาดย่อมของคุณ totochan ห้องชายคา เว็ปไซต์พันทิปดอทคอมมาเป็นไอเดียให้บรรดาคุณลูกบ้าน ที่ชอบจัดสวน แต่มักมีข้ออ้างเรื่องไม่มีเวลา หรือไม่มีเงิน

สำหรับคุณ totochan เขาใช้เวลาช่วงหยุดปีใหม่นั่งจัดสวนที่บ้านด้วยงบน่ารักๆ ว่าแล้วไปดูสวนน้อยๆ ของเขากันเลยค่ะ

สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ ปีใหม่ที่ผ่านมานี้ผมไม่ได้ไปไหน ที่จริงทุกๆ ปีก็ไม่เคยไปไหนครับ กลัวคนเยอะๆ เลยอยู่บ้านนั่งๆ นอนๆ ก็เตรียมการไว้ว่าปีใหม่จะจัดสวนใหม่ ก่อนหน้านี้ก็เลยไปคลอง 15 ไปขนต้นไม้มา แต่รถมันเล็กครับ เอามาได้ไม่กี่ต้น พอเอามาถึงบ้านก็มาตั้งทิ้งไว้เพราะไม่รู้จะเอาต้นไหนไว้ตรงไหน...พอวันหยุดก็เลยเอาพิทูเนียไว้ในกระถางเดียวกับสับปะรดสี ไม่รู้มันปลูกรวมกันได้ไหม เดี๋ยวใครจะอยู่ใครจะไปคงรู้กัน 555



ซื้อกุหลาบมาด้วย 4 ต้น ต้นเล็ก 60 ต้นใหญ่ 300 ครับ รูปถ่ายวันที่เพิ่งเอามาครับ ตอนนี้ดอกบานสะพรั่งทุกต้นเลย สวยมากๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นคนปลูกกุหลาบแฮะ
แฟนผมไม่ชอบกลิ่นกุหลาบ แต่พอผมพาไปดูเท่านั้นแหละอยากได้จนตัวสั่น บอกว่าสวยมาก อิอิ



กะจะลงตำแหน่งนี้ครับ อดีตเคยเป็นที่อยู่ของคล้าหลังแดง แต่มันรกเลยเอาออกไปครับ กะจะหาน้ำพุทรงครึ่งวงกลมมาแล้วปลูกกุหลาบไว้รอบๆ ตอนนี้รองบประมาณอยู่ครับ
จัดสวนน้อยๆ ในวันปีใหม่ครับ งบประมาณค่าของ 100 บาท ค่าต้นไม้อีก 150 บาท

ทีนี้ยังเหลือดอกผีเสื้ออีก 30 ต้น... ไม่รู้จะซื้อมาทำไมเยอะแยะ และพิทูเนียอีก 1 กระถางครับ มองซ้ายมองขวาเห็นตรงไหนว่างๆ ก็เลยเอาดอกผีเสื้อลงไปครับ

คราวนี้ก็มาถึงของที่จะโชว์จริงๆ ซะทีครับ พวกก่อนหน้านี้มันแค่เอาต้นไม้วางๆ ก็จบ แต่อันนี้เห็นว่ามันมี DIY นิดหน่อยก็เลยอยากเอามาให้ดูครับ เนื่องจากที่บ้านจะมีไม้ใหญ่อยู่ 3 ต้น แล้วก็จะมีไม้ค้ำอยู่ประมาณนี้ครับ



เมื่อวานผ่านไปแถวบ้านเห็นร้านขายไม้ยังไม่ปิด วันนี้เลยออกไปสอยไม้ยูคาขนาด 2 นิ้วมา 7 ท่อน ท่อนละ 3 เมตร ให้เขาหั่นครึ่งให้จะได้เอาใส่รถได้ครับ
แล้วก็ซื้อตะปู 3 นิ้วมาครึ่งกิโล มาถึงก็จัดการเลื่อยๆ ตอกๆ เข้าไป เพื่อจะทำที่ปลูกดอกไม้ ตอนทำไม่ได้ถ่ายรูปครับ มีแต่ตอนเสร็จแล้วประมาณนี้ครับ



เอาดอกผีเสื้อเหลือๆ มาวางๆ และพิทูเนีย 1 ต้น ต้นกระเพราอีก2 (มันมาได้ยังไง)
รวมค่าต้นไม้ประมาณ 150 บาท ส่วนค่าไม้จริงๆ ไม่ถึงร้อยครับ รวมค่าตะปู 25 บาทใช้ไม่หมด ตีคร่าวๆ ไม่น่าเกิน 100 ครับ
เดี๋ยวผมว่าจะไปหาต้นเดปมาลงเพิ่มอีก หรือเห็นต้นอะไรสวยๆ ก็เอามาใส่ลงไปจะได้มีหลายๆ สีทั้งไม้ดอกไม้ใบเลย
ตอนที่ถ่ายรูปนี้ยังไม่ได้ลงกระถางครับพอดีลองเอามาวางๆ ดูก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรวบรวมกระถางมาทำอีกรอบครับ



ไม่แน่ใจว่ามีใครเคยทำหรือเปล่าพอดีคุณแฟนบอกมาว่าอยากได้ประมาณนี้ผมเลยจัดให้ครับ
(แฟนมาช่วยเลื่อยไม้ได้ 3 ท่อน ตอกตะปูได้ครึ่งตัว มือพองครับ เลยเข้าบ้านไปนอน)

ตอนนี้ยังกลัวว่าถ้าหญ้าด้านใต้โดนแดดน้อยมันจะตายหรือเปล่า ต้องรอลุ้นอีกสักพักครับ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ว่างๆ จะทำที่เหลือต่อครับ ดูท่าว่าจะได้ไปคลอง 15 อีกรอบแล้วละ

ขอบคุณคุณ totochan //pantip.com/topic/33051090




 

Create Date : 09 มกราคม 2558    
Last Update : 9 มกราคม 2558 8:14:52 น.
Counter : 2749 Pageviews.  

เนรมิตผนังหน้าบ้านสุดรัก ด้วยการทำลวดลาย (Texture Design)ลาย “ลาวา”

เนรมิตผนังหน้าบ้านสุดรัก ด้วยการทำลวดลาย (Texture Design)ลาย “ลาวา”

เนรมิตผนังใหม่ด้วย สำเร็จรูป เสือ เดคอร์ Color Render (ฉาบสี) หนึ่งในสินค้ากลุ่มปูนซีเมนต์สำหรับงานตกแต่งจากตราเสือ ในการฉาบลวดลาย(Texture Design) ลวดลาย “ลาวา” ซึ่งเลือกใช้ผนังสีส้มอ่อน ที่ดูอบอุ่น เป็นธรรมชาติ และตกแต่งร่วมกับไม้กระถาง โดยเลือกไม้ใบสีเขียว และไม้ดอกสีขาว เพื่อคุมโทนสีให้เข้ากันและวางม้านั่งเพื่อใช้ประโยชน์เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับครอบครัวได้

การทำผนังลวดลาย(Texture Design) ลวดลาย "ลาวา" มีขั้นตอนดังนี้

1. เริ่มจากการเตรียมพื้นผิวที่จะทำการฉาบผนัง โดยการสกัดผนังเดิมให้มีพื้นผิวเสมอกันทั่วทั้งผนัง
2. ผสมปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เสือเดคอร์ White Plaster (ฉาบขาว) ฉาบปิดพื้นผิวให้เรียบเนียนเสมอกัน เมื่อปูนแห้งแล้วทาสี “Wall Mastic” เพื่อช่วยให้เนื้อปูนฉาบยึดติดกับผนังเดิมดียิ่งขึ้น โดยทาอย่างน้อย 2 รอบ ทิ้งไว้ให้แห้ง 1 คืน
3. ผสมปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เสือเดคอร์ Color Render (ฉาบสี) รหัส OR02 กับน้ำสะอาด อัตราส่วนน้ำสะอาด 8-9 ลิตร ต่อปูน 1 ถุง (25 กิโลกรัม) และน้ำยาประสานคอนกรีต แล้วกวนด้วยสว่านไฟฟ้าติดใบกวน จนกระทั่งเนื้อปูนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ลักษณะเนื้อปูนจะเป็นครีมข้น แล้วจึงนำไปใช้ โดยใช้ลูกกลิ้ง กลิ้งจากบนลงล่างให้ทั่วทั้งผนัง ลักษณะการกลิ้งทำเหมือนการกลิ้งสีทั่วไป เสร็จแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง 1 สัปดาห์ จนผนังแห้งสนิท จึงค่อยทาสีเคลือบปูนชนิดด้าน เพื่อเคลือบปิดรูพรุนต่างๆในเนื้อปูน อีก 2 รอบ เป็นขั้นตอนสุดท้าย

TIP




 

Create Date : 08 มกราคม 2558    
Last Update : 8 มกราคม 2558 7:57:14 น.
Counter : 1612 Pageviews.  

5 วิธีเพิ่ม “พลังบวก” ให้บ้าน

5 วิธีเพิ่ม “พลังบวก” ให้บ้าน

ตำแหน่งที่ตั้งของสิ่งหรือห้องต่างๆ ภายใน เป็นตัวแทนของพลังงาน หากเราตั้งสิ่งเหล่านั้นถูกที่ ถูกทาง เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวก็จะอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขเช่นเดียวกัน

1.ประตูทางเข้าหลัก : ประตูทางเข้าบ้านเปรียบเสมือนปากของบ้านที่จะนำพลังงานหลักเข้ามาสู่ตัวบ้าน ดังนั้นบ้านของคุณไม่ควรมีประตูตั้งอยู่ในตำแหน่งที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะมันเป็นทางเข้าของพลังปีศาจ และนำพาความโชคร้ายเข้ามาสู่ตัวบ้าน

2.แท่นบูชา : ควรตั้งแท่นบูชาไว้ตรงทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และเวลานั่งสวดมนต์ คุณควรจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก

3.ห้องครัวเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ :  ตำแหน่งที่ตั้งครัวควรอยู่คือทิศตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าห้องครัวอยู่ทางทิศเหนือ หรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะนำปัญหาทางด้านการเงินหรือสุขภาพมาให้คนในครอบครัว วิธีแก้ไขคือให้นำชามสีทองแดงสามใบห้อยจากเพดาน โดยห้ามแขวนเหนือเตาไฟ

4.ห้องน้ำหรือห้องสุขา : ห้องน้ำหรือห้องสุขามีพลังของขุมนรก ดังนั้นตำแหน่งที่ตั้งของห้องน้ำจึงควรอยู่ทางทิศใต้ หรือทิศตะวันตก โดยไม่ควรตั้งอยู่ทางทิศเหนือ หรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะจะนำปัญหาทางด้านการเงิน สุขภาพ และการศึกษามาให้กับคนในบ้าน

5.ศูนย์กลางของบ้านคือจมูกของบ้าน : เมื่อศูนย์กลางของบ้านเปรียบเสมือนจมูก ที่ต้องสูดลมหายใจเข้าออก ดังนั้นตำแหน่งกลางบ้านควรเปิดโล่ง เป็นระเบียบเรียบร้อย ถ้ากลางบ้านมีผนังหรือกำแพงจะทำให้เกิดปัญหาทางด้านการเงิน วิธีแก้ไขคือการแขวนหลอดไฟฟ้าสีน้ำเงินและเปิดทิ้งไว้ตลอด 24 ชม.

สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงพื้นฐานของการวางตำแหน่งของห้องต่างๆ ภายในบ้าน ดังนั้นถ้าบ้านคุณมีห้องต่างๆ อยู่ผิดตำแหน่งก็ควรหาวิธีปรับแก้เสีย

ภาพจาก www.istockphoto.com




 

Create Date : 07 มกราคม 2558    
Last Update : 7 มกราคม 2558 7:45:02 น.
Counter : 997 Pageviews.  

4 ของใช้ในบ้าน กับ สารพัดประโยชน์ใช้สอย

4 ของใช้ในบ้าน กับ สารพัดประโยชน์ใช้สอย


เราอาจจะคุ้นเคยกับหน้าที่หลักๆ จากของใช้เหล่านั้น เช่นหนังสือพิมพ์ที่เหลือจากการอ่าน เราก็อาจนำมันไปเช็ดกระจก ผงเกลือที่ปกติใช้สำหรับปรุงอาหาร เราจะรู้ไหมว่ามันยังใช้แช่ผัก เพิ่มความกรอบและสดให้กับผักได้อีก ของใช้หหลายๆ ชิ้นในก็มีหน้าที่และประโยชน์มากกว่าที่เราคุ้ยเคย
Sanook! Home เลยรวบรวมบรรดาของใช้ต่างๆ ที่สามารถทำหน้าที่ได้หลากหลายมากกว่าหน้าที่ของมัน พร้อมแล้วมาสำรวจหน้าที่ของใช้เหล่านั้นกันเถอะค่ะ



หนังสือพิมพ์เก่า
-เช็ดกระจก นำกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าชุบน้ำพอหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดกระจก
-ดูดความชื้นรองเท้าเปียก โดยขยำกระดาษหนังสือพิมพ์แล้วยัดเข้าไปในรองเท้าที่เปียก จนกว่ารองเท้าจะแห้ง
-รักษาทรงรองเท้า หมวก ขยำหนังสือพิมพ์เป็นแท่งหรือท่อนให้เข้ากับรูปทรงของรองเท้า กระเป๋า และหมวก
-ดูดกลิ่นอับ นอกจากหนังสือพิมพ์ช่วยรักษาทรงรองเท้า แล้วยังช่วยดูดกลิ่นอับของรองเท้าได้อีกด้วย



กาแฟ
-หากเราอมเมล็ดกาแฟไว้จะช่วยดับกลิ่นปาก ทำให้ลมหายใจหอมสดชื่น
-ช่วยกำจัดกลิ่นอาหารติดมือ หากมือเรามีกลิ่นคาวจากการทำอาหาร ให้นำเมล็ดกาแฟมาขยำไว้ หรือกำไว้สักครู่ น้ำมันจากเมล็ดกาแฟจะช่วยดูดกลิ่นเหม็นเหล่านั้น
-กากกาแฟช่วยดูดกลิ่นในตู้เย็นได้ด้วย โดยนำกากกาแฟที่ใช้แล้วไปตากแดด แล้วนำไปใส่ถุง จากนั้นนำไปใส่ไว้ในตู้เย็น กากกาแฟจะช่วยดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์
-สำหรับนักจัดสวน กากกาแฟถือเป็นปุ๋ยอย่างดีให้กับต้นไม้ โดยต้นไม้ที่มีกากกาแฟบำรุงจะไม่มีหอยทากมารบกวน นอกจากนั้นกากกาแฟยังสามารถไล่มดได้ด้วย



วอดก้า
-ล้างมีดโกน ผสมวอดก้ากับน้ำแล้วนำมีดโกนไปแช่ทำความสะอาด
-ผสมวอดก้ากับยาสระผม จะทำให้ผมเงางามยิ่งขึ้น
-หากต้องการให้ดอกไม้อยู่ได้นาน ให้ผสมวอดก้าเล็กน้อยกับน้ำตาลนิดหน่อยแล้วใส่ลงไปในแจกันดอกไม้ ดอกไม้จะอยู่ได้นานขึ้น
-นำสำลีชุดวอดก้าเช็ดแว่นตา และกระจก



เบกกิ้งโซดา หรือ ผงฟู
-นำผงเบกกิ้งโซดาผสมน้ำอุ่น แล้วแช่หวีหรือแปรงลงไป ก่อนจะทำไปล้างด้วยแชมพูเด็กอีกรอบ เพียงเท่านี้แปรงและหวีก็จะสะอาดน่าใช้
-ขัดเท้าด้วยเบกกิ้งโซดา โดยนำเบกกิ้งโซดาผสมลงในอ่างน้ำ แล้วแช่เท้าลงไป ก่อนจะค่อยๆ ขัดถู เท้าของคุณก็จะสะอาด นุ่ม
-ซักผ้าด้วยเบกกิ้งโซดา จะทำให้ผ้าขาวสะอาด หมดกลิ่นอับ เพียงใช้เบกกิ้งโซดาแทนผงซักฟอก นอกจากผ้าจะสะอาดแล้ว ยังช่วยประหยัด และรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
-ผงฟูช่วยทำความสะอาด ล้างจาน ขัดพื้นห้องน้ำ ล้างผัก รวมไปถึงขจัดคราบสกปรกตามขอบบานหน้าต่าง

เห็นนานาสารพัดประโยชน์จากของใช้ใกล้ตัว ที่เราอาจมองข้ามกันแล้วใช่ไหมคะ บอกแล้วว่าสุดคุ้ม

ภาพจาก www.istockphoto.com




 

Create Date : 05 มกราคม 2558    
Last Update : 5 มกราคม 2558 7:41:58 น.
Counter : 3473 Pageviews.  

รูปแบบของเคาน์เตอร์ห้องครัว

รูปแบบของเคาน์เตอร์ห้องครัว

เขียนโดย Administrator KM   

การวางผังเคาน์เตอร์นั้นต้องจัดวางให้เหมาะสมกับการใช้งาน เหมาะสมกับพื้นที่ และได้รับประโยชน์ในการใช้สอยได้อย่างเต็มที่ โดยอาจจะแบ่งได้เป็น 6 ลักษณะ คือ



1. ลักษณะการจัดวางแบบ รูปตัด I (I-Shaped Kitchen) ตู้ครัวอยู่ชิดผนังเป็นเส้นตรง อุปกรณ์หัวเตา อ่างล้างจานและตู้เย็น เป็นครัวที่มีการจัดวางเป็นแบบแถวเดียวชิดผนังหมด เหมาะสำหรับครัวในบ้านหลังเล็กๆ เริ่มจากส่วนบริเวณทำความสะอาดอ่างน้ำสำหรับล้าง ถัดมาเป็นส่วนเตรียมอาหารและเตา เมื่ออาหารเสร็จเรียบร้อยก็นำมาวางบนที่วางพักอาหารเพื่อรอเสิร์ฟ การจัดแบบนี้เริ่มจากขวามือไปยังด้านซ้ายของเคาน์เตอร์ในครัว


2. ลักษณะการจัดวางแบบเส้นขนาน 2 ด้าน (Gallery Kitchen) ตู้ครัวมีทั้งหมด 2 ตู้ อยู่ตรงข้ามกับแบบเส้นขนาน การประกอบอาหารจะสะดวกกว่าแบบเส้นตรงเพราะ ตำแหน่งของหัวเตา อ่างล้างจานและตู้เย็นอาจอยู่ตรงข้ามกันตามความเหมาะสม



3. ลักษณะการจัดวางแบบ รูปตัว L (L-Shaped Kitchen) เป็นครัวที่ใช้การได้ดีเช่นกันสำหรับการทำงานในจุดทั้งสาม (เตา ,อ่าง ,ตู้เย็น) เหมาะกับห้องที่มีเนื้อที่ปานกลาง และเป็นบ้านโล่งๆ ที่ไม่มีการกั้นแบ่งห้องทุกห้อง (Open Plan) ขนาดห้องครัวประมาณ 2.50 x 3.00 เมตร ลักษณะการจัดวางอุปกรณ์สามารถทำได้ง่ายกว่าแบบแถวยาวตามทางเดิน เนื่องจากมีพื้นที่มากขึ้นและระยะเคลื่อนที่ขณะใช้งานน้อยลง ที่สำคัญคือ ควรจัดให้ส่วนเตรียมอาหารและเตาอยู่ติดผนังด้านที่สามารถระบายกลิ่นควันออกภายนอกบ้านได้ง่าย


4. ลักษณะการจัดวางแบบ รูปตัว U (U-Shaped Kitchen) เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่เหลือเฟือ ครัวนี้จึงมีความยืดหยุ่นมากที่สุดเพราะยังสามารถขยายพื้นที่ของเคาน์เตอร์ และชั้นเก็บของต่างๆ ได้ แบบนี้มีขนาดประมาณ 3.00 x 3.00 เมตร ลักษณะห้องเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส หากห้องมีขนาดใหญ่มากอาจเพิ่มโต๊ะกลางสำหรับพักอาหารหรืออุปกรณ์อื่นได้อีก เพดานห้องครัวไม่ควรจะต่ำเกินไป เพราะจะทำให้การระบายอากาศไม่สะดวกเท่าที่ควรและอาจทำให้อึดอัด ได้ สำหรับห้องครัวในบ้านธรรมดาทั่วไปควรมีเพดานสูงจากพื้น 2.20 – 2.70 เมตร



5. ลักษณะการจัดวางแบบ รูปตัว G (G-Shaped Kitchen) เป็นครัวที่ออกแบบเพื่อใช้งานต่อเนื่องจากครัวรูปตัวยู มีรูปแบบการใช้งานคล้ายครัวรูปตัวยูทุกอย่าง แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือเพนนินซูล่า เป็นเคาน์เตอร์ที่อยู่ตรงกลางห้องเพื่อให้เป็นส่วนรับประทานอาหารเล็กๆ คล้ายมินิบาร์สำหรับ 2 - 4 ที่นั่ง อยู่ที่ปลายด้านใดด้านหนึ่งของตัวยู เพนนินซูล่ามักออกแบบให้ต่อเนื่อง เป็นส่วนหนึ่งของเคาน์เตอร์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือพับเก็บได้ ด้านล่างทำเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บข้าวของหรือเปิดโล่งเพื่อเก็บเก้าอี้เมื่อไม่ได้ใช้งาน พื้นที่บริเวณเพนนินซูล่านี้อาจไม่เพียงพอต่อการรับประทานอาหารมื้อใหญ่อย่างมื้อเย็นที่มีสมาชิกมาก แต่เหมาะสำหรับเป็นที่รับประทานอาหารเช้า หรือพื้นที่เตรียมเสิร์ฟอาหารหากมี งานเลี้ยงภายในบ้าน



6. ลักษณะการจัดวางแบบเกาะกลาง (Island Kitchen) โดยพัฒนามาจากครัวรูปตัว L และมีเกาะกลางหรือไอส์แลนด์ (Island) ที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อเป็นอ่างล้างจาน เตาปรุงอาหาร ที่วางของ หรือโต๊ะรับประทานอาหาร ลักษณะของไอสแลนด์มักเป็นเคาน์เตอร์รูปสี่เหลี่ยม ผืนผ้าเพื่อสามารถใช้ ประโยชน์ได้เต็มที่ โดยมีระยะห่างกันระหว่างเคาน์เตอร์กับไอส์แลนด์ไม่น้อย กว่า ด้านละ 1.20 เมตร ความสูงของเกาะกลางจะอยู่ที่ประมาณ 0.90 เมตร หรือปรับเปลี่ยนความสูงตามผู้ใช้




 

Create Date : 04 มกราคม 2558    
Last Update : 4 มกราคม 2558 12:45:53 น.
Counter : 4258 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.