ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

3 เรื่องที่คุณได้เรียนรู้จากการอยู่ “คอนโดแคบ แคบ ”

3 เรื่องที่คุณได้เรียนรู้จากการอยู่ “คอนโดแคบ แคบ ”

ภาพจาก Jesica's Mix & Match Studio

มันอาจเป็นเรื่องน่าประหลาดใจไปสักหน่อย สำหรับบางคนที่รู้สึกพอใจเมื่อตนเองได้อยู่ในคอนโด หรืออพาร์ทเมนท์ขนาดย่อม แต่ลองมาดูกันไหมว่า มันมีเรื่องดีอะไรบ้างที่คุณจะได้เรียนรู้จากการต้องอยู่ในขนาดเล็ก

1.คุณจะรู้ว่าสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ คืออะไร แน่นอนว่าการย้ายออกจากบ้านที่มีขนาดใหญ่เพื่อไปอยู่ในคอนโดหรืออพาร์ทเมนท์ขนาดย่อมนั้น คุณจะต้องพบกับข้อจำกัดมากมายในการจัดของ ที่เดิมอาจจะมีพื้นที่มากกว่า แต่ถ้าคุณต้องย้ายไปอยู่ในคอนโดแคบๆ คุณจะรู้ว่าสิ่งใดคือสิ่งที่คุณต้องการและเลือกนำไปไว้มากที่สุด เช่นคุณอาจจะเลือกเอาหนังสือที่คุณไม่เคยอ่าน คุณอาจจะเลือกแชมเปญที่วางทิ้งไว้ที่บ้านนานแล้วไปด้วย ดังนั้นมันจะทำให้คุณรู้ว่าสิ่งไหนจำเป็นสำหรับคุณอย่างแท้จริง

2.ทำให้เรามีความรับผิดชอบกับสิ่งที่เรามี ตามที่กล่าวไปข้างต้นว่าของที่คุณตั้งใจเลือกไปไว้ที่คอนโดนั้นจะต้องเป็นของจำเป็นสำหรับคุณจริงๆ ดังนั้นคุณจะมีความรับผิดชอบต่อสิ่งของเหล่านั้นอย่างที่สุด เพราะมันล้วนเป็นของที่คุณเลือกมาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสน้อยมากที่คุณจะหลงลืมไม่ทำความสะอาดพวกมัน

3.ห้องคืออาณาจักรของเรา ในห้องเล็กๆ ของคุณ คุณสามารถทำทุกอย่างได้อย่างอิสระ ดังนั้นที่นี่จึงเป็นขอบเขตหรือพื้นที่ส่วนตัวที่คุณจะอาบน้ำแบบไม่ปิดประตู หรือทำอะไรได้ตามใจปรารถนา และไม่ว่าคุณจะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาแค่ไหน เมื่อคุณเปิดประตูเข้าไปในคอนโดของคุณ ที่นั่นมันก็คือโลกส่วนตัวสำหรับคุณแล้ว

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก //www.apartmenttherapy.com




 

Create Date : 08 กันยายน 2558    
Last Update : 8 กันยายน 2558 20:50:59 น.
Counter : 779 Pageviews.  

ฮวงจุ้ยออฟฟิศ 6 เคล็ดลับจัดโต๊ะอย่างไรให้งานราบรื่น

ฮวงจุ้ยออฟฟิศ 6 เคล็ดลับจัดโต๊ะอย่างไรให้งานราบรื่น

หากคุณรู้สึกไม่มีความสุขในการทำงาน มันคงเป็นชีวิตที่น่าสงสารเพราะจำนวนชั่วโมงการทำงานแต่ละวันกินเวลาประมาณ 8-10 ชม.เข้าไปแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงทั้งเพื่อนร่วมงานและเจ้านายก็ดูจะเป็นสิ่งขับเคลื่อนหรือส่งผลต่อความสุขและการทำงานที่ราบรื่นของคุณ Sanook! Home อยากให้หน้าที่การงานของทุกคนราบรื่น จึงนำหลักออฟฟิศมาแนะนำเพื่อให้คุณลองไปปรับใช้

1.ตำแหน่งที่นั่งอย่าเผชิญหน้าโดยตรงกับเจ้านาย ถ้าโต๊ะทำงานที่คุณนั่งหันไปเผชิญหน้ากับเจ้านายของคุณโดยตรงมันย่อมไม่ดีแน่ ถ้าจะให้ดีตำแหน่งโต๊ะทำงานของคุณควรอยู่เยื้องๆ หรือมีโต๊ะทำงานของเจ้านายนั่งอยู่ด้านหลังจะเหมาะสมกว่า เพราะมันหมายถึงการสนับสนุนการทำงานจากเจ้านาย

2.ใช้ภูเขาสีทองช่วยสร้างความสัมพันธ์กับเจ้านาย สิ่งที่จะช่วยส่งเสริมโอกาสในการทำงานให้กับคุณคือการหาของตกแต่งสีทองมาตั้งในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสำนักงาน วิธีการสร้างสรรค์ภูเขาสีทองคุณอาจหาก้อนหินเล็กๆ เรียงบนจาน โดยสเปรย์สีทองพ่นทับบนก้อนหินแล้ววางไว้บนโต๊ะทำงาน

3.สร้างความสัมพันธ์กับเจ้านายและเพื่อนร่วมงานให้ราบรื่น วางผลึกแก้วไว้ตรงกลางออฟฟิศ จะช่วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเจ้านายรวมไปถึงเพื่อนร่วมงาน หรือจะตั้งแจกันแก้วว่างๆ วางไว้ก็ได้ เพราะแจกันว่างจะช่วยกักเก็บพลังความสัมพันธ์อันเป็นมงคล

4.กระตุ้นพลังในออฟฟิศตามเพศของผู้บริหาร หากคุณมีเจ้านายเป็นชายที่มีอายุมากกว่าให้คุณกระตุ้นให้มีความเคลื่อนไหวของพลังทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หากคุณมีเจ้านายเป็นผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าก็ต้องให้กระทำแบบเดียวกันแต่เป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ วิธีการคือตกแต่งบริเวณนั้นด้วยลูกโลก

5.กระตุ้นพลังในออฟฟิศตามเพศของหัวหน้า หากหัวหน้าของคุณเป็นผู้ชายให้กระตุ้นพลังทางทิศตะวันออกด้วยการปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ต้นไทร หรือจะเป็นรูปภาพของสิ่งเหล่านี้ก็ได้ แต่หากหัวหน้าของคุณเป็นผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าให้กระตุ้นพลังด้วยคริสตัลบอลหรือแจกันคริสตัล แต่ถ้าหัวหน้าคุณเป็นผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าให้คุณกระตุ้นพลังทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ด้วยต้นไม้หรือดอกไม้ขนาดเล็ก ถ้าหัวหน้าคุณอายุเท่ากับคุณให้กระตุ้นพลังทางทิศใต้ด้วยสีแดง แต่ถ้าหัวหน้าคุณเป็นน้องให้วางวัตถุที่เป็นโลหะเช่นระฆัง วิทยุ หรือพัดลมไว้ทางทิศตะวันตกของออฟฟิศ

6.เพิ่มโชคในการทำงานของคุณด้วยการสร้างพลังในมุมออฟฟิศ มุมที่เป็นมุมสร้างโชคดีให้กับคุณคือมุมทแยงกับประตูของออฟฟิศ

ใครที่มีความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยสามารถนำไปปรับใช้ได้นะคะ

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก //redlotusletter.com
//home.sanook.com/6453/




 

Create Date : 04 กันยายน 2558    
Last Update : 4 กันยายน 2558 8:10:22 น.
Counter : 1095 Pageviews.  

กทม.แจก “แบบบ้านฟรี” 120 แบบล่าสุด ค่าก่อสร้างเริ่มต้นเพียง 3 แสน

กทม.แจก “แบบบ้านฟรี” 120 แบบล่าสุด ค่าก่อสร้างเริ่มต้นเพียง 3 แสน

เนื่องจาก “โครงการแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชน 2” ของสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ที่จัดทำแจกฟรีจำนวน 100 แบบเพื่อให้บริการประชาชนที่ต้องการก่อสร้างบ้าน ทั้งแบบก่อสร้างใหม่ และก่อสร้างทดแทนบ้านหลังเดิมเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างออกแบบบ้าน เป็นโครงการที่ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี

ครั้งนี้สำนักการโยธา กรุงเทพมหานครจึงได้จัดทำโครงการต่อเนื่อง “โครงการแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชนระยะที่ 3 โดยเล็งเห็นปัญหาผู้สูงอายุ และผู้ทุพพลภาพที่เพิ่มมากขึ้น จึงออกแบบบ้านตามแนวคิดเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design) จำนวน 20 แบบ และยังปรับปรุงแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชน 2 จำนวน 100 แบบ ให้มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน โดยจัดทำเป็นรูปเล่ม แผ่นพับ แบบจำลอง และโปรแกรมสนับสนุน (software) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สนใจ และสามารถตรวจสอบ หรือเลือกใช้รูปแบบบ้านได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

โครงการแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชนระยะที่ 3 จัดขึ้นตามนโยบายของ หม่อมราชวงศ์ สุขุมพันธุ์  บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มุ่งสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นมหานครแห่งความปลอดภัย มหานครแห่งความสุข และมหานครแห่งโอกาสสำหรับทุกคน โดยตระหนักถึงปัญหาของประชาชนที่ต้องการปลูกสร้างบ้านในราคาประหยัดเป็นหลัก

รายละเอียดแบบบ้านยิ้ม ระยะที่ 3 ประกอบด้วย



1. แบบบ้านชั้นเดียว จำนวน 45 แบบ (แบบบ้านทั่วไป 30 แบบ และสำหรับผู้สูงอายุ 15 แบบ)

ราคาก่อสร้างเริ่มต้นที่ 3.7 แสนบาท



2. แบบบ้านสองชั้น จำนวน 64 แบบ (แบบบ้านทั่วไป 59 แบบ และสำหรับผู้สูงอายุ 5 แบบ)

ราคาก่อสร้างเริ่มต้นที่ 6 แสนบาท



3. แบบบ้านสามชั้น จำนวน 11 แบบ

ราคาก่อสร้างเริ่มต้นที่ 1.4 ล้านบาท



แบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุและทุพพลภาพเป็นบ้านชั้นเดียว ราคาก่อสร้างเริ่มต้นที่ 6 แสนบาท



แบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุและทุพพลภาพแบบสองชั้น ราคาก่อสร้างเริ่มต้นที่ 2.4 ล้านบาท

4. เป็นการปรับปรุงแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชน 2 ให้มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน จำนวน 100 แบบ

5. ออกแบบตามแนวคิดเพื่อคนทั้งมวล จำนวน 20 แบบ

6. รวมแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชนระยะที่ 3 ทั้งหมด 120 แบบ

7. ขนาดหน้ากว้างที่ดินที่แคบที่สุดที่ก่อสร้างได้ 8.50 x 12.00 เมตร (ขนาดที่ดินประมาณ 25.50 ตารางวา หรือ 102 ตารางเมตร ใช้แบบบ้าน 001 กรมเขา มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 44 ตารางเมตร ค่าก่อสร้างโดยประมาณ

400,000 บาท)

8. สามารถเลือกชมแบบบ้านได้ที่ เว็บไซต์สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร  (www.bangkok.go.th/yota) และติดต่อขอรับแบบบ้านได้ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และที่สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2558 นี้เป็นต้นไป

คำแนะนำการขอรับแบบบ้าน

- ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับแบบบ้านได้ที่สำนักงานเขตในพื้นที่ๆ คุณพักอาศัยหรืออยู่ใกล้ทั้ง 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ

- กรณีเป็นคนต่างจังหวัดสามารถขอแบบบ้านเพื่อนำไปปลูกสร้างในพื้นที่ต่างจังหวัดได้เช่นกัน

- กรณีเข้าเว็บไซต์ www.bangkok.go.th/yota เพื่อเลือกแบบ เมื่อเลือกแบบได้แล้วต้องติดต่อขอแบบบ้านโดยตรงที่สำนักงานเขตอีกครั้ง

- ฟรี ! เรื่องแบบบ้าน มีเพียงค่าถ่ายเอกสารที่จะใช้ถ่ายแบบบ้านนั้นๆ เท่านั้น

-ระยะเวลาขอแบบบ้านเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2558 นี้เป็นต้นไป โดยยังไม่มีกำหนดสิ้นสุดโครงการ

ขอบคุณข้อมูลจาก //www.bangkok.go.th

ภาพจาก www.bangkok.go.th/yota
//home.sanook.com/6457/




 

Create Date : 02 กันยายน 2558    
Last Update : 2 กันยายน 2558 7:17:18 น.
Counter : 2359 Pageviews.  

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการเลือกม่านหน้าต่าง และม่านประตู

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการเลือกม่านหน้าต่าง และม่านประตู

การเลือกม่านหน้าต่างหรือประตูระเบียงเป็นอีกส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้าน หรือคอนโดที่มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ เพราะหากเราเลือกใช้ม่านให้เหมาะสมก็จะทำให้ห้องดูสวยงาม ขึ้นได้ การเลือกม่านควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

1. ขนาดของบานหน้าต่างและความสูงของห้อง เช่น ในห้องเพดานเตี้ยและมีหน้าต่างบานเล็กก็ควรเลือกใช้มู่ลี่แทนม่านจีบลอน ใหญ่ๆ เพราะม่านจีบลอนใหญ่จะยิ่งทำให้ห้องดูเตี้ย และน่าอึดอัด

2. ประเภทของผ้า แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ

•    2.1. ผ้าม่านแบบกรองแสง : จะมีลักษณะของเนื้อผ้าเบาบาง และมีน้ำหนักเบาเพื่อให้แสงผ่านตามลายผ้าได้ มีสีอ่อน เมื่อเห็นแล้วจึงทำให้รู้สึกสบายตา แต่ในขณะเดียวกันก็จะเก็บฝุ่น ละอองด้วยเช่นกันจึงต้องมีการทำความสะอาดบ่อยครั้ง

•    2.2. ผ้าม่านแบบกันแสง : จะมีความทึบแสง นั่นคือแสงสามารถผ่านได้น้อยมาก มีน้ำหนักมากจึงทำให้ต้องมีรางม่านหรืออุปกรณ์ประกอบ จึงทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดได้บ่อย นัก

3. สีของม่าน : ให้ดูจากสีของวัสดุตกแต่งต่างๆภายในห้องหลัก โดยรวมแล้วสีในแต่ละห้องควรอยู่ที่ประมาณ 3-5 สี แต่ไม่ควรน้อยหรือมากว่านี้ เพราะถ้าแต่งห้องโดยใช้สีเพียง 2 สี ห้องก็จะดูจืดไป และจะทำให้เบื่อเร็ว หรือถ้าใช้สี เกิน 5 สี อาจจะเยอะไปและรู้สึกว่าลายตาได้ และไม่ควรเลือกสีม่านเป็นสีส้ม หรือ โอรส เพราะเวลา 2 สีนี้โดนแดดจะทำห้องรู้สึกร้อน

4. รูปแบบของม่าน

•    4.1. ม่านจีบ ม่านผ้าที่มีลักษณะจีบอยู่ด้านบนแล้วปล่อยเป็นลอนๆส่วนใหญ่นิยมติดตั้งเป็น ม่านสองชั้น คือ ม่านโปร่งและม่านทึบ ม่านชนิดนี้เหมาะกับหน้าต่างบานใหญ่และจำเป็นต้อง มีรางด้านบนแต่จะเลือกโชว์รางหรือซ่อนรางก็ได้ จึงควรเผื่อพื้นที่เหนือขอบหน้าต่างอย่างน้อย20 เซนติเมตร

•    4.2. ม่านพับ ม่านผ้าที่ใช้รอกในการดึงผ้าจากด้านล่างขึ้นด้านบนโดยพับทบไปมา เหมาะกับหน้าต่างบานเล็กในแนวตั้ง

•    4.3. ม่านม้วน เป็นเนื้อผ้าที่จะมีการเคลือบสารป้องกันแสงแดดและรังสียูวีใช้ จะให้รอกหรือมอเตอร์ในการเปิด จึงใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยแต่ ราคาค่อนข้างสูง

•    4.4. มู่ลี่ หลักๆ ที่นิยมใช้มี 2 ชนิด คือ มู่ลี่ไม้และมู่ลี่อะลูมิเนียม เหมาะกับหน้าต่างบานเล็กหรือหน้าต่างที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ

•    4.5. ม่านปรับแสง เป็นมู่ลี่แนวตั้ง สามารถหมุนปรับได้ 180 องศา ส่วนใหญ่มักทำจากวัสดุสังเคราะห์ซึ่งช่วยกรองแสงแดดได้ดีเหมาะกับหน้าต่าง บานใหญ่และอยู่ในทิศทางที่แสงส่อง เข้าเต็มๆ

ตัวอย่างการเลือกม่านในห้องต่างๆ

1. ห้องนอน เนื่องจากห้องนอนเป็นสถานที่ส่วนตัวและเป็นที่ พักผ่อนจากการทำกิจกรรมต่างๆมาทั้งวัน จึงควรเลือก ม่านที่ทำให้บรรยากาศในห้องรู้สึกผ่อนคลายและมีความเป็นส่วนตัว ชนิดผ้าควร เลือกแบบกันแสงเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้แก่เจ้าของห้อง สีอาจจะใช้โทนเย็นและสว่างเพื่อให้รู้สึกสบายตา และที่สำคัญสามารถทำให้ห้องของคุณดูกว้างขึ้นได้อีกด้วย

2. ห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ควรเลือกม่านที่ทำให้ห้องดูโปร่งสบายหรือสดใส รูปแบบม่านอาจเลือกใช้ม่านจีบ 2 ชั้น เพื่อให้งานได้คุ้มค่ากว่า หาก บางครั้งต้องการให้แสงผ่านเข้ามาบ้างหรือบางครั้งไม่ต้องการให้แสง ผ่าน การเลือกใช้สีก็จะช่วยทำให้ห้องดูสนใสขึ้นเช่นเลือก โทนสีฟ้า หรือเขียว

3. ห้องครัว ควรเลือกชนิดของผ้าแบบกันแสงเนื่องจากผ้าแบบกันแสงจะสามารถกันฝุ่นได้ด้วย แนะนำว่าควรใช้มุ่ลี่ เพราะสามารถปรับระดับแสงในระดับที่ต้องการได้และที่สำคัญคือทำความสะอาดง่าย สีควรเลือกสีกลางๆเพื่อให้รู้สึกสบายตาเวลาทำอาหารแต่สามารถ กระตุ้นความอยากอาหารได้เช่นกัน เช่น สีครีม สีส้มอ่อน

4. ห้องน้ำ ควรใช้มุ่ลี่ เพราะสามารถทำความสะอาดง่าย รวมไปถึงหากโดนละอองน้ำหรือเปียกก็สามารถดูแลง่าย ไม่ดูดน้ำ และไม่สร้างกลิ่นอับอีกด้วย การใช้สีควรเป็นสีที่โทนเย็นเพื่อให้ความรู้สึก สะอาด

ข้อมูลและภาพจาก //www.aseanliving.com

//home.sanook.com/6401/




 

Create Date : 30 สิงหาคม 2558    
Last Update : 30 สิงหาคม 2558 11:20:58 น.
Counter : 1125 Pageviews.  

5 Step DIY ง่ายเว่อร์ เปลี่ยนเคาน์เตอร์เรียบๆ เป็นหินแกรนิตสุดหรู

5 Step DIY ง่ายเว่อร์ เปลี่ยนเคาน์เตอร์เรียบๆ เป็นหินแกรนิตสุดหรู

หากคุณรู้สึกเบื่อกับแท่นเคาน์เตอร์สีขาวเรียบๆ บริเวณอ่างล้างหน้า หรือเคาน์เตอร์ปูกระเบื้องแบบสุดเชยในห้องครัว Sanook! Home อยากให้คุณรู้สึกสนุกกับการ DIY ของใช้ต่างๆ ภายในบ้าน ครั้งนี้เลยเลือกวิธีการแปลงโฉมเคาน์เตอร์ธรรมดาให้เป็นเคาน์เตอร์ลายหินแกรนิตสุดหรู ลองมาดูกันว่ามีวิธีการทำอย่างไรบ้าง

อุปกรณ์ที่ต้องการใช้

1.สติกเกอร์ลายหินแกรนิต

2.กรรไกร

3.เข็มหมุด

4.เครื่องมือขูดสี (สำหรับไล่ฟองอากาศเวลาติดสติกเกอร์)

5.มีดขอบตรง

ขั้นตอนการทำ


1.ทำความสะอาดเคาน์เตอร์บริเวณที่เราต้องการให้สะอาดและเช็ดให้แห้งสนิท

2.วัดขนาดสติกเกอร์ที่คุณต้องการ อาจจะเผื่อความยาวของสติกเกอร์ไว้สักประมาณ 1 นิ้ว

3.ตัดส่วนที่เป็นอ่างล้างหน้าบนสติกเกอร์ออก โดยเว้นไว้เผื่อการตัดสติกเกอร์ตรงขอบอ่างที่ชนกับพื้นเคาน์เตอร์

4.ค่อยๆ ดึงสติกเกอร์ออกแล้วไล่ติดสติกเกอร์ลงบนเคาน์เตอร์ทีละนิดๆ ก่อนจะใช้เครื่องมือขูดสีไล่อากาศออกจากแผ่นสติกเกอร์

5.ใช้มีดตัดสติกเกอร์บริเวณที่ชนกับขอบอ่างให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เคาน์เตอร์หินแกรนิตสุดหรู

Tip เล็กๆ น้อยๆ

-ใช้ความอดทนในการทำ

-เมื่อเกิดฟองอากาศในขณะติดสติกเกอร์ ให้ใช้เข็มหมุดเจาะแล้วค่อยๆ ไล่ฟองอากาศจนกว่าสติกเกอร์จะแนบกับพื้นเคาน์เตอร์อย่างสนิท

ลองทำกันดูนะคะ กับ 5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการเปลี่ยนสไตล์เคาน์เตอร์ธรรมดาให้ดูน่าสนใจและน่าใช้ยิ่งขึ้น

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก //loveatfirstbook.com
ภาพจาก //loveatfirstbook.com
//home.sanook.com/6341/




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2558    
Last Update : 26 สิงหาคม 2558 21:21:25 น.
Counter : 1916 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.