ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

เบื่อห้องทำงานเก่า แค่ทาสีใหม่ ง่ายนิดเดียว

เบื่อห้องทำงานเก่า แค่ทาสีใหม่ ง่ายนิดเดียว

เมื่อไปช่วยเพื่อนทำงานที่แล้วพบว่าห้องทำงานทั้งเน่า เก่า ดำ สกปรก ฝ้าคล้ำ หยากไย่ขึ้น
จึงได้รับอาสาไปทำยังไงก็ได้ให้สวยขึ้น ตามความต้องการของเรา

โจทย์ง่ายๆ คือให้ดูสว่าง น่ารัก ฟรุ้งฟริ้ง ตามนิสัยของเจ้าของห้อง 555

และนี่คือภาพ ก่อนและหลังนะครับ
(คนที่ใจไม่กล้าพอ ก็เอาแบบเบาๆ นะครับ บังเอิญเจ้าของห้องเขาแรง เลยขอสามสี)

นึ่คือสภาพตอนแรกที่เข้าไปเห็นนะครับ
ห้องจะรกๆ ผนังอยู่ในมุมอับครับ สีก็ตุ่นๆ ทำให้ห้องยิ่งดูมืดเข้าไปใหญ่


คราบดำที่เช็ดยังไงก็ไม่ออก เพราะบ้านเก่ามากครับ



เห็นแล้วก็กลับไปนึกอยู่ว่า ทำยังไงกับห้องมันดี ?
เลยต้องเตรียมอุปกรณ์ตามนี้ครับ

1. ถุงดำใบใหญ่สำหรับรองเปื้อน (ต้องทาสี ขูดหยากไย่ ฯลฯ ห้องจะได้ไม่เลอะครับ) (ใช้ขนาดใหญ่หน่อยนะครับ ตัดตูดถุงและตัดข้างถุง เพื่อให้ปูได้พื้นที่มาก) อันนี้ที่บ้านใช้อยู่แล้วไม่ต้องซื้อครับ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ก็ได้ เพราะถูกกว่าครับ แต่เวลาเดิน อาจเตะขาดได้ เลยใช้ถุงดำนะครับ
2. เกรียงแซะ (ของเก่า) คนอยากซื้อใหม่ ซื้อได้ตามร้านฮาร์ดแวร์แถวบ้าน ไม่กี่สิบบาทครับ ถ้านึกไม่ออก นึกถึงที่แซะขนมโตเกียวนะครับ
3. ลูกกลิ้งทาสีและแปรงทาสี แปรงสีไม่เกิน 30 บาทครับ ลูกกลิ้งขนแกะ 7 นิ้ว ไม่เกิน 60 บาท

4. สีทาภายใน 4SEASONS แบบด้าน + สีรองพื้นปูนเก่า เนื่องจากพื้นที่ไม่เยอะ จึงใช้ สีขาว ขนาด 1/4 แกลลอน 2 กระป๋อง ครับ (คนขายบอกทาได้ประมาณ 8 ตรม.)

สีอื่นๆ สำหรับตกแต่ง 4SEASONS แบบด้าน (ของผมใช้เพิ่มอีก 3 สีครับ รหัสสี TOA 7918 เหลือง , 8172 ชมพู ,7373 ฟ้า)
5 เทปกาวย่น มาร์คลาย

Step by Step
1. ย้ายของออก เคลียร์พื้นที่จะได้เลอะได้เต็มที่ครับ
2. ใช้ถุงดำ และเทปกาวปูพื้น เวลาสีหกจะได้ไม่เลอะเทอะนะครับ

ส่วนบริเวณที่ต้องเข้าซอกเข้ามุม ก็ต้องใช้ความละเอียดนิดนึงนะครับ เพราะถ้าจะให้ออกมาสวย ก็ต้องเก็บรายละเอียดครับ

3. ทำความสะอาด ให้พื้นที่ไม่มีใยแมงมุม ฝุ่นคราบ ด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ นะครับ เช็ดออกเท่าที่ทำได้ครับ
4. เสร็จแล้วทาสีรองพื้นปูนเก่าก่อน 1 เที่ยวนะครับ ทิ้งให้แห้งครับ  
5. ทาสีขาวจำนวน 2 เที่ยวครับ ทับสีเก่าให้หมดครับ เวลาเปิดไฟห้องจะได้สว่างๆ พื้นที่น้อยใช้เวลาทาเที่ยวหนึ่งไม่เกิน 1 ชม.ครับ

6. บริเวณไฟ ยกโคมไฟออกก่อน ใช้เทปกาวในการปิดขอบข้าง เพื่อไม่ให้เปื้อนนะครับ

ในส่วนขอบๆ ที่ลูกกลิ้งขนแกะเข้าไม่ถึง ก็ใช้แปรงทาสีเก็บงานเล็กๆ น้อยๆ ครับ หลังจากทาสีไปสักพัก ไม่แน่ใจว่าทากลบมิดไหม ก็เปิดไฟเช็คสักหน่อย ตรวจงาน :]


7. พอสีแห้งแล้วก็ได้เวลาแต่งผนังเพิ่มครับ เนื่องจากโคมไฟกลมอยู่แล้ว เลยตกลงว่าจะใช้ลายกลมๆ ให้เหมือนกันไปเลย ด้วยการเอาจาน ชาม กล่องใส่ CD มาวาดลายตามจินตนาการฟรุ้งฟริ้งเลยครับ เน้นคละขนาดเพื่อให้โก้เก๋

8. ก่อนทาสีตกแต่ง คิดดีๆ วางแผนดีๆ ว่า ตรงไหนจะสีอะไรนะครับ เพื่อเป็นการกระจายสี และขนาดให้ Balance กัน สามารถลองทำได้บนกระดาษ และใช้ดินสอสีระบายบนกระดาษเป็นไอเดียก่อนก็ได้ครับ แต่ของผม มั่นใจ...จึงลงสดเลยครับ :]

แนะนำให้ใช้แปรงทาสีอันเล็กๆ ค่อยทาจากขอบวงกลมเข้าไปด้านในนะครับ เป็นช่วงเวลาที่แขนเกร็งมาก เพราะกลัวเลยขอบ กลางเป็นวงรีไป 555
เอาจริงๆ ก็ทำไปแก้ไปนะครับ เลยขอบก็หยวนๆ เพราะทำเอง เพื่อนก็อยู่เอง ภูมิใจเอง ฮิฮิ
อันนี้เป็น ฟ้าอมม่วง TOA 7373 ครับ



9. ทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เสร็จครับ อันนี้ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม. สำหรับการทำลายครับ อีกรูปเป็นตอนเปิดไฟครับ โคมไฟรับกับลายวงกลมมากๆ

กลับมาดู Before After อีกครั้ง

Tips สำหรับคนอยากทาสีเอง
- เตรียมเวลาว่างสัก 1 วัน นอนหลับให้เพียงพอครับ จะได้ยิ้มแย้มแจ่มใส
- เตรียมชุดพร้อมเลอะมาเลยครับ มันต้องเลอะมีบ้างเล็กๆ น้อยๆ ;] - ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์
- ถ้าเป็นห้องเก่าจริงๆ รองพื้นปูนเก่าสำคัญนะครับ ไม่งั้นสีไม่ทน (คนขายบอกมา)
- การแต่งสีทาสีคละสีให้กระจายทั้งขนาดและสีนะครับ จริงๆ จะใช้กี่สีก็ได้นะครับ ลองไปดูพวกแคตตาลอก การจับคู่สีที่ร้านก็ได้
- เตรียมผ้าขี้ริ้วไว้เช็ด สีที่อาจหกนอกเหนือจากจุดที่ปูถุงดำไว้ก็ดีครับ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ  

โดยรวมครับ
เวลา
            รวมเวลาการทำความสะอาดผนังเก่า ทาสีรองพื้น ทาสีทับหน้า และแต่งผนัง 6-7 ชม. ก็เสร็จแล้วครับ
งบประมาณ
            สีขาว 1/4 แกลลอนสีขาว ทาภายในแบบด้าน 2 กระป๋อง ราคาไม่เกิน สองร้อยนิดๆ ครับ
            ส่วนสีแต่งราคาจะรวมแม่สีแล้วแตกต่างกันตามสีที่เราเลือกครับ แต่ที่เลือกมาราคาไม่สูงมากนักครับ เลือกสี/ดูแคตตาลอกที่ ร้าน TOA ColorWorld แถวบ้านครับ ส่วนที่ผสมมาใช้ เหลือก็เก็บไว้ใช้แต่งที่อื่นต่อได้
แรงงาน
            ทำคนเดียวได้ครับ บนพื้นที่เล็กๆ แต่ถ้าห้องใหญ่หน่อย สองคนช่วยกันกำลังดีครับ

ขอบคุณ //pantip.com/topic/33120246




 

Create Date : 26 มกราคม 2558    
Last Update : 26 มกราคม 2558 8:32:46 น.
Counter : 2409 Pageviews.  

Build in บ้านสวยคุ้ม ตั้งงบ 6 แสน ใช้ไปแค่ 3 แสน

Build in บ้านสวยคุ้ม ตั้งงบ 6 แสน ใช้ไปแค่ 3 แสน

ลูกบ้านสนุก โฮมส่วนใหญ่ชอบให้แนะนำเรื่องการรีโนเวทบ้าน ตกแต่งห้องต่างๆ รวมไปถึงการตกแต่งบ้านแบบ ซึ่งน่าจะเหมาะกับพื้นที่ของบ้านในยุคปัจจุบันที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ครั้งนี้ Sanook! Home เลยนำไอเดียของคุณ bozzNrk จากห้องชายคา เว็บไซต์พันทิป ดอทคอม มาแชร์ให้ลูกบ้านสนุก โฮม สนุกสนานไปกับการเลือกผู้รับเหมา รวมถึงขั้นตอนการทำงานร่วมกับผู้รับเหมาตั้งแต่ออกแบบ ไปจนถึงบ้านเสร็จ อ่านแล้วสนุกดีค่ะ พร้อมแล้วเปิดบ้านคุณ bozzNrk ไปพร้อมๆ กันเลย

หลังจากหาบ้านมานาน มาลงเอยที่หลังนี้ครับ บ้านมุมหันหน้าไปทางทิศใต้  3 ห้องนอน  3 ห้องน้ำ 166 ตรม. งบก็ร่อยหรอไปกับราคาบ้าน เกินงบมาเยอะ การตกแต่งภายในหรือเพิ่มเติมอะไรจึงต้องคิดหนักสำหรับคนงบเหลือน้อย เลยใช้เวลาเลือกสิ่งที่เหมาะกับงบประมาณมากที่สุด

โทรไปหาบริษัทตกแต่งภายในต่างๆ หลายที่ พอบอกความต้องการ ราคาเริ่มต้นก็ 5-6 แสน ไม่รวมค่าออกแบบ ซึ่งเกินงบไปพอสมควร พอบอกมีงบแค่ 3 นิดๆ ก็แทบจะวางหูใส่หรือเลี่ยงที่จะทำ เพราะไม่คุ้มกับต้นทุนเขา (อันนี้ก็พอเข้าใจอยู่)  บ้านก็โอนมาหลายเดือนแล้วยังไม่เริ่มอะไรเลย เริ่มกดดันตัวเอง มีป้ายโฆษณาในหมู่บ้าน โทรดู ปรากฏว่าพอทำได้ แต่ไอ้คำว่าพอทำได้นี่สิ มันได้แค่ไหน พอถึงวันนัด ดันมาขอเลื่อน ไอ้เราไม่มีทางเลือกมาก เลื่อนก็เลื่อน เสียงานเสียการไปพอควร

นัดครั้งที่สองมาสายไป 2 ชม. ต้องโทรตามตลอด บอกความต้องการไปอีกรอบ ไม่ต้องทำ 3D เพราะเข้าใจว่าจะประหยัดงบ เอาแค่รูปแบบคร่าวๆ พอเห็นเป็นวัสดุก็พอ แล้วตีราคามาเลย  2 อาทิตย์ผ่านไปถึงเวลา ให้เราไปคุยกับช่างของทีมแกที่ทำอยู่อีกหลังในหมู่บ้าน  ไอ้เราก็ไม่รู้จะคุยอะไร เพราะต้องการ แค่ราคากับแบบ และจะจ่ายสตางค์เลย ช่างก็เลยวาดแบบให้เดี๋ยวนั้น บนเศษกล่องลัง วาดเป็นเส้นๆ งูๆปลาๆ มั่วๆ เลยถามตรงๆว่า ลืมเอาแบบมาหรือยังไม่ได้เริ่ม สรุปว่ายังไม่ได้เริ่ม เลยบอกไม่ต้องทำแล้วเกรงใจ กลัวไม่มีเวลาทำให้ เสียเวลาไปเกือบสองเดือน

จนกระทั่งเพื่อนแนะนำญาติมาให้ มาถึงก่อนเวลา เริ่มมีความมั่นใจ (ผมเป็นคนให้ความสำคัญกับเวลานัดมากๆ) บอกความต้องการ อันไหนเปลืองแกบอกอย่าทำเลย แกทำมาก่อนแกรู้ ด่าเราอีกตะหากว่าจะทำทำไมเปลือง (...ก็คนมันชอบอ่ะ) อารมณ์เหมือนจ้างแม่มาทำบ้านให้ พอซักไซ้มากๆ แกบอกว่า เออน่า!! ออกมาดีแล้วกัน  เชื่อแม่ดิ (แกเรียกตัวแกเองว่าแม่)

สรุปคนจะทำ build in แบบเรียบๆ แต่ดูดีของบ้านเรา จะเป็นผู้หญิงรุ่นป้าๆหน่อย แนวเจ๊ๆ ซึ่งไม่เคยทำงานสไตล์แบบที่เราต้องการมาก่อน แกไม่มีดีไซน์อะไรมากมาย แกเน้นใช้สอยอย่างเดียว มีแต่โรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งแกก็ดูงงๆ กับแบบในใจผม ว่ามันจะออกมาเป็นไง

ผมเลยต้องหาแบบตามเว็บไซต์ไปให้แกดูอีกทีเพื่อความเข้าใจตรงกัน พอช่วยได้บ้างนิดหน่อย ที่เลือกเพราะดูแกตามงานดี, มีความรับผิดชอบ, ไม่ดูถูกเงินของเรา (ซึ่งมันอาจจะดูน้อยสำหรับผู้รับเหมาบางบริษัท), มีทีมช่างมาวัดขนาดเป็นเรื่องเป็นราว, แกมาดูด้วยตัวเองทุกครั้ง ทั้งๆ ที่แกเป็นถึงขนาดเจ้าของ ถ้าไม่ว่างก็ส่งลูกแกมาดูให้ และที่สำคัญ ราคาลงตัวตามงบ ซึ่งก็มี มีผนัง TVห้องนอน walk in closet รูปตัว C (ทุกด้านรอบห้อง ยกเว้นช่วงประตู) ห้องนั่งเล่น ครัวทั้งหมด และแพนทรี วัสดุมีไม้จริงรวมนิดหน่อยในส่วนของตัวรับน้ำหนัก ตัดโน่นนี่นิดหน่อยเพื่อคุมงบให้ได้ 300,000+-

แต่ก่อนอื่นต้องหาบริษัทมืออาชีพเจาะผนังพรีแคสเป็นช่องประตู เพื่อที่จะเชื่อมห้องนอน 1 กับห้องนอน 2 มาทำเป็นห้อง walk in closet  ตามความประสงค์ของ ผบ. แต่ราคาถึงกับจุก 30,000 บาท แต่ก็เข้าใจว่ามันเจาะยาก แล้วก็ต้องมั่นใจด้วยว่าบ้านไม่พัง

พอเรื่องนี้ได้ยินไปถึงหูป้าผู้รับเหมา ป้าแกบอกเดี๋ยวแกทำให้เองแพงไป 30,000 บาท เดี๋ยวจะซื้ออุปกรณ์ให้ช่างของแกทำเอง แกคิด 7,000 แกบอกไม่อยากให้เสียสตางค์เยอะ เลยให้แกทำประตูเลื่อนไม้ให้เลย รวมแล้ว15,000 อีกใจหนึ่งก็กลัวบ้านพัง แต่ปรึกษาทั้งเพื่อนที่เป็นช่าง เป็นวิศวกร เป็นสถาปนิก รวมไปถึงช่างโครงการ แกบอกเจาะได้ไม่พัง เป็นส่วนที่ไม่ได้รับน้ำหนัก ศึกษามาสักพักเลยตัดสินใจทำ

บ้านที่โครงการให้มาก็มีเพียงวอลเปเปอร์ โคมไฟแบบเบสิก สุขภัณฑ์ แถมแอร์ห้องนอนใหญ่อีก 1 ตัว

ครัวเป็นครัวปูน ยังไม่มีบานตู้

ผนังที่ต้องเจาะ

ถึงวันส่งงานตามเวลาเปะๆ ป้าแกทำแบบออกมา แทบไม่น่าเชื่อครับ!!! ผมนี่แทบจะเปลี่ยนใจ ...
ขอไปหารูปแป๊บ
และแล้วแบบที่รอคอยมันก็มาถึง
ห้องครัว

ห้องนั่งเล่น


walk in closet

แล้วก็แบบตู้แพนทรีอีก2ใบ
มีเท่านี้จริงๆ  ถึงกับเงิบครับ นึกว่ายังไม่ Final  ป้าแกบอกอันนี้ Final แล้ว วาดแบบเองกับมือ จะเอาไรอีก.... เอาไงดีหว่า ใจหนึ่งก็เกรงใจป้าแก อีกใจหนึ่งก็ชักหวั่นๆ แล้วสี, วัสดุปิดผิวต่างๆ ล่ะป้า?? อุปกรณ์บานปิดต่างๆ ล่ะป้า?? ถ้าเอาจริงป้าจะนัดเอาสี วัสดุไปให้เลือก ส่วนอุปกรณ์บานปิด ลิ้นชักต่างๆ ใช้ของ HAFELE จะเอาไหม ? เอาสิป้า

สรุปว่าผมต้องจินตนาการเอาเองว่าบ้านผมจะออกมาเป็นไงใช่ไหมป้า ป้าแกบอกว่า ก็เป็นตามแบบที่วาดนั่นแหละ เออหน้า เดี๋ยวทำให้สวยๆ (ณ.ตอนนี้ก็ยังสื่อสารกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง...ต้องคอยให้ลูกแกอธิบายให้ แม่แกฟังอีกที)....แฟนบอกตอนนี้ถอยยังทัน แต่ให้ผมเป็นคนตัดสินใจ

คิดไปคิดมาตกผลึกออกมาว่า ถ้างบน้อยต้องรับสภาพ จะเอาไปเปรียบเทียบทุกอย่างกับงานแพงๆ ไม่ได้ งานออกมาเป็นไงก็ต้องรับสภาพ ทำได้มากสุดคือคุมงานเอง คุมแบบเอง ทุกอย่างแก้ไขหน้างานยังทัน เพราะแบบมีเท่านี้เชื่อว่าป้าแกต้องให้ช่างมาแก้ไขดัดแปลงหน้างานเอา .......ทีนี้ผมนี่ยื่นลาพักร้อนเลยครับ มาดูงานเองเกือบทุกวัน

หลังจากตกลงวางเงินก้อนแรก ......
งานเจาะกำแพงเริ่มเข้ามา ใช้เวลา 3 วันเต็ม กับคนงาน 2 คน งานเจาะผ่านไปด้วยดี ตั้งแต่ผนังถึงเพดานปกคลุมไปด้วยฝุ่น แต่ยอมครับเพราะรู้ปัญหานี้มาตั้งแต่แรก มาจ้างบริษัททำความสะอาดทีหลังได้

แต่ที่ทำผมเซ็งคือระหว่างยกบันไดขึ้น ชั้น 2 บันไดไปขูดวอลเปเปอร์มาตลอดทาง แถมยกบันไดชนประตูจนถลอก อุปกรณ์ป้องกันไม่มี ดูแล้วช่างไม่ระวังกันเลย โทรไปหาป้าผู้รับเหมา ป้าแกบอกเรียกคนมาตีราคาวอลเปเปอร์กับประตู เท่าไรจะชดใช้ให้ โดยหักเงินจากช่าง พร้อมกับโทรไปดุช่าง ผมไม่กล้าดุเองกลัวโดนวางยาบ้าน ...

แต่เมื่อมีเจตนาที่จะแก้ไขให้ ผมสงสารช่างเลยขอเป็นให้ระวังมากกว่านี้  (เคยเห็นเค้าเอาลูกเมียมาวิ่งเล่น ตอนมาวัดบ้าน เลยใจอ่อนเอาไม่ลง)เพราะไหนๆ ก็จะเปลี่ยนวอลเปเปอร์ตรงหัวนอนอยู่แล้ว คงไม่เพิ่มเงินมาก แต่ถ้าครั้งหน้ามีขอปรับแล้วกัน ขู่ๆไว้ก่อน  ไปวันรุ่งขึ้นป้าแกจัดเตรียม กระดาษกล่องมารองพื้นบ้านให้อย่างดี          

เริ่มกรีดขอบ

ฝ้าเดิมเอาออก ขอฝ้าหลุม 2 หลุม ซ่อนไฟ LED  ขอดาวน์ไลท์ 8 ดวง กำลังดี ตอนแรกจะเอา 3 รวมห้องนอนด้วย แฟนบอกพอก่อนๆ เยอะไปแล้ว  จะใครที่ไหนทำล่ะครับ ก็ผู้รับเหมา ป้าเจ้าเก่าแหละครับ โดยใช้ช่างทีมเจาะผนังของแก(มารู้ทีหลังว่าป้าแกจ้างมาอีกที เป็นช่างฝ้าประจำของแก ส่วน built in ถึงจะเป็นช่างจากโรงงานแกเอง)

กว่าจะตกลงราคาต่อพื้นที่เล่นเอางง เพราะเวลาเค้าทำฝ้าหลุม เค้ามีวิธีวัดต่อตารางเมตรอีกแบบ ซึ่งต่างจากการวัดตีราคาฝ้าแบบธรรมดา ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าวัดยังไงทำไมวัดแล้วพื้นที่มันกว้างกว่าเพดาน จริง เดาว่าคงเป็นช่วงหลืบฝ้าตามหลุม แล้วก็พวกซ่อนรางม่าน  แต่ราคารับได้ก็โอเคครับ  

งานเร็วมากครับ จะไปช้าก็ตรงเก็บสี แก้งานซึ่งคิดไว้ในใจว่าต้องมีอยู่แล้ว งานสีงานโป้ว แก้ได้ถ้าให้เวลาครับ

ฝ้าแปะลายไม้ที่ดรอปลงมา มารู้ทีหลังว่าถ้าใช้เป็นโครงไม้แทนแผ่นยิปซัม งานจะเนี้ยบกว่าและช่างจะเก็บงานง่ายกว่า แต่ก็มีราคาแพงกว่า  ป้าเลยจัดให้เราถูกๆ ซึ่งภาระจะตกไปอยู่ที่ช่างฝ้า แทนที่จะเป็นทีม build in (เพิ่งมาเรียนรู้ทีหลังจากช่าง) แต่ช่างในที่นี้ก็ไม่มีใครเคยทำสักคน

ผ่านไป 5 วัน เสร็จงานเจาะผนัง งานฝ้าผ่านมาได้ครึ่งทาง ทีม build in "เทพ" เริ่มนำไม้ที่ตัดแล้วเข้า (ระหว่างที่งานฝ้าทำทีมนี้จะเตรียมตัดไม้ไว้พร้อมรอประกอบ) ที่เรียกว่าเทพเพราะ พี่แกสามารถอ่านจากแบบวาดของป้า (คือแบบเดียวกันกับที่ส่งให้ผม) แล้วมาดัดแปลงให้เข้ากับบ้าน, ขนาด และความต้องการของผมอีกที ซึ่งทุกอย่างต้องแก้หน้างาน

มาต่อครับ ......ก่อนที่จะตัดสินใจทำกับป้า ไปดูมาหมดครับ ทั้งร้านเฟอร์นิเจอร์ดังๆ และไม่ดัง  เพียงแต่ ยังไม่เจอที่ถูกใจครับ พอถูกใจราคาก็ไม่ได้
ภาพในหัวคือ
ห้องนั่งเล่น; ไม่ต้องมีตู้โชว์ ชั้นโชว์ แต่เป็นตู้ที่เก็บของได้ พวกหนังสือ พวกอุปกรณ์ ของใช้ต่างๆ โดยไม่เกะกะตัวบ้าน ไม่ทำให้บ้านแคบลงครับ ทำเป็นตู้ผนังที่เก็บของได้ เต็มขนาดของผนังเดิม ติดกระจกเงาดำทุกบาน เพื่อบ้านจะดูกว้าง ถ้ากระจกเงาธรรมดามันจะสะท้อนเกิน เพราะผนังด้านนี้จะเว้นไว้ทำเป็นที่แขวนทีวีด้วยครับ

ห้องครัว; ห้องครัวของบ้านนี้ค่อนข้างแคบ ดูเหมือนจะให้ไปต่อครัวไทยกันเองด้านหลัง แต่บ้านเราไม่ค่อยทำอาหาร เลยใช้บริเวณแค่ที่มีอยู่ แต่ขอชั้นเก็บของเยอะๆ เผื่ออนาคตเกิดอยากทำครัวบ้าง ครัวนี่แล้วแต่ป้าผู้รับเหมา  เพราะดูแกจะเน้นและตั้งใจในส่วนนี้เป็นพิเศษ จะเติมนั่นโน่นนี่ให้ ถึงในแบบไม่เขียนบอก ฉันก็จะเติมให้ ไอ้ผมก็ไม่สนใจอะไร แล้วแต่แกเลย ต้องแบบนั้นแบบนี้ สอนนั่นนี่ตามประสาแม่บ้านที่ผ่านประสบการณ์มานาน (ดูภายนอกแกเหมาะที่จะเป็นแม่บ้านมากกว่า ผู้รับเหมา) ตกลงมันบ้านใครเนี่ยะ !!?? แต่เชื่อใจให้แกทำเเล้ว ก็ต้องเชื่อต่อไป  ขอเพิ่มตู้หน้าห้องครัวอีก 2ใบไว้เก็บของ ด้านหนึ่งไม่มีพื้นตู้เอาไว้เก็บกระเป๋าเดินทาง เดินทางบ่อย จะได้ไม่ต้องยกกระเป๋าขึ้นชั้นบนครับ  

ห้องนอน; ห้องนี้ไม่เอาอะไรเลย เอาแค่ชั้นวางทีวี จริงจะซื้อตามร้านก็ได้ แต่ไหนๆ ก็ให้แกทำแล้ว ก็เลยให้ทำไปเลยทีเดียว เพราะราคายังอยู่ในงบ

ห้องแต่งตัว; ขอแบบเก็บได้เยอะๆ เพราะ 2 คนเสื้อผ้าเยอะกันทั้งคู่ ขอให้ง่ายต่อการเก็บ มีบานปิดส่วนชั้นด้านบน เอาไว้เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้นานฝุ่นจะจับ เน้นราวแขวน เพราะเวลาพับ จะหยิบใช้ทีล้มระเนระนาด หรือไม่ก็ยับเยิน (อันนี้ข้อบกพร่องส่วนตัว) เลยทำแขวนดีกว่า และก็พอมีลิ้นชักบ้างในส่วนสำหรับผ้าที่แขวนไม่ได้, มีโต๊ะแต่งตัว กระจกเปิดออกมาได้ ด้านหลังเป็นที่เก็บเครื่องสำอาง, มีกระจกเต็มตัวติดเป็นบานเลื่อนตู้อีกบาน เอาไว้สำหรับสูทหรือdress ที่นานๆใส่ที และสุดท้าย ทำประตูเลื่อนไม้กั้นผนังที่เจาะออกห้องนอน กันแอร์ และเผื่อเวลาแต่งตัวจะได้ไม่รบกวนอีกคนที่นอนอยู่ครับ

บอกป้าแกไปแบบนี้ ...คำตอบคือ เออน่า เดี๋ยวทำให้สวยๆ รับรู้รึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ยังดีมีลูกสาวแกจบใหม่ไฟแรง คอยช่วยจด

ช่างฝ้ามาเก็บงาน และติดตั้งไฟให้ แกต่อไฟแล้วถ่ายส่ง line มาให้ดูด้วยความภูมิใจ แกบอกเลือกไฟให้เสร็จสรรพ (ยกเว้นไฟโต๊ะกินข้าว และไฟติดที่หาซื้อเองต่างหาก ยังห่อพลาสติกไว้ และยังไม่ได้ดึงลงมา) ตอนแรกตกใจสีสัน  แต่ที่จริงแล้วมันมีรีโมทเปลี่ยนสีและปรับแสงได้ กระพริบช้าเร็ว ,fade ได้  แต่คงไม่ได้ใช้ตราบใดที่ยังไม่เปิดเป็นผับครับ  ช่างใส่ให้มาทั้งสอง หลุม คุณพ่อผมและน้องแวะมาดู ดูแกจะชอบเจ้าสิ่งนี้เป็นพิเศษ

งานครัวเริ่มเข้ามา แต่ผมขอยั้งไว้ก่อน ขอทำ top ใหม่เป็นแกรนิต จากเดิมที่เคยเป็นกระเบื้อง โดยร้านที่รู้จักกันมาทำ top ให้

ในครัวยังทำไม่ได้  เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ช่างเลยย้ายขึ้นไปทำห้องแต่งตัว งานไปไวมาก ใช้ช่างเพียง 2 คน แต่ดูเชี่ยวชาญมาก

ทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 2 วัน เห็นทีมช่างทีมนี้แล้วค่อยอุ่นใจหน่อย มีไอเดียสร้างสรรค์ แก้ไขงานเฉพาะหน้าได้ดี ต้องแก้เยอะหน่อยจากแบบของป้า  บางทีก็หยวนๆ ใส่โน่นนี่ให้ เพราะในสัญญาไม่มีรายละเอียด แต่ขออะไรทำให้หมด จนเราเริ่มเกรงใจ

ตรงบานประตูเลื่อน ช่างบอกว่าไม่สวย เดี๋ยวบุไม้ให้ในส่วนด้านบนประตู และด้านข้างเลยแล้วกัน รวมทั้งขึ้นวงกบให้ใหม่ จะดูสวยกว่า  ช่างแกกลัวทำออกมาไม่สวย แต่ก็พยายามไปเรื่อยๆ จนกว่าแกจะพอใจของแกเอง ตกลงมันบ้านใครเนี่ยะ เสร็จแล้วก็เป็นแบบนี้

ครัวเริ่มเสร็จ

ชั้นล่าง ว่าจะเอาไฮกลอส (ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาว modern ทั้งหลาย) แต่ผมว่าไม่พอ ขอกระจกเงาดำเลยแล้วกัน ป้าบอกไม่เคยทำ ถามว่าจะเอากระจกไปทำไม จะสวยเหรอ?  ป้าทำเหอะครับ ขอตามใจผมบ้าง

งบสามแสนก็ได้ประมาณนี้ครับ สำหรับ build in ห้องแต่งตัว, ประตูเลื่อน, ห้องนั่งเล่น, บุฝ้า(ลามิเนต), ครัวเต็ม, แพนทรีเต็ม มีผนังชั้นทีวีห้องนอนอีกครับ แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ งานติดตั้งอื่นอีกเล็กๆน้อยๆ รวมไปถึงระบบไฟ


โดยรวมถือว่างานดีครับ ราคาไม่แพง และที่สำคัญมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา อะไรเสียนิดๆหน่อยๆ Line ตามก็มาแก้ทันที ไม่คิดเงิน  แต่มีสีให้เลือกน้อยมาก ต้องมีเวลาไปคุมงานเอง ไม่มีดีไซเนอร์มีแบบให้ดูก็เหมือนไม่มี เสี่ยงที่จะออกมาไม่สวยอย่างมากครับ

ขอบคุณ //pantip.com/topic/33127321




 

Create Date : 25 มกราคม 2558    
Last Update : 25 มกราคม 2558 10:46:37 น.
Counter : 5426 Pageviews.  

7 ข้อควรรู้ก่อนจัดสวนให้ระเบียงขนาดเล็ก

7 ข้อควรรู้ก่อนจัดสวนให้ระเบียงขนาดเล็ก

ไม่ใช่เรื่องแปลก!!ถ้าความใฝ่ฝันของคนที่อาศัยอยู่ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมอันวุ่นวายของชีวิตในเมือง คือการที่ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ และได้สัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวสดในบ้านของตัวเอง ถึงแม้ในปัจจุบันเหล่าคนเมืองที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ หรือคอนโดขนาดเล็กจะมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น ความผูกพันของธรรมชาติที่มีต่อผู้คนก็ยังไม่ได้ลดน้อยไป วันนี้ forfur จึงมีข้อควรรู้ในการจัดสวนบนพื้นที่เล็กๆ เช่นระเบียง ชานบ้าน หรือพื้นที่กลางแจ้งขนาดย่อมมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ ^^



1. เช็คให้แน่ใจ
ก่อนที่เราจะเริ่มการตกแต่งระเบียง หรือชานที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารควรตรวจสอบหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในประสิทธิภาพของตัวระเบียงว่าสามารถแบกรับน้ำหนักได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากโครงสร้างในแต่ละอาคารจะมีความสามารถในการรับน้ำหนักที่แตกต่างกัน และในหลายๆ อาคารก็ไม่สามารถทนต่อวัสดุบางชนิดได้ ซึ่งอาจตรงกับวัสดุที่เราคิดจะเลือกใช้อีกด้วย วิธีการตรวจสอบในลักษณะนี้นอกจากจะทำให้เรามั่นใจในความปลอดภัยแล้ว ยังทำให้เราสามารถตัดสินใจเลือกวัสดุในการตกแต่งได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ

2. กลางคืน หรือ กลางวัน?
พิจารณาช่วงเวลาในการใช้พื้นที่ระเบียงหรือชานบ้าน หากเราเป็นคนที่ใช้เวลาในช่วงกลางวันไปกับการทำงาน และใช้เวลาในช่วงเย็นหรือช่วงกลางคืนในการพักผ่อน การนำแสงไฟมาเป็นส่วนประกอบในการตกแต่งจะทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์ในส่วนนี้ได้อย่างเต็มที่และยังใช้เป็นพื้นที่สร้างความเพลิดเพลินยามค่ำคืนได้อีกด้วย เราอาจใช้เทียนที่มีหลากหลายขนาดเพื่อสร้างแสงที่สวยงามแทนโคมไฟ และความนุ่มของแสงเทียนยังช่วยเน้นบรรยากาศโรแมนติก



3. สร้างภาพมายา
เราสามารถสร้างความรู้สึกให้ระเบียงเล็กๆ ของเราให้มีมิติได้โดยการจัดแต่งแบบแบ่งชั้น (foreground, middle ground, background) การจัดแต่งในลักษณะนี้จะเป็นการช่วยสร้างภาพหลอกให้ระเบียงของเราดูมีขนาดและความลึกเพิ่มขึ้นได้

4. วัสดุที่ใช้(ใช่)
ลืมเรื่องสไตล์ของตัวเองไปได้เลยกับการเลือกวัสดุหรือกระถางใส่ต้นไม้ในการตกแต่งระเบียง เพราะกระถางต้นไม้สำหรับสวนกลางแจ้งนั้นควรทำจากวัสดุธรรมชาติ อย่างเช่น ไม้ ดินเผา หรือเหล็ก โดยวัสดุเหล่านี้สามารถเข้ากับการตกแต่งในสไตล์ต่างๆได้มากมายอีกด้วย และเราควรหลีกเลี่ยงการใช้กระถางที่ทำมาจากพลาสติกเพราะวัสดุเหล่านี้ไม่ทนต่อแสงแดด และอาจส่งผลต่อระดับความหรูหราในระเบียงของเราได้



5. สีสร้างอารมณ์
การใส่สีสันลงไปในอุปกรณ์ตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ กระถาง หรือดอกไม้พืชพรรณต่างๆ สามารถสร้างความรู้สึกให้กับสวนบนระเบียงของเราได้ เช่นถ้าเราต้องการบรรยากาศที่ดูอบอุ่นให้ลองใช้ สีส้ม สีแดง หรือสีเหลือง หรือหากต้องการระเบียงที่ให้ความรู้สึกที่เย็นสบายให้ใช้เฉดสีขาว ซึ่งเราอาจใช้สีน้ำเงิน หรือเขียวเพิ่มความสดชื่นได้

6. พื้นสวยช่วยดึงดูดใจ
การเลือกใช้อุปกรณ์ปูพื้น เช่นพรมกลางแจ้งหรือแผ่นไม้เชื่อมแบบ inter-locking นอกจากจะช่วยปกปิดพื้นคอนกรีตที่แข็งกระด้างแล้ว ยังสร้างความน่าดึงดูดให้ระเบียงของเราอีกด้วยค่ะ



7. มากไปจะไม่งาม
ระมัดระวังการเลือกใช้อุปกรณ์ และต้นไม้ตกแต่งระเบียงขนาดเล็กของเราไม่ให้เยอะจนเกินพอดี การใช้อุปกรณ์ตกแต่งเพียงไม่กี่ชิ้นจะช่วยทำให้ระเบียงขนาดเล็กดูน่าสนใจขึ้นได้ ขณะเดียวกันการใช้ของตกแต่งมากเกินความจำเป็นก็สามารถทำให้ระเบียงของเราดูรกได้ค่ะ

ข้อมูลและวิธีการเตรียมการออกแบบตกแต่งระเบียงและชานบ้านที่นำมาแบ่งปันเพื่อนๆ ในครั้งนี้ ไม่ใช่ข้อจำกัดที่เราจะต้องใช้เป็นกรอบในการตกแต่ง แต่เป็นเพียงข้อมูลที่จะช่วยให้เพื่อนๆ นำไปประยุกต์ใช้กับสไตล์ของตนเองได้อย่างเหมาะสมค่ะ

ข้อมูลจาก //www.forfur.com/




 

Create Date : 23 มกราคม 2558    
Last Update : 23 มกราคม 2558 8:47:20 น.
Counter : 3267 Pageviews.  

สร้าง “กลิ่นหอม” ให้บ้าน ด้วยสเปรย์แฮนด์เมด

สร้าง “กลิ่นหอม” ให้บ้าน ด้วยสเปรย์แฮนด์เมด

เวลาเปิดประตู หรือเปิดประตูห้องใด ห้องหนึ่งเข้าไปภายใน บางคนถึงกับต้องผงะ เพราะกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ บางทีเป็นกลิ่นเหม็นอับ กลิ่นหลังการปรุงอาหารในห้องครัว กลิ่นเหม็นจากห้องน้ำในบ้าน  คุณแม่บ้านทั้งหลายมักแก้ปัญหาด้วยการนำก้อนดับกลิ่น หรือสเปรย์ดับกลิ่นมาใช้

การแก้ปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยสเปรย์ดับกลิ่นต่างๆ แม้จะแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นได้ แต่สเปรย์เหล่านั้นก็ทิ้งสารเคมีที่ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย Sanook!Home เห็นว่า ในด้านอื่นๆ เราต้องเจอกับสารเคมีมากพออยู่แล้ว  ดังนั้นหากสามารถหลีกเลี่ยงสารเคมีจากทางอื่นๆ ได้ เราก็ควรจะทำ

วันนี้แม่บ้าน Sanook!Home จึงมีไอเดียการเพิ่มกลิ่นหอมในบ้าน ด้วยของแฮนด์เมดต่างๆ ที่คุณแม่บ้านสามารถนำของใช้ใกล้ตัวมาเนรมิต สร้างสรรค์ทำเป็นน้ำหอม เจลหอมจากธรรมชาติ บอกเลยว่านอกจากจะทำให้บ้านหอมสดชื่นแล้ว บางชิ้นยังกลายเป็นของประดับเก๋ๆ ได้อีกด้วย

1.เพิ่มความหอมสดชื่นด้วยสเปรย์มะนาว คุณแม่บ้านสามารถทำสเปรย์มะนาวได้ด้วยตัวเองง่ายๆ คือการนำผงเบกกิ้งโซดาประมาณ 1/8 ถ้วย เทลงในน้ำอุ่นประมาณ 2 ถ้วย และเติมน้ำมะนาวสดเพิ่มลงไป ½ ถ้วย จากนั้นเทส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในขวด แล้วเขย่า เพียงเท่านี้คุณก็จะได้สเปรย์มะนาวหอมชื่นใจ

ภาพจาก //www.homedit.com/

2.เติมความหอมอย่างผ่อนคลายด้วยลาเวนเดอร์แห้ง เพียงคุณแม่บ้านนำดอกลาเวนเดอร์แห้งจำนวนหนึ่งใส่ลงในขวดแก้ว แล้วเทผงเบกกิ้งโซดาลงไปพร้อมๆ กัน จากนั้นหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ลงไปประมาณ 3 หยด แล้วเขย่าขวดแก้วนั้น เห็นไหมคะว่า ขวดแก้วลาเวนเดอร์แห้งก็ทำให้ห้องคุณหอมขึ้นได้

3.เปลือกส้มทำให้ตู้เย็นหอมสดชื่น ตู้เย็นเปรียบเสมือนถังขยะของสดที่เรานำทุกอย่างแช่เข้าไปทั้งผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ น้ำดื่ม ฯลฯ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ หากตู้เย็นจะมีสารพัดกลิ่นไม่ถูกใจ แต่แม่บ้านสนุก โฮม ก็มีวิธีรับมือกับกลิ่นเหล่านั้นแบบง่ายๆ คือใช้เปลือกส้มช่วยดับกลิ่น วิธีการคือ ผ่าส้มออกครึ่งลูก จากนั้นแกะเนื้อส้มออกจนเหลือแต่เปลือกส้ม วางเปลือกส้มลงในชามใบเล็กๆ แล้วผสมเกลือลงไป จากนั้นนำชามไปวางไว้ในตู้เย็นด้านในสุด ตู้เย็นของคุณก็จะหอมชื่นใจ ไร้กลิ่นเหม็นรบกวน

ภาพจาก //www.homedit.com/

4.ใบยูคาลิปตัสรัญจวนใจ นอกจากเราจะสามารถใช้ใบยูคาลิปตัสประดับตกแต่งบ้านได้แล้ว ใบยูคาลิปตัสปักแจกันยังช่วยทำให้สถานที่นั้นๆ ไร้กลิ่นเหม็นอีกด้วย

5.ดับกลิ่นถังขยะด้วยมะนาวแช่แข็ง เป็นวิธีดับกลิ่นถังขยะในบ้านที่ง่ายแสนง่าย เพียงคุณหั่นมะนาวออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมะนาวชิ้นเล็กๆ เหล่านั้นไปใส่ไว้ในถาดทำน้ำแข็ง จากนั้นเทน้ำส้มสายชูลงไปตามช่องทำน้ำแข็ง แล้วนำถาดน้ำแข็งนั้นไปแช่ในตู้เย็น เมื่อแข็งตัวแกะก้อนน้ำแข็งแต่ละก้อนออก แล้วนำไปเก็บไว้ในแกลลอนที่อยู่ในตู้เย็น เมื่อต้องการใช้ให้หยิบน้ำแข็งออกมาทีละก้อน แล้วนำไปวางไว้ที่ก้นถุงขยะ เมื่อมะนาวกับน้ำส้มละลายจะเป็นตัวด้วยดับกลิ่นถังขยะได้ดี

ภาพจาก //www.homedit.com/

6.ถุงชาสำหรับดับกลิ่นในที่แคบ ในห้องน้ำ หรือห้องซักรีด อาจมีกลิ่นเหม็นที่อาจรุนแรง การนำถุงชา 3-4 ชิ้นมาแขวนไว้เหนือประตูห้อง จะช่วยลดกลิ่นเหม็นเหล่านั้นลงได้ และหากแขวนถุงชาไปนานๆ จนกลิ่นเริ่มจาง ให้นำน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบหยดใส่ถุงชา เพียงเท่านั้นถุงชาใบนั้นก็จะกลับมาทำหน้าที่ดูดซับกลิ่นเหม็นได้อีกครั้งหนึ่ง

7.เบกกิ้งโซดาดับกลิ่นเฟอร์นิเจอร์ คุณแม่บ้านต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่าเบกกิ้งโซดาจะช่วยลดกลิ่นเฟอร์นิเจอร์ได้ วิธีการก็ง่ายมาก เพียงนำผงเบกกิ้งโซดาใส่ถ้วย แล้วนำถ้วยนั้นไปวางไว้ด้านในเช่นในลิ้นชัก ทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง กลิ่นเหม็นจากเฟอร์นิเจอร์ก็จะหายไป

ภาพจาก //www.homedit.com/

8.การตุ๋นส่วนผสมที่หลากหลาย หากคุณแม่บ้านต้องการให้บ้านไร้กลิ่นในเวลาอันรวดเร็ว ทำได้ไม่ยาก เพียงนำส่วนผสมที่มีกลิ่นหอมทั้งอบเชย ผงวานิลลาสกัด ผงอัลมอนด์สกัด  หรือแอปเปิ้ลไซเดอร์  นำไปใส่ในน้ำประมาณหนึ่งถ้วย แล้วเทลงในหม้อต้ม ตุ๋นด้วยความร้อนระดับต่ำ ถ้าจะให้ดีแนะนำให้ทำวิธีนี้ในตอนเย็นๆ บ้านของคุณก็จะมีกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่ว

เรียบเรียงข้อมูลจาก  //www.homedit.com/
ภาพจาก //www.homedit.com




 

Create Date : 22 มกราคม 2558    
Last Update : 22 มกราคม 2558 8:30:27 น.
Counter : 1198 Pageviews.  

เลือกสีห้องนอนให้ถูกโฉลก เสริมดวงชะตา

เลือกสีห้องนอนให้ถูกโฉลก เสริมดวงชะตา

ศาสตร์ในการเลือกสีนั้นมีมาตั้งแต่สมัยเก่าก่อน สีมีอิทธิพลต่อความรู้สึกส่งผลต่อความคิดและสติ หากเราเลือกสีถูกโฉลกกับตัวเรา สีก็จะช่วยส่งเสริมให้เรามีพัฒนาการได้ดีขึ้น ihome108 ก็เลยได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกใช้สีภายในมาฝากเพื่อน ๆ ซึ่งมีทั้งการเลือกสีห้องนอนจากฮวงจุ้ยและเลือกตามวันเกิด ซึ่งเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาว่าจะใช้สีนั้นในห้องนอนของตนเองก็ลองศึกษาดูได้



การเลือกสีห้องนอนให้ตรงตามฮวงจุ้ยสีตามปีนักษัตรทั้ง 12 ปี

1. ปีชวด (ปีหนู) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีทอง สีเงิน สีขาว สีฟ้า สีเทา และสีดำ

2.ปีฉลู (ปีวัว) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีแดง สีม่วง สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำตาล

3. ปีขาล (ปีเสือ) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีฟ้า สีเทา สีดำ สีเขียว และสีเหลืองอมเขียว

4.ปีเถาะ (ปีกระต่าย) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีฟ้า สีเทา สีดำ สีเขียว และสีเหลืองอมเขียว

5.ปีมะโรง (ปีมังกร) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีแดง สีม่วง สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำตาล

6.ปีมะเส็ง (ปีงู) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีเขียว สีเหลืองอมเขียว สีแดง สีม่วง และสีส้ม

7.ปีมะเมีย (ปีม้า) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีเขียว สีเหลืองอมเขียว สีแดง สีม่วง และสีส้ม

8.ปีมะแม (ปีแพะ) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีแดง สีม่วง สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำตาล

9. ปีวอก (ปีลิง) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีเหลือง สีน้ำตาล สีทอง สีเงิน และสีขาว

10.ปีระกา (ปีไก่) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีเหลือง สีน้ำตาล สีทอง สีเงิน และสีขาว

11.ปีจอ (ปีหมา) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีแดง สีม่วง สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำตาล

12.ปีกุน (ปีหมู) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีทอง สีเงิน สีขาว สีฟ้า สีเทา และสีดำ

การเลือกสีห้องนอนให้ถูกโฉลกตามวันเกิด

1.สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ แม้ว่าสีแดงเป็นสีที่ถูกโฉลกกับคนเกิดวันอาทิตย์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว สีที่ถูกโฉลกของผู้ที่เกิดวันนี้ห้ามนำ มาทาสีห้องนอนเป็นอันขาด สำหรับการเลือกสีของห้องนอนนั้นควรเลือกทาสีควันบุหรี่หรือสีขาว แต่ถ้าผนังของบ้านเป็นไม้หรืออิฐ ควรตกแต่งด้วยม่านสีขาว เท่านี้ก็จะช่วยเสริมดวงชะตาของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ได้แล้ว

2.สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์ ห้องนอนควรใช้สีครีม สีเหลืองอ่อน สีเขียวอ่อน หรือสีขาวปนเข้าไปก็จะช่วยเสริมดวงชะตา และเพิ่มความสวยงามอีกด้วยนะคะ ข้อห้ามสำหรับผู้เกิดวันนี้ ไม่ควรเลือกสีสดๆ อย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่มีความสุข

3. สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันอังคาร ห้องนอนควรเลือกสีเขียวอ่อน สีฟ้าอ่อน หรือสีอ่อนๆ เพื่อแสดงถึงความรู้สึกอ่อนโยน เนื่องจากสีประเภทนี้จะทำให้เกิดความสงบและมีสมาธิ ทำให้สมาชิกในบ้านเกิดความรู้สึกสบายใจ และสามารถหลีกเลี่ยงความวุ่นวายต่างๆ ออกไปได้

4. สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันพุธ สำหรับผู้ที่เกิดพุธกลางวันต้องเลือกสีฟ้า สีแสด สีขาว สีดำซึ่งสามารถใช้ทาห้องนอนได้ด้วย เชื่อว่าจะเสริมความเป็นสิริมงคลและทำให้ผู้อยู่เกิดความสุข ถ้าเป็นผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนควรเลือกทาสีชมพู สีเทา สีเขียวอ่อน และสีขาวนวล เพราะเป็นสีที่เสริมดวงชะตาของทุกคนในบ้านได้

5. สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี สีของห้องนอนจะต้องเลือกสีส้มอ่อน สีพีช สีฟ้าอ่อน สีเหลืองครีม และสีขาว เพราะสีเหล่านี้สามารถสร้างความสุขให้แก่ผู้ที่เกิดในวันนี้ได้เป็นอย่างดี

6. สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันศุกร์ การเลือกสีให้ห้องนอนควรเลือกสีพีช สีเขียวอ่อน และสีขาว เพราะสีเหล่านี้จะทำให้ผู้ที่เกิดวันศุกร์มีความสุข หากชอบแต่งห้องด้วยผ้าม่านก็ควรเลือกม่านสีฟ้าอ่อน สีเหลืองครีม หรือสีส้มอ่อนๆ จะเสริมดวงชะตาได้

7. สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันเสาร์  ควรเลือกสีที่เป็นโทนสีอ่อนๆ เช่น สีขาว สีควันบุหรี่ หรือสีเขียวอ่อน และไม่ควรเลือกบ้านสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน แต่ควรเลือกสีเขียวอ่อนๆ จะดีที่สุด สีเหล่านี้สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกและห้องต่างๆในบ้าน

สำหรับการเลือกสีเราไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดขนาดต้องสีนั้นเป๊ะๆ เอาความเหมาะสมหรือความชอบของเราเป็นที่ตั้งแล้วดูสีที่เป็นโทนเดียวกับสีที่ถูกโฉลกก็ได้ ต่อมาเรามาดูกันต่อว่าสีแต่ล่ะสีนั้นมีอิทธิพลอย่างไร จะส่งผลอย่างไรกัน

อิทธิพลของสีของในห้องนอน

ห้องนอนสีชมพู

สีชมพูเป็นสีที่ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่เย็นชาและห่างเหิน เป็นสีแห่งการเยียวยาให้ความยากจนหมดไป โดยเฉพาะด้านการเงิน เพื่อการศึกษาเล่าเรียนของบุตรหลาน ช่วยให้มีความมั่นใจและความสบายใจ หากทาสีห้องนอนสีนี้จะทำให้จิตใจอ่อนโยนและดูมีเสน่ห์

ห้องนอนสีเขียว

เป็นสีแห่งการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง ความมีสุขภาพดี ความเจริญรุ่งเรือง การเริ่มต้นใหม่ ความมีโชค และเป็นสีแห่งความมั่งคั่ง มักใช้เป็นสีดึงดูดกระแสการเงินให้เพิ่มมากขึ้นในชีวิต ห้องนอนสีเขียวทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง

ห้องนอนสีชมพูอมส้ม

เป็นสีที่กระตุ้นเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ ความมีเสน่ห์ทางเพศ แรงดึงดูดเหมาะสำหรับคนโสดที่ต้องการหาคู่

ห้องนอนสีม่วงอ่อน

สีม่วงอ่อนเป็นสีแห่งการปกป้องจิตวิญญาณ สีแห่งความสำเร็จ ความปรารถนาและการงานที่ดี

ห้องนอนสีครีม

สีครีมเป็นสีที่ช่วยส่งเสริมให้สุขภาพแข็งแรง ช่วยในการฟื้นตัว ความมั่นคงทางอารมณ์ เหมาะกับห้องนอนผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และเด็กที่มีอารมณ์ที่รุนแรง

ห้องนอนสีเทา

สีแห่งความสมดุล ความหยั่งรู้ ความสมบูรณ์ ช่วยดึงดูดความฉลาดที่ซ่อนไว้ให้ปรากฏขึ้น

ตัวอย่างห้องนอนแต่ละสี

เรียบเรียงโดย : www.ihome108.com




 

Create Date : 18 มกราคม 2558    
Last Update : 18 มกราคม 2558 14:09:57 น.
Counter : 3981 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.