ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

5 สัญญาณเตือนบ้านป่วยระยะสุดท้าย ก่อนตัดสินใจซ่อม



5 สัญญาณเตือนบ้านป่วยระยะสุดท้าย ก่อนตัดสินใจซ่อม

คนจำนวนไม่น้อยพักอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเอง โดยลืมสังเกตความผิดปกติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น กว่าจะรู้ตัวอีกทีตรงนั้นก็ชำรุด ตรงนี้ก็รั่ว ตรงนั้นก็ซึมแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายรุนแรง Sanook! Home อยากมาแนะนำ 5 สัญญาณเตือนที่คุณควรใส่ใจเพราะ “บ้าน” กำลังจะบอกว่าถึงเวลารีโนเวท ปรับปรุง ซ่อมบำรุงบ้านได้แล้ว

1.เมื่อกระเบื้องปูพื้นเริ่มหลุดร่อน พื้นบ้านหรือพื้นห้องของคุณผ่านการใช้งานมาแรมปี ความสึกหรอหรือกระเบื้องหลุดร่อนมันก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจจะมีเหตุผลมาจากกาวที่ใช้ไม่เหมาะสม หรือปูนซีเมนต์ที่นำมายาแนวกระเบื้องไร้คุณภาพ ดังนั้นควรรีบเรียกช่างให้มาเปลี่ยนและปูกระเบื้องใหม่โดยเลือกใช้กาวที่มีคุณภาพ

2.เมื่อสีผนังเริ่มหลุด เป็นไปได้ที่ก่อนทาสีผนังคุณไม่ได้ทำความสะอาดพื้นผิว วิธีการแก้ไขคือการขูดสีเดิมออกให้หมด จากนั้นทำความสะอาดพื้นผิวให้เรียบร้อย ก่อนจะทาหรือฉาบสีใหม่ลงบนผนังให้ทุกพื้นที่เท่ากัน

3.จุดสีดำบนหลอดไฟ หลอดไฟที่มีอายุการใช้งานมานานหลายปี ก่อนที่ไฟจะดับทั้งหมด แนะนำให้คุณเปลี่ยนหลอดไฟ โดยเลือกหลอดไฟ LED เพื่อความคงทนและประหยัดค่าไฟฟ้า

4.ลูกบิดเปิดลำบาก ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่มีคนถูกขังอยู่ในห้อง รีบเปลี่ยนลูกบิดประตูทันทีเมื่อพบว่ามันเริ่มเปิดลำบาก โดยเลือกลูกบิดขนาดที่พอดีกับมือเพื่อคุณจะได้ออกแรงและดันลูกบิดได้อย่างเต็มแรง

5.เมื่อปลวกเริ่มมาเยี่ยมบ้าน หากคุณเริ่มได้ยินเหมือนเสียงปลวกกัดกินไม้ หรือหากลองเคาะแผ่นไม้ในบางจุดแล้วพบว่ามันกลายเป็นความกลวง คุณควรหาวิธีการกำจัดปลวกเสียแต่เนิ่นๆ ก่อนที่มันจะยกกองทัพมาบุกบ้านของคุณ

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก realliving

ภาพจาก //www.istockphoto.com




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 12 พฤษภาคม 2559 8:39:21 น.
Counter : 711 Pageviews.  

10 ทริคจัดหิ้งพระในบ้านอย่างไรให้เป็นสิริมงคลกับเจ้าของ



10 ทริคจัดหิ้งพระในบ้านอย่างไรให้เป็นสิริมงคลกับเจ้าของ

บ้านแต่ละหลังย่อมมีหิ้งพระ หรือมากกว่านั้นอาจจะมีหิ้งเทพ หิ้งรูปบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แต่ก็ยังพบปัญหาว่าหลายคนไม่ทราบว่าควรจัดวาง ตั้งหิ้งพระไว้บริเวณใดของถึงเหมาะสมและเป็นมงคลกับชีวิต รวมถึงอาจเผลอวางหิ้งพระผิดที่ผิดทางจนเกิดความไม่เป็นมงคลได้ Sanook! Home เลยรวบรวมคำแนะนำเรื่องการจัดหิ้งพระให้เหมาะสมและเป็นมงคลต่อเจ้าของบ้าน

1.หมั่นดูแลหิ้งพระให้สะอาดอยู่เสมอ หลายจุดในบ้านเจ้าของบ้านให้ความสำคัญแต่บางครั้งหลงลืมตำแหน่งของหิ้งพระ ดังนั้นต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดองค์พระหรือรูปเทพ เพราะหากองค์พระหรือรูปเทพมีฝุ่นจับเชื่อว่าจะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วย นอกจากนั้นควรหมั่นเปลี่ยนน้ำ ดอกไม้ในแจกันบูชาเพื่อให้ชีวิตของคนในบ้านสดชื่น แจ่มใสอยู่ตลอดเวลา

2.เลือกตำแหน่งที่สงบ หิ้งพระควรตั้งอยู่ในพื้นที่ๆ สงบ ไร้เสียงรบกวน จอแจ เช่นบางบ้านประดับหิ้งพระไว้บริเวณประตูเข้า-ออก ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าคนในบ้านจะพบแต่ความวุ่นวาย

3.หิ้งพระไม่ควรติดตั้งผนังเดียวกับห้องน้ำหรือห้องครัว รวมถึงไม่ควรหันหน้าหิ้งบูชาไปตรงกับประตูห้องน้ำหรือห้องครัว เพราะจะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วย มีเรื่องขัดแย้งหรือเงินทองรั่วไหล

4.หิ้งพระบนหลังตู้ควรสูงกว่าศีรษะ หากคุณพักอาศัยในคอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์หิ้งพระควรอยู่สูงกว่าศีรษะเพราะมันเกี่ยวพันกับความเจริญก้าวหน้า อาชีพการงาน

5.ห้องพระคือห้องพระ ห้องพระก็คือห้องสำหรับตั้งบูชาพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว เราอย่าใช้ห้องพระไว้เก็บข้าวของชนิดอื่นๆ รวมทั้งห้องพระไม่ควรอยู่ติดกับห้องน้ำหรือมีประตูตรงกับห้องน้ำ

6.หิ้งพระไม่ควรตั้งอยู่ปลายเตียง หากไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรตั้งหิ้งบูชาไว้ในห้องนอน เนื่องจากเราอาจมีกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าหิ้งพระเช่นการเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือการร่วมหลับนอนของคู่สามี-ภรรยา อีกทั้งยังไม่ควรหันหน้าหิ้งพระไปยังทิศที่เตียงตั้งอยู่ด้วย

7.ห้องรับแขกไม่ใช่ที่ตั้งของหิ้งบูชา อย่างที่บอกว่าหิ้งพระควรตั้งอยู่ในห้องที่ค่อนข้างมีบรรยากาศสงบ

8.บนหิ้งพระควรมีองค์พระหรือองค์เทพเป็นจำนวนเลขคี่

9.หลีกเลี่ยงการตั้งหิ้งบูชาไว้ใต้คาน เพราะหมายถึงดวงชะตาของเจ้าของบ้านอาจถูกกดทับ และมักมีเรื่องให้ปวดหัวอยู่เสมอ

10.หิ้งพระควรตั้งอยู่ในมุมที่เป็นสัดส่วน ไม่ใช่เมื่ออยู่นอกบ้านแล้วสามารถมองเห็นหิ้งพระในบ้านอย่างชัดเจน เช่นนั้นถือว่าไม่ดี

นอกจากนี้ยังมีทิศต้องห้ามไม่ให้เจ้าของบ้านตั้งหิ้งพระอีกด้วย มาดูกันว่าคุณเกิดปีไหนและห้ามไม่ให้ตั้งหิ้งพระตรงไหน

เจ้าของบ้านเกิดปีชวด ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศเหนือ เพราะจะส่งผลให้เจ้าบ้านเกิดอันตราย จนอาจถึงขั้นเสียชีวิต

เจ้าของบ้านเกิดปีฉลู ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้เจ้าบ้าน เกิดการเจ็บป่วยอย่างกะทันหัน

เจ้าของบ้านเกิดปีขาล ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้ผู้หญิงและสมาชิกในครอบครัวเกิดอันตราย

เจ้าของบ้านเกิดปีเถาะ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาไปทางทิศตะวันออก จะส่งผลให้เกิดความสูญเสียคนในบ้านจะเสียชีวิต

เจ้าของบ้านเกิดปีมะโรง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จะส่งผลให้คนในบ้านเกิดการเสียหายทั้งชายและหญิง

เจ้าของบ้านเกิดปีมะเส็ง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชา หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้คนในครอบครัวมีความยุ่งยากที่สุดจนหาความสงบสุขไม่ได้

เจ้าของบ้านเกิดปีมะเมีย ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศใต้ จะส่งผลให้เกิดเรื่องราวอัปมงคลขึ้นภายในบ้าน

เจ้าของบ้านเกิดปีมะแม ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้ครอบครัว เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

เจ้าของบ้านเกิดปีวอก ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ กับสมาชิกเพศชายในครอบครัว

เจ้าของบ้านเกิดปีระกา ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเพราะ จะทำให้ความทุกข์โศกมาเยือนครอบครัวจนต้องร้องให้อยู่เสมอ

เจ้าของบ้านเกิดปีจอ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะจะส่งผลร้ายให้สมาชิกในครอบครัวอย่างมาก ถึงขั้นเสียชีวิตได้

เจ้าของบ้านเกิดปีกุน ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ในครอบครัวอยู่ตลอด เสียเงินเสียทองขึ้นโรงขึ้นศาล

ได้หลักการจัดหิ้งพระแบบง่ายๆ กันไปแล้ว ก็ลองตรวจเช็คดูนะคะว่าเราวางถูกต้องแล้วหรือยัง

ขอบคุณข้อมูลจาก amulet zazana

ภาพจาก //www.istockphoto.com




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 11 พฤษภาคม 2559 8:28:12 น.
Counter : 1013 Pageviews.  

10 ของมงคล ของขวัญสำหรับทำบุญขึ้นบ้านใหม่



10 ของมงคล ของขวัญสำหรับทำบุญขึ้นบ้านใหม่

เวลาเพื่อนทำบุญขึ้นบ้านใหม่ทีไร นึกไม่ค่อยออกว่าจะซื้ออะไรให้ หลายๆ คนชอบเลือกของที่เป็นสิริมงคลหรือมีความหมายดีๆ ในเชิงเปรียบเทียบให้ และนี่คือ 10 ชิ้นที่ Sanook! Home อยากแนะนำให้คุณลองซื้อไว้มอบเป็นของขวัญทำบุญขึ้นบ้านใหม่ให้เพื่อน

1.ลูกโลก ของมงคลที่แนะนำให้วางไว้บนโต๊ะทำงาน เพราะมีความหมายถึงกิจการที่ก้าวหน้า ก้าวไกล วิธีอธิษฐานเพื่อให้สมหวังก็คือการใช้มือขวาหมุนลูกโลกให้เวียนขวาเบาๆ สัก 3 รอบ

2.อัญมณีสีเขียว ของมงคลที่ควรตั้งใกล้ประตูทางเข้า เพราะมีความหมายถึงการป้องกันพลังไม่ดีไม่ให้เข้าบ้าน หรือถ้าพลังลบเข้ามาก็จะเปลี่ยนเป็นพลังบวกหรือพลังดีๆ

3.นกยูงรำแพน เป็นของมงคลที่ช่วยทำให้มีชื่อเสียงเหมือนหางของนกยูงที่รำแพนสวยงาม

4.นาฬิกาเรือนทอง ของมงคลสำหรับการทำบุญขึ้นบ้านใหม่ แนะนำให้เลือกนาฬิกาทรงกลม วงรี หรือรูปไข่เพราะจะช่วยให้มีคนอุปถัมภ์

5.เรือใบ เป็นของมงคลสำหรับขึ้นบ้านใหม่ที่ช่วยเรื่องการอุปถัมภ์ แต่ไม่ควรตั้งหัวเรือหันไปทางหน้าต่างหรือประตู

6.ธงชาติ ของมงคลที่สามารถติดได้ทุกตำแหน่งของบ้าน ซึ่งช่วยให้สิ่งที่ปรารถนาสัมฤทธิ์ผล ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

7.ควอตไซต์ อัญมณีที่เหมาะสมจะมอบให้เป็นของขวัญในวันทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เพราะช่วยเรื่องการขยายคำอธิษฐานให้สัมฤทธิ์ผลเร็วขึ้น

8.ภาพปลาคู่ เป็นของมงคลสำหรับขึ้นบ้านใหม่ที่มีความหมายถึงการมีกิน มีใช้ไม่รู้จบ วางได้ทุกทิศทุกตำแหน่ง

9.กระจกเงา เหมาะสำหรับติดใกล้เครื่องคิดเงิน ประมาณว่าจะมีเงินเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

10.เพชรตาแมว เป็นเครื่องรางเรียกเงินทอง ควรตั้งไว้ในตู้เซฟหรือบนโต๊ะทำงาน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ภาพจาก //www.istockphoto.com




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 10 พฤษภาคม 2559 8:44:26 น.
Counter : 870 Pageviews.  

DIY เย็บ มัด ย้อม ปลอกเบาะรองนั่ง



DIY เย็บ มัด ย้อม ปลอกเบาะรองนั่ง

ช่วงนี้งานแฮนด์เมดสไตล์มัด ย้อมได้รับความนิยมกันมากขึ้น คุณ Random_life จากห้องชายคา เว็บไซต์พันทิป ดอทคอมเองก็เลยลองใช้เวลาว่าง DIY ปลอกเบาะรองนั่งเอง เห็นแล้วน่าสนุก ก็เลยชวนลูกบ้านสนุกโฮมหาเวลาในวันหยุดมานั่งทำงานฝีมือเล่นๆ กันดู กราบสวัสดีมิตรรักแฟนเพลงทุกท่านครับ สองมือคลิกเมาส์ สองเท้าก้าวเข้ามา .....ชวนมามั่ว ย้อมผ้า วันนี้กระผมขอรีวิวประกอบเพลง เชิญชวน พี่ๆ น้องๆ เพื่อนพ้อง มาเย็บปลอกเบาะรองนั่งครับ เนื่องด้วยเบาะรองนั่งอันเก่า ไม่ได้ใส่ปลอก เลยหาเรื่องทำซะเลย

อันดับแรกต้องมีผ้าก่อนครับ คิดไปเองว่าน่าจะต้องใช้ผ้าดิบ เลยไปได้มาในราคาเมตรละ 65 บาท
เลือกที่เนื้อหนาๆ ครับ จะได้ถูๆ ไถๆ นอนกลิ้งอย่างสบายๆ
จะต้องทำทั้งหมดแปดใบ เลยคิดว่าน่าจะต้องใช้แปดเมตร

ได้ผ้ามาก็วัดเบาะ ได้ 65x65 เซนติเมตร จากนั้นก็ลองกะๆ ดูว่าจะเย็บอย่างไร
คิดว่าน่าจะต้องทำเป็นเหมือนปลอกหมอน แบบทบด้านใน นึกออกมั้ยครับ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

จากนั้นก็เย็บได้เลยครับ ใช้จักรเก่าของยาย ยี่ห้อ TOYOTA

เคยเอาไปซ่อม ล้างสนิม เปลี่ยนอุปกรณ์มาเมื่อต้นปี

ตัดๆ เย็บๆ ตะเข็บเบี้ยวบ้างก็ไม่เป็นไรครับ Hand made แปลได้ว่าไม่ต้องเท่ากัน ฮ่าๆๆๆ

จากนั้นก็ลองใส่เบาะดู ต๊าาาา...ด่าาาาาาาาา...
พอดีเป๊ะ

สรุปว่าใช้ผ้าไปหกเมตรเองครับ เหลือผ้าอีกสองเมตร

ขั้นตอนต่อไปก็เอาผ้าแช่น้ำครับ เพราะจับดูผ้าแล้วมีเหมือนอัดกาวใว้ให้แข็งๆ
คิดไปเองอีกแล้วว่าน่าจะย้อมไม่ติด แช่น้ำทิ้งใว้แล้วตากหมาดๆ ครับ

จากนั้นก็ใว้วิชากูเกิ้ล+ยูทูป หาวิธีมัดผ้าครับ แต่ผมใช้หนังยางมัดครับ มัดให้แน่นๆ เลยครับ
อยากได้ลายไหนก็ ตามใจปรารถนา ฮ่าๆๆๆ

ได้มาตามนี้ครับ

ขั้นตอนการย้อม ผมใช้สีเคมีครับ ซองละหกบาท
ใช้สีน้ำเงินเข้ม 2 ซอง สีกรม 1 ซอง
เอากะละมังตั้งไฟใส่น้ำประมาณสองขัน แล้วใส่สีลงไปครับ หลักการเดาล้วนๆ
ลองเอาปลายผ้าแตะดูว่าสีถูกใจหรือยัง จากนั้นจุ่มผ้าที่มัดใว้ไปเลยครับ
ปล่อยให้ม้วนผ้านอนกลิ้งๆ ออนเซ็นอย่างสบายใจ กะเวลาเอาครับ ขั้นตอนนี้ผมตอบไม่ถูกเหมือนกัน

จากนั้นก็เอาไปซักนำครับ ซักจนกว่าน้ำจะไม่มีสี แล้วนำไปตากแดด

ส่วนผ้าที่เหลือสองเมตร สีย้อมก็เหลือ เลยจัดการขยำแล้วจุ่มสีที่เหลือครับ
ผืนใหญ่ซ้ายมือ นี้ไม่ได้แช่น้ำมาก่อนนะครับ ผลที่ได้คือ สีซึมเข้าเนื้อผ้าได้ดีกว่าที่แช่น้ำ

ตากให้แห้งแล้วนำไปรีด ปรากฏว่าผ้ายังแข็งครับ ยังมีคราบกาวเหนียวๆ อยู่เลย
แต่เราอยากใช้แล้ว อย่ารอช้า จัดการใส่เบาะเลย

ผ้าที่แห้งแล้ว สีจะอ่อนลงอีกนะครับ ใครอยากได้สีเข้มๆ ก็ลองใส่สีเยอะๆ ครับ

ลองจับเรียงๆ ถ่ายรูปซะหน่อย

ผืนใหญ่จากผ้าที่เหลือ ย้อมแบบไม่แช่น้ำสีที่ได้ประมาณนี้ครับ

ขอเตือนว่า......!!!!!!!!!!!!!!!!!
ใส่ถุงมือเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระของแปรงทองเหลือง ร้องไห้
ขัดมาสามวันสียังติดเล็บอยู่เลย

ลาละครับ ลองทำกันดู
ขอบคุณความรู้จากวิชา กพอ. สลน. สปช.

สวัสดีครับ


//home.sanook.com/9497/




 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 9 พฤษภาคม 2559 8:26:08 น.
Counter : 2120 Pageviews.  

ส้วมนั่งยอง กับ ส้วมนั่งราบ ดี-เสียต่างกันอย่างไร



ส้วมนั่งยอง กับ ส้วมนั่งราบ ดี-เสียต่างกันอย่างไร

จากพระราชกฤษฎีกายกเลิกส้วมซึม หรือ โดยให้ครัวเรือนและสถานที่สาธารณะใช้ชักโครกหรือส้วมนั่งราบแทนนั้น ทำให้หลายคนสงสัยว่าต้องเปลี่ยนเป็นชักโครกทั้งหมดเลยไหม แล้วชักโครกหรือส้วมนั่งราบมันดีกว่าส้วมนั่งยองอย่างไร

Sanook! Home เลยหาคำตอบแบบให้เข้าใจง่ายๆ เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียระหว่างส้วมทั้ง 2 แบบ

ส้วมนั่งยอง หรือส้วมซึม ส้วมซึมเป็นส้วมที่มีระบบเป็นบ่อเกรอะ บ่อซึมโดยมีการฝังบ่อเหล่านี้ไว้ใต้ดินซึ่งมักทำมาจากคอนกรีต โดยแบ่งออกเป็น 2 ห้องหรือมากกว่า ให้รองรับอุจจาระจากโถส้วม และให้น้ำหรือแบคทีเรียเป็นตัวย่อยสลาย มีบ่อกรองเป็นบ่อเกรอะแล้วระบายน้ำสู่บ่อซึม ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการใช้งานส้วมในลักษณะนี้อยู่

ภาพจาก sanook

ข้อดีส้วมนั่งยอง หรือส้วมซึม

-สามารถทำให้คุณขับถ่ายได้สะดวกเนื่องจากเวลานั่งลำตัวของเรามักจะโน้มไปข้างหน้าทำให้ลำไส้ตั้งอยู่ในแนวตรงเลยขับถ่ายออกมาได้มากขึ้น

-ราคาย่อมเยา

ข้อเสียส้วมนั่งยอง หรือส้วมซึม

-โถส้วมแบบนั่งยองมักมีปัญหาเรื่อกลิ่นเป็นอย่างมาก

-ใช้น้ำปริมาณมากในการชำระล้าง

-เป็นส้วมที่ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ

-หากเป็นคนที่มีปัญหาด้านข้อเสื่อม หรือมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อขา จะยิ่งทำให้นั่งทำธุระลำบากเป็นอย่างมาก

-เวลาทำความสะอาดเราต้องตัดน้ำราดเอง

ภาพจาก //www.istockphoto.com

ส้วมนั่งราบ หรือชักโครก เป็นส้วมที่ใช้ระบบการทำงานจากถังพักน้ำที่ในอดีตอาจจะมีการติดตั้งถังพักน้ำไว้อยู่เหนือโถ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นการใช้ถังพักน้ำอยู่ด้านหลัง หรือมีการออกแบบที่ทันสมัยรวมทั้งยังช่วยให้ระบบชำระล้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปพร้อมๆ กับการออกแบบที่สวยงามและระบบอัตโนมัติต่างๆ มากมาย

ข้อดีส้วมนั่งราบ หรือชักโครก

-หมดห่วงเรื่องกลิ่น

-ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาด้านข้อและกล้ามเนื้อสามารถใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

-ใช้ระบบการชำระล้างจากน้ำที่อยู่ในถังด้านหลัง ทำให้เราไม่ต้องเปลืองแรงตักน้ำราด

ข้อเสียส้วมนั่งราบ หรือชักโครก

-เวลานั่งขับถ่ายลำตัวจะไม่โน้มเอียงไปข้างหน้า ทำให้เวลาขับถ่ายทำได้ลำบาก

-ราคาแพงกว่าส้วมนั่งยองหรือส้วมซึม

อย่างไรก็ตามเป้าหมายความสำคัญคือต้องการให้ครัวเรือนไทยใช้ส้วมแบบส้วมนั่งราบ หรือ ชักโครก ร้อยละ 90 ภายในปี พ.ศ. 2559 สถานบริการสาธารณะ และ สถานที่สาธารณะมีบริการส้วมนั่งราบอย่างน้อย 1 ที่ ประเทศไทยมีส้วมสาธารณะที่สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ร้อยละ 90 ของกลุ่มเป้าหมายภายในปี พ.ศ. 2559 คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะถูกสุขลักษณะ ร้อยละ 90 ของผู้ใช้บริการในปี พ.ศ. 2559 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดการสิ่งปฏิกูลอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2559

โดยกลุ่มเป้าหมายส้วมครัวเรือน และ ส้วมสาธารณะ ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยว ร้านจำหน่ายอาหาร ตลาดสด สถานีขนส่งทางบกและทางอากาศ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานศึกษา โรงพยาบาล สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ ศาสนสถาน ส้วมสาธารณะ ริมทาง และ ห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า/ดิสเคานต์สโตร์




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2559 10:34:07 น.
Counter : 1615 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.