รู้ไว้ไม่เสียหาย วิธีตรวจสอบคอนโดก่อนเซ็นรับห้อง
หลายท่านที่ตัดสินใจซื้อขายบ้าน " คอนโด คอนโดมิเนียม หรือคอนโดใหม่ " แล้ว ท่านทราบหรือไม่ว่า... ก่อนที่ท่านจะเซ็นสัญญารับบ้านหรือห้องที่คอนโดนั้น ข้อสำคัญที่ควรรู้และจดจำเอาไว้เลยก็คือ ท่านจะต้องตรวจเช็คสภาพห้องและจุดสำคัญๆ ที่ไม่อาจละเลยได้ ซึ่งหลายๆ ท่านคงคิดว่า บ้าน,คอนโดสร้างใหม่ทำไมจะต้องตรวจสอบด้วยล่ะ? แล้วมันจะมีปัญหาอะไรเหรอ? เป็นการเสียเวลา? ไม่จำเป็น? แต่เราอยากจะขอบอกว่าการที่เราต้องตรวจสอบห้องก่อนเซ็นรับก็เพราะว่า... ข้อที่ 1. ให้ท่านทราบถึงจุดบกพร่องต่างๆ และสามารถแจ้งให้ผู้ขายหรือจ้าของทำการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนการโอน ข้อที่ 2. ให้มั่นใจว่างานที่ได้รับการตกแต่ง หรือติดตั้ง นั้นได้ถูก จัดไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ แข็งแรง และสวยงาม ข้อที่ 3. เพื่อลดปัญหาและการเสียเวลาในการซ่อมแซม หลังจากที่ท่านย้ายเข้าไปอยู่แล้ว หากเซ็นต์รับห้องแล้ว อาจจะมีความยุ่งยากในการปรับปรุงและแก้ไขได้ ข้อที่ 4. เพื่อตรวจสอบระบบไฟฟ้า และประปาในห้อง ว่าได้รับการซ่อมแซมหรือปรับปรุงดีแล้วหรือไม่ ข้อที่ 5. เพื่อที่จะประเมินด้วยว่าสภาพห้องคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไปหรือเปล่า โดยในวันนี้ ทาง Sanook! Home จึงจะขอเสนอวิธีการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของบ้าน,ห้องที่คอนโด เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจนะครับ แต่...ก่อนที่เราจะไปตรวจสอบห้องนั้นควรจะเตรียมอุปกรณ์ เพื่อทดสอบความพร้อมสักหน่อยนะ สำหรับอุปกรณ์ก็ไม่ได้หายากเย็นหรือมีราคาแพงอะไรมากเลย ไปดูกันดีกว่า 1.กระดาษและปากกา ไว้เพื่อจดรายการซ่อมแซม รวมถึงกระดาษกาว หรือกระดาษสี ใช้สำหรับแปะจุดที่เราต้องการแก้ไข 2.สายไฟชาร์จโทรศัพท์ เพื่อจะทดสอบการจ่ายไฟของเต้าเสียบต่างๆ หรืออาจจะใช้อุปกรณ์อื่นก็ได้ที่สามารถทดสอบการจ่ายไฟ เช่น ไขควงวัดไฟ 3.โทรศัพท์บ้าน เพื่อทดสอบการทำงานของสายสัญญาณโทรศัพท์ว่าใช้งานได้หรือไม่ 4.ถังน้ำ เพื่อที่จะเททดสอบความลาดเอียงของพื้นว่าจะไม่มีน้ำขัง 5.ลูกแก้ว เพื่อจะทดสอบความเรียบและความเอียงของพื้น โดยการวางลูกแก้วบนพื้น ซึ่งถ้าลูกแก้วไหนไปรวมอยู่ที่เดียวกันแสดงว่าพื้นเป็นหลุมไม่เรียบเสมอกัน 6.ถุงเท้า เพื่อทดสอบว่า พื้นเรียบหรือไม่ โดยการเดินลากเท้าดูว่ามีสะดุด หรือพื้นไม่เรียบตรงจุดไหนบ้าง 7.เหรียญบาท เพื่อทดสอบพื้น โดยการเคาะเหรียญดูตามพื้นว่ามีเสียงเหมือนโพรง หรือช่องว่างใต้พื้นหรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าปูนใต้พื้นไม่เต็มพื้นที่ ซึ่งจะมีผลในอนาคต ที่อาจจะเกิดการกะเทาะแตกหรือหลุดออกมาได้ 8.ไฟฉาย ไว้ตรวจสอบในพื้นที่ที่แสงเข้าไม่ถึง เช่น ผนังฉาบปูนต้องไม่มีรอยแตก เวลาส่องกับไฟฉายจะต้องไม่เห็นรอยปูดหรือยุบ 9.กล้องถ่ายรูป เพื่อไว้ถ่ายรูปตรงจุดที่ต้องการแก้ไข และเพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบในครั้งต่อไป ว่าครั้งที่ผ่านมาได้แก้ไขไปแล้วหรือยัง >>> จุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบก่อนรับคอนโด <<< จุดที่ 1.ตรวจสอบพื้นที่ทั่วไป เช่น - พื้นห้อง - ผนังห้อง - เฟอร์นิเจอร์ - ฝ้าเพดาน - ประตู - หน้าต่าง - การทาสี - การติดวอลเปเปอร์ จุดที่ 2.ตรวจสอบห้องน้ำ เช่น - กระเบื้องพื้น - ผนัง - ฝ้าเพดาน - ประตู - หน้าต่าง - การติดตั้งสุขภัณฑ์ - ตู้อาบน้ำ-Shower Box จุดที่ 3.ตรวจสอบห้องครัว เช่น - พื้น - ผนัง - ฝ้าเพดาน - ประตู - หน้าต่าง - เคาน์เตอร์ครัว - อ่างล้างจาน - เตาแก๊ส - เครื่องดูดควัน - ชั้นวางของ - เฟอร์นิเจอร์ Built in จุดที่ 4.ตรวจสอบระเบียง เช่น - พื้น - ผนัง - ฝ้าเพดาน - ราวระเบียง - การระบายน้ำฝน - น้ำทิ้งจากเครื่องปรับอากาศ - การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ จุดที่ 5.ตรวจสอบระบบสุขาภิบาล เช่น - ระบบน้ำดี - ระบบน้ำเสีย - ระบบน้ำทิ้ง ให้เปิด - ปิด ก๊อกน้ำทุกหัว ดูว่ามีรั่วซึมหรือไม่ สุขภัฑ์สามารถกดน้ำได้ตามปกติหรือไม่ - สายชำระว่าฉีดได้หรือไม่ จุดที่ 6.ตรวจสอบงานสถาปัตย์ เช่น - งานก่อ - งานฉาบ - ทาสี - ปูกระเบื้อง จุดที่ 7.ตรวจสอบระบบไฟฟ้า เช่น - ตู้ควบคุมไฟฟ้า - อุปกรณ์ไฟฟ้า - สวิทซ์ - ปลั๊ก - ต้องตรวจสอบระบบการทำงานของเบรกเกอร์ (breaker)ว่าใช้งานได้หรือไม่? เพราะโดยส่วนใหญ่เบรกเกอร์ในห้องจะถูกแยกส่วนไว้ ทั้งระบบเต้าเสียบ ระบบเตาไฟฟ้า ระบบเครื่องทำน้ำอุ่น ระบบ ดวงไฟ จุดที่ 8.ตรวจสอบหลังคา - ระดับฝ้า ความเรียบฝ้า สำหรับวิธีที่กล่าวมานั้น เป็นแค่วิธีเบื้องต้นในการตรวจสอบคอนโดว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ ถ้าหากอยากเช็คแบบละเอียด ก็ควรปรึกษาหรือหาช่างที่มีความรู้ในเรื่องนี้ไปช่วยด้วยก็จะดีมากยิ่งขึ้น!!! ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก //www.xinwo.com/insp/78811 เรียบเรียงข้อมูลโดย Sanook! Home
Create Date : 25 พฤษภาคม 2558 |
Last Update : 25 พฤษภาคม 2558 8:40:31 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2070 Pageviews. |
|
|