Group Blog
All Blog
|
น้ำฟักทอง
น้ำ ฟั ก ท อ ง... เมนูนี้...แม่ (แม่อีกแล้ว 55) คือว่าแม่นิชาช่าเค้าไปซื้อฟักทองมาจะทำให้หลานตัวเล็กหม่ำ แต่ไปๆมาๆก็ไม่มีเวลาทำซะอย่างั้น แม่เราเป้นประเภทเห็นอะไรก็ชอบซื้อค่ะ ซื้อแต่ว่าไม่ทำนะคะ เราก็เป็นโรคเสียดายของ เก็บไว้อีกนิดนึงจะต้องทิ้งแล้วมั้งเนี่ย ก็เลยเอามาทำน้ำฟักทอง ตอนแรกว่าจะทำซุปฟักทอง แต่ว่าเครื่องไม่ครบก็เลยทำได้แค่น้ำ ก็ง่ายๆเลยค่ะ เ ค รื่ อ ง ป รุ ง . . . -ฟักทอง 1/4 ลูก -น้ำ 3 ถ้วยตวง -น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ (แต่นิชาช่าไม่ได้ใส่นะคะ เพราะว่ารสฟักทองหวานอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ชอบหวานหรือคิดว่าทานยากก็ใส่ได้ค่ะ) ล ง มื อ . . .!!! -เตรียม- o ล้างและปลอกเปลือกฟักทองค่ะ แต่ปกตินิชาจะขัดเปลือกให้สะอาดแล้วก็ต้มทั้งเปลือกเลยค่ะ คิดว่าน่าจะวิตามินสูงอิอิ แต่ว่าฟักทองคราวนี้ดูไม่น่าไว้วางใจเพราะเก็บไว้นานเกิ๊นนน.. ดูจากสภาพสิคะ -0- o หั่นเป็นชิ้นเล็กๆแบบนี้ค่าาาา -ปรุง- o ใส่น้ำลงไปค่ะ ตั้งกระทะ หรือจะหม้อก็ได้ตามสะดวก แต่คราวนี้ทำน้อยอ่ะค่ะ กระทะใบย่อมๆก็ใช้ได้ดีอยู่ o ต้มๆ o ประมาณ 10 นาทีค่ะ ยิ่งหั่นชิ้นบางๆฟักทองเราก็จะสุกเร็วมากขึ้นค่ะ o ลองเอาส้อมจิ้มดู ถ้าจิ้มได้ง่ายๆนิ่มๆแบบนี้ก็ใช้ได้แล้วล่ะค่ะ o ทิ้งไว้ให้เย็นค่ะ o ตักใส่เครื่องปั่น o ปั่นซะเลย นี่ๆๆ o ได้แล้ว ง่ายเกิ๊นนนนน...มาถึงตอนนี้ถ้าชอบหวานหรือจะให้ทานง่ายขึ้น ก็อาจจะเติมน้ำตาลลงไปแล้วแต่ชบค่ะ o ทานอุ่นๆเป็นมื้อเช้า หรือก่อนนอนตอนฝนตกๆแบบนี้ อุ่นขึ้นแน่นอนค่ะ ^^ ไปละค่าาาา เดี๋ยวไปค้นตู้เย็นหาอะไรมาทำต่อ ครีมชีสจากนมคีเฟอร์
ค รี ม ชี ส จ า ก น ม คี เ ฟ อ ร์ . . . เม นู นี้... อย่างที่ทราบกันว่านิชาเลี้ยงคีเฟอร์มาได้ซักระยะแล้วค่ะ น้องหนูคีเฟอร์ก็โตดีจริงๆ พอดีเมื่อวานไปเจอบล็อคของคุณโบ เห็นว่าคุณโบเลี้ยงคีเฟอร์ด้วยเหมือนกัน แล้วก็เอามาทำเป็นชีสด้วย >p< จากนั้นก็จึงเกิดการตามล่าหาสูตรจากคุณโบขึ้นมา อิอิ ต้องขอขอบคุณ คุณโบมากๆเลยนะคะ >< ส่วนที่นิชาทำก็มีการเปลี่ยนแปลงนิดๆหน่อยๆตามความเหมาะสมของแต่ล่ะบ้านเนอะ วั ต ถุ ดิ บ/อุ ป ก ร ณ์ . . . - นมกล่อง 2 กล่อง (400 มล.) -นมคีเฟอร์ที่ได้จากนม 1 กล่อง (200 มล.) -เกลือ 1/2 ช้อนชา -ถุงกรองชา หรือ ผ้าขาวบาง -กระชอน -ชามใบใหญ่ หรือ อ่างผสม ล ง มื อ . . .!!! o เทนมใส่หม้อหรือกระทะสำหรับอุ่น o ตั้งไฟปานกลางไม่ต้องให้เดือด แค่ให้เป็นฟองขึ้นแบบรูปที่ 1 ก็พอค่ะ o เทนมคีเฟอร์ใส่ลงไป o ตามด้วยเกลือเลยนะคะ o ดูกันชัดๆ พอใส่นมคีเฟอร์ลงไปจะเกิดปฏิกิริยาการแยกกันระหว่างนมกับน้ำแบบนี้ค่ะ โอ้ววว..เพิ่งเคยเห็น อิอิ o เทใส่ถุงกรองชาแบบนี้เลยค่ะ บางคนเค้าก็ใช้ผ้าขาวบางแต่นิชาว่าถุงกรองชาแบบนี้สะดวกดีค่ะ o รอให้น้ำออก ปิดถุงแบบในภาพ แล้วหาของหนักๆทับเอาไว้ซักพัก อาจจะ 5-6 ชั่วโมง หรืออาจจะไว้ข้ามวัน ไว้ในตู้เย็นนะคะ แต่นิชาบ้าเห่อค่ะ แป๊บเดียวก็เอาออกมาละ ชีสก็เลยยังเปียกๆอยู่นิดหน่อย อิอิ o น้ำที่แยกออกมาจากตัวเนื้อชีส ถ้าจำไม่ผิดจากที่เคยอ่านมาเค้าเรียกว่า เว น่าจะใช่นะคะ สีเหมือนน้ำมะนาวเลยนะคะ เค้าว่าเอามาหมักผม ทาหน้า ผสมน้ำอาบจะทำให้นุ่มชุ่มชื่นค่ะ เช่นนั้นนิชาก็ลองเลยค่ะ อืม..ดีจริง คอนเฟริ์ม!!! ครีมชีสที่ได้หน้าตาแบบนี้ o ลองเอาห่อใส่ฟรอยดูค่ะ โดยการหาถ้วยที่มีลักษณะตามรูปข้างล่าง เอาฟรอยกดลงไป ตักครีมชีสใส่แล้วก็ห่อแช่ตู้เย็นค่ะ เป็นไงคะ ครีมชีสจากคีเฟอร์ของนิชา หอม มัน เค็มนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ น่าจะเอามาทำพวกชีสเค้กได้อร่อยนะคะ เดี๋ยวจะลองเอามาทำชีสพายดูค่ะ ไว้จะเอามาอวดนะคะ ^^ เอามาทำมื้อเช้าค่ะ ทากับขนมปังโฮลวีตปิ้งร้อนๆ ดูหรูไฮมั๊ยคะ 555 ป.ล. หม่ำพอรู้รสชาติพอนะเธอ หม่ำเยอะเดี๋ยวจะอ้วนไปมากกว่านี้ T^T ถั่วเขียวต้มน้ำขิง
ถั่ ว เ ขี ย ว ต้ ม น้ำ ขิ ง . . . เม นู นี้... เหมาะกับช่วงที่ฝนตกอากาศเย็นๆแบบนี้จริงๆเลยนะคะ พอดีไปเจอถั่วเขียวที่น้องชายซื้อมาในตู้กับข้าว แล้วก็ขิงแก่ๆในตู้เย็นที่ซื้อมาทำบัวลอยน้ำขิงคราวก่อน ก็เลยลงมือทำให้คุณแม่หม่ำซะเลย ^^ เ ค รื่ อ ง ป รุ ง . . . -ถั่วเขียว 1/2 กิโลกรัม -น้ำ 8 ถ้วย ประมาณครึ่งหม้อ -ขิงแก่ 2 แง่ง (เค้าเรียกแง่งรึป่าว?) -น้ำตาลทรายขาว 2 ถ้วย -น้ำตาลแดง 1 ถ้วย ล ง มื อ . . .!!! -เตรียม- o ล้างเอาสิ่งสกปรกออกจากถั่วเขียว แช่น้ำเอาไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่ในภาพคุณแม่นิชาแช่ไว้ให้ได้แค่ชั่วโมงเดียว ก็ให้นิชาทำให้กินแล้ว เป็นคุณแม่วัยรุ่นค่ะใจร้อน ล้างขิงแก่และทุบให้พอแตก เพื่อให้รสและกลิ่นของขิงออกมาได้มากขึ้น -ปรุง- o ต้มน้ำให้เดือดใส่ขิงแก่ลงไป ตามด้วยถั่วเขียวที่แช่น้ำจนพองแล้ว ปิดผา เปิดไฟปานกลาง คนเป็นระยะประมาณ 20 นาที ลดไฟลงเหลือไฟอ่อนเคียวอีกประมาณ 15 นาที น่าจะประมาณนี้เพราะนิชาทำกับข้าวอย่างอื่นไปด้วย ^^" o พอเม็ดถั่วบานแบบภาพแรกแล้ว เติมน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลแดงค่ะ สำหรับคนที่ชอบแบบเปื่อยๆกว่านี้ก็ต้มต่อนะคะ แต่นิชาชอบประมาณนี้น้ำจะไม่ขุ่นเกินไปด้วยค่ะ ถ้าบานกว่านี้ พออุ่นไปอีกซักครั้ง 2 ครั้งมันก็จะเละๆ ประกอบกับมีคุณแม่วัยรุ่นค่ะ เดินมาถามทุก 10 นาที ว่าเสร็จรึยังๆ จะกินๆ -*- เสร็จแล้วค่ะ ตักเสริ์ฟให้คุณแม่คนแรก กลิ่นและความหอมหวานของน้ำตาลแดงกับความเผ็ดร้อนนิดๆของน้ำขิงเข้ากันดีจริงๆ ได้นั่งซดตอนฝนตกนี่สุดยอดไปเลยค่ะ คีเฟอร์นม - บัวหิมะธิเบต
คี เ ฟ อ ร์ น ม หรือ บั ว หิ ม ะ ธิ เบ ต... วันนี้...นิชาขอเสนอของดีมีประโยชน์มากมาย บางคนอาจจะเคยได้ยินหรือรู้จักมาบ้าง แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จักก็จะงงว่า เอ..มันคืออะไรหว่า?? เอาล่ะนิชาบอกง่ายๆเป็นภาษาบ้านๆเลยละกัน เจ้าหนู คีเฟอร์ คือ จุลินทรีย์หลายๆชนิดที่มาเกาะกลุ่มอยู่รวมกัน เราจะเอามาหมักในนม ก็เทนมใส่นั่นล่ะ แช่เอาไว้ 1 วัน โดยประมาณ แล้วเราก็กรองนมออกมา นมที่ได้ก็เป็นโยเกริต เอาไปหม่ำๆได้ อร่อย มีประโยชน์มากมาย ใครอยากทราบแบบรู้ลึกรู้จริงก็เข้าไปอ่านได้ ที่นี่เลยค่ะ รู้จักกันแล้วต่อมาก็จะเป็นวิธีการเลี้ยงเจ้าหนู คีเฟอร์ กันนะคะ วัตถุดิบและอุปกรณ์... -นมสดแบบกล่อง นิชาใช้ไทยเดนมาร์คเพราะหอมมันค่ะ -น้ำแดงเฮลส์บลูบอย -น้ำผึ้ง -ธัญญาพืช *จริงๆแล้วสามารถที่จะดัดแปลงได้ตามชอบเลยนะคะ จะใส่ผลไม้สด ผลไม้แห้ง ลูกเกต คุกกี้ หรือจะทานแบบสดๆเลยก็ได้ค่ะ -ขวดโหลแก้วแห้งสนิท -กระชอนช้อนปลา -ชามแก้ว -ช้อนพลาสติก *อันนี้พิเศษนิดนึงค่ะ คือห้ามเจ้าหนู คีเฟอร์ โดนวัตถุที่เป็นโลหะนะคะ เพราะว่ามีความเป็นกรด อาจเป็นอันตรายต่อเราได้ค่ะ จึงต้องใช้กระชอนที่ไม่ใช่โลหะ หันไปหันมา กระชอนช้อนปลานี่แหละเหมาะสุดๆราคาย่อมเยาด้วยค่ะ >< ก่อนใช้ก็ล้างตากแดดซะก่อนนะคะ นี่เป็น คีเฟอร์ ที่นิชาหมักไว้ได้ 24 ชั่วโมงได้แล้วล่ะค่ะ น้องคี : หนูไม่ได้บูดนะ!!! ทำไมเห็นหนูแล้วชอบบอกว่าหนูเป็นนมบูดล่ะ!!! แง่ๆๆ หนูก็เป็นเหมือนโยเกริ์ตที่พวกพี่ๆซื้อทานกันนั่นแหละ แต่หนูมีประโยชน์กว่าเยอะ ฮึ!!! วีธีการกรองนม... - เทนมใส่กระชอน รองด้วยภาชนะที่ไม่ใช่โลหะ ใช้ช้อนพลาสติกคนให้นมไหลผ่านกระชอนออกให้หมด แล้วเราก็จะเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้าหนูคีเฟอร์กันแล้ว อ๋อ..หน้าแบบนี้เองรึ หุๆ - แล้วเราก็เอาเจ้าหนูคีใส่ขวดโหลอีกใบที่สะอาดละแห้ง เทนมใส่จากปริมาณน้องคีของนิชาใช้นม 1 กล่องค่ะ ปิดฝาขวด เอาตั้งไว้อุณภูมิห้อง แค่นี้เอง น้องคีนี่เลี้ยงง่ายจังแฮะ - น้องคีที่ได้มาถ้าทานแบบสดๆก็จะมีรสชาติที่ค่อนข้างเปรี้ยววว... >< สำหรับคนที่เพิ่งเคยทานก็สามารถปรุงรสเพิ่ม อย่างเช่นใส่น้ำแดงเฮลส์บลูบอย หรือใส่ธัญญาพืชเพิ่มได้ เพื่อรสชาติที่ดี แช่ตู้เย็นรับประทานเย็นจะรสชาติดีมากค่ะ ^^ แล้วไม่นานหลังจากนั้นนิชาก็ทำโหลแตกค่ะ แทบร้อง พอทำใจได้แล้วก็ไปขอเค้ามาเลี้ยงใหม่ค่ะ อิอิ นี่เป็นโฉมหน้าน้องคีเฟอร์ใหม่ของนิชา >< คราวนี้เค้าจะดูแลเธออย่างดีเลยยยยย...น้าาาาา มี VDO ด้วย สาธิตการกรองคีเฟอร์จ้าาา ไปแล้วค่ะ ใครเลี้ยงอยู่บ้าง เป็นยังไงมาเล่าให้ฟังกันได้นะคะ ^^ อัพเดทภาพล่าสุดคีเฟอร์ของนิชา เลี้ยงในตู้เย็นเป็นกลุ่มเป็นก้อนดี น่ารักเชียว ^^ |
Am Nicha
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]
Friends Blog
Link |