จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2551
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
26 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
หวนหอมกลิ่นฝนยามดึก

โดม วุฒิชัย









ชีวิตช่วงหนึ่งผมเคยไปเป็นครูช่วยสอนอยู่ที่โรงเรียนประชาบาลแห่งหนึ่งที่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ช่วงนั้นผมเรียนจบ ปกศ.ต้น (จากวิทยาลัยครูนครสวรรค์ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์)แล้วแต่ยังไม่มีงานทำ พี่ชายผมซึ่งเป็นครูใหญ่อยู่ที่โรงเรียนแห่งนั้น เวลามาเยี่ยมบ้านที่ต่างอำเภอทีไรก็มักจะชอบพูดให้ฟังบ่อยๆว่าที่โรงเรียนมีครูสาวคนหนึ่งทั้งสวยและนิสัยดีมาก

เวลามาบ้านก็นำข่าวของครูคนสวยมาบอก เวลากลับไปก็เอาเรื่องของผมไปบอกเธอ พูดง่ายๆว่าทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ทั้งที่ผมสองคนยังไม่เคยเห็นหน้ากันเลย

จังหวะเป็นช่วงที่ครูช่วยสอนที่โรงเรียนนั้นว่างอยู่พอดี ผมมีวุฒิครูอยู่จึงตัดสินใจไปเป็นครูที่โรงเรียนนั้น อาศัยว่าพี่เป็นครูใหญ่ก็ไม่ยุ่งยากอะไร จำได้ว่าในสมัยนั้นเงินเดือนเงินเดือนของครูช่วยสอนไม่ถึงหนึ่งพันบาท และต้องอยู่บ้านนอก นานๆจะได้เข้าเมืองสักครั้ง

ผมพูดอย่างหัวใจพูดก็คือรู้สึกเสน่หากับครูคนสวยตั้งแต่ยังไม่เคยเห็นหน้าแล้ว เพราะพี่ชายผมชอบพูดให้ฟังบ่อยๆ ถึงวันนี้ผมจึงเชื่อแล้วว่า “พ่อสื่อแม่สื่อ”นั้นมีอำนาจอยู่จริง

ผมยังจำวันแรกที่ได้พบกันวันนั้นอย่างไม่มีวันลืม วันนั้นเป็นวันเปิดเทอมผมมาถึงบ้านพี่ชายแล้วแต่เธอเพิ่งกลับมาจากบ้านจากตัวจังหวัด เราเดินไปโรงเรียนด้วยกัน เห็นหน้ากันก็เหมือนว่าเราเป็นแฟนกันแล้ว โดยไม่ต้องอธิบายอะไร เลย เธออายุมากกว่าผมปีสองปี ร่างเล็กผิวคล้ำ ฟันของเธอเหมือนกระต่ายซี่ใหญ่สองซี่ นิสัยใจคอดีและเป็นคนสุภาพเรียบร้อย

เธออาศัยอยู่กับบ้านพี่ชายผม เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียว ในชนบทไม่มีน้ำประปาต้องใช้น้ำบ่อและไม่มีไฟฟ้ากลางคืนต้องใช้ตะเกียง

หวนนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาครั้งไรก็ยอมรับว่าเป็นช่วงแห่งความสุขในวัยหนุ่ม เราได้ไปตักน้ำบ่อด้วยกัน ได้กินข้าวร่วมวงกันทุกเช้าเย็น ได้เดินไปโรงเรียนด้วยกัน ไปไหนต่อไหนด้วยกันเสมอ ครูผู้ชายโรงเรียนอื่นที่เคยมาจีบเธอไว้ต่างก็ล่าถอยไป เพราะเมื่อเห็นผมปรากฏกายเป็นเงาเคียงข้างเธอทุกครั้ง

ถึงวันนี้ผมยังชื่นชมน้ำใจพี่ชายของผมไม่หายที่เป็นสุภาพบุรุษมาก เพราะเขาคอยปกป้องเธอไว้ตลอดเวลา ที่บ้านก็มีหลานตัวเล็กๆอีกสองสามคน เวลาเธอนอนในห้องเรือนพี่ชายผมก็จะให้พี่สะใภ้หรือหลานผมไปนอนเป็นเพื่อนอยู่เสมอๆ เพื่อเป็นการป้องกันไว้หรือถือสุภาษิตล้อมคอกก่อนวัวหายก็ไม่รู้ เพราะพี่ชายรับปากกับพ่อแม่ของเธอไว้ว่าจะดูแลเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง

ถึงแม้พี่ชายและพ่อผมจะเชียร์ให้ผมรักกับเธอ แต่พี่ชายก็ไม่เคยยุยงส่งเสริมให้ชิงสุกก่อนห่ามในยามนั้น สำหรับผมในตอนนั้นก็ไม่ได้คิดถึงการเป็นสุภาพบุรุษอะไรนัก เพราะรู้ว่าเธอก็มีใจเอนเอียงชอบผมอยู่เหมือนกัน

แล้วคืนหนึ่งฝนก็ตก และทุกอย่างเหมือนจะเป็นใจให้ผมยิ่งขึ้นไปอีก คืนนั้นเธอนอนคนเดียวพี่สะใภ้ผมไม่อยู่ แต่ก็มีหลานตัวเล็กๆของผมนอนกางมุ้งขวางหน้าประตูห้องไว้ ผมนอนอีกห้องหนึ่งซึ่งติดกับเธอ บ้านในชนบทนั้นโล่งโปร่ง ผมมองดูแล้วว่าที่บนขื่อผมสามารถปีนเข้าไปในห้องนอนได้อย่างไม่ลำบากนัก

ผมนอนอ่านหนังสือจนดึกดื่นเพราะนอนไม่หลับ นึกถึงใบหน้าของเธอตอนเย็นที่เดินไปตักน้ำด้วยกัน นึกถึงหลายสิ่งหลายอย่าง นึกกลิ่นหอมเมื่อยามอยู่ใกล้ ผมตัดสินใจค่อยๆปีนข้างฝาแล้วหย่อนตัวลงไปในห้องนอนของเธออย่างแผ่วเบา

เสียงฝนที่ตกพรำๆอยู่ตลอดทั้งคืนช่วยอำพรางเสียงทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ผมค่อยๆหย่อนเท้าลงไป ส่งเสียงเบาๆให้สัญญานว่าเป็นผม กว่าเธอจะรู้ตัวผมก็ถึงตัวเธอแล้ว ผมไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการกอดรัดสัมผัสกัน

เสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาสังกะสีตลอดทั้งคืน เราแทบจะไม่ได้พูดอะไรกันออกมาเป็นคำพูดนอกจากภาษากายเท่านั้น ในม่านมุ้งที่มองเห็นกันอย่างลางเรือน

เรากอดรัดกันอย่างอบอุ่นท่ามกลางบรรยากาศฉ่ำเย็นของละอองฝน แม้จะไม่ใช่การจูบครั้งแรกในชีวิต แต่นับว่าเป็นรสจูบอันดื่มด่ำที่ไม่ผมเคยลืม และเราก็ไม่ได้มีอะไรล่วงเกินกันไปมากกว่านั้น

เช้าวันนั้นผมรู้สึกเวลาฟ้าสางช่างมาเร็วเหลือเกิน ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นผมเบียดตัวเองออกมาจากห้องนอนของเธอด้วยความไม่อยากให้ยามเช้ามาถึงเลย

แล้ววันหนึ่งผมก็จากเธอไปทำงานที่อื่นและต่อมาก็เข้าเมืองหลวง โดยที่ผมทิ้งสัญญาไว้ว่าวันหนึ่งเราอาจจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันหรือไม่ก็ได้แต่งงานกัน เวลาผ่านไป…ผมเปลี่ยนไป แต่เมื่อผมกลับไปหาเธอที่ไรเธอก็ยังครองตัวเป็นโสด มีคนมาชอบพอเธอก็ยังไม่แต่งงาน โลกและชีวิตของผมเปลี่ยนไปเสียแล้ว

เมื่อวันเวลาผ่านไปนานยิ่งขึ้น ผมได้พบคนรักใหม่และคิดว่าจะแต่งงานกับเธอคนรักคนล่าสุดนี้

วันหนึ่งด้วยความโง่เซ่ออวดดีอะไรก็แล้วแต่…ผมชวนคนรักใหม่ของผมที่คิดว่าจะแต่งงานด้วยแวะไปหาเธอที่โรงเรียนนั้น ผมนั่งรออยู่ในห้องพักครูอยู่นานแต่เธอก็ไม่ปรากฏตัว และวันนั้นเธอก็ไม่ยอมออกมาหาผม ผมกับคนรักจึงตัดสินใจกลับเพราะเธอไม่ยอมออกมาพบ


พี่ชายผมขับมอเตอร์ไซค์มาส่งที่ทางแยก ผมอดถามพี่ชายไม่ได้ว่าทำไมเธอจึงไม่ยอมออกมาพบผม พี่ชายผมตอบเสียงดังฟังชัดด้วยน้ำเสียงที่ผมฟังไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร

“ก็เพราะเธอรักเอ็งน่ะสิ”

วันเวลาล่วงเลยไป ผมได้ข่าวว่าเธอแต่งงานกับครูหนุ่มรุ่นน้องที่มาบรรจุใหม่สอนโรงเรียนใกล้ๆกัน ข่าวนี้ทำให้ผมคลายความรู้สึกผิดไปได้บ้าง ผมรู้สึกยินดีที่เธอได้แต่งงานกับคนที่รักเธออย่างจริงใจ และดีใจเมื่อได้รับรู้ว่าชีวิตคู่ของเธอมีความสุข

จากนั้นเราก็แทบไม่ได้พบปะกันและรับรู้ข่าวคราวกันอีกเลย จนกระทั่งวันหนึ่งผมมีโอกาสนำผ้าป่าไปทอดที่วัดที่บ้านเกิด ผมก็ชวนเธอมาร่วมทำบุญด้วย เธอมีลูกชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง ผมถามว่าลูกชายเธอชื่ออะไร เธอตอบพอได้ยินว่า ชื่อท้ายของลูกเธอนั้นเหมือนกับชื่อท้ายของชื่อจริงผมนั่นเอง


ถึงวันนี้พี่ชายผมเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุผ่านไปหลายปีแล้ว ผมไม่ได้กลับไปเยี่ยมเยียนครอบครัวของพี่ชายผมเลย แต่ทุกครั้งเมื่อหวนระลึกถึงพี่ชายครั้งไร ไม่มีเลยสักครั้งที่ผมจะไม่นึกถึงเธอ…เธอ…ผู้หญิงที่เวลาผมเรียกชื่อเธอทีไรต้องมีคำนำหน้าว่า “ครู” เสมอ


------------------





ตั้งใจว่าจะเอาเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ยังอยู่ในความทรงจำ

ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของผมคนเดียวหรอก

แต่มีเรื่องของคนอื่นๆอยู่ด้วย

ผมมีเก็บไว้ในสต็อคพอสมควร

ซึ่งไม่ได้ตั้งเป็นหน้าหลัก

ผมเคยขอเรื่องราวทำนองนี้จากบุคคลหลายอาชีพ

และเคยเก็บไว้ในหัวข้อบล็อก "จันทร์ฉายในใจฉัน"

ช่วงนี้ไม่มีอะไรเขียนบล็อกก็เลยเอาเรื่องพวกนี้มาสลับให้อ่านเล่น

และเอ็นทรี่ต่อๆไปก็จะมีของคนอื่นๆสลับกันไป

หากใครเคยอ่านแล้วก็ผ่านไปได้เลยครับ

ถ้าใครนึกสนุกอยากเล่าเรื่องของตัวเองก็เชิญร่วมแจมได้

ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องของความรักก็ได้ครับ



Create Date : 26 ตุลาคม 2551
Last Update : 2 มิถุนายน 2552 8:14:42 น. 5 comments
Counter : 2831 Pageviews.

 
อยากแจมค่ะอาโดม
แต่ว่าตอนนี้คอมพ์ที่บ้านเสีย
ไว้ซ่อมเสร็จหรือว่าซื้อใหม่ได้นาห์จะส่งเรื่องมาให้อาโดมนะคะ

สงขลาฝนยังตกอยู่เสมอค่ะช่วงนี้

รักษาสุขภาพด้วยนะคะอาโดม


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 26 ตุลาคม 2551 เวลา:11:19:22 น.  

 
ชีวิตที่ขาดชีวา

ฉันเคยตั้งใจไว้ว่าจะขออยู่เป็นโสดตลอดชีวิต...ด้วยความที่ฉันเห็นว่าผู้ชายหลายคนที่อยู่รอบๆตัวฉันล้วนมีแต่ทำให้พวกหล่อนผู้หญิงที่ฉันรักและผู้หญิงที่อยู่รอบๆตัวฉันเสียใจ...จนวันหนึ่งคือวันที่ฉันเริ่มรู้สึกว่าทุกคนที่อยู่รอบๆตัวฉันหายไปไหนหมด...ฉันต้องทานข้าวคนเดียว...อยู่คนเดียว...ป่วยคนเดียว...นอนซมคนเดียว...ด้วยคนอื่นๆเขามีครอบครัว...มีคนคอยดูแล...มีคนป้อนข้าว...ป้อนน้ำ...เวลาเจ็บป่วย...แต่ฉันหละไม่มีใครเลย...ฉันรู้สึกแย่มากอยากมีเพื่อนเหมือนเมื่อเรียนหนังสือ...อยากมีเพื่อนเหมือนเมื่อครั้งอายุ 20 - 30 หลังจากวัย 30 ผ่านไปเพื่อนๆที่ฉันเคยมีเริ่มหายไปจากชีวิตฉันทีละคน...พวกเธอมีครอบครัวไปหมดแล้วจากการที่ไม่เคยเหงา...บัดนี้ฉันรู้แล้วว่า...ฉันไม่มีใครอีกต่อไปแล้ว...ที่ผ่านมาฉันทำเพื่อคนอื่นตลอดชีวิต...อยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีงาม...จนเป็นที่ยอมรับจากสังคมรอบข้าง...บัดนี้ฉันต้องอยู่แบบโดดเดี่ยวไม่มีใครอีก...เมื่อก่อนเวลาฤดูกาลจะเปลี่ยนจากปลายฝนย่างเข้าสู่ต้นหนาว...ลมหนาวจะพัดเย็นสบายเพื่อนของฉันคนหนึ่งถามฉันว่าเธอเคยเหงาบ้างมั๊ย...ฉันตอบเพื่อนทันทีโดยไม่ได้คิดเลยว่า"ไม่" เพื่อนของฉันทำหน้าแปลกใจและบอกกับฉันว่า"อากาศแบบนี้เราเหงาจังเลย" ฉันจากบ้านมาทำงานที่แดนไกลยิ่งทำให้ฉันนึกถึงคำถามของเพื่อนอยู่เสมอ...ถึงวันนี้ฉันอยากจะบอกเพื่อนว่า...ฉันเหงาและรู้แล้วว่าความเหงามันเป็นอย่างไร
ฉันจะสี่สิบแล้ว...ต่อไปนี้ฉันคงไม่มีใครอีกแล้ว...ถ้าฉันไม่เจอเธอชายผู้แปลกประหลาดสำหรับฉัน...

ติดตามความรักของสาวแก่ในบั้นปลายต่อไปนะคะ


โดย: นารี IP: 125.25.221.194 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:56:41 น.  

 
คุณนารี
อยู่คนเดียวเหมือนกัน
สาวแก่ มาเป็นเพื่อนกับแม่ม่าย...เอามะ?


โดย: อ้อย IP: 114.128.85.81 วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:6:23:41 น.  

 
ตามมาอ่านค่ะพี่โดม โรแมนติก ซึ้ง และเศร้า ในเวลาไล่เลี่ยกัน
กำลังอ่านตอนฝนตกพอดี ยิ่งอินจัดกันไปใหญ่สงสารครูฟันกระต่ายจัง
ความใกล้ชิด ทำให้ผูกพัน
พอวันห่าง ความผูกพันก็จางลงเช่นกัน
ไม่เหมือนกับรัก "ที่แท้"
แม้วันห่าง แต่ใจไม่ห่างตาม
ยังคงผูกกันไว้ด้วยคำว่ารักเสมอ


โดย: กองฟอน วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:15:50:32 น.  

 
สงสารครูคนนั้น

อยู๋ๆก็นึกถึง คุณหญิงกีรติในเรื่องข้างหลังภาพขึ้นมา


โดย: รักแรกคลิก IP: 204.136.218.8 วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:7:50:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.