All Blog
j40 จึงจือหยาง7003


Smileyjjy7003

จึงจือหยางjjy 7002
ตอนนี้ผมกำลังเพลงของบาค์ช


จะว่าถึงชนเผ่ากิยองตินที่ไม่มีอยู่จริง
และปัญหาการสืบค้นญาติที่ทิ้งช่วงมานาน100ปีกว่าถึง300ปี
เรื่องรากหญ้าที่แสดงให้เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นวิญญูชน ไม่ต้องมีมอแปด หรือปริญญาก็ต้องรู้ว่า
โดยสัญชาตญาณมนุษย์ว่าอะไรผิดถูกได้เช่น การทำให้เพื่อนเจ็บสิ่งที่ตามมาคือถูกทำโทษ
การให้การมีน้ำใจสิ่งที่ตามมาคือได้รับการต้อนรับและมีรางวัล
การพูดโกหกจะทำให้รับโทษเมื่อถูกจับได้
นับจากทารกแรกเกิดสามารถหยั่งรู้ตนเองว่า


เมื่อร้องจะมีมารดามาเอาใจ
เมื่อหัวเราะจะมีมารดคอยเล่นด้วยและหยอกเย้า
รากหญ้ามีมาก
เพราะการทำความผิดแล้วมาแก้ตัวว่าไม่มีปริญญานั่นไม่มีกฏหมายและสังคมที่ไหนในโลกจะเว้นโทษได้
แต่คนที่มีปริญญาอาจจะถูกเพิ่มโทษเข้าไปอีกด้วยซ้ำ เพราะฐานรู้ดีแล้วยังขืนทำลง

ผมเปิดมาพบในบล็อกของการฝึกเรียนรู้เพื่อเป็นบล็อกมืออาชีพแล้ว
พบว่าคนชมเพิ่มขึ้นเป็น4996ราย
ผมเริ่มมีกำลังใจที่จะสื่อกันต่อไปอีก
เพราะเวลาว่างและสุขภาพเป็นสัญญาณบอดเหตุว่า
ควรจะสื่อหรือไม่สื่อ


เพราะในเมื่อไม่มีการติดตามคือสื่อไปก็เป็นการเสียเวลาเปล่า
สรุปคือตัดสินทำในสิ่งที่ตนคิดว่าถูกและทำไป
เพราสะไม่มีใครมีเวลามาเพื่อเอื้ออาทรในการตัดสินใจ
ว่าสุสานของพ่อแม่ตนเองและตนเองควรจะทำอย่างไรดีหลังการตายของผม
จะได้ไม่เป็ภาระของคนอื่นและสังคมได้

พ่อพูดเสมอว่ารักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี
รักลูกมิใช่แสดงออกมที่หน้า
แต่แสดงที่ใจ
 จำได้ว่าพ่อสั่งไม้หวายมาเพื่อทำโทษผมนั่นเป็ฯหวานมากับเรือเคียนซา
ในทางใต้ไทยทีเดียว

พ่อเป็นซารดิสต์หรือไม่ใช่
เมื่อผมทำอะไรผิดก็ถูกเฆี่นยนเหมือนที่ครูในโรงเรียนทำ
แม้จะหนักกว่าที่โรงเรียน
เพราะที่โรงเรียนเน้าให้อับอาบขายหน้าในโทษที่ทำมากว่า


พ่อซึ่งเน้นที่ให้เข็ดหลาบและเจ็บอันสมควรแก่โทษและจำให้ได้ว่า
อย่าทำอีกเหมือนกฏหมยทีเดียว
ผมเข้าใจว่าอย่างนั้น
ในเรื่องการทำโทษระหว่างพ่อและโรงเรียน
แม่ไม่เคยทำโทษผมในขั้นเหมือนพ่อสักครั้งเดียว
เพียงมองตาผมดุๆ
นั้นถือว่าเข้าใจกัน

เอาละพ่อกับแม่ผมมีทัศนะคติไม่เหมือนกันในเรื่องนี้ที่มีต่อลูก
พ่อให้เงินไปโรงเรียนกินขนมวันละ1.50สตางค์ เมื่อไไหว้ท่านในตอนเชช้าลาไปโรงเรียน
ตาย้ำว่าต้อง
ไปลามาไว้พ่อทุกครั้ง
ที่ไปและกลับจากโรงเรียน


แม่เคยให้สตังค์แดงรูหนึ่งเมื่อลาไปโรงเรียนสมัยที่ผมอยู่ประชาบาล
เมื่อไปไหว้ลาไปโรงเรียนผมมีกระดานชะนวนและดินสอเขียนกระดานชะนวน
และกระเป่าเด็กไปโรงเรียนสมัยโบราณ

ตาและยายให้เงินผมกินขนมเหมือนกัน แต่ไม่ให้พร่ำเพรื่อ
หรือให้โดยสิเน่หา

จำได้ว่าตาใหัหัดขายของโดยหัดพาส้มโอไปขายที่โรงเรียนประชาบาลด้วย
ผมถือว่าการถูกเฆี่ยนตีโดยผู้ใหญ่ต่อเด็กนั้นเป็นเรื่องธรรมดา
ของสังคมครอบครัวมนุษย์

พ่อเคยมีหนี้
เคยมีลูกหนี้และเจ้าหนี้
เคยมีหนี้สูญ
และอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับการเงิน
พ่อเคย
เล่นแชร์แต่แชร์แต่พ่อไม่เคยล้ม
เคยนำเงินฝากธนาคาร
และฝากคนน่าเชื่อถือไว้หรือกับเพื่อน ๆ
เมืท่อจำเป็นจึงไปเอาคืน
พ่อจดไว้เสมอเรื่องการเงินแต่ผมพบเอกสารแล้วอ่านไม่ออกเพราะเป็นภาษาจีน
พ่อเคยถูกชาวจีนที่บอกว่าอยู่ในมาเลย์อาสาพาเงินไปให้พ่อแม่ที่เมืองจีน
มีรายอื่นร่วมทำไปด้วย
ปรากฏว่าเงินหาย
ไม่ถึงพ่อแม่ที่เมืองจีน
พ่อบอกว่า
ทำแบบนี้ เจ็กอักแปลคำนี้ว่าบาปเป็นคำไทย

แม่ไม่เคยมีหนี้
และมีหนี้สูญ
ตมบันทึกของแม่มีญาติข้างเคียงชอบมายืมเงิน
มีทั้งได้คืนและไม่ได้คืนบ้าง
มีบันทึกเป็นภาษาไทยแต่ผมอ่านออก
แม้ภาษาไทยบางคำเป็นโบราณแต่ผมเข้าใจ

แม่จบรร.ประชาบาลประถม4(ปกปิด)สมบูรณ์
มีหนังสือรับรองของกระทรวงธรรมการ
แม่มีเพื่อนร่วมสมัยหลายคน
มีที่รวยแล้ว และที่ยังไม่รวย
มีที่มีปัญหาการเงิน
การหยิยยืมเงินที่แม่นั้นมีประจำ
พบมีบัญชี
มีครู(ปกปิด)มายืมทั้งได้คืนและไม่ได้คืน
เพราะการล้มหายตายจาก
มีลูกสาวครูมายืม
มีสัญญากู้แต่ไม่มีพยาน
เป็ฯเงินประมาณ30,000บาทถ้วน
เป็นครู(ปกปิด)
แม่ให้ไปเอาคืนได้
แต่เมื่อทวงปรากฏว่าเงียบ
รายนี้มีปัญหาการเงิน
ผมยื่นให้ทนายติดตามให้
ขณะที่เขียนบล็อกนี้ยังไม่ทราบผล


คนร้อนเงินบางครั้งเอาเงินแม่ไปออกดอกเบี้ยก็มี
แม่เป็นคนไว้ใจคนง่าย
และเสียรู้คนง่าย
เชื่อเรื่องบาปบุญอย่างเคร่งครัด
การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนั้นผมไม่เคยเห็นนับจากเกิดมาเป็นแม่เป็นลูกกัน
แม่ไม่มีตำรวจมายืมในบันทึก


มีน้องเขยคนหนึ่ง(ปกปิด)ยืมเงินค่ารถกลับบ้าน
แม่เล่นแชร์มีแชร์ของแม่ล้ม

แม่เป็เป้าหมายในการถูกยืมเงินกว่าพ่อ
เพราะคนรอบข้างเห็นว่าแม่ไม่มีภาระหน้าที่รับผิดชอบในเงินชัดแจ้ง
ต่อใครๆ หรือต่อลูก
เคยส่งเงินเดือนให้ผมไปเรียนภาษาเยอรมันที่กรุงเทพฯที่สถาบันเกอเธ่ถนนพระอาทิตย์ที่กรุงเทพฯ
และได้เพื่อนเป็นท่านเอคอัคราชฑูต(ปกปิด)และอีกรายเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย และอีกหลายรายการไปเป็นฑต  แต่ผมไมราบมากมายนัก
เพราะขาดการติดต่อกันด้วยระยะเวลาอันยาวนาน
อนึ่งผมเข้าไปเรียนภาษเยอรมันมิใช่ไปหาเพื่อนแต่ที่ผทเลือกเรียน
ภาษานี้เป็นภาษารองเพราะเห็นว่าภาษาเยอรมัน
เป็นภาษาแข็งๆดี
ส่วนตัวนั่้นผมชอบภาษาอังกฤษเรียนดีสมัยมัธยมมาอยูแล้ว
และผมเลือกเรียนภาษารองอีกหนึ่งภาษาคือภาษาฝรั่งที่สมาคมนักเรียนเก่าฝรั่งเศส
ถนนสาธร กรุงเทพฯ ไม่ทราบว่าเหนือหรือใต้
ผมลืมแล้ว วิชาภาษาฝรั่งเศสผมไม่ได้บอกให้แม่รู้
ผมหางานทำเองเรียนเองตอนนี้

และผมมาเลือกเรียนภาษาละตินด้วยตอน
เรียนระดับปริญญา
เพราะเห็นว่าเป็นหลักของภาษายุโรป


แม่เคยซื้อของเล่นชิ้นหนึ่งให้หนึ่งชิ้นนั่นคือ
พิมพ์ดีดภาษาไทย
ผมชอบมาก


แม่ไม่มีภารกิจอะไรที่ต้องรับผิดชอบในการเงินที่แม่มีได้มา
เช่นดูแลลูกหรือดูแลธุรกิจ
แม่ใช้ธนาคารไม่เป็น
เงินที่แม่ให้ยืมอยู่ในวงแคบ

ตอนแม่เป็นแม่ชีแม่มีหนังสือสุทธิบรรณ
มีการพิมพ์รูปเป็นหนังสืออนุสรณ์สถาบันปรากฎ
มีฐานะเป็นผู้ช่วยเจ้าสำนักชีวัดหนึ่ง(ปกปิด)
ในสมัยที่แม่เป็นแม่ชีแม่ได้รู้จักกับเจ้าขุนมูลนายหลายท่าน
ที่มาอยู่ร่วมสำนักและทำสมาธิภาวนา

รายหนึ่งเป็นแม่ชีมาสร้างกุฎิหลังใหญ่ด้วยกันในวัดต่างจังหวัด
ท่านนี้มีสุกลร่วมมาจากเจ้าขุนมูลนายไทยสมัยร.5
อีกรายหนึ่งเป็นคุณหญิง(ปกปิด)เจ้าขุนมูลนายสมัยร.6 และร.7
นอกนั้นยังมีอีกหลายรายที่สนิทสนมกับแม่
แต่ผมไม่ไดติดตามและไม่ได้ใกล้ชิด
เพระสมัยแม่บวชชี ผมแยกตัวเองไปอยู่ต่างหากไม่ได้
มาอยู่ร่วมพักอาศัยกับท่าน
  ช่วงแม่บวชชีได้ดูแลคุณลุงของแม่และช่วยสร้างวัดและภารกิขของศาสนาพุทธ
พอสมควรแก่อัตภาพที่เชื่อว่าได้บุญ
แม่ชอบปลูกหญ้าญี่ปุ่นที่หน้ากุฎีอาศัยของแม่ชี
ต้นไม้ที่แม่โปรดมากคือลูกมะดัน แม่ทำแช่อิ่มกินอร่อย
แม่ชอบทำว่านหางจระเข้แช่นำตาบทสะกอน และตากน้ำค้าง
และเห็ดหูหนูเช่นกัน
ผมไม่กล้าถามแม่ว่าได้สูตรมาจากใคร
เพราะบ้านเดิมแม่ทำสิ่งนี้ไม่เป็นและผมไม่เคยแม่เห็น

ผมจำได้แม่ปิ้งปลาทู
และทำปลาทูแดดเดียว
กับตำน้ำพริก
ผมกนแล้วอร่อยมากติดใจ
ผมเคยเห็นนก อีกาและเหยี่ยวบินมาโฉบปลาทูแดดเดียวที่แม่ตากเอาไว้กลางแสดเที่ยง  กลางแจ้งไป
แม่ให้ผมนั่งเฝ้า แต่ผมไล่ไม่ทัน








พบตามเอกสารบันทึกของแม่
คนชอบพอกันนับถือกันสมัยฆราวาสชอบมายืมเงินเม่
มีทั้งที่มีดอกเบี้ยให้และไม่มีดอกเบี้ยให้


ส่วนยายกับตานั้นไม่พบรายการเหมือนพ่อแม่
ตากับยายจะมีเรื่องทำบุญบริจาคและใช้สอย
ซื้อและการให้
การช่วยเปล่า


ส่วนพ่อนั้นเงินที่พ่อทำภาระหน้าที่ในธุรกรรมส่วนตัวนั้นอยู่ในวงกว้างและวงแคบ

แม่ทำหนี้สูญไปจำนวนมากพอสมควร
เพราะการไว้ใจคนอื่นและคนอื่นที่มาเกี่ยวข้องเข้าใจว่า
ลูกชายของแม่คงไม่กลับมาบ้านอีกแล้ว
ล้มหายตายจากไปแล้ว

แม่เคยคิดปล่อยดอกเบี้ยเงินกู้
จากการแนะนำของเพื่อนและทำแชร์หรือธุรกิจส่วนตัวใดๆ
เล่นหวยรวยเบอร์หรือขายเบอร์ขายหวยกาชาดอะไรเหล่านั้น
ปรากฏว่าขาดทุนยับเยิน

การเงินพ่อและแม่ใช้กันคนละกระเป่า
เงินที่ได้มาในสินสมรส
เช่นขายมะพร้าวงวดในสวน พ่อเก็บหมด
ส่วนลำไพ่ประจำวันที่แม่หาได้
แม่เก็บเองใช้เองไม่ต้องส่งพ่อ
เช่น ค่าใบพลูพืชผักสวนครัว เช่นตะไคร้ ผักเสี้ยนดองผักกุ๋ยซ่าย
ส่งขายตลาดนัด
หรือที่แวะมาซื้อที่บ้าน
และอะไรอีกมากมาย
แม่มีสิทธิเก็บเองได้


แต่แม่เน้นการได้ทำบุญ
แม่เชื่อว่าทำบุญแล้วไปสวรรค์แน่นอน
ไมว่าทำกับใครจะดีจะชั่วไม่สน
ขอให้ได้ทำบุญ

บางครั้งยี่สิบบาทยังทำ
ถวายข้าวอาหารเพลพระมีสมภารเป็นต้น
นิมนต์ส่วนตัวเฉพาะ
แม่มีทัศนคติที่ว่าเมื่อมีอาหารแล้วต้องมีปัจจัยถวายพระไปด้วยไม่มากก็น้อย
ตามกำลัง
แม่ต้องทำ ไม่อายว่าทำบุญน้อย
  แม่เคยถูกลอตเตอรรี่รางวัลเลขท้าย
เมื่อตอนที่ผมส่งภาพพระบฎเจ้าแม่กวนอิมมาให้จากกรุงเทพฯ


แต่พ่อนั้นไม่ทำน้อยๆแต่ทำทีละมาก ๆ พร้อมอาหารอย่างเป็นงานเป็นการ
ครั้งหนึ่งเคยเห็นพ่อทำบุญพระเงินแบงก์ร้อยห้าร้อยแบงก์พันเป็นฟ่อนเป็นปึกใหญ
ที่เก็บสะสมเอาไว้
ผมได้เห็นด้วยเป็นสักขีพยาน
ประมาณ5,000.00พันบาทประมาณนั้นมิได้นับแน่นอน
ไม่ได้นัดหมาย พอดีสดุดใจอยากทำก็ทำ
อุทิศให้เทพเจ้า "ฮกเมี่ยสี"
คำนี้ผมไม่ทราบว่าคืออะไรแต่เขื่อว่า
เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งหรืออะไรที่ท่านนับถือเป็นพิเศษเป็นการส่วนตัว
หรืออการทำบุญชนิดไม่ประสงค์ออกนาม
ผมไม่กล้าถาม


ส่วนยายกับตาเรื่องบุญนั้นมีแผนงานแน่นอนว่าจะทำอย่างไรเท่าไหร่กับใคร
การเงินของยายกับตาเมื่อมีจากการขายมะพร้าวได้จะฝากเงินไว้ที่เถ้าแก่รับซื้อมะพร้าว
ในตลาด(ปกปิด)และตายายไม่รู้จักใช้ธนาคาร
เมื่อตายายจำเป็นจึงไปเบิกไม่เก็บเงินไว้ที่บ้านพักอาศัยอยู่เป็นเงินสด

เรื่องการเงินแม่จดไว้บางครั้งก็ลืมจด
เพราะไม่มีเวลา
แต่แม่เป็นคนไม่มีสามธิคนกวนสมาธิง่าย
คือขวัญเสียตลอเวลาในชีวิต
แต่เมื่อแม่นั่งสมาธิได้สมาธิ ผมสังเกตตอนไปเยี่ยม
ที่ห้องกรรมฐานที่วัดในกรุงเทพฯ
เมื่อตอนผมอายุ6ขวบ ไปเยี่ยมกับตา ๆพาไป


แม่คิดทำหนังสืองานศพให้พ่อตนเองหลังพ่ออตาย
ทำสำเร็จมีคนสนับสนุนมาก
และพิมพ์ชนิดขึ้นแท่นจำนวน1,000
เล่มที่กรุงเทพฯ
เป็นหนังสือสวดมนต์ชาวบ้าน
มีคนตรวจปรู๊ฟให้
คนตรวจให้ตอนนั้นเป็นสามเณร
ตอนนี้มีฐานะเป็นพระราชาคณะในพระอารามหลวงแห่งหนึ่ง(ปกปิด)

แม่มีเพื่อนเป็นแม่ชีมีระดับจำนวนมาก
มีรายหนึ่งเป็นถึงประธานสถาบันแม่ชีไทย(ปกปิด)

เชื่อว่าทุกคน
เขาชอบแม่ตรงที่แม่
งานบ้านสะอาดดี
หรือโดยบังเอิญเพราะบุญเก่า
งานครัวแม่เยี่ยม
นำพริกน้ำจิ้มแม่ทำเก่งมาก
เร็ว
และอาหารกินเล่นแม่ทำเก่งถูกใจทุกคน
เช่นปิ้งปลาเค็ม
ปิ้งกล้วยปิ้ง
ส่วนงานแกงแม่ไม่ค่อยเป็น
งานล้างถ้วยนี้ชั้นยอดมีคนชม
ไม่เคยมีชามสกปรกค้างแม้ล้างที่ละมากๆ
ทุกงานแม่ช่วยงานนี้

ส่วนงานอื่นแม่ไม่ค่่อยถนัด


แม่ไม่หวังสิ่งตอบแทนเมื่อทำอะไรกับใครไป
พ่อก็เช่นกัน
แม่คิดเลขไม่เก่ง
พ่อเก่งมากดีดลูกคิดเป็นลายมือจีนสวย
เขียนลายสือจีนด้วยปากกาภู่กันจีนดีเยี่ยม

ชอบเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนเสมอเมื่อมีโอกาสเมื่กลับมาคืนดีกันในวาระที่สอง
เคยไปถ่ายรูปกันไว้ที่หาดสมิหลา สงขลาทางใต้ไทยไว้


พ่อและแม่เคยถูกริดรอนสิทธิจากน้องเขยคนหนึ่ง(ปกปิด)แบบพิสดาร
แต่พ่อและแม่ใช้วิธีแก้ไขปัญหา
ให้เข้าใจเอาเอง
ไม่ขับไล่หรือมีเรื่องมีราว

ผมเคยแนะว่าให้ไปจับจองซื้อที่ใหม่ช่วงถูกริดรอนสิทธิ
แต่พ่อและแม่ไม่ยอมทำ
ท่านทั้งสองบอกว่า
แก่แล้ว
เหนื่อยเปล่า
วาสนามีแค่นี้เอาแค่นีร้
"บ่เปี่ยง"คำแต้จิว แปลว่าไม่รู้จะทำอย่างไรเป็นคำไทย





ผมเรียนหนังสือกว่าจะจบมา
ถึงขั้นปริญญาสองใบนี้ได้มากระท่อนกระแท่นและทุลักทุเล
 แต่สอบผ่านได้หมด

ผมจะเล่าพอสังเขป
ซึ่งพอจะนำมาสนธิถึงปัญหารากหญ้าทมี่ผมพอจะมีที่จะสานต่อ
ไปเครดิตกับการสืบค้นญาติได้ถนัดขึ้นนั้นมีดังนี้ คือ
ผมเข้าเรียนประชาบาลได้สองปีเริ่มที่ชั้นเตรียมก่อนประถม
ไม่ต้องสอบเข้าไม่มีค่าปแป๊ะเจิ๊ยะ
มีญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งเป็นครูใหญ่


แม่ก็จบ รร.ประชาบาลแห่งเดียวกับที่ผมเรียนนี้
อยู่ได้สองปี หลังแม่บวชชีแล้วแม่ไปอยู่ทำสมาธิที่กรุงเทพฯ
  ผมถูกตาพาไปเรียนต่อที่
ทางใต้ไทยและอยู่กับพ่อ
ภายใต้ความสมัครใจของผม

เพราะผมโชคดีที่มีพ่อและเคยซื้อปลาทองมาฝากสองตัว
ปลานี้ฃซื้อจากคนขายมาจากพระบาทสระบุรี งานท่องเที่ยวที่พ่อไปมา
ที่เขาวงพระจันทร์ด้วย
และให้เงินยี่สิบบาทไว้ติดตัวก่อจากกันครั้งหนึ่งครั้งแรกที่พบกันเมื่อ
ผมจำความได้
ถ้าอย่างนั้นลองไปอยู่กับพ่อดู  "ผมคิด"

เพราะตาและยายมิใช่พ่อแม่คงวไม่อุ่นเท่าพ่อและแม่
แม้พ่อและแม่ของจะไม่อยู่ด้วยกันตอนนี้
ลองกับพ่อดูว่ารสชาติเป็นอย่างงัย

ว่าอย่างั้นตอนนั้นผมคิด

สรุปผมตัดสินใจอย่างเด็กไปอยูกับพ่อทางใต้
หลังจากที่ตาถามไถ่ความสมัครใจผมแล้ว


ที่ทางใต้ไทย
อยู่กับพ่อ
ที่บ้านพ่อนี้ไฟไหม้เป็นประจำ
น้ำแม่น้ำท่วมบ้านนั้นทุกปี
เป็นประเพณีเอาเสียทีเดียว
สนุกอย่างยิ่งยวดทีเดียว
ผมคิด


ที่พ่อเมื่อมาถึงบ้านท่านแล้ว
เมื่อว่างจากการเรียนช่วยพ่อขายก๋วยเตี๋ยวถ้วย
การเรียนต่อของผมต่อเนื่อง เพราะผมยังเด็กในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ
ที่นี่เป็นโรงเรียนราษฎร์การเข้าต้องมีคนรับรองและพาไปฝากเข้า
ตาเป็นคนฝากและรับรองเข้า
ค่าเรียนค่าเทอม พ่อจ่าย


ผมไม่คุ้นที่นี่  แยกเพศเรียน ไม่เรียนรวม
แต่สนุกมาก
เสื้อปักอักษรไทยสองตัว ชื่อย่อรร. ปักตัวหนัสือสีน้ำตาล
ที่รร.นี้ที่ผมไปเรียนได้เพื่อน
มากมายอาทิเช่น  คนหนึ่งท่านได้เป็นอธิบดีที่เคยกล่าวมาแล้ว
ที่ประถม 3-4+-5 เมื่อขึ้น ป.5 เขาเปลี่ยนระบบการศึกษา ม.1-2-3
เป็นประถม 5-6-7


และการเปลี่ยนแปลงะบบการศึกษาไทยปีนั้น ทำให้ผมเปลี่ยนชีวิต
ในปีต่อไป


คือเมื่อผมจบป .4บริบูรณ์ที่รร.ราษฎร์นี้แล้ว
 ได้ใบสุทธิประถมศึกษาบริบูรณ์เหมือนอย่งที่แม่ได้แล้ว


ผมขึ้น ป.5(ม.1เดิม) เมื่อจบ ป.5
 ผมได้ขอลาออก
ตามแผนพ่อจะส่งไปเรียนมาเลย์เซียประเทศที่ติดใต้สุดไทย
ประเทศนี้ที่พ่อเชื่อว่าน้องสาวคนหนึ่งของพ่อนั่งเรือมาจกเมืองจีนด้วยกันแล้ว
มาแยกทางกันและสูญหายไป
ขาดการติดต่อจากบัดนั้นมาบัดนี้
ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
กล่าวคือหลังการอพยพขนถ่ายผู้โดยสารสำปั้นเรือจากจีนมาไทย


แต่เมื่อผมออกจาก รร.ราษฎร์ดังกล่าวแล้ว
อีกระยะหนึ่ง ผมยังไม่เห็นท่าทีว่าจะได้เดินทางพ่อว่าจะส่งเรียนต่อที่มาเลย์เซีย
แต่ให้เรียบภาษาจีนครูจ้าง
อันนี้ไม่สนุกเหมือนที่รร. และยาก สำหรับผมคนไทยลูกจีน
และโดนพ่อดุอะไรบางอย่าง
ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องวอะไร


ท้ายสุดสรุปว่า

ผมหนีพ่อไปโดยทางรถไฟล่องต้
ขอเขาไปฟรีครับตอนนั้น
เล่าเรื่องราวตนเองให้คนรถจักรฟัง
และเขาก็เชื่อ


ผมไปถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปที่วัดที่พี่สาวตาบวชอยู่
และผมบวชเป็นสามเณรที่นั้น
มีพระราชาคณะ(ปกปิด)ระดับภาคบวชให้
เมื่อบวชเสร็ขผมเข้าพรรษาแล้วออกเดินทางมาหาแม่
แม่ดีใจเมื่อได้พบผม


และผมเดินทางสู่โลกใหม่
โลกฃองแม่ครับคราวนี้
ซึ่งจะงดเล่าในรายละเอียด
เพราะลืมๆไปเกือบหมดแล้ว



นึกออกค่อยว่ากันต่อไป
  เพื่อให้การสืบค้นญาตินี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เป็นเป้าหมายหลัก


แต่จะเล่าว่า
การศึกษา ป.6 ม.3  ม.8
ซึ่งเป็นช่วงที่น่าสนใจ
คือตอนนั้นบ้านเมืองเปิดโอกาสให้คนได้รับการศึกษา
สะดวกขึ้น
หลังสงครามเวียดนาม


คือช่วยผู้ด้อยโอกาสทางการศึกในรูป  กศน.
การศึกษานอกโรงเรียน
โดยกรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ
เชื่อว่าเป็นแผนพัฒนาของไทยและองค์สหประชาชาติ
ที่ผมเข้าใจ

แต่สรุปผมมาเรียนใหม่อีกครั้ง
คือเริ่มจากประถม 6 ใหม่้คือป.4ใหม่ทีเดียวเลย
เพราะผมสมัยเรียนในโรงเรียนจริงผมอ่อนเลข
 และไม่ชอบเลขและวิทยาศาสตร์
ผมพบว่าตนเองไม่ทันเพื่อนในเรื่องนี้ในอดีต
ที่ผ่านมา

ตัดสินใจผมจึงสมัครเรียน   กศน
เริ่มที่
กศญ
การศึกษาผู้หญิงควบไปด้วย
เริ่มที่รร.วัฑโพธิ์  ท่าเตียน  กดรุงเทพฯก่อน
 ชั้นม.3ภาคค่ำ
ถ้าจำไม่ผิด

แล้วขณะเดียวกันสมัครเรียน
กศน สวนกุหลาบ  ปากคลองตลาด  กรุงเทพฯ

ผมพยายามสอบอยู่หลายปี
บางวิชาตกบางวิชาได้
กศน
ผมไม่ต้องไปเรียนทุกวันดูหนังสือเองแล้วไปสอบ
แต่เข้าร่วมกิจกรรมบางครั้งที่ กศน กำหนด
ทำไมผมเลือกเรียนที่  รร. สวนกุหลาบ

เพราะโอกาสที่ผมมาเรียนที่นี้
มันเอื้อต่อสภาวะการณ์ของผม
ผมจำไม่ได้ว่าเรียนอยู่กี่ปีจบที่นี่
เพราะใบสุทธิปลวกกินหมดแล้ว
แต่ผมจบใที่สุด


และมาต่อ ม.3
มาเรียนที่  รร.วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ
ที่นี้ผมได้เข้าเรียน กศน
แต่ผมสามารถจบได้ ภายใน2ปีหรือ3ปี
เร็วขึ้นกว่าป.6

ทำไมผมเลือกที่นี่
เพระผมอ่านหนังสือของท่าน  มจ.อากาศดำเกิง
เรื่อง  ละครชีวิตมาก
สนุกมากมันดูคล้ายกับปัญหาชีวิตของผมบางอย่าง
เลยศรัทธาจะมาลงเรียนที่นี้
และหลานตาคนหนึของผม
เป็นช่างทองอยู่ใกล้วัดเทพศิรินทร์รร.ด้วย
แต่ผมเข้าเรียย ไม่เคยไปเยี่ยมกวนหลานตาแต่อย่างไร


ผมจึงเลือกเข้า รร วัดเทพศิรินทร์
กศน ที่นี่ผมจบ
ได้รับใบประกาศนียบัตร กศน   ม.3 แล้ว
ผมตัดสินใจเรียนต่อในชั้น ม.8 หรือเรียกว่า มอสอ5
ผมเลิอกเรียนที่ มศว ประสานมิตร ถนนสุขุมวิท
กรุงเทพฯ

ตอนที่ผมมาเรียนที่ รร. วัดเทพศิรนทร์
เพราะความอยากรู้อยากเห็นของผม
ในวันกิจกรรม กศน
วัยนหนึ่งผม
ไปเดินเล่นที่ตึกข้างเคียง  รร  ในวัดเทพฯ
ในวัดดังกล่าว
จำไม่ได้ว่าตึกอะไร
เขตวัดหรือเขตรร.


ผมพบอนุสาวรีย์ในร่มสวยมากและประทับใจ
ภาพสลักหินอ่อนของเจ้าหญิงราชนิกุลท่านผู้หนึ่ง
ผมจำไม่ได้ว่าท่านมีพระนามว่าอย่างไร
เขาแกะได้สวยมาก
ฝีมือมนุษย์หรือนี่

ผมถามตนเอง
ผมเริ่มทึ่งและกลัวๆ  
ในสถานที่วิเวกวังเวงไม่มีคน
บนที่แห่งนั้น


เชื่อว่าคนแกะเป็นช่างมาจากอิตาลี
สมัย ร.5  แน่นอน
ผมเห็นแล้วชอบภาพแกะสลักหินอ่อนนี้จริง
จริงๆ
อาจจะเป็นสาเหตุนี้ที่ทำให้ผมรีบทำม.3 กศน
ให้จบได้ภายในสองปีก็ได้

เอาละผมที่
มอ8หรือมอสอ 5
ที่ รร มศว.ประสานมิตร

ผมสมัครเข้าเรียน กศน
 ที่มัธยมสาธิตประสานมิตร
ที่นี่ผมจบช้าตามเคย
ผมจำไม่ได้ว่าทำไมเลือกลงเรียนที่นี่
แต่ผมจบในที่สุดได้คะแนนเกรดเฉลี่ยไม่ถึงสอง อันนี้ถือว่ายังออ่อนสำหรับผม
ในโลกแผนปัจจุบัน

เพราะความที่ตนที่ตาและแม่อยากให้เรียน
อนาคตจะได้นั่งโตะทำงานไม่ต้อง
มาจับจอบและเลี้ยงควายเหมือนอย่างบรรพบุรุษ
มีตาและแม่เป็นอาทิ


ผมทันที่จบมอแปดไทย  กศน
ได้รับปใบประกาศนียบัตร


ผมรออีกหลายปี
จึงสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยปิด
หลังจากที่เข้ามหาวิทยาเปิดแล้ว
เรียนไม่สำเร็จในคณะวิชากฏหมายและคณะวิชาเศษณฐศาสตร์

ต่อมา
ผมสอบเข้ามหายาลัยปิด(ปกปิด)ติด

ผมเรียนได้ ปี3  ติดรีไทร์เพราะตกเกินสามครั้งไม่ได้ต้องออก
และผมออกม่ารอสอบเข้าใหม่และติดอีก
รอบสอง
ผมสามารถทำรอบสองผ่านไปได้ทั้งกหมด
8 ปีเต็มเกือบ10-12 ปีรวมทั้งหมด
ประมาณนั้น

ผมจบ ปริญญาใบแรกเรียบร้อบ
จึงตัดสเนใจเรียนใบที่สอง
เพราะมันสัมพันธ์


ผมถือว่าคนเราไม่แก่เกินเรียน
แม้ตอนนั้นผมติดอันดับคนแก่เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว

ผมคิดได้อย่างนี้จึงเข้า
สอบอีกปริญญาใบที่สองในมหาวิทยาลัยปิดแห่งเดียวกัน
ปรากฏว่าติด


ผมเรียนอยู่สองปีคิดว่าไปไม่ไหวท้อ
และผ่าตัดมะเร็งผิวหนัง
เลยพัก แต่จ่ายค่าเทอม

แต่อีกสักระยะท่านอาจรย์โทรมาตามให้ส่งงาน และให้กำลังใจ
ผมจึงกลับมาเรียนอีก
สอบได้ปริญญญาใบที่สอง
ผ่านตามกระบวนการ 4-5ปีจบ
ทันทีที่ผมจบใบที่สอง
แม่เรียกกลับบ้านเพราะแม่ป่วยหนัก
ต้องกลับบ้านให้ได้
พ่อก็ป่วย


ผมจึงมาดูแลแม่อีกหนึ่งปี
อย่างใกล้ชิด ชนิดหามขึ้หามเยี่ยวกันทีเดียวเลยละ
คนอื่นไม่มีใครแล้ว
หายหมดแล้ว
ผมลูกคนเดียวต้องรับผิดชอบ
ต่อมา
พ่อและแม่ตายลง

ผมจึงเข้ารับปริญญาใบที่สอง
ปริญญาสองใบนี้ผมไม่ได้เรียนด้วยทำงานด้วย
แต่ผมได้ทุนมีทุนสัญจรบ้าง
ทุนแม่บ้าง
ทุนมหาวิทยาลัยปิดบ้าง

พอมีความเป็นไปได้
ช่วงนั้นผมพบยว่าผมมีความสมารถในภาษาต่างประเทศ
ตัวนี้ช่วยผได้มาก
ในช่วงการเรียนเอาปริญญาสองใบนี้ที่ผ่านมา


คิดอยากทำปริญญาใบที่สามตามแผนการศึกษาตามอัธยาศัย
พ่อดีผมแก่มากแล้ว
และเวลาว่างไม่ค่อยจะมี
และพ่อแม่ตายลง
รู้สึกว่า
ค่าใช้จ่ายสูงเมื่อตนเองแก่ตัวลง


ให้ผมพยายามแข่งกับค่าใช้จ่ายและความพยายาม
เอาเรื่องกับมันอยู่
แต่ใจผมยังอยากทำปริญญาใบที่สามอยู่
อย่างไม่ลดละ

เชื่อว่าถ้าโชคเข้าข้างผมต้องทำมันได้อีก
ถ้าไม่ตายเสียก่อน
เพราะว่าปริญญาสามใบนี้มันสัมพันธ์กันอยู่
ผมเขื่อว่าอย่างนั้น

แต่ทว่า
ผมพบว่าเมื่อคนแก่ลง การที่สมองจะทำงานได้ดีเหมือนตอนหนุ่ม
ทางแก้คือใช้อาหารเสริมที่มีคุณภาพเข้ามาแก้ทำให้หนุ่มได้
ผมเชื่อว่าจะมีไฟหนุ่มเหมือนเดิม


และตัวนี้เอง
จึงพบว่าเมื่อแก่ลงต้องใช้เงินเปลืองขึ้นกว่าแต่เก่าก่อนมา
จากเนื้อสับบะช่อที่เคยกิน
ต้องเป็นเนื้อย่างเป็นชิ้นแบบสเต็กเลยทีเดียว
ที่บาร์วิมปี์ในเมืองออกร์ฟอร์ด อังกฤษ
มีเสนอให้
ผมรูเสึกอย่างนั้น


และหลายอย่างติดตามมา
ด้วยเหตุนี้
จึงมาคิดเรื่องที่ตายของผม
และภาระหน้าที่ตนเองที่ต้องรับผิดชอบก่อน
การทำปริญญาใบที่สของผม
ถ้ามีจะมีสมาธิดีขึ้น
เชื่อว่าอย่างนั้น
และนี้เป็ฯเหตุให้เกิดบล็อกของผมนี้ขึ้นมา


ไม่รู้ว่าเผ่ากิยองตินจะให้กำลังใจ
ไม่แกล้งให้ชะตากรรมและความต้องการเจตาที่บริสุทธิ์ของผมด้วยหรือไม่
ผมพยายามคิดต่อไป


เพราะการเป็นมนุษย์ต้องคิดไปข้างหน้ามิใช่คิดมาข้างหลัง
ผมเชื่อว่าที่
หลายคนพูดว่าทฃุกอย่างมันขึ้นกับตนเองมิได้ขึ้นกับคนอื่น
ผมเชื่อว่าถ้าจริง
ผมจะพยายามใช้ตนเองให้ดีที่สุด
มีคุณภพที่สุด

ก่อนตายเพื่อได้พบเทพพ่อเทพแม่
และทวยเทพผู้ีพระคุณอีกครั้ง
ทั้งในประเศไทยและประเทศอังกฤษหรือในตะวันตกอีกครั้งในชีวิตอื่น
ถ้าหากว่ามันมีอยู่
ในมโนคติ

และผมเชื่อว่ผมได้ทำบุญทุกวัน
ได้ทำตนเป็นคนมีคุณธรรมที่ดีทุกนาทีวัน
แม้ตอนยนี้มือผมเปื้อนโคลน
ฝ่าอันตรายท่ามกลางป่ายุงและป่างูพิษ


แต่อย่างไรก็ตาม
ในบั้นปลายชีวิตผม
ฝ่าบาท
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
ได้ประทานอุปสมบทให้ผมแล้วเป็นเวลา30วัน
 ณ อุโบสถงวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ


นับว่าเป็นพระคุณอันล้นพ้นที่
เกล้ากระผมจะลืมมันได้ลง
ในฐานะที่ได้เกียรติให้อุปสมบท
จากพระองค์ท่าน
จากความทรงจำจากเด็กที่มีชีวิตพลัดพรากมาตลอด
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว



ไม่ทราบผมลืมอะไรอีกและจะเขียนอะไรอีก
ในวาระสุดท้ายทั้งหลายเหล่านี้
แล้วนึกได้จะเขียนต่อ
ผมยังคงฟังเพลงของบาช์คตามเคยครับ


Smiley


















































































มีหนี้สูญหลายรายการ



Create Date : 28 พฤษภาคม 2560
Last Update : 18 กันยายน 2560 21:42:09 น.
Counter : 898 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends