All Blog
j126 เริ่มใช้ชื่อเต็มจากบททนี้ว่า"บ้านอานองเต126"


Smiley





บ้านอานองเต 126
j126
ชื่อกลับมาใช้หรือมาใช้คำว่า
บ้านอานองเต
ตามด้วยหมายเลขบท
เพื่อไว้อาลัยและเป็นอนุสรณ์แด่แม่จริงที่ตายไปเมื่อวานนู้น

เพื่อรำลึกถึงแม่ที่ซื้อเครื่องพิมพ์ดีดนี้ให้ในวันเกิดผม

เพื่อมายเรียงต่อไป


แม่

จากบทนี้เป็นต้น
เปลี่ยนจากการที่เคยใช้ตัวนำอักษรบทที่
ของเรื่อง
ในตักอักษรว่า
เจJ
 อักษรละตินอังกฤษ
ตัวเดียว
เป็น บ้านอานองเต หรืออานองเตตามด้วยอักษรเลขไช้อาราบิคเลข
เรียงต่อไปจากเดิมใช้เลขตัวตามแบบไช้อาราบิค
รันจากต่อจากหมายเลขเดิมบทเก่าที่เขียนมาแล้ว



ผมฟังเพลง

Pachelbel - Canon In D Major. Best version.
Tchaikovsky - Marche Slave
Edvard Grieg, In the Hall of the Mountain King from "Peer Gynt"







สิ่งที่ผมคิดว่าจะทำคือ
มูลนิธิที่มีเงินเหลืออยู่หลังผมตายแล้ว
ทิ้งไว้ให้ทนายผูจัดการมรดกจัดการ
และดูแลสุสานพ่อและแม่และผมต่อไปให้ผมให้เรียบร้อย
เมื่อ
ผมตายลงไปแล้วด้วย



ตอนนี้ผมก็ใกล้จะถึงวันตายเช่นกันเหมือนพ่อและแม่
เมื่อตายลงทนายที่เชื่อถือได้
จะรับสัญญานี้
ตามสัญญาดังกล่าว


เรื่องต่างๆ
จึงเกิดและแปลงมาเป็นเรื่องนวนิยายบ้านอานองเต
ดังที่ปรากฏอยู่นี้


เพื่อทำทุกอย่างให้เป็นฉากเป็นละครเสียให้หมด
ทำให้คนอื่นร่วมสนุกกับปัญหานนิยายบ้านอานองเตนี้
ได้อย่างไม่แคะคายอะไร
ผมเชื่อว่าอย่างนั้น


และผู้พบอ่านคงได้อารมณ์และสาระไปในตัว
บ้างในบทเรียนของชีวิตใครคนหนึ่ง

โดยไม่ต้องไปเสียเวลาหรือ
หรือมีอารมณ์ร่วมหรือไม่ร่วม
กับพระเอกคือผม
โดยความรู้สึก



ในเหตุการณที่ชีวิต
หนึ่งได้ประสบทุกข์และเห็นภัยพิบัติมากมายถึงขนาดนี้
และประสบสุขผลชั่วข้ามคืนบ้างในบางเวลา
เว้นชีวิตบนเตียงนอนเพราะเรื่องนี้เป็นพลาโตนิคเลิฟซีน
platonic love scence

และท้ายสุดทุกอย่างและสรรพสิ่งคงยุติลงด้วยดี
นั้นคือสิ่งที่ผมต้องการ
ในเรื่องอานองเตนี้



และก็ถือว่าเป็นสันติภาพนิดหนึ่งของมนุษย์
จากในหัองแห่งสันติภาพ
และความสงบทั้งหลายที่ปรากฏในโลกนี้







วันนี้
อยากยกมันทั้งหมดมาที่คำว่ามุมมองใหม่ว่า
มั้นมาที่มุมมอง
คืออยู่ที่เรา
เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา
ว่าอะไรควรจะเป็นอะไรในความคิดการตัดสินใจของคนเรา



ว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร
(หมายเลขบทเปลี่ยนคำนำหน้าตั้งแต่บทนี้เป็นต้นไป)




และทัศนคติ
ที่มีต่อเรื่องชีวิตที่อานองเต
นี้มันมีอะไรและควรจะต่อไปอย่าง
ควรจะจบลงอย่างไร

ที่การฆ่ากันตายให้เปลืองงานตำรจเกิดขึ้น
นั้นไม่ควรมีอย่างยิ่งเมื่อมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ตาม
อันนี้เป็นสุดยอดในทัศนคติของผมและอานองเต


อย่างที่พระเอกไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย
อันนี้เป็นทัศนคติของผม
แม้ผิดหวัง
การฆ่าตัวตายที่ถือว่าโง่
สำหรับคนผมพบว่าเมื่อกลับมาที่อานองเต



พบว่า
แม่เคยคิดผูกคอตายหลายครั้ง


แต่แม่ไม่ทำ
แม้เตรียมเชือกปอขนาดสมควรเอาไว้
แต่แม่ผมตายสงบเพราะทำใจได้
แม่ตายข้างผม
ผมพยาบาลและอุ้มไข้
และผมไม่รู้ว่าแม่ตายแล้วเมื่อผมให้อาหารทางจมูกทุกวัน
จนหมอบอกผมจึงจะรู้

ใบมรณบัตรแม่ระบุว่าแม่ตายที่บ้านมิใช่ที่ รพ.





แม้แม่มีเรื่องสะเทือนใจมาก
ในหลายเรื่องที่บ้านอานองเตนี้




และบทนี้เป็นต้นไปจะใช้อานองเตเป็นชื่อบทแทนอักษรละตินอังกฤษ
เจ
เพราะคำว่า เจ กดไปที่ค้นหาในกูเกิล
เมื่อวานนี้พบว่ายังหายาก
จึงใช้"บ้านอานองเต"หรืออานองเตตามด้วย
หมายเลขบทเรียงต่อมาจากงานเขียนนนิยามจากบทแรก
ที่ปรากฎในเรื่องบ้านอานองเตนี้

ขออนุญาตแทรกและประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน


ต่อไป

แล้วถ้าคิดเป็น
ก็คงจะพบมุมมองที่ดีได้แน่นอน
เพื่อเตือนใจในการวางแผนอะไรในสรรพสิ่งไว้ล่วงหน้า


เพื่อไม่ให้มีปัญหา

อนึ่งผม
ผมมีความจริงที่นำมาเสนอทั้งหมดได้ในระดับหนึ่งแน่นอน
แม้จะเป็นนิยาย
ข้อมูลนั้น
มีชนิดอ่อนบ้างแข็งบ้าง
ก็ให้คิดวิเคาระห์อีกครั้ง



บางอย่างไม่สามารถนำมาปะติดอปะต่อ
เป็นเรื่องราได้ทันที
ที่ในสารบบไม่ว่ากัน
เพราะเรื่องนี้เป็นนิยายทางเลือกแนวใหม่
ผม่าของผมเองอย่างนั้นงั้น





เพราะความจำในวัยสนธยาองผมเสื่อมไป

จนกว่าเรื่องราวแยะๆ
และมีการอ้างเชื่อมโยงขึ้นมา

ซี่งจะสืบค้นพบ
พบความจริงของความจริงในวาระสุดท้ายขึ้นเรื่อยๆ
เพราะสมองมีพลังrecognition
เมื่อได้พักผ่อนมากและเพียงพอ


ผมเอาอย่างนั้น

ผมเองว่าถูกและเป็นทางที่ดี
ในการแก้ปัญหาคนและชีวิต
เป็นเนติและเป็นอีกวิธีหนึ่งแน่นอน
ผมชอบ
ว่าอย่างนั้น



ผมจึงตัดสินใจเขียนเรื่องบ้านอานองเตนี้ต่อไป
และต่อไปจนกว่าจะจบ
หรือจนกว่าไฟในสมองจะมอดดับ



และผมถือว่าบทอ้างบทประกอบนั้นมีทั้งจริงและไม่จริง
เพื่อเสริมให้สนุก
ในเรื่องที่อ้างมาเหล่านั้น
จึงเสริมเข้ามา



เป็นตัวประกอบ

จากนางเอกนางรองผู้ร้ายตัวโกงอื่นใๆนเรื่องนวนิยาย
นี้
ละครเรื่องนี้ทั้งหมด
ผมเป็นพระเอกในเรื่อง
ในสรรพนิยามทั้งหมดที่ผมว่าไป




ผม











ผมคิดว่าการตั้งตัวนั้นมิยาก
ผมจะสาธยาย

ผมคิดได้เมื่อมาใช้ชีวิตที่อานองเตนี้
และพบเผ่ากิยองตินคอยมากวนใจผม
ในทางลับและทางแจ้ง
จึงทำให้ผมพบสูตรชีวิตใหม่เพื่อเผ่ากิยองตินและทุกคนขึ้น
ที่ยังจน



คิดว่าถ้ามีเกินกว่านี้ที่ผมแนะนำ
บรรจุในนิโอเกษตรกรรมสูตของผมที่ว่าน้ำกับปุ๋ย


และมีเผ่ากิยองตินที่มากวนผมอีกทุกกรณีอื่นใด
ไม่รู้ว่าเขาจะเอาอะไร
เผ่ากิยองตินี้แม้เป็นเผ่าในมโนคติของผม
แต่บางครั้งเผ่านี้ทำให้ผมปวดหัวเหมือนกัน




แสดงว่า

การลิดรอนสิทธิที่ผมมีโดยธรรมชาติ
มีปม
และแต่ผมไม่ติดใจ
แต่ปมนี้ต้องสอบสวนกันต่อไปเพื่อหาข้อชัดแจ้ง
และชัดจริง

ให้เหมือนกระจกส่องดูหน้าได้

จึงจะหยุด


หรือต้องตีความ
ให้ออกว่ามันเรื่องอะไร
มีความเป็นมาอย่างไร ที่ไหน
เกี่ยวกับใครและอย่างไร
และจะจบลงด้วยวิธีใด
ผมต้องสืบค้นในนามของความดีเพื่อบ้านอานองเตอันสงบ



แต่ผมมั่นใจว่า

ว่าไม่มีอะไรในโลกนี้
พ้นกฏแห่งการกระทำ
ทกอย่างที่คนทำใครทำอะไร
หรือมนษย์ทำอะไรที่ไหน
ตรงไหน
ทุกครั้งที่ลมหายใจติดอยู่
ที่จมูกของผม


ผมหรือคนอื่นใดต้องล่วงรู้มันได้

แม้กระนั้นยังมีสิ่งควบคือ
นั้นคือมันจะมีบัญชีเสมอ
ไปโดยธรรมชาติของมันเอง
ไม่ว่าจะอะไรที่เราอาจจะมองช้ามไป











เผ่าดิบองจิเป็นเผ่าหนึ่งในมโมนคติ
ของผมเช่นกัน
มาเล่าให้ผมฟังว่า

คนสมัยใหม่ตั้งตัวได้ใช้เมล็ดน้ำเต้าเมล็ดเดียวตั้งตัวได้
ทำอย่างไร
ผมถาม
รดนำทุกเช้าเย็น
เมื่อนำเม็ดฝังดินดีพอประมาณลึก
มีแสงแดดมีปุ๋ย



ปุ่ยอย่าใส่มากเกินไป
หลักใส่ปุ๋ยเหมือนคนกินผงชูรส
สมัยผมเกิดมาผงชูสไม่มี
มีแต่สบู่ยี่ห้อหนึ่ง
กับผงซักฟอก
ที่บ้านอานองเตผมใช้ขี้เถ้าเเทน


ใส่ปุ่ยและใจเย็นไม่ต้องโลภมาก

อย่าทำเกินอย่าทำขาด
หย่าขยันเกินอย่าขยันเกินอย่าขยันขาด
หรือขึ้เกียเกิยจเกินหรือขี้เกียจขาด


รอมัน

งอกขึ้นมา
เหมือนรูปถ่ายที่เราเห็นในหนัง
ตอนต้นไม้งอก

และทำหญ้า

อย่าให้หญ้าวัชพืชสักต้นเดียว

สักต้นเดียที่น้ำเต้ามันขึ้น


อันนี้ใช้ขี้พร้าหรือแฟงหรือเถาต้นบวบก็ได้ตามใจชอบ
อะไก็ได้รวยได้ตั้งตัวได้
ทั้งนั้น








เมื่อมีหนึ่งเม็ดเกิดเป็นต้นเป็นเถายาวและ
เลี้ยงดูพรวนดินดูแลใช้เวลาไม่นาน
ได้ลูกเก็บพันธุ์ไว้รุ่นลูกอย่าไปเก็บ
ทิ้งไว้แห้งคาต้นหนึ่งลูก


ส่วนนอกนั้น
เอามากินหรือขาย แต่ปล่อยตัหนึ่งลูกหนึ่ง
ให้แก่จัดคาต้นแล้ว
เอามาทำพันธุ์
เพราะเมล็ดพันธุ์มันแพงมากที่เกิดในซองที่เราไปซื้อมาจากร้าน
ผมจำได้

ไม่ต้องกลัวเขาเจ๊งหมดถ้ามีคนอย่างเรา
เขามีทาเลือกเยอะ
เราไม่ต้องห่วงเขา
เราห่วงตัวเราเองก่อน




แปลกดี
เราซื้อเมล็ดพันธุ์เสียเงินยี่สิบห้าบาททขึ้นไป

แต่อันนี้ฟรี

เราจัดการให้มันเป็นเมล็ดตากแห้งอย่างดี
และเก็บให้ดีอย่ามีเช้้อรา

และรอพอฝนมาปลูกอีก
จากสิบต้นร้อยต้นสุดแท้แต่
ที่แรงเรามี

ผมนี่หมดแรงแล้วดีแต่แนะเขา



และเราก็เมื่อเริ่มตั้งตัวทำอย่างนี้
ไปเรื่อยๆ ไม่เกินสามปีเราก็รวยแล้ว
ถ้าไม่รู้รายละเอียดให้ถามคนรู้ใกล้บ้านท่าน
ไม่ต้องไปไกล
ไม่ต้องไปเยนที่เมืองนอกเพียงเพื่อหัดปลูกน้ำเต้า
เว้นแต่ว่าเรารวยแล้วไปดูงาน


ข้างบ้านท่านทุกแห่ง
คนเก่าผู้แก่ผู้เฒ่าเขาจะรู้ดี
และอยากแนะนำให้เสียด้วยซ้ำ
แต่ไม่มีคนถาม
เพราะมองข้ามภูมิปัญญาชาวบ้าน



เพราะเขาโตมาเลี้ยงเรามา
ด้วยความรู้
ที่ไม่ต้องเรียนใน รร.เหล่านี้

คือภูมิปัญญาสืบทอดมาเป็นพันๆปี
ตามนัยนี้นะ มิใช่เรื่องนี้เสมอไป


อีกเรื่องหนึ่ง
ผมพบว่าสวนยางมีคนเอาอย่าง
น้อยคนนักจะสำเร็จ
คือูยางพาราต้องใช้พื้นที่ต้องใช้หลักวิชามาก
ยางทนน้ำทนแดด


สิบปีเห็นผลทันตา
ได้มีรายได้ทุกคืนวัน
แต่ดินสำคัญน้ำสำคัญ
เขาว่ามา


ภูมิประเทศสำคัญที่เงียบสงบสำคัญ
และปุ๋ยสำคัญ

การทำดินทำลายวัชพืช
สุดๆ สวนยางต้องสอาดนอนได้
ไม่มีหญ้าสักต้นเดียวมีแต่พื้นดิน


แถวแนวตรงออย่างอิฐก้อนที่ประดับตึกตรงได้มิให้พัง



และสิบปีเราตั้งตัวได้ทันที
คนเป็นจะทำลงทุนกันมาก
จนร่ำรวยกันเป็นแถว
จนเก็บเงินไม่ไหวไมรู้จะใช้เงินอย่างไร
โดนหลอกก็มีไม่โดนก็มี
ข่าวบอกเราทุกวัน
ผมว่าอย่างนั้น







ยางนี้มีคนตั้งตัวได้เยอะมาก

เขาทำอย่างเช่ื่อมั่นในตนเอง
ใช้เวลาบ้าง

แต่อดใจรอห้าปี
ทุนหมุนเวียนบ้าง
เขาทำกันได้

ขยัน
อดทด
พอแผนแรกสำเร็จแล้ว

แผนต่อไป
เขาใช้คนงานจ้างสถานเดียว
เพราะเรารู้แกวแล้วว่า

มันได้อะไร
ทำอย่่างไร
กรีดยางได้เท่านี้
ไม่ได้เท่านี้

ฝนตกไม่ตกผลเป็นอย่างนี้


 เราจ้างคนทำ
เรารู้ทันที

น่้ำยางหายไปหรือไม่อย่างไร

ยางได้ร่มได้ป่าธรรมชาติ

และเมื่อทำแล้วได้ผลทำแผนต่อไป
ก็กู็เงินมาหมุนส่งดอกทำไปอย่างนี้
ต่อมาปัญหาไม่มีที่ดินให้ซื้อ
หมดไป


เพราะที่ดินมันมีจำกัด
ตามหลักเศรษฐศาสตร์

ในยุคที่ป่าของรัฐถูกทอดทิ้ง
เพราะใช้งบมาก


คนใช้ป่าสงวนทำยางกัน
แต่ต่อมารัฐะท่านผ่อนผันและให้ทำได้
อันนี้เป็นพลังผลัก
ให้คนไม่มีที่ทำกินเขาขยัน
จะยืมหรือขอใช้หรือให้
สุดแท้แต่
แต่เอามาใช้กันก่อนที่


ท่านเขามาตามดูไม่ทัน
และเผลอไปว่าอย่างนั้น
ผมคิดไปเองนะ

เพราะอันนี้เป็นนวนิยาย
จะเขียนอย่างก็ได้อย่าให้มันผิดและมิชอบก็แล้วกัน





ใครโดนไม้นี้
ก็รอคอยค่อยๆมาฝึกอดทนรอดูลาดเลาฃมิให้พลาดโอกาส
ได้ทุกคน
ผมว่าอย่างนั้น
ท่าทีของมันคงจะอย่างนั้น

การแข่งขันจึงมีขึ้น
เพาะถ้ากานแข่งขันมีมากขึ้น
กฏหมายจะขายดีขึ้นก่ากฏหมู่
ผมว่าเองนะ






ผมจำได้ว่า

ครั้งแรกที่บ้านอานองเต

คนทำสวนยยางนั้นมีพ่อแม่สองคนตายาย
พ่อแม่ผมนำร่อง
เห็นกันทุกวันเป็นเลาสิบปีทำยาง


และและเห็นต่อมามีคนเห็นด้วย
และทำตาม
เขารวยกันตามๆกัน
จนไม่รู้จะเก็บเงินไว้ที่ไหนดี



คนที่ไม่เอาอย่าง
ก็จนตามเคย
เป็นปัญหาสังคมต่อมา
และก็ต่อไป


ทราบว่า
พ่อได้วิชามาจากเมืองจีน
เรื่องยาง
แต่พ่อผิดหวังในชีวิตสมรส
ตรงจุดนี้พ่อ่อนเลขชนิดหนึ่งพ่
แต่พ่อคิดเลขเร็วมาก


คือถ้าพ่อไม่คำนึงเรื่องชีวิตสมรส
แต่ทำไปเลย
เพราะมีทางออกมากมาย
พ่อคงจะรวยน่าดูต่อมา
แต่พ่อตัดพ้อว่ามีปัญหาชีวิตสมรส
เลยไม่ทำยางตอนหนุ่ม

อันนี้ผมเป็นลูก
ไม่ถือว่าซวยตามพ่อ
ตอนนี้ผมใกล้จะตายแล้ว
ปลูกอะไรไม่ไหวแล้ว
ก็ตามใจพ่อก็แล้วกัน








ตกลง
ไปตามกฏแห่งการกระทำของคน

หรือกฏแห่งมันสมอง
หรือกฏแห่งความเฮง
หรือกฏแห่งความซวย

สุดแท้แต่จะว่ากันไป







สรุป
ต่อมา
พ่อเป็นปรัชญานิดๆ
และพ่อเป็นหมอดอย


ตกลงพ่อทำยางอีกแต่
จึงไม่ได้ทำเอง
คือทำให้เขา


แต่มาทำให้คนอื่น
ญาติก็เอาบุญ
ว่าอย่างนั้น


ยางต้องรู้อนาคตห้าปีสิบปีแห่งการรอคอย

ไม่เหมือนมะพร้า
ที่เคยทำปลูกกันหรือผักที่เห็นผลไวและประกันได้
มาก่อนแต่ยางนี้ของใหม่
เดี๋ยวนี้เขากำหนดชะตากรรมยางกันได้แล้ว
แต่พายุที่ดินตลาด
มีปัญหาตามมา
ผมว่าเองนะ







อันนี้เป็นวิธีทำที่ดีและรวยได้

มิใช่งอมืองอเท้า
คอยรอตลักคนอื่นเก็บเกี่ยว
เอาเปรียบเพื่อน

ขโมยของเพื่อน
มักง่าย
ขอเพื่อนกินเปล่า
เป็นแขกดอย

เช่นเผ่ากิยองติน
ที่บ้านอานองเต
อย่างนี้
ผมหลีกและหลบและสอนเขาให้ถ้าเขาฟังและเชื่อ
ไม่เอามีดงอฟันหัวผมเสียก่อน
จะอ้าปากสอนให้




ผมว่ามรรยาทตัวนี้

เป็นเรื่องแรกกันกับสังคมเราทุกแห่ง
แน่นอนและไม่ดี
ถ้าคนเราไม่มีในเรื่องมรรยาท
มีที่ไหนเรื่องนี้ไม่มีคนไม่มีมรรยาท
เลิกคบและถ่วงความเจริญแน่นอน



ตอนนี้เป็นปัญหาความมั่นคง
และความั่งคั่งในชั้นรากหญ้าด้านสังคม
แล้วผมว่า



มิใช่ว่ารอกินแบบแขกดอย
ต้องทำเอาเองด้วย


โลกใบต่อไป

ไม่มีการรอแบบแขกดอยอีกแล้ว

หลายคนที่บ้านอานองเต

ว่าผมพูดได้
เพราะผมมีมรดกตกทอด
ทันทีผมเกิดมาได้บ้านไม่ต้องสร้างหนึ่งหลังใหญ่
แม้ปลวกกินก็ตาม
แต่ผมยกให้และรับว่าได้บ้านมาจริงก่อนทำ



ที่จริงผมว่าอันนี้เาใจผิด
เพราะคนที่ไม่มีมรดกตกทอดมีกุญแจวิเศษ
ในการคุมคนที่มีโชคชะตาแรกเกิดเอาไว้
เอาชะตากรรมชีวิตคนมีโชคไว้ตลอดเวลา
ผมค้านว่า




และท้ายสุดมีผมมีมรดกจากพ่อแม่ก็จริง
แต่ผมก็ตต้องมาไต่เต้า
แบบการปลูกน่ำเต้าดังไดัที่อธิบายมาแล้ว

กฏหมายมีรองรับไว้กรณี

วัวควายมาทำพืชให้เสียหาย
มีตำรจกผูกกฎหมายเอาโทษไว้อย่างเคร่งครัด




เรื่องที่ดินที่บ้านอานองเต
ก็เช่นกัน


ผมต้องขายไปบางส่วน
เพื่อยังชีพและผมทำไม่ไหว
และเผ่ากิยองตินคอยกวนใจ
และหลีกเลี่ยงคนที่เช้าใจว่าผมเกิดมาโชคดี
ผมจึงเหลือน้อยนิดก่อนตาย
ก็อันนี้ชะตากรรมของสังคม
ที่ละแวกอานแงเต
ค่อยกำหนดกันใหม่ต่อไปเมื่อหมดผมและอานองเตไปแล้ว
ผมว่า




ตัวคนเดียวัยสนธยา
ที่ผมถ่ายรูปมา
ให้ดูดูประกอบนวนิยายเรื่องอานองเตนี้
มันอาจจะชัดบ้างไม่ชัดบ้าง





นายทุนที่เอาถ่าน
ที่เขาได้ที่บางส่วนที่บ้านอานองเตปล่อยไป
ถ้า

เขาคิดได้
ใช้ทุนเพียงสองสามล้านบาท
เขา
สามารถทำโครงการได้อย่างามจริงๆทีเดียว


แล้วทำไมผมไม่ทำเสียเอง
ถ้าอย่างนั้น
คำตอยมี

เพราะพ่อแม่ตกทอดเป็นงดสดมาให้เพียงผม
แสนกว่าบาทเอง
เงินสดในธนาคาร
กำนันที่อานองเตต้องมาเป็นพยายในวันผมไปรับเงิน
มรดกที่ธนาคาร

พ่อแม่ตามจริงถ้าไม่โดนเผ่ากิยองตินกวน
แกล้งรังแกและตัดตอนตัดต่อ อิจฉา
โกงใช้อิทธิพลคุกคามเชิงลึกเชิงเงียบ


พ่อและแม่จะมีมาก
หลายสิบล้าน
เพาะขยันอดทนไม่เล่นเงินเชิงลบ
ชีวิตพ่อและแม่เชิงบวกตลอดกาล
ไม่มีปัญหาทางกฏหมายศาลและตำรวจ
มีอย่างเดียว

คือปัญหาชีวิตสมรสตอนต้นๆเท่านั้น



แต่ที่เคยบอกแล้วว่าพ่อแม่ลูกต้องใช้เงิน รักษา
ตัว

เพราะพ่อแม่เป็น


มะเร็งทั้งสอง
และโดนโกง
มีลลูกหนี้เชิงลบทั้งสิ้น
มีชีวิตลำบาก
ตลอด



เมื่อพ่อแม่ผมตายลง
จึงไม่ทิ้งอะไรไว้ให้ลูกเลย
แต่ลูกตอบแทนทันใจ

เมื่อพ่อแม่ตายลง
ใส่โลงทองคำคือโลงหัวหมูให้ท่านทั้งสองทันที
แม้ไม่มีเงินยิมเขาก่อน
เพื่อ
ว่าพ่อแม่จะได้เดินทางไปสวรค์ให้สบาย
ผมว่าอย่างนั้น


เพราะฉะนั้นผมจึงติดอยู่าอย่างที่เห็น

จะกู้เงินอายุผมมาก
ไปไม่มีใครเขาให้กู้แม้ธนาคารใต้ดิน



เรื่องการถูกกด
หรือไม่ถูกกด

เราไม่ติดใจในในประเด็นนี้

เพราะผมเป็นอะไรขึ้นมาในทุกมลภาวะทั้งดีเลวที่คิดกัน

ผมถือว่าเราคิดมากไปเอง
เป็นปนัชญาในการดำรงชีวิต




เราห็นปลาที่เขาเลี้ยง
เช่นที่สะพานเทเวศม์ กรุงเทพฯ
เมื่อเพื่อรอคนให้มารับอาหารแจก
ปลามันจะเแย่งกันสุดขีด
ปลาที่แข็งแรงก็อิ่มไป
ปลาที่อ่อนแอก็อดไป

คนก็เหมือนกัน
การต่อสู้เพื่อการอยู่รอด
คงจะเป็นเช่นนั้นเอง
ผมจึงไม่อยากคิดมาก


เมื่อคิดได้อย้างนี้แล้ว
เราจะมองสังคมอานองเตออกทันที
ว่าเราถูกคนเผ่ากิยองติน

แกล้ง
คนกิยองตินกดเอาไว้


คิดเสียใหม่ว่า



อีนนี้คิดมากไปเอง

ทำไม่เป็นเอง โง่เองแล้วเที่ยวหาว่าคนอื่นแกล้งคนอื่นกด
เหมือนปลาที่แย่งอาหารแจกที่
สะพานข้ามเรือที่เทเวศม์ฉะนั้น






ไม่มีใครในโลกใดประเทศใด
ที่กลั่นแกล้งคนทำกินเป็น
และทอดทิ้งคนโง่และงี่เง่าทำมาหากินไม่เป็นนะ

ผมว่า




ส่วนเรื่องอื่น
เราจะไม่กล่าวเพร่าะว่า



เราต้องมองโลกในแง่บวกก่อน


จนกว่า
เราจะตรจพบมีแง่ลบค่อยว่า


แต่แง่ลบในโลกนี้มีน้อยมาก
มันเหมือนการที่มีอุบัติเหตุที่ยังน้อย
เมื่อเทียบในเรื่องนี้ที่เกิดขึ้น




เกิดขึ้นยังน้อย
กว่าคนที่นอนหลับสบายฝันหวานอยู่
ผมว่าอย่างนั้น



แต่ผมก็ขอจงอย่าให้มีอุบัติเหตุที่ใดเลยเลย
โลกเอ๋ย
อุบัติเหตจุ
นี้มันเจ็บ
จริงๆ


และผมขอเจ็บกับเขาไปด้วย
แม้ที่จริงเราจะไม่เจ็บ
และผมรู้สึกอย่างนั้น เพราะเคบพบอุบัติประจำที่บ้านอานองเต
เช่นขับรถตกเขา



ขอให้โลกเป็นบวกหมด
และบ้านอานองเตด้วยจงเป็นบวก
และผมขอเป็นบวกด้วย
โชคดีอานองเตผมและเพื่อนๆSmiley



Create Date : 14 ตุลาคม 2560
Last Update : 14 ตุลาคม 2560 5:00:34 น.
Counter : 394 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends