All Blog
j46






Smileyjjy 5003

เรื่องวัวที่บ้านอานองเต
ดังที่กล่าวมาบ้างแล้ว
ถึงปัญหาและความต่าง
และการลงตัวในยุคพึ่งพิง

จะขอกล่าวอีกนิด
ด้วยเหตุผลที่งดไม่ให้เข้ามาเลี้ยงวัว
ในสวนอานองเตอีกต่อไป
มาในสมัยยุคของผม

ปัญหาที่ตามมาคือวัวขาดเข้ามา
ทั้งภาวะสุดวิสัยและเหนือและในวิสัย
ผมต้องใช้หลังป้องกันตนเอง
คือฉีดยาฆ่าหญ้า
 เพื่อปราบวัชพืชที่ไม่พึงประสงค์ออกไปบ้าง
มิใช่ป้องกันวัวเข้ามาอาละวาดสมาธิอุ่นเครื่องของผม
แต่อย่างใด
ฉีดยฆ่าหญนั่นถ้าป้องกันวัว
มันใช้ได้ชั่วคราวเท่านั้น

แต่ถ้าว่ายังมีปัญหาอยู่อีก
คำตอบคือไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
นอกจากรั้วถาวร ถ้าทำได้

และแม่และพ่อก็เคยสั่งไว้กับผมก่อนตายว่า
ห้ามไม่ให้ใครมาเลี้ยงวัวอีก
พวกที่มายุ่งวุ่นวายก็ให้งดไป
รวมทั้งแขกพี่น้องใดก็อย่าไปกวนเขา
และปฏิเสธอย่าพึ่งหรือไม่ให้เขามากวน
ปรับปรุงอานองเตให้เรียบร้อย
ก่อน มิฉะนั้นจะมีอันตราย
"เพราะเราเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบ
และเป็นพันธุ์กระต่ายแสนหก"
ที่ถูกต้องีแม่บ้าน คนใช้ก่อนจึงจะรับแขกได้นะลูก"ที่บ้านอานองเตนี้
ถ้ามากวนก็ตอบไปว่าไม่เห็นด้วย
เพราะบ้านอานองเตแย่ลง
จนกว่าลูกจะฟื้นคืนตัวมาเหมือน
อานองเตเดิมเป็นอย่างน้อย
จึงค่อยว่ากันใหม่

และแม่กับพ่อเห็นว่าลูกชายมีปริญญาสองใบแล้ว
คงจะรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
ด้วยเหตุนี้ละกระมัง
ท่านทั้งสองจึงลาตายทำนองนั้น
ผมเดาเอาเอง
เพราะอายุท่านสั้นเกินไป


น่าจะอยู่ด้วยกันอย่างพ่อแม่ลูกต่อไปอีกนาน

มาวินิจฉัยในข้อสรุปเพิ่ม
เหตุผลของผมเลิกและปิดประตูรับแขกบ้านอานองเต
จนกว่าการไว้ทุกข์
และเกียรติของอานองเตจะถูก
เรียกคืนมาใหม่
ให้อย่างต่ำสุดคือการคงสภาพเดิม
ให้เหมือนอดีต
ทั้งด้านการเงินการสังคม
และตัวผมเองด้วย

จากเหตุผลทั้งหมดได้ข้อยุติ
เป็นการควร
ห้ามมิให้ใครเอาสัตว์มาบุกรุกและ
ละเมิดในสิทธิอันชอบธรรมของผม
และบ้านอานองเตอีกต่อไป
คือเหมือนปิดประเทศชั่วคราว

เรื่องงดเลี้ยงวัว
เห็นว่าดังรายการต่อไปนี้เป็นส่วนประกอบคือ
ฐานะของผู้ที่เคยมาพึ่งพิงจากอดีตอันยายนานนั้นดีขึ้นมาก
เศรษฐกิจมะพร้าวถูกโอนไปเป๋็นเศรษฐิจสวนยางพารา
สำหรับสวนยางพารานั้นทุกคนมีรายได้ดีเป็นส่วนใหญ่
เป็นรายวันแทนการได้เป็นงวดๆเหมือนสมัยมะพร้าว
คือจาก45วัน
แบบได้เงินใช้เป็น
มาได้เงินทุกวัน

ยางพาราทำให้เศรษฐีน้อยเกิดขึ้นมา
บางคนมี5ไร่บ้าง 10ไร่20 ไร่ 30ไร่
และที่เป็นนิดนึงมี 50- 80 ไร่หรือเพิ่มไปอีก
บางรายเพิ่มเป็น100 ไร่ 1000ไร่
ในท้องที่อำเภอที่อานองเตตั้งอยู่


เพราะฉะนั้นการเก็บมะพร้าวหล่น
การขโมยปืนมะพร้าวในหัวข้อขอกันกิน
แต่ไม่ขออนุญาติล่วงหน้าจึงหมดไปบ้าง
แม้อาจจะมีเหลืออยู่บ้าง

เป็นตีผึ้ง เห็ดผลไม้ผักสวนครัวและการรังแกสัตว์นก
สัตว์เลื้อยคลาน
กบ เขียด
สิ่งเหล่านี้ยังมีบ้าง
เท่าที่โอกาสเวลาของเขาจะอำนวย


สารอาหารชนิดสัตว์มีวิตามินแอลฟาที่ผมนิยามมันอยู่บ้่าง
ทำให้กินแล้วแข็งแรง
เหมือนอาหารที่คนรวยกินได้เหมือนกัน
คนเริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิต

เข้าไปหากินเก็บขี้ยาง กรีดยางกันกับเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้น
แม้มีแรงงานต่างด้าวพม่ามอญเข้ามาเสริมจำนวนมาก
ยาง
มีรายได้ดีแต่ต้องอดนอนเปลี่ยนเวลาทำงาน
จากลางวันตามใจชอบเป็นกลางคืนกำหนดเวลา

คนเมาเหล้าอาละวาดน้อยลงในช่วงเย็นตามโรงเตี้ยม
ของละแวกหมู่บ้านอานองเต
มีไฟถนนและบ้านตามทุกบ้านสว่างไสว
ทืให้ผู้ร้ายทรงเครื่องต้องเปลี่ยนท่าทีใหม่
ถ้าเขาคือคนร้่ยคิดจะยึดอาชีพตกหล่นนี้ต่อไป


ในสมัยต่อมา
ในยุคนี้เรียกว่ายุคดีเอ็นเอและหลังดีเอ็นเอเข้ามา
อันยุคเงินตราเศรษฐกิจคือนับเงิน
ใช้เงินนำ
เป็นวัฒนธรรมประจำวัน
เงินนำทุกอย่าง
ไม่ว่าการเมืองการศาสนาในอานองเต


และเมื่อบ้านอานองเต
กลับใช้ชีวิตตรงกันข้ามคือ
ไม่ใช้เงินแต่ใช้อดีต
ใช้ชีวิตทวนกระแสสังคมอานองเต


การอยู่ได้ในสังคมในอานองเตของผม
เก็บของกินที่มีอยู่ในสวน
ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดไปของอานองเต
และผมตายไปเป็นวาระสุดท้ายของอานองเต

ต่อไปยุคหลังอานองเตล้มสลาย
ผมขอให้ตั้งมูลนิธิไว้
เพื่อรักษาสุสานของ




บรรพบุรุษอานองเต
สายนี้คือพ่อแม่ผม
เอาไว้

ตามกำลังเงินที่มูลนิธิมีไว้
เป็นหนังสือและเอกสาร

วัดสมัยยาย
มีการอาศัยและพึ่งพิงอิงแรงบุญเป็นสำคัญ
ฝานอานองเต
มาตลอดเวลา

แต่มายุคผมนี้ยุติสิ้นเชิง
สรุปอานองเต
เจริญขึ้นแต่อานองเตสมัยคือผมเจริญลง
และอยู่ได้

ตราบเท่าเวลาที่ทำเรื่องสืบค้นญาติ
ก็ยังทุกอย่างปกติดี


สรุปคนทุกคนแข็งแรงพึ่งพาตนเองได้แล้ว
อานองเตจึงวางมือจากการให้ความอุ้มชู
บรรดานักเลี้ยงวัว
วัด
และขบวนการเร่ร่อนอีกต่อไป
ในสมัยผมนี้

จะให้เคลียร์เรื่อห้ามวัวต้องทำรั้ว
 แต่ผมไม่มีเงินทำ
เพียวคำพูดห้ามห้ปรามก็เพียงพอ
สำหรับอานงเตซึ่งมีอดีตอันยาวนาน
ใน



ชุมชนอานองเตแห่งนี้
ผมเข้าใจอย่างนั้น


เพราะตามกติกาสังคมมีว่า
ละเมิดการละเมิดเจตานั้นเรื่มที่คน
เมื่อนับต่อไปอีก
ละเมิดฝ่ายตำรวจเพราะละเมิดกฏหมาย
ตำรวจมีหน้าที่รักษากฏหมาย
และต่อไปอีกคือละเมิดอำนาจศาลโดยกฏหมาย
จึงมีคุกตารางเป็นที่สุด
และการทำโทษผู้ละเมิดเจตนาโดยชอบของผู้อื่น
จะเป็นในลักษณะนี้

เพื่อการดำรงอยู่ได้ของสังคมมนุษย์
มีอารยะต่อไปได้เป็น
แม่นมั่น

ผมเหนื่อยจากงาน
ที่บ้านอานองเต
ในภารกิจประจำวันแล้ว
มาเขียนหนังสืออีกมือเมื่อย
คล้ายเอ็นจะหลุด
ผมจึงงดขอนอนสักงีบ
เมื่อหายเหนื่อยแล้วมาทำต่อ




ตอนนี้ผมฟังเพลงของบาช์ค

เมื่อผมเกิดมาเห็นสิ่งทั้งหลาย
ที่บ้านอานองเตชองตามีดังนี้คือ
ที่อานองเตเก่าที่ผมใช้ชีวิตตอนเป็นเด็ก


รกหลังแคลอดของผม
ฝังไว้ที่กลางสวนอานองเตเก่า
ยายบอก

ในสวนอานองเตเก่า
มีมะม่วงตาลจีน
มะม่วงแก้ว
มะม่วงพิมเสน
มะม่วงเบา
มะไฟ
มะเฟืองเปรี้ยว
สะเดา
มะตูมใหญ่
มะพร้าวไม่เป็นแถวเป็นแนว
ที่เป็นแถวเป็นแนวเกิดขึ้นเมื่อตามาตกหลุมรัก
แต่งงานกับยายแล้ว

ที่ขึ้นตกสืบทอดมาจากย่าทวดต้นใหญมาก
ปัจจุบัตายหมดแล้ว
มะพร้าวที่แม่ตอนเป็นสาวเคยช่วยปลูก
ปาล์มที่แม่และพ่อหลังปลดหนี้
เคยช่วยทำไว้อย่างดีทั้งหมด
ถูกรื้อหมดโดยผู้สืบทอดคนปัจจุบัน

เหลือแต่สุสานตายายเท่านั้น
ที่เหลือไว้ดูต่างหน้าและยางนาต้้นใหญ่และภูเขาข้างๆ
และเดี๋ยวนี้มีแต่ที่ดิน
และยางรอขาย
ใดยตนรุ่นต่อมา

คาดว่าอย่างนั้น
เพราะที่ดินแพงขึ้นกว่าเงินรายได้ประจำ
ของึคนครอบครอง

สมันตา
มาสร้างตนพัฒนาจาก
บ้านอานองเตสมัยย่าทวดและยาย
ผมจำได้ว่ามี

สิ่งใหม่คือ
กาแฟส้มโอ
กล้วยไม้ ต้นพุดซา
ลำไยไว้ที่ทางเข้าหน้าบ้าน
มีบ่อนำใหญ่ขุดใหม่
มีการสวดขอฝนโดยตา
บ่อนำนี้ผมช่วยขุด


มีคนในชุมชนมาร่วมใช้ประจำสมัยแล้ง
แต่ปัจจุบันใช้ประปาของ อบต  ทั้งหมด
เดิมอานองเตใช้บ่อใต้ต้นมังคุด
ก่อนจนมาสร้างบ้านอานองเตใหม่
ใหม่ๆหมด
บ่อใหม่
ผมจำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่
 เมื่อเกืดมามีอยู่แล้ว

ข้อสังเกต
เก่าๆจะไม่มีปลอกบ่อ
ปูนซิเมนต์
บ่อใหม่จะมีปลอกปูนซิเมนต์สวมต่อขึ้นมาอีก
จนถึงปากบ่อตอนก้นบ่อเหมือนเดิม


บ่อเก่าเป็นมรดกของลูกสาวย่าทวด
ชุดผัวน้อย
ย่าทวดครอบครองอยู่
ไม่มีภาระติดพันอะไรกันในปัจจุบันกับอานองเต
แยกครัวกันชนิดเด็ดขาดไปแล้ว



ต้นมะไฟเต่าต้นหนึ่งต้น
ผมเห็นว่าสิ่งนี้แปลก
มะไฟเต่าผมเห็นที่นี
เกิดมาเห็นแล้ว
ที่อื่นไม่เห็น

รสมันหวานหอม
ลูกสีม่วงหวานหอมอร่อยมาก
เหมาะสำหรับกินเล่น
บ้านตามีส้วมซึมแห่งแรกในชุมชนอานองเตนี้
สมัยก่อนใช้ส้วมหลุม


ตาชอบไปมำทำกระท่อมบนเชิงเขาหลายหลัง
เพื่อรับรองอารมณ์ตนเอง
ในการหาสมาธิและรับรองพระธุดงที่สัญจรมา

พักที่นี้
ไม่มีชื่ออาศรมและกระท่อม
ชื่อกระท่อมตามิได้ให้ชื่อมัน

การลงแขกเกณฑ์แรง
สมัยก่อนนั้นเป็นหลักใน
การก่อสร้างแบบลงแขกทำนาปี

แต่เดี่ยวนี้มีการจ้างและ
คิดค่าช่างตามระดับทีเดียว
ซึ่งแพงมาก
เมื่อเทียบกับบสมัยย้อนยุค



สรุปเศรษฐกิจแบบลงแขก
ปรับมาเป็นเศรษฐกิจแบบเงินตราหมดแล้ว

พืชอันตรายเช่นกัญชา
 กระท่อม
หมดไปแล้ว
เพราะห้ามปลูก
มีการจับสั่งย้ายสั่งรื้อสั่งทำลายไปหมดแล้ว
จากทางราชขการ


มีแต่หมากพลูเท่านั้นที่เหลืออยู่
พลูอานองเตสืบทอดฃตัวนี้อยู่
ยุคผมมีพลูขึ้นมากเป็นเอกลักษณ์
เพราะพลูเป็นสิ้นค้าเพื่อส่งต่างประเทศได้
เพิ่อสกัดทำหัวน้ำหอมและทำยา
เป็นที่ยอมรับของสังคมในและนอกประเทศ


พลูนอกจาการใช้กินกับหมาก
ในสมัยยุคสานต่อจากย่าทวด
สมัยร.4-5เป็นต้นมา


ปัจจุบัน
มีตาคนหนึ่งของผมเป็นพี่ชาย
คนโตของยายซึ่งมีประวัติอันยาวนาน
เป็นพระชื่อปกปิด
 เป็นสมภารและพระคู่สวด
มีชื่อเสียงมากในพื้นที่


และท่านได้มีชื่อสร้อยท้ายว่า
ท่านมีอายุยืนมากคือ109ปี
ท่านเป็นช่างนักสร้างมาก่อนบวชท่านสร้างวัดมากมายในเขต



จะขอเล่าประวัติอีกสักนิด
สำหรับตาที่เป็นพี่ชายยายคนโตนี้
ก่อนอื่นต่้องยอมรับว่าสับสน

ในพงศาวลีการเรียกชื่อยศของญาติ
หรือคำนำหน้านามของญาตที่พี่ป้าน้าอา

กล่าวคือเป็นการยกย่องเป็นพิเศษหรือนับถือกันคือ




แม่ผมให้เรียกครูเพื่อนแม่ว่าป้าทั้งๆที่อายุน้อยกว่้าแม่
หลายคนที่แม่นับถือ แม่จะยกย่อง
ให้เขามีอายุมากกว่าหมด
แทนที่จะเรียกตามปกติพงศาวลีวิทยาปกติทั่วไป


จึงบางครั้งสับสน


ในการเข้าใจว่า
ใครเป็นใครกันแน่ลงใปสำหรับญาติฝ่ายแม่
สายสืบค้นคนแซ่บ่าง
ในเรื่องของตามีสกุลแซ่จากไฮหลำเกาะทางใต้จีนใหญ่จึง
แจ้งให้ทราบ
ว่าไม่ตายตัว


ที่จะเรียกเหมือนฝ่ายพ่อจากสกุลแซ่ว่าแซ่แต้
จากมณฑลกวงตุ้งดังกล่าว
กันสับสนตามพงศาวลีวิทยาจึงแจ้งาให้ทราบก่อนอ่านติดตาม
เป็นนัยสำคัญ



ครอบครัวยายสรุปมีญาติพี่น้องที่สามารถอ้างอิงถึงดันได้รู้
ทันทีคือ

มีพี่ชายเป็นนักสร้างวัดเกจิอาจารย์ขือดังท่านหนึ่งรองจากเกจิ
อาจารย์ชื่อดังในพื้นที่ที่มีชื่อเสียงระดับชาติในวงเซียนพระนักเล่น
และเป็นอดีตเจ้าคณะอำเภอสำคัญของจังหวัด
ตาเป็นผู้บวชกับท่าน
มีพี่น้องชายนับญาติระดับย่าทวดรู้กันโดยปกติ
ได้สมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรมรณภาพแล้ว
เป็นหมอผี (เชี่ยวชาญการทำผีออกจากคนและเอาผีใส่ขวดไปไว้ที่โคนไผ่
เคยไล่ผีให้แม่ตอนแม่ผีเข้าและปัดรังควาญมีมีดกริชประจำตัว)ท่านมรณภาพแล้วและเป็นรองเจ้าคณะอำเภอ
ในอำเภอเดียวที่เดียวกันและเป็นสาธารณูปการอำเภอ(ที่ดินสร้างวัดในเขตอำเภอท่านรับผิดชอบออกแปลนการตั้งโบสถ์ผังวัดให้

ที่สามมีลูกเขยเป็นหลานท่านขุนอดีตกำนันเก่าแก่ในพื้นที่มีนามสกุลพระราชทาน
นอกนั้นคิดไม่ออก
ยายเคยทะเลาะกับตาตีกันขั้นฟันหักไปหนึ่งซี่ผมจำไม่ได้ใครแพ้ใครชนะ
ใครฟันหัก
และพี่ชายที่ผมกำลังจะกล่าวถึง
พี่ชายยายคนนี้ท่านเป็นช่างทำบ้าน
สะสมวัตถุโบราณมากมายและเป็นหมอยามือฉมัง
ชอบแนะนำให้คนมาบวชตามท่าน
เคบเดินทางไปมะริดพม่า
ฝีมือการสร้างบ้านท่นชั้นเยี่ยม
ไม่พังอยู่ทน


แสดงว่ามีหลักการทางตาปูการใช้อุปกรณ์เครื่องไม้ดีมาก
การคำนวณคาดการณ์   การเล็ง   การวัดต้องเก่งมากมีครูดี แต่ผมไม่กล้าถามว่าเป็นใคร
เมื่อท่านมีชีวิตอยู่
กล่าวคือเมียท่านตาย
ท่านเสียใจมากเลยบวช
โดยความอุปถภัมภ์ของน้องสาวคนเล็กคือยายผม
และได้มอบที่ดินมรดกจากย่าให้หนึ่งแปลง


และญาติคือน้องสาวอีกคนหนึ่งๆแปลง

ท่านบวชแล้วเรียนอะไรผมไม่ทราบ
ทราบแต่ว่าเป็นช่าง
ความรู้ทางธรรมชั้นไหนผมจำไม่ได้
ทราบแต่ว่าท่านเป็นพระคู่สวดคือพระอนุสาวนาจารย์
เมื่อมีพิธีกรรมบวชพระ

และท่านชอบส่งเสริมให้คนเรียน
มีการสร้างพระเครื่องและพระประจำตัวท่าน
มีคนนิยมพอสมควรและแพง
เรียกว่าออกเหรียญทั้งสมัยที่ท่านมีชีวิตอยููและหลังท่านมรณภาพไปแล้ว
ท่านสนิทกับคนทุกชั้นในอำเภอทั้งฐานญาตินับได้และนับไม่ได้
แต่ระดับญาติ


ท่านสะสมว่านและยาโบราณทุกชนิด
ตาของผมเมื่อบวชไปอยู่กับท่าน
แม่เมื่อบวชที่กรุงเทพฯแล้วกลับมาดูแลท่านช่วยสร้างวัด
ดูแลชาวกรุงที่มาช่วยพี่ชายยายสร้างวัด
การสร้างวัดมีวัดหนึ่งที่ผมพบในชื่อที่กรมการศาสนา
บันทึกว่าเป็นผู้ขอสร้างวัด

ท่านใช้ฟันปลอมตายด้วยโรคชราภาพ
มีเศรษฐีในพื้นที่รำลึกถึงท่านมามาบูรณะกุฎีให้ท่านก่อนตาย
ท่านกินหมากสูบยา
สวดมนต์ได
ชอบเดินบิณฑบาตตอนเช้า
ใช้ชีวิตเรียบง่ายสมถะ
ไม่ชอบอุปกรณ์ทันสมัย
ตอนผมเป็นสามเณรเคยไปอยู่กับท่าน
แม่สั่งให้ปรนิบัตรท่าน
ท่านกลับไม่เคยใช้ผมให้ทำอะไร
ให้อยู่เฉย


ท่านชอบไฟเทียนไฟตะเกียง
จะกินจะนอนเรียบง่ายเสื่อผืนหมอนใบ
ไม่กลัวผีกลัวงูและกลัวยุงและกลัวคน
ประวัติท่านอาจจะมีมากกว่านี้
แต่ผมรู้น้อยมากเพราะช่วงการเป็นสามเณรของผมเป็นช่วงสั้น
บวชอุทิศคุณมารดาเท่านั้น

ถ้ามีอะไรที่ผมจะเล่าอีกเมื่อผมคิดได้
เพราะคนที่รู้เรื่องราวดีตายหมดแล้ว

ยายเคยสร้างวัดตามย่าซึ่งแก่วัดมาก
มีเอกสารบางอย่างบันทึกว่าแม่ของยายอุทิศ
ที่ดินให้สร้างวัด
เป็นเอกสารโบราณที่กรมโยธา
แต่ท่านไม่ทันสมัยพอที่จะมาอ้างอิง
ให้ได้มาตรฐานเหมือนสมัยปัจจุบัน


ว่าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไรเหมือนปัจจุบัน
ได้ ผมจึงไม่นำมากล่าวในที่นี้

แต่ว่านโยบายรวมๆฝ่ายข้างยายนั้น
ทำบุญมากทุกคนสมัยโบราณยอมรับ
และทำชนิดไม่หวังเหรียญตราหรือไม่หวังสิ่งต่างตอบแทน
แต่เอาบุญอย่างเดียวหน้าไม่เอา
ตรงไปตรงมา
ประวัติเรียบร้อยดี
ตีรันฟันแทงเหล้ายาการพนันไม่เอา


ออกจากบ้านในภาวะปกติมีมีดงอหนึ่งอันถือไว้บนบ่า
แล้วเดินไป ไม่เคยเดินไปในสวนมือเปล่า


อนึ่งคำว่าล้มควายวัวหมายถึงฆ่าเพื่อกินหรือจัดงานเลี้ยง

ยายพูดภาษาไทยโบราณเป็นอย่างเดียวภาษาไฮหลำแบบตานั้นไม่เป็นเลย
ยายไม่รู้หนังสือ

แต่เมื่อไปศาลหาเจ้านายชอบพูดตรงไปตรงมา
เคยไปศาลเรื่องทรัพย์สินชิ้นหนึ่งที่มีปัญหา
ท่านทำมาได้เรียบร้อย

และท่านเป็นคนไม่ยอมคน
ถ้าผิดหลักการท่านสู้หัวชนฝา
แต่ภาษาไทยอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
ในเอกสารท่านจะเขียนได้แต่ชื่อและลงลายนิ้วมือ


ไม่เหมือนตา
ตานั้นพูดภาษาไฮหลำเก่ง
ส่วนเขียนภาษาจีนผมยังไม่เคยเห็น
สรุปไม่เก่งเหมือนพ่อผม

ตาเขียนภาษาไทยได้บาลีได้
พูดได้เก่งเหมือนคนไทยพูดสำเนียงกลาง
ไม่เคยใช้เสียงท้องถิ่นแต่ยายใช้เสียงท้องถิ่นอย่างเดียว

เคยเรียนพระปาฏิโมกข์เมื่อบวชแต่ไม่จบ
ท่านเคยบวชสองครั้ง
ครั้งล่าสุดอดข้าวเย็นไม่ได้(หมายถึงข้าวมื้อเย็น)
และไม่สบาย
ท่านต้องลาสิกขาสึก
และตายด้วยวัณโรคปอดในเวลาต่อมา

พี่น้องตาในเมืองจีน
ไม่เคยเล่ามาถึงผมและยาย
และยายก็ไม่สนใจอยากจะรู้
ยายอยากรู้อย่างเดียว
คือช่วยกันสร้างสวนมะพร้าว

ผมสันนิษฐานว่า
ตาบวชพระตอนหนุ่มแล้ว
สัญจรธุดงค์ไปมาจนมาพบยาย
ที่งานวัดในพื้นที่ที่ยายอยูและพบรักกัน
ผมไม่เคยถาม

เพราะยายและตาไม่ค่อยพูดมาก

แต่ที่แน่นอนท่านพาเพื่อนชาวไฮหลำมาในพื้นที่
หลายคน
และช่วยเหลือจนตั้งตัวติดทุกคน
และไม่หวังผลตอบแทน

เรื่องพ่อของตานี้เป็นคนไฮหลำ
เล่าขานกันสู่ภายในครัวเรือนน้อยมาก
ทำนองปกปิด

เพราะมีเรื่องช่วงเกี่ยวกับแพ้ความเรื่องมรดก
ตอนขึ้นศาล
ระหว่างลูกเมียหลวงและลูกเมียน้อย
มีพิพาทหลังแม่ตาย
ปัจจุบันทรัพย์สินเหล่านั้นมีนัยสำคัญในพื้นที่อยู่
และชีวิตตาจึงผันผวนมา
อย่างไรก็ตามผมไม่ติดใจมาตามเรื่องนี้ให้ตา
ในบล็อกนี้ แต่ว่าติตามเรื่องกหารสืบค้นญาติให้สมบูรณ์ที่สุดเท่านั้น


ว่าใครเป็นมาอย่างไรที่ไหนเมื่อไหร่และอะไรเท่านั้น
เพื่อเหตุผลโดยทางพงศาวลีวิทยาและการ
สนธิสานต่อให้ทุกอย่างที่อานองเตมันลงตัว
หลังผมตายแล้ว

และจะได้ไม่ถูกลืม
และมีข้อครหาหรือข้อข้องใจ หรือตกหล่น
ในอื่นใดอาจจะเกิดขึ้น

เทียบเคียงเหมือนเยลโลวเพจที่หาหมายเลขโทรศัพท์ได้
เมื่อเกิดเหตุจำเป็นรูป แบบกรณีหนึ่งด้วย
เมื่อฟอร์เมตมันแล้วจะได้ภาพเหล่านี้เพิ่มเติมมา
กล่าวไม่กังขาสงสัยกันอีกต่อไป
ว่าเรื่องราวอะไรของใครตื่นลึกหนาบางเท่าไหร่
สำคัญมากน้อยเพียงใดเป็นต้น
ที่ผมเขื่อว่ามีอยู่


อย่างต่ำเป็นองค์ความรู้
ในชนกลุ่มหลัง
ที่จะมีเวลาพอสำหรับเรื่องเหล่านี้
ในช่วงยุคหลังดีเอ็นเอ

จึง
ทำให้ประวัติศาสตร์ของทุกคนคนสบูรณ์ขึ้น
ง่ายต่อการศึกษาและวิเคราะห์วิจัยความป็นมา
อย่างพิสดารได้
ถ้ามีเหตุกรณีศึกษาเกิดขึ้นในอนาคต

 ว่าต่อไปครับ
ต่อมาตามาพบรักกับยายในที่สุด
ตารูปร่างสูงใหญ่ แข็งแรงกระดูกใหญ่ผิวสีขาว
ส่วยยายรูปร่างเตี้ยตัวเล็กสมบูรณ์ผิวดำ

แต่ที่ทราบพ่อของตามีพี่น้องอีกจำนวนมากในพื้นที่
ซึ่งกำลังถูกลืม

ผมทราบแต่เพียงว่าพ่อของตา
เคยอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี

เมื่อพ่อตาตายแล้ว แม่ของตาชื่อปกปิด
ได้มีสามีอีกหนึ่งคน
ในจำนวนนี้มีญาติอีกจำนวนมาก
ซึ่งกำลังถูกลืม

ที่บ้านอานองเตมีรูปตาตอนเป็นหนุ่ม
และรูปยายตอนเป็นสาว
ถ่ายไว้เก่ามากซีเปียร์ภาพ
ยุคแรกที่ไทยมีกล้องเข้าประเทศ


แต่รูปย่าแม่ของยายไม่มีเลย
รูปถ่ายย่าทวดจะมีเป็นภาพวาดด้วย
ด้วยสีเครยองดำขาวหนึ่งภาพเป็นอนุสรณ์
ตกทอดมาถึงปัจจุบัน

อานองเตเก็บไว้และเคารพรำลึก
คิดว่ามีคนมารับจ้างวาดสมัยก่อนนี้
ย่าจึงจ้างคนวาดเอาไว้
ภาพนี้อานองเตเก็บรักษาไว้อย่างดี

แต่ตรงกันข้ามรูปยายผมนั้น
มีการถ่ายภาพทุกระยะเก็บไว้เป็นที่ระลึกประจำตระกูล
บ้านอานองเตเก็บไว้อย่างดี
และเคารพรำลึก

ส่วนของตานั้นรูปพ่อและแม่ของตาไม่พบเลย
จะมีแต่รูปตาถ่ายไว้ทุกระยะจากหนุุ่ม
ถ่ายตอนแต่งงานกับยาย
ตอนตาย
ที่บ้านอานองเตเก็บไว้อย่างดี
กด้วยความเคารพและรำลึก


ส่วนข้างแม่ผม
ไม่พบภาพถ่ายตอนประถมวัยเลย
จะพบตอนเป็นสาวแล้วและตอนแต่งงาน
บ้านอานองเตเก็บไว้อย่างดี
และเคารพรำลึก

ข้างพ่อผมนั้น
ผมพบภาพถ่ายเก่าจากหนังสือต่างด้าวเท่านั้น
และภาพปู่และย่าผม
คือพ่อและแม่ของพ่อ
ครอบครัวปู่ย่าพี่น้องในเมืองจีน
ทั้งหมดมีที่บ้านอานองเขาส่งมาให้พ่อไว้
อานองเตเก็บไว้อย่างดีด้วยความเคารพรำลึก
ส่วนของตา
พ่อของตาแม่ของตาผมไม่พบเลย

ส่วนระยะหลังคือระยะสมัยสงครามอินโดจีนแล้ว
ใหม่เกินผมไม่นำมากล่าวถึง
เพราะจะเปลืองหน้ากระดาษบล็อก


             ยายตายเมื่อ พ.ศ.2542ผมพบบันทึกที่
เสาเอกบ้านอานองเต
แม่เกิดสมัยไทย
มีการปกครองในระบบสมบูราญาสิทธิราช

พ่อพบแม่ขณะมาทำงานรับจ้างที่สวนตา
พ่อตัวขาวขยันประหยัด และทำงายนเก่ง
ปลูกผักเก่งขายได้ ทำงานเรียบร้อยรู้จักสั้นยาวในงาน
รูปหล่อทรงเล็กผิวขาว

แม่ผมทรงเล็กผิวขายหน้ารูปไข่เป็นทาสีภริยาคือเชื่อฟังผัวตลอดเวลา
ทำครัวเก่งการบ้านการเรีอนเก่ง
เป็นที่รักของเพื่อนฝูกทุกคน

และตอนพ่อเป็นหมอดอยได้รับเกียรติให้
ผูกตราสังข์ให้คนจีนอาวุโสคนหนึ่งในพื้นที่
ตระกูลแซ่ลิ้ม
ซึ่งคนจีนรายนี้มีบุตรและหลานรวยที่สุดในพื้นที่
และมีหลานเป็นนายกองค์การบริหาร(ปกปิด)ส่วนจังหวัดในพื้นที่
คนจีนอาวุโสท่านนี้แซ่ลิ้มสนิทสนมกับตาดี
และเป็นเถ้าแก่นำพ่อผมมาสู่ขอแม่
และพ่อและแม่แต่งงานกันอย่างสมเกียรติ
สืบต่อมา

ในโอกาสต่อมา
และมีภาพถ่ายและจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายถูกต้อง

วันนี้เอาเท่านี้ก่อนครับผมง่วงนอน
รอเอกสารพยานวัตถุพยานบุคคลพยานสิงแวดล้อม
พยานอื่นใดที่นับเนื่องในเรื่องสืบค้น
ที่เชื่อถือได้และฟังขึ้น เป็นที่น่าพอใจ
เพิ่มเติมผมจะนำมาสู่บล็อกอีกต่อไปSmiley



Create Date : 07 มิถุนายน 2560
Last Update : 18 กันยายน 2560 21:45:25 น.
Counter : 728 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends