All Blog
j141 ภาค2 (มีอ้างอิง)


 j141
ผมฟังเพลง

Glass: Solo Piano Music
 (Full Album) played by Jeroen van Veen
Mompou: Complete Piano Works (Full Album) played by Federico Mompou
Narciso Yepes plays Fernando Sor 24 Etudes
Matteo Carcassi, 50 Guitar Studies from
 the Méthode complète pour Guitare, Op.59
16 Preludes for Guitar by Francisco Tárrega
Ricardo Cobo: Latin American Guitar Music
(Piazzolla, Brouwer, Pujol)

Iliana Matos - Angels in the Street (Cuban Guitar Full Album)
ohn Williams - El Diablo Suelto (Guitar Music of Venezuela 2003 Full Album)
Roberto Lara: Argentina - The Guitar of the Pampas

Agustín Barrios: Classics of the Americas, Vol. 3: Paraguay

The Best of Andrés Segovia /// Guitar Masterpieces
for Classical Music Lovers (Full Album) [HQ]





ผมคิดดีที่สุด
คือคิด่า

ดีที่สุดคือ
คือไปแสดงตัวสารภาพกับท่านทูต(กงสุลใหญ่)ท่านเสียก่อน
ก่อนกลับไทย
เราเป็นเพียงเด็กกระจอก
ผมสำคัญตนเอง

อย่าไปเอาอย่างอาม่าคนหนึ่งของพ่อที่เรียกกันว่าย่าคนที่สองเมียของก๋งคนที่สอง
น้องชาพ่อของพ่อที่เมืองจีน
เวลาเข้าจีนเขาใช้หนังสือเดินทางสีเหลือง
เวลาพ่อเข้าจีนผมไม่รู้ใช้หนังสือเดินทางอะไรอย่างไร
ผมไม่กล้าถามและขอดู
แต่ตอนพ่อไปจีนจะมาพักที่วงเวียน แถวเยาวราช โรงแรม
ผมจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร

ตัดสินใจเข้าพบท่านกงสุล
แสดงหนังสือเดินทางกับฝ่ายประชาสัมพันธ์
แน่นอนเขาไม่ปฏิเสธ
ท้ายสดผมได้พบสมใจ
และทกอย่างจบลง
เรียบร้อย

เป็นอันว่า
ผมไม่ต้องไปประเทศที่สามต่อไปแทนกลับไทย
เพื่อพำนักทางการเมืองหรือลี้ภัยการเมืองสุดแท้แต่เขาจะนิยาม
ตัดสินใจกลับบ้านเมืองไทยแล้วค่อยว่ากันต่อ
เห็นท่านฑูตบอกว่าพูดความจริง
เมื่อมีปัญหา

ผมก็ว่าอย่างนั้น
เพราะปกติคนจีนในไทยกลับมาเยี่ยมบ้านทุกปีประจำ
แต่มีสองกรณีเป็นมุมอง
คือกฏหมายว่าลักลอบแต่ลีกลอบแบบผ่อนผันก็มี
ผลคือผมเชื่อว่าตำรวจสันติบาลที่ดูแลเรื่องนี้
คงทำงานหนักหน่อย
คุ้มดุลย์กับภาษีที่คนจีนในไทยจ่ายเข้าคลังว่าอย่างนั้น
ผมว่าเองนะ



ตอนนี้แนวโน้มที่เอกสารลับของโลกอนุมัติให้เปิดเผยต่อสาธารณชนเพื่อการศึกษาวิจัยได้
นำโดยประธานาธิดีสหรัฐทรัมป์ อนุญาตให้สหรัฐเปิดแฟ้มคดีลอบสังหารประธานาธิบดีเคเนดี้และท่านตายลง
ที่ก่อนหน้านี้ให้ถือว่าเป็นเอกสารลับเป๊นไม่เป็นเอกสารลับต่อไป





ผมเห็นท่านทูตเป็นมิตรกับผม
ผมจึง
ไม่ตัดสินใจกลับใจไปที่อื่นต่อ แต่กลับไทย


เพราะค่ำคืนหนึ่ง
เขาเลี้ยงต้อนรับผมญาติที่จีน
ด้วยเหล้าหอมหวานอร่อย
ผมไม่เมา
แต่เหล้านี่น่าจะเมา
เป็นเหล้าลูกผลไม้จีนชนิดหนึ่ง

เรากินกันสนุก
เหล้านั้นรสสีแดง
จีนเขาไม่ได้ใช้วิธีสอบสนผมอะไร
นี่เป็นปกติพี่น้อง


ผมจำได้ว่า
ผมขอเดินทางเข้าปักกิ่งด้วย
เพราะยังงัยผมเข้ามาแล้ว
จะได้เอาประโยชน์จากการได้มาเมืทองจีนครั้งนี้ด้วยอันเป็นคุณต่อ
สากล การเมืองไม่เกี่ยว

คือขอเข้าพบประธานธิบดีเมาเซตุง
และท่านปรีดี พนมยงค์ด้วย
เพราะคนไทยอย่างผมสนใจ
ยาวเกินไปที่ผมดำริอย่างนั้น
แต่ว่าหนังสือเดินทางผมบอกแล้วว่าผม
เป็นนักหนังสือพิมพ์ก่อนออกจากไทย
ก็ต้องแสดงสปิริตหน่อย
ไม่ได้แหกตาาผมเป็นอะไรแล้วไม่เป็น
แม้ไม่เฉิดฉายแต่ก็เป็นอาชีพสมัยหนึ่งจริง
และเป็นหนังสือเดินทางฉบับแรกในชีวิตผมทำสมัย
ที่ กต ยังตั้งอยู่ที่สวนสราญย์รมย์ข้างวัดพระแก้ว

ผงคือไม่อนุญาต
คือที่ไม่อนุญาตผมได้เดินทางไปกับน้องชายพ่อ
ถึงเมืองที่เป็นหน่วยเหนือกว่าที่บ้านพ่อตั้งอยู่
ผมไม่เป็นภาษาจีนสักตัว
ภาษาอังกฤษดิกนิดๆ
อาผมตกลงให้


ผลกี่วนสอบสวนผมไม่ทราบลืมหมดแล้ว

แต่ผมได้ข้อสรุปย่อๆคือ
ผมจะเดินทางเข้าปักกิ่งไม่เหมาะเพาะไม่มีเงินสดติดตัวมาจีนเลย
และจะใช้เงินที่บ้านน้องชายพ่อนั้น
แน่นอนยิ่งไม่เหมาะใหญ่

จึงสรุปไม่ได้้เดินทางเข้าปักกิ่ง
เมืองหลวงจีน
จะขอทุนจีนเข้าไปปักกิ่งหรือวิธีอื่นใดผมก็ไม่อยากแล้ว
เพราะภาษาพูดจีนไม่เป็นเลยสักตัวเดียว
มีแต่แซาแต้เขียนชื่อนามสกุลตนเองได้เท่านั้นที่คล่อง
แะที่สำคัญคือ
จุดประสงค์หลักเข้าจีนครั้งนี้ของผมขอเยี่ยมปู่เท่านั้น
กำหนดระยะเวลาหนึ่งเดือน

ผมภูมิใจที่จีนใช้
รถไถ ฝรั่งเป็นด้วย
รถยี่ห้ออะไรผมจำไม่ได้ถนัด
เอ็ม  เอส เอ็มของเยอรมันหรืออเมริกันอะไรเนี่ยะ
พอดีผมเหลือบไปเห็นช่วงเดินทางผ่านท้องทุ่งนาฟ้ากว้าง

เดี๋ยวนี้จีนเปิดเสรีทั่วโลกแล้วมิใช่ม่านเหล็ก
แต่เป็นม่านแห่งเสรีทั้งคนเข้าคนออกทั่วโลก
ไม่ใช่เปิดเป็นม่านรูดนะเขามีวัฒนธรรมแบบตะวันออก
เรื่องเสรีภาพทางเพศ
ผมเข้าไปไม่พบอะไร

แต่โฆษณาขายน้ำอัดลมนิผมรู้สึกว่าจะไม่เจอเลย

นอกนั้นก็เหมือนๆกันกับเรา
เว้นแต่กฏหมายรัฐธรรมนูญและการปกครองที่แตกต่างจาก
ประเทศในกลุ่มที่ทางรัฐศาสตร์จะนิยามเป็นอื่นๆต่างออกไปเท่านั้น

แต่เมื่อปผมเข้าไปในจีน
ผมได้กินข้าวต้มพร้อมกับ
เหมือนนั่งกินและสั่งกินทีเยาวราชในไทยเลยทีเดียว

ผมจำได้แค่นี้
ถ้าคิดอะไรได้จะมาเล่าให้ฟังอีก
และขออภัยล่วงหน้าที่ผมเข้าใจอะไรผิดไปบ้าง
ทั้งในจีนแบะไทย

เพราะความสนธยาของผมอีกด้วย

นวนิยายเรื่องบ้านอานองเตของผม
มรสารคดีจริงแทรกบ้าง
เพราะเหมือนฉากเพื่อจได้แสดงบทชีวิตที่ผมจะร่าย
ได้มีชีวิตชีวามากขึ้น
เหกมือนกองถ่ายทำภาพยนต์เอาบทมาทำเป็นหนังก็ต้องเอาสถานที่จริง
มาแสดงด้วยคนด๔จึงจะชอบ
เพราะเรื่องนวนิยายบ้านอานองเตนี้สร้างขึ้นมา
ในหัวข้อวรรณกรรมเชิงประยุกต์
ที่มิใช่
ลิเกหรืองิ้วหรือหนังตลุงไทย
หรือแบบละครมหาอุปราการตะวันตก




ต่าอไป


เพราะมีญาติที่เมืองจีนบอกว่า
การหนีพ่อมาเมืองจียนี้อันตรายมาก
อนนี้ผมพึงรู้
เพราะตั้งแต่เกิดมามไม่เจออำนาจทางการเมืองมาเฉือนหัวผม
นอกจากชีวิตเด็กอาภัพ
ขาดพ่อแม่ให้ความอบอุ่นตอนเด็ก
และหมดสิทธิรับยางสอร้อยไร่เป็นมรดก
หลังพ่อแม่ตาย


เพราะพ่อและแม่แยกทางกันไป
ก่อนที่สวนยางที่พ่อจับจองได้จะเป็นรูปธรรม


ต่อไป

คือท่านหมายความว่า
ผมมีสิทธิถูกจับได้ทั้งฝ่ายจีนและฝ่ายไทย
เพราะผมมีสัญช่าติไทยแล้วต้องฟังกฎหมายไทย
ไม่เหมือนพ่อที่ถ้าผิดในไทยอาจถกส่งกลับจีนหรือเนรเทศไปประเทศอื่นได้
แต่ผมถ้าผิดนี้ต้องอยู่ในไทยสสถานเดียวว่าอย่างนั้น
หลักสัญชาติแะที่เกิดว่าอย่างนั้น
ผมเข้าใจกฏหมายสากลมาอย่างนี้

ตอนนี้ที่บ้านอานองเต
ลับๆเผ่ากิยองตินเผ่าในมโนคติของผม

เขาอยากให้ผมมีเรื่องได้ออกจากบ้านอานองเตไป
แล้วเขาจะได้เาครอบครองบ้านอานองเต
โดยธรรมชาติของผม
เช่นเลี้ยงวัสได้ตามใจชอบ

แต่เขาหารู่ไม่ว่า
ถ้ามีเหตุปรหลาดเกิดขึ้นจริง
ผมต้องพกพาบ้านอานองเตติดตัวผม
ไปนอนกอดด้วยและให้ผีพ่อผีแม่และผมไปนอนด้วย
กล่าวคือถ้าเอาร่างหรือกระดูกไปไม่ได้
ผมก็เอาผีพ่อผีแม่อันเชิญใส่ขวดสวยๆสีมรกตหรือสีม่วงหรือน้ำตาล

และพกพาติดตัวไป
มันเป็นเรื่องสิทธิของผมว่าอย่างนั้น
ก็มันเป็นนิยาย
ผมก็เอาอย่างปรัมปรานิยาย
ตะวันตกซึ่งมันก็มีแก่นสารอยู่เหมือนกัน
ผมว่านะ
เมื่อถ้าในโลกนี้มีเผ่ากิยองตินอยู่
ผมก็คิดว่าเสรีภาพของเราถ้าจงงัดมาใช้
เพื่อให้กลมกลืนกันแบบหยินหยางอย่างงัย
ก็จบผมว่านะ









ว่าอย่างนั้นนะตามพินับยกรรมของผม
บ้งเอิญไม่โดน
ไม่ทราบว่าบุญอะไรช่วย
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี







เหตุผลผลที่ผมขอแทรก
นิดนึงตรงนี้
การหนีเข้าเมืองจีนนี้ไม่ได้สำหรับทุกคน
ผมว่าควรทำมันถูกๆดีกว่า
ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าทำเสียเลย
อันตราย
และน่ากลัว


อย่าหนีไม่ดี
เป็นสิ่งไม่ถูกอาจจะเสียประวัติ
ผมก็ทำไปเพราะกรณีของผมมันเป็นเรื่องหนึ่ง
ของครอบครัวแตกแยกชนิดพิเศษ
และมีปมมีปัญหาชีวิต

ผมมิได้บ้าที่คดอย่างนี้

ผมมิได้
เป็นจารชนหรือมีการเมืองแอบแฝงอะไร
ทั้งสิ้นทั้งฝ่ายแดงฝ่ายขาว

และผมไม่ได้คิดว่า
มีแผน หรือเทคโนเครตอื่นใด
ที่จะเอาสิทธิหนีเข้านจีนในยุคนั้นล้ว
ได้ไปขอลี้ภัยการเมือง
ทางตะวันตก


เพื่อจะได้ทำงานเงินแพงๆ
แล้วส่งมาให้แม่ใช้
และมาตั้งตัวอะไรจิปาถะ
ผมไม่เคบคิดไกลถึงขนาดนั้น




แม่ผมไม่ต้องการเงินผม

แม่ผมทำเงินเลี้ยงตัวเองเป็น
ขอให้ผมเอาตัวเองให้รอดอย่าดียว
แม่ผมบอกอย่างนั้น

เพราะหมอดูท่านบอกแม่ผมว่า
ชะตากรรมของลูกและแม่เป็นอย่างนั้น





แต่อย่างไร
คือเหตุผลตื้นๆ
มีคือเรื่อง


ชีวิตพ่อแม่ผมที่เป็นปัญหา
ว่าอย่างงั้นเถอะ
จึงทำไป


บังเอิญทุกอย่างลงตัวและผ่านโลด
มันก็ดีไป
แต่น่ากลัว

และน่าหวาดเสียว
และเสี่ยงชีวิต



ผมจำได้ว่า

ผมต้องนอนที่ท่าเรือ
หนึ่งคืน


เพราะหมดเงินค่าโรแรม
ญามีถมถืดแต่ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างงัยและอยู่ตรงไหน
คนแซ่แต้มีมากมายจริง

แต่ถ้าเข้าไปว่ากันดุ่ยๆ
ตำรวจคงพาไปนอนคุกแน่
มันต้องพ่อแนะมา
ว่าอย่างนั้น

มิใช้แซ่แต้จริงเราเจอกันปุ๊บเข้าไปทักทายจ้ะเอ๊
ทันทียังงี้คงเจอหมัดกลับมาแน่
ผมว่าไปเองนะ
พอเห็นป้ายหน้าร้านว่าแต้
แล้วเราวิ่งปรู้ดเขาไปขอเงิน
นี่ผมเชื่อว่า
เขาเรียกตำรวจพาผมไปนอนคุกแน่


หรือแค่ได้น้ำเย็นร้อนหนึ่งจอก
ฐานคนพิการและเป็นมนุษย์ต่อกัน
ตอบแทนกันหรือคนแซ่เดียวกันตกยากอย่างนี้



อันนี้คนแซ่เดียวกัน
จะดีได้ต้องพบกันบนเวที
แล้วก็คุยกันสนุกมากเหมือนกัน

ผมว่า

ผมนึกขำคนจีนเขาพบกันบนรถไฟ
ถามไถ่บังเอิญมาจากเมืองเดียวกัน
คุยกันดีใจมากเสียงดัง
จนตำรวจที่สถานีต้องเชิญไปเสียค่าปรับฐานใช้เสียงดังเกินกว่าเหตุ
ในท่สาธารณะ
และเป็นคนต่าวด้าว ผมเคยเห็น
คิดว่าอย่างนั้น







ในการเดินทางครั้งนี้

ในฝั่งโลกเสรีตอนนั้น

จากฮ่องกงเรือสินค้าเพราะจะได้รู้ชีวิตขึ้น
นั้นคือฐานความคิดของผม


และบังเอิญเรือที่
ผมมาผ่านเวียดนามที่เขากำลังทำสงครามกัน
เสียงเรือบิน  บี  ห้าสิบสองบินเหนือเรือที่ผมมา
คิดว่าเรือผมจมเสียแล้ว
หรือเรือบินจรวดตรวจการรึรัย
ผมไม่มั่นใจ

ผมเหนื่อยถามคนเรือที่มาด้วยกัน
เพราะตอนนี้ สปิริตก็ดี
อุดมการณ์ก็ดี

ของผมหนีหมดแล้ว
 คือผมชักเมาคลื่น และชักเหนื่อยที่เดินทางมา



น่านน้ำทะเลอะไรผมไม่รู้
ที่รู้คือเดินทางกลับไทย
จอดเทียบที่เรือกรุงเทพฯ คลองเตยเลย
ว่าอย่างนั้น
ไม่มันใจว่า จอดหน้ากลบางวแม่น้ำเจ้าพระยา
แล้วลงเรือสำรองมาเทียบท่าเรือ
และเดินขึ้นรถเมล์ไปเเลยหรือจับแท็กซี่ต่อได้เลย
ผมจำไม่ได้



จนเรือทีผมกลับไทย
ถึงท่าเรือคลองเตย






บ้านที่เมืองจีนแนะนำมา

ต่อไป

แบบไม่เห็นด้วยนั้นคือ
การทำผิดแบบทางใจ
มิใช่ทำแบบมีเจตนาจริง
เช่น
ในนวนิยายเรื่องบ้านอานองเตนี้
คือเป็นหนังและละครในตัวมันเอง
และในที่สุดไม่ต้องไปจบที่ศาล
นั่นคือเนื่องนวนิยาย
เรื่องบ้านอานองเตละ





อนึ่ง

เพราะนับจากเริ่มต้นจากบทแรก
มาตอนนี้
ปาเข้าไปหนึ่งร้อยยี่สิบกว่าบทแล้ว
ถือว่ายาวพอสมควร

หากมีคำใดในภาษาไทยยังเพี้ยนไป
อยู่อีกขอให้ใช้ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน
เพื่อจะได้เข้าใจตรงกัน
ขออภัยหากขัดข้องผิดพลาดไปบ้าง






มาที่รูปที่ผมทำหล่น
แต่รปผมลงไปแล้ว
อาจจะมีมาแทรกอีกหากผมพบอีกเจออีก
ที่ลิ้นชักเอกสารหรือที่อื่นใดที่ผมวางไว้
ที่และมอดและน้ำไม่ทำลายมันไปเสียก่อน


กล่าวคือรายงาน
ทางเข้าสวนบ้านอานองเต
ที่เห็นนี้ไม่ใช่ทางในทรัพย์สินของผม

แต่ว่าทางนี้ผมถ่าย
เอาไว้ตอนผมทำมันใหม่ๆ

สิ่งน่าสนใจคือ
ทางด้านขวามือเป็นที่ที่ผมมอบให้
สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยจริง
อทิศให้ท่านนักเขียนใหญ่ท่านหนึ่ง
ปกปิดรอจนกว่าพิธีมอบเสร็จสมบูรณ์



ผมขออนุญาตปกปิด
เพราะเดี่ยวจะเป็นการแอบอ้างเอาที่สูงมาเสริมบารมีผมเอง
แม้จะเป็นจริงหรือเท็จเพื่อความสบายใจของผมและผี





ที่เพียงแมวดื้นตาย
แต่ผมมอบให้เขา
เป็นทางนำร่อง


โดยไม่หวังอะไร
และถ้ามีอะไรเก็บกินได้ผล
ผมก็จะเก็บกินไปก่อน
ทำเป็นหนังสือ
นายกเขาเคยมาหาผมแต่ไม่พบ





เขาเดินทางมารับมอบจากผมท่านนายก
เพื่อนของผมที่บ้านอานองเตหรือเผ่ากิยองตินบอก
แต่ไม่พบผม
แม่ผมบอกว่าอยากทำบุญอะไร

ให้ใครยกให้
หรือสิเน่หาใคร
ใคร


เมื่อแม่พ่อแม่ตายลง


ผมทำได้ตามใจชอบ

วันนั้น
ผมไมอยู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม


แม้ผมขายที่ดินบ้านอานองเตไปบางส่วน
แต่ที่ผมมอบให้สมาคมนักเขียน
ผมกันไว้ให้


และมีโฉนดทำไว้ให้เรียบร้อย

แม้มีปัญหาขัดข้องทางเทคนิค
แต่ผมมอบให้ไปแล้ว


ทางมีความยาวหนึ่งเมตร
จากถนนหลวงสายชนบทสู่สายท้องถิ่นที่ผมตัดให้
ตามคำสั่งแม่



มีความกว้างห้าเมตร
แม่เห็นชอบ
แต่แม่ท่านได้ตายไปแล้ว



ผมได้จ้างคนมาทำทางนี้ให้
หมดไปเกือบห้าหมื่น
ค่าเกลี่ยหนึ่ง
ค่าเกลี่ยสอง
ค่ากรุบทาง
ค่าขนดินลูกกรังแดงเหลือง เหนียว
ค่าเหยียบ
ค่าจัดการ
ค่านายหน้า
ค่าหน้าม้า

ทางรวมแล้วหนึ่งพันเมตร
รายละเอียดมีดังนี้

เรื่องการรังวัดที่ดิน
การแบ่งโนด
และการพัฒาปรับปรุงทาง



ที่ดินเมื่อแบ่งเป็นโฉนดแล้ว
มีหลายแปลง
จนผมจำไม่ได้ว่ากี่แปลง
ภายในระยะสิบห้าปี
หลังแม่ตายลง


ทำไมผมแบ่งไปมาก
อันที่จริงจากเหตุผลคือเรื่องการเงิน

ผมต้องมีปัญหาแน่นอน
คือก่อนผมตาย
ก่อนผมตาย

เพราะพ่อแม่ไม่ได้ทอดทิ้งเงินสดไว้อย่างามให้ผม
หลังจากที่ท่านทั้งสองตายลง

เพื่อผมได้ทำอะไรได้สะดวก
กว่าที่คิด



และมีคามคล่องตัว

แต่ที่มีเหบือไว้ให้
คือพอผมยังชีพอย่างเดียว



เพื่อมิให้ผม ได้ไม่มีปัญหา
และไม่ขายขี้หน้าเพื่อนบ้านอานองเตเท่านั้น

เพราะพ่อแม่เป็นคนมีหน้า
เมื่อมีชีวิตอยู่


และสั่งว่างดออกสังคม ทั้งบ้านวัดโรงวเรียน

ถ้าผมยังตั้งตัวไม่ติด
รวมทั้งทำบุญอุทิศให้พ่อแม่ให้ทำเองภายในบ้านไม่ต้องทำที่วัดหรือเรื่องมากมาย
ให้ทำแบบส่วนตัวแบบุคลาธิษฐานพอ


ถ้าไม่ครบเครื่องหรือผมยังตั้งตัวไม่ติด

คนอื่นเขาจะดูถูก

และจมีปัญหาความสงบและเรียบร้อยตามมาอีกด้วย
เพราะที่บ้านอานองเต
มีปมและมีพิพาทเชิงลึกเรื่องหนี้ลึกลับหลายเรื่อง
ส่วนพ่อแม่และญาติเชิงลบทั้งหลาย


จึงควรให้ผมตั้งตัวติดอย่างดีเสียก่อน
ส่วนฐานอันดีนั้นพ่อแม่ทำไว้เป็นเสาหลักแล้ว



สิ่งาคัญแม่บอกว่า
ผมนั้น
จะทำอะไรและต้องเท่ห์
เพื่อให้้กียรติน้องๆทั้งหลายทั้งในกรุงและนอกกรุง


แม่ว่าอย่างนั้น



ส่วนผมนั้นไม่ทราบว่าจะมีหรือเปล่า
ผมไม่สาารถจอบเองได้

แล้วอย่สงไรต่อไป
ถ้ารอนเงินแน่นอนขายสวน



เมื่อขายขายทีเดียวหมด
แน่นอนจะมาที่คำตอบนี้
แต่ผมว่าค่อยๆขาย

แต่ถ้ามันเป็น
แปลงเดียว
เขานายทุน
จะยึดไปทีเดียวหมดเลย

เพราะเวลาร้อนเงิน
มันไม่เข้าใครออกใคร
เช่นอุบัติเหตุ
เรื่องตำรวเรื่องศาล
เป็นไข้ฉุกเฉิน

แน่นอนต้องพบ

นายเงิน
ในวันสนธยานี้ธนาคารไม่ให้กู้แล้วจบกัน




แต่ถ้ามีหลายๆแปลง
เราสามารถเอาแปลง
ที่เราดูไม่ค่อยไหวขายไปก่อน
แม้มีเงื่อนไขพิเศษบ้าง
พอถูไถๆๆไปกันบ้างพอไหว


ด้วยวิธีเรื่องไม่มาก
แต่โฉนดโอนเรียบร้อบยให้เขาไป
และเราเอาเงินมา



นี่คือสาเหตุที่ผมทำที่ดินหลายแปลง
มิใช่หัวผมหวังจัดจรรที่ดินเอง


เพราะขั้นตอนนี้ยากมาก
กว่าจะทำได้
แต่ละเรื่อง
ต้องนับเป็นเดือนในการรอคิว
ผมว่านะ

อะไรต่อมิอะไร
 จนรังวัดแล้วเสร็จ

แม้ยุคไอทีก็ตาม

ปัญหาที่เราต้องพบกันที่หรือ
จาก
กรมที่ดินที่เขาจะมาทำ
อะไรให้

นัดคนมาพยาน
มาชี้เขต
บอกเขตอไรต่อมิอะไรในระบบ
กว่าจะออกมาเป็นโฉนดตราแดงนี้มิใช่ของง่าย
ยิ่งบ้านที่แบบบ้านอานองเตนี้
เรื่องปม และยาวๆสักนิด
อาจจะมีปินเข้ามาเกี่ยว
เกิดสงครามจิตวิทยาทุกครั้ง
ต้องมีตำรวจมาด้วยอะไรอย่างนี้

เพราะที่บ้านอานองเตมีปม
มีการเมือง
มีนิติกรรมอำพราง
คนหนึ่งยอมอีกคนหนึ่งไม่ยอม
เช่นเรื่องของผมแม่ยอมพ่อไม่ยอม
ที่แม่ยอมเพราะแม่โดนบีบโดนขู่โดนหลอก
พ่อว่าอย่างนั้น



อะไรที่จะชัวร์ต้องศาลตีความตัดสิน
จึงยุติได้
ที่บ้านอานองเต
ว่าอย่างนั้น

บ้าสรึป่าว
คำตอบคือไม่บ้า
ดีร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับผม
ผมมั่นใจและเดี๋ยวนี้รู้กันทั่วกันแล้วว่า
บ้านอานองเตถูกเผ่ากิยองตินอันเป็นเผ่าในมโนคติของ
นวนิยายนี้

คุกคามตลอดเวลามากว่าห้าร้อยปีย้อนหัง


ที่ผมและคณะแนวสืบสวนสอบสวนอิสระและไม่อิสระร่วมกันติดตามสอดแนมดู
พิรุธ

และตรวจพบ
ไม่โปร่งใส


แม้มีการบันทึกแล้ว
แต่ก็ยังใช้ไม่ได้
เพราะยังมีคนกลุ่มหนึ่งมาติมาหักล้าง

เพราะมีอคติเกิดขึ้น
ในเอกสารเหตุที่เกิด
ว่าอย่างนั้น
ของปัญหาแม่บทที่บ้านอานองเตอันอมตะแห่งนี้
ดังเรื่องราวของแม่และพ่อของพระเอกในเรื่องมีปัญหาอยู่
ที่พระเอกกำลังเป็นทนายให้ตนเองแก้ไขอยู่
ด้วยระบบสันติวิธีและกฏแห่งการกระทำ



สรุปอันนี้ยังเป็นนวนิยายเชิงสารคดีอยู่จริง














Create Date : 04 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 13 มกราคม 2561 4:03:56 น.
Counter : 520 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends