Group Blog All Blog
|
j55 jjy5013 ผมกำลังฟังเพลงJohann Sebastian Bach (1685-1750) Violin Concertos ผมฟังไปอย่างนั้นเอง เพราะมันนิ่มดี ฟังแล้วชื่นอารมณ์ เผ่ากิยองตินได้ส่งวัวมาล่ามใกล้บ้ากิยองติน อีกแล้วทางด้านทิศตะวันตกของสวน ของบ้านอานองเต มิได้เข้ามาในสวนของบ้านอานองเต ในสวนอานองเต วัวไม่สามารถเข้ามาได้ เพราะมันกลัวยาฉีดที่ฉีดทำลายหญ้าอย่าให้งามเกิน เพราหญ้าที่ที่ผมปลูกไว้เผื่อขายเลี้ยงปศุสัตว์นั้น ยังไม่มีคนมาซื้อ ผมจึงทำเป็นไม้ประดับ และชะลอการเติบโตของหญ้าวัชพืชที่ไม่พึงประสงค์ ที่นโยบายของบ้านอานองเต เห็นด้วยว่าควรปราบวัชพืชกิยองติน เพราะเมื่อวัชพืชชนิดนี้มันได้เวลาขยายพันธฺ์มันจะแข่งกันออกดอก และเมื่อลมพัดมามันจะนำเอาดอกแห้งแล้วไปตกที่สวนเพื่อบ้านอานอง เป็นผลให้มันกระจายพีนธ์ไปทั่วรบกวนเพื่อนบ้าน อันนี้เป็นสิ่งไม่ดีงาม เมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามที่ท่านว่าไว้ แม้ผมเองชอบมากยิ่งรกยิ่งดีได้นิเวศน์ แม่สั่งไว้ว่าตามใจชอบ หลังที่แม่ตายแล้ว และเมื่อทำไม่ไหว เพราะจะได้นิเวศน์พระมาธุดงค์อาศัยได้และ ผีแม่่จะได้มาพักใจทำสมาธิในปาหญ้าซึ่งเป็นสวนของตนเอง แม่เสียใจเหมือนกัน วัดที่ตาสร้างไว้วัดหนึ่งปกปิด กินเนื้อที่ภูเขาด้วยไม่ตำกว่า1,000ไร่ ตาของอนุญาติสร้างไว้สมัยก่อนป่าสงวนจะมีกฏหมายกำหนด ที่วัดดังกล่าวตาที่เป็นพี่ชายคนโตของยายแม่ของแผม ในวาระหนึ่งที่กลับมาจขากกรุงเพฯได้มาอยู่ที่วัดนี้ด้วย และสร้างกุฎีชี่พักหลังเดียวงามไว้ข้างเขา เงียบสงบมีเจ้าขุนมูลยนายทางกรุงเทพมาพัก สมัยกฐินและงานอื่นๆ สปายะนั้นดีเลศ แต่อนิจจาเมื่อหมดยุคจตาปกครอง จึงกลายมาเป็นสวนมะพร้าวพืชเศรษฐกิจของนโยบบายผู้ปกครองวัดคนใหม่ และปัญหาอื่นผมไม่ทราบชัด เป็นเพียงแต่ว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง สรุปกุฎีชีและสำนักชีที่แม่เคยทำปิดตัวไป รื้อหมดจากที่เดิม แม่บอกว่าเสียดายความหลังที่จุดนี้ ผมพบเมื่อไปเยี่ยมสถานที่แห่งนี้ครั้งล่าสุด ต้นมะดันที่แม่เคยปลูกไว้ ก็ถูกทำลายไปสิ้น แม่จึงปลงใจ เพราะมิใช่เนื้อที่ของเราตามโฉนดทำอะไรไม่ได้ ไม่หมือนของตนเองที่จะทำอะไรก็ได้ เมื่อเราเป็นเจ้าของตามโฉนด แม่บอกว่าอย่างนั้น ผมยอมรับในเรื่องนี้ หามิได้ว่าจะมีแต่เผ่ากิยองตินที่คอยรังแกเหยื่อเป้าหมายอย่างที่บ้านอานองเต ประสบก็หาไม่ แต่ยังมีเผ่าที่นิสัยดีตรงกันข้ามกับเผ่ากิยองตินอีก คิอเผ่าดิบองจิ ที่เคยได้กล่าวมาบ้างแล้ว และนอกจากนั้นยังมีเผ่าย่อยอื่นๆอีก ที่ชอบกินสินบนแล้วทรยศหัวหน้า และหนีไปตั้งเผ่าใหม่จากเผ่าแม่บทเดิม ซึ่งคิดได้ว่ามันทำอย่างไรบ้าง จะนำมาบอกกล่าว อย่างไรก็ตามเผ่าต่างๆนี้ไม่มีตัวตนเป็นเผ่าในมโนคติ แต่อาจจะมีส่วนแอบแฝงอยู่ในสังคมได้คือมีลักษณะที่คล้ายๆกันได้ สุดแท้จะคิดเทียบเอา เมื่อพบสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน และแน่นอน แต่ละเผ่าต่างมีคุณสมบัติเฉพาะตัว เหมือนทางปรัชญาที่เทียบว่า มีดมีความคมเป็นคุณสมบัติ ถ้าไมี่คมแสดงว่ามีดนั้นทื่อ จึงไม่มีคุณสมบัติว่ามีด คือว่าไม่มีคนใช้มีดที่ทื่อ คือไม่มีใครใช้ มนุษย์จึงทิ้งไปกลายเป็นสิ่งหรือสลายตัวเป็นธาตุหนักเบา ตามกาลเวลา สรุปมีดมีความคมมันจึงมีคุณสมบัติ ที่จะถูกเรียกใช้และความคมเป็นอมตะของมีด และมีเป็นในศักดิ์ศรีของมีด ในที่สุดนั้นเอง มีเผ่าหนึ่งไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ที่ผมประสบมา คือเป็นหมู่บ้านล็กๆ กระจายกันอยู่ ในแวดวงจำกัด มีถนนหนทางเข้าจำเพาะเหมาะเจาะ แต่สานต่อเชื่อมโยงไปทางดำได้ แต่ในหมู่บ้านนี้เป็นทางเกวียน ปิดสังคมจากโลกภายนอก ภายในหมู่บ้านจะมีศาลเพียงตาศักดิ์สิทธ์ มีคนกราบไหว้นับถือ หัวหน้าเผ่าจะสร้างรังให้ต่อหลวงหรือต่อใหญ่ มาอาศัยอยู่และมันทำรัง มันจะคอยทำร้ายคนอื่นที่มาจากที่อื่นที่มีกลิ่นตัวมิใช่ คนในหมู่บ้านนี้ มันจต่อยและฝังเหล็กนัยต่อคนที่โชคร้ายนั้น ถ้าคนโชคร้านนั้นไม่ว่าจะเป็นคึนรดีคนชั่วหรือโจรหรือคนแปลกหน้า โดยต่อหลวงนี้ต่อยเอา ไม่มีแผลเพราะเหล็กไนมันเหมือนอาวุธ ฝังเข้าไปในผิวหนัง เหมือนรอยสัก ถ้าไม่ถอนเหล็กไนนี้ออกเพราะไม่รู้ทัน พิษนั้นจะทรมาน ผู้เคาระห์ร้านให้เป็นไข้พิษนานาประการ และตายในที่สุด โดยคนที่ถูกต่อชนิดต่อเอา ไม่รู้ว่า เป็นพิษต่อหลวงชนิดนี้ อีกชนิดหนึ่งเป็นต่อหลุม ถ้าช้างเดินไปเหยียบตกลงในหลุมมันมันจะต่อยและกินช้างเชือกนั้นจนหมดไป แต่ใช้เวลาในป่าลึก ต่อหลุมกลังกองไฟ มันทำรังอยู่เป็นชั้นๆเหมือนอาคารตึกหลายชั้น แต่อยู่ใต้ดินลึกลงไปประมาณ1เมตร แต่ผมไม่ประสบเผ่าใช้วิธีเลี้ยงต่อหลุมไว้ดักช้าง แต่ศาลต่อตาเสือหรือต่อหลวงนี้มีเผ่าหนึ่ง ทำไว้เพื่อคอยทำร้ายคนแปลกหน้าที่เข้ามาในหมู่บ้านเผ่านี้่ และเผ่านี้ไม่มีความสัมพันธ์กับเผ่ากิยองติน เผ่ากิยองตินนั้นหน้าไหว้หลังหลอก ไม่มีการใช้ชีวิตอย่างเผ่าที่มีวิชาอาคม แต่มีจรรยาบรรณเลวๆตัวหนึ่งคอยแกล้งเหยื่อเป้าหมาย ดังที่พบมาแทรกในแต่ละบทตอน เพื่อการทำลายและหาผลประโยชน์มากน้อยที่จะพึงมี เมื่อเขาประสบผลสำเร็จ ก็นำสิ่งที่ได้มานั้นจากเหยื่อเพื่อยังชีพไปเพียงมื้อๆเดียว ไม่มีองค์กรที่แน่นอน ค่อยต่อครับพอดีเน็ตหลุด หนูมันคงกัดสาย ผมจะดู แล้วมีเวลาจะส่งมาอีก ไม่รับความช่วยเหลืออะไรที่รบกวนเปล่า ทำเท่าที่ทำได้อ่านเท่าที่เจอ พบกันเมื่อบังเอิญ มันอาจจะได้เอนโดฟินชนิดหนึ่งเมื่ิมีคติอย่างนี้ เพราะชีวิตมีน้อยนิด ไม่รู้ว่าจะรีบอะไร ขออภัยมคิดอย่างนี้ และแล้วถ้าเป็นอย่างงี้มันลงตัวดีครับ โชคดีจงมีแก่สายตาที่เราได้มองเห็นกันและสื่อทันกัน ในโลกใบนี้ที่เรามีแต่ความสูงและความกว้างที่ใครๆก็คำนวณได้ จริงมั้ยฮะ รอแป๊บนึงเดี๋ยวคงได้เจอกันอีก |
สมาชิกหมายเลข 3538694
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] จึงจือหยาง (jjy) จบไฮสกูล ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)... เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
Friends Blog |