bloggang.com mainmenu search
หยิบเล่มนี้มาประเดิมเป็นเล่มแรกสำหรับ HHR ตามรายละเอียดที่ กระทู้นี้ ค่ะ ^^


15-9. [ปิยะรักษ์] หลังคาแดง: อ่านหนังสือที่มีตัวเอกหรือตัวละครสำคัญป่วยเป็นโรคจิตเวช หรือมีอาการทางจิต หรือสติไม่สมประกอบ




เรื่อง : Shutter Island
เขียนโดย : Dennis Lehane
สนพ. : Bantam Books
จำนวนหน้า : 414 หน้า
ภาษา : อังกฤษ






รายละเอียดจากปกหลัง

เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐ (US Marshal) เท็ดดี้ แดเนียลส์ (Teddy Daniels) มาที่เกาะชัตเตอร์ (Shutter Island) ที่ตั้งของโรงพยาบาล Ashecliffe ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสำหรับอาชญากรที่ป่วยทางจิต เพื่อตามหา ราเชล โซลานโด (Rachel Solando) ฆาตกรที่หลบหนีไป

ขณะเดียวกับที่พายุเฮอริเคนถล่มเกาะ ยิ่งสืบสวนลึกเข้าไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งเต็มไปด้วยคำถาม ...ผู้หญิงเท้าเปล่าคนหนึ่งจะหนีออกไปจากห้องที่ล็อคกุญแจได้อย่างไร ...ใครเป็นคนทิ้งโค้ตลับเป็นคำใบ้เอาไว้ และเกิดอะไรขึ้นใน ward C กันแน่

ยิ่งเท็ดดี้ยิ่งใกล้ความจริงมากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ เรื่องราวก็ยิ่งยากที่จะเข้าใจมากขึ้นทุกที และ...มันทำให้เขาเริ่มเชื่อว่า เขาอาจจะไม่สามารถออกจากเกาะแห่งนี้ได้

เพราะ...ใครบางคนกำลังพยายามที่จะทำให้เขาเป็นบ้า...


....


ไอซ์เคยอ่านงานของ Dennis Lehane มาสองเล่มค่ะ คือ A Drink Before the War และ Mystic River นั่นก็หลายปีมามากๆ แล้ว ตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่อังกฤษโน่น และก็บอกกับตัวเองว่า...เข็ดกับหนังสือของนักเขียนคนนี้แล้วล่ะ ไม่ใช่เพราะไม่สนุกนะคะ แต่เพราะ...เครียดโครตตตตต

ไม่คิดจะหยิบเรื่อง Shutter Island มาอ่านเลย ถ้าไม่ได้อ่านรีวิวในบล็อกของ พี่ยาคูลท์ และ แอ๊ปเปิ้ลอบเชย ซึ่งอ่านรีวิวแบบคร่าวๆ ((ข้ามสปอยล์เรียบ)) แล้ว อยากอ่านมากๆ เลยไปซื้อมาค่ะ


เรื่องมันเริ่มแบบปกหลังแหละค่ะ ถ้าไม่อยากรู้สปอยล์รู้แค่ปกหลังพอดีกว่า เพราะเป็นหนังสือแบบที่ต้องอ่านไปลุ้นไป ค่อยๆ แกะเรื่องตามคำใบ้ที่นักเขียนบอกมาน่ะค่ะ


อ่านแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย สนุกมากๆ ค่ะ บรรยากาศในเรื่องกดดัน หลอน ระทึก และตื่นเต้นตลอดเวลา ผู้เขียนสามารถดึงคนอ่านให้ "อิน" ไปกับ "เท็ดดี้" ได้ เห็นอย่างที่เท็ดดี้เห็น รู้สึกอย่างที่เท็ดดี้รู้สึก และ...พอเท็ดดี้รู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า คนอ่านคนนี้ก็เริ่มจะเป็นบ้าตามไปด้วย 555

สำนวนการเขียน วิธีการดำเนินเรื่อง บทสนทนา ทำให้บรรยากาศมันหลอนๆ อึมครึมและน่าสงสัยตลอดเรื่อง


สารภาพก่อนเช่นกันว่า เพราะอ่าน Shutter Island หลังอ่านรีวิวของพี่ยาคูลท์กับอป. เลยอ่านแบบ "จับผิด" ค่อนข้างมาก พยายามจับคำใบ้อยู่ตลอดเวลา ก็เลยพอจะเดาๆ ได้ว่า เรื่องราวมันจะเป็นไปในทางไหน


คนเขียนทิ้งคำใบ้ไว้ตลอดทางค่ะ ควรอ่านอย่างตั้งใจนิดนึงนะคะ เพราะพอเฉลยแล้วจะทึ่งมากๆ ว่า คนเขียนวางเรื่องเอาไว้ได้ "เนียน" จริงๆ


หนังสือเล่มนี้มีตอนที่ไอซ์อ่านแล้วประทับใจเยอะมาก และก็มีประโยคเท่ๆ หวานๆ เยอะมากเช่นกัน

สรุปว่า...ชอบมากๆ ค่ะ ใครชอบอ่านแนว thriller หลอนๆ ระทึกๆ แนะนำเล่มนี้เลยhtmlentities(' >')_<<br>

ขอหยิบตัวอย่างหนังมาแปะบ้างนะคะ น่าดูเชียวค่ะ และรู้สึกว่าทำได้ค่อนข้างตรงกับที่คิดนะคะ ประโยคที่ยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างก็ตรงกับในหนังสือค่ะ ^^




ถ้าจะสปอยล์นิดหน่อยประมาณตัวอย่างหนังก็คือ




เท็ดดี้พบว่าราเชลทิ้งโค้ตเอาไว้ บ่งบอกว่า ในเกาะมีคนไข้ทั้งหมด 67 คน ทั้งๆ ที่หมอผู้คุมบอกว่า มีแค่ 66 คนเท่านั้น ... ใครคือคนที่ 67






น่าดูเนอะhtmlentities(' >')_<<br>



ต่อไปนี้จะสปอยล์แหลกราญนะคะ เก็บไว้เตือนความจำตัวเอง ^^

ไม่แนะนำให้คนที่จะอ่าน หรือจะดูหนังอ่านข้างล่างนี้นะคะ มันเฉลยปมทุกอย่างเลยค่ะhtmlentities(' >')_<<br>





เปิดเรื่องบทนำที่บันทึกของคุณหมอเลสเตอร์ ชีฮาน (Lester Sheehan) ซึ่งอายุมากแล้ว เล่าถึงเกาะชัตเตอร์ ... มีการพูดถึงเท็ดดี้ด้วย


พอเข้าบทแรก เท็ดดี้ได้พบกับชัค (Chuck) ซึ่งถูกเลือกให้เป็นคู่หูของเขาในการสืบคดี "คนไข้" ที่หายตัวไป เท็ดดี้ไม่เคยพบกับชัคมาก่อน แต่ทั้งสองซึ่งเคยเป็นทหารเข้ากันได้ดีตั้งแต่เริ่มแรก

คนไข้ที่หายตัวไปคือราเชล (Rachel Solando) ซึ่งเป็นอาชญากรป่วยทางจิต ฆ่าลูกตัวเองสามคนทิ้งด้วยการกดน้ำ แล้วนำศพกลับมาตั้งที่โต๊ะอาหาร ทำเหมือนกำลังจะกินอาหารกัน

จากคำให้การของแพทย์และผู้คุม จู่ๆ เธอก็หายตัวไป ทั้งๆ ห้องที่ล็อคกุญแจ และต้องผ่านยามมากมาย

ที่น่าแปลกก็คือคุณหมอชีฮานซึ่งเป็นหมอประจำตัวเธอกลับลาหยุด เดินทางออกจากเกาะไปพอดี ((*อ่านแล้วสะดุดตั้งแต่แรก เพราะในบทนำหมอชีฮานพูดถึงเท็ดดี้แบบรู้จักและสนิทกัน รู้จักกันบนเกาะ))

ราเชลทิ้งโค้ตไว้ในห้องว่า

THE LAW OF 4

I AM 47
THEY WERE 80

+YOU ARE 3

WE ARE 4
BUT
WHO IS 67?



ซึ่งเป็นโค้ตที่เป็น word play น่ะค่ะ ((อยู่หน้า 121-123))

ปริศนาไขโดย เอา 47 + 80 ได้ 127 แล้วเอา 3 มาบวก

เป็น 1 + 2 + 7 + 3 = 13

ชื่อของราเชลมีอักษร 13 ตัว Rachel Solando

ดังนั้นจึงไขได้ว่า 47 ก็คือเอาลำดับตัวอักษรในชื่อมาบวกกัน

R(18)+A(1)+C(3)+H(8)+E(5)+L(12) = 47

ตอนแรกเท็ดดี้ไขว่า THEY WERE 80 คือนามสกุลของราเชล ซึ่งก็คือ Solando

WE ARE 4 คือ เธอกับลูกสามคน

แล้วใครคือคนที่ 67 (6+7 = 13)


หมอคาวลีย์ (Cawley) บอกว่าคนไข้ในโรงพยาบาลมี 66 คน ดังนั้นเท็ดดี้จึงมั่นใจว่าจะต้องมีคนที่ 67 แน่นอน ...และเขาก็รู้ว่าคนที่ 67 นั่นจะต้องเป็น Laeddis

Andrew Laeddis เป็นอาชญากรที่เผาตึกที่เท็ดดี้เคยอยู่และทำให้ Dolores Chanal ภรรยาของเขาตายในกองไฟ

มีข่าวว่าแอนดรูถูกส่งตัวมาที่นี่ แต่คาวลีย์บอกว่าไม่มี

ความจริง...เท็ดดี้อยากมาที่เกาะนี้มาตั้งนานแล้ว เขารู้ข่าวว่ามีการทำการทดลองโดยใช้มนุษย์ที่นี่ นอกจากอยากจะสืบหาความจริงแล้ว เขาก็อยากจะฆ่าเท็ดดี้ทิ้งด้วย


ไปๆ มาๆ ราเชลก็ปรากฎตัวขึ้นอย่างไม่มีใครคาด ... หมอคาวลีย์บอกให้เท็ดดี้กลับไปได้ เพราะเจอราเชลแล้ว แต่เท็ดดี้ยังไม่อยากกลับ เขาอยากจะหาตัวแอนดรู และหาความจริงเกี่ยวกับเกาะนี้


เกิดพายุถล่มเกาะ ... เท็ดดี้กับชัคเลยถือโอกาสหลบสายตาผู้คุมเข้าไปใน ward C ซึ่งกำลังวุ่นวายมากมาย ... เท็ดดี้ต้องการสืบหาตัวแอนดรู ส่วนชัคก็ตกลงว่าจะไปหาประวัติของแอนดรูมาให้

แต่คนที่เท็ดดี้เจอกลับเป็นจอร์จ (George Noyce) คนไข้ที่เคยออกไปจากที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง และเป็นคนที่บอกเรื่องแปลกๆ เกี่ยวกับที่นี่ให้เท็ดดี้ฟัง เท็ดดี้ไม่คิดว่าจะได้มาเจอจอร์จที่นี่ ในสภาพที่ถูกทุบตี ((หน้า 267)) จอร์จกล่าวโทษเท็ดดี้ว่า เท็ดดี้เป็นคนทำให้เขาเป็นอย่างนี้ และขอให้เท็ดดี้ช่วยเขาออกไป นอกจากนั้นยังบอกเท็ดดี้ด้วยว่า เท็ดดี้จะไม่สามารถเชื่อใจใครได้ เท็ดดี้กำลังถูกจับตามองตลอดเวลา แม้แต่ "คู่หู" ก็ไม่ใช่มิตรของเท็ดดี้ ... นั่นทำให้เท็ดดี้เริ่มสงสัยในตัวชัค ... เท็ดดี้เพิ่งนึกออกว่า เขาไม่รู้จักชัคเลย


ชัคค้นเจอประวัติของแอนดรู แต่เท็ดดี้ไม่สนใจอยากดู มัวแต่ระแวง ทั้งสองคนหลบหนีออกจาก Ward C ได้ ระหว่างนั้นทั้งสองแยกทางกันพักหนึ่ง เท็ดดี้กลับมาที่จุดนัดเจอ และพบว่า ชัคหายไป และอาจตกหน้าผาตายไปแล้ว

เท็ดดี้เดินไปเจอถ้ำ ในถ้ำมีผู้หญิงคนหนึ่ง เท็ดดี้มั่นใจว่านั่นคือราเชลตัวจริง ผู้หญิงคนนี้เคยเป็นหมอ และบอกเท็ดดี้ว่า เท็ดดี้ถูกวางยามาหลายวันแล้ว ยานั้นทำให้คนปกติกลายเป็นคนเสียสติ เท็ดดี้จะไม่มีวันออกจากเกาะนี้ได้


พอเท็ดดี้กลับไปที่โรงพยาบาล หมอคาวลีย์กลับบอกเขาว่า เท็ดดี้มาที่เกาะนี้เพียงลำพัง ไม่มีคู่หูสักหน่อย

เท็ดดี้รู้สึกว่าหมอคาวลีย์และคนในโรงพยาบาลกำลังรวมหัวกันทำให้เขากลายเป็นบ้า จะได้ไม่ออกจากเกาะ และเผยความลับเกี่ยวกับเกาะนี้ไป

เท็ดดี้จึงพยายามหนีออกจากเกาะ แต่ก็ไม่รอด กลับมาพบกับหมอคาวลีย์อีกครั้งในห้องที่เขาคิดว่า เป็นห้องที่ใช้ผ่าตัดสมองคน

ซึ่ง...จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย


สิ่งที่เท็ดดี้คิดมาตลอดเรื่อง เป็นสิ่งที่เท็ดดี้คิดเองทั้งหมด ความจริงของ THE LAW OF 4 ก็คือ

Edward Daniels = Andrew Laeddis
Rachel Solando = Dolores Chanal

((เป็น anagram นะคะ ทุกชื่อ + นามสกุลมี 13 ตัวอักษร))

และรหัสลับที่เท็ดดี้ได้รับมาตอนหลังคือ

13(M)-21(U)-25(Y)-18(R)-1(A)-5(E)-8(H)-15(O)-9(I)

ถอดได้ความว่า
YOU
ARE
HIM
((*อันนี้แอบง่าย สงสัยชินกับรหัสของเรื่อง ฮา))


ความจริงก็คือ เท็ดดี้หรือแอนดรู เป็นทหารผ่านศึก เขารักกับโดโรเลส...ภรรยา แต่โดโรเลสมีปัญหาทางจิต เธอเผาตึกที่อาศัยอยู่ ครอบครัวของเขาจึงย้ายไปอยู่ใกล้ๆ ทะเลสาป

เท็ดดี้มัวแต่ทำงาน ดื่มเหล้าหนัก ทำให้เขาละเลยภรรยาและลูก มองไม่เห็น "สัญญาณ" ที่บอกว่าภรรยาของเขามีอาการทางจิต จนกระทั่งสายไป ... วันหนึ่งเขากลับมาถึงบ้านพบว่า ภรรยาของเขาฆ่าลูกทั้งสามตายหมด เขาจึงยิงภรรยา และถูกนำตัวเข้ามาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้มาถึงสองปีแล้ว

หมอคาวลีย์เป็นผู้ที่ดูแลคนไข้อาการหนัก เขาสร้างฉากทั้งหมดขึ้นมาเพื่อให้เท็ดดี้ยอมรับความจริง ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องถูกนำไปผ่าตัดสมอง ซึ่งหมอคาวลีย์ต่อต้าน

เท็ดดี้สร้างเรื่องประมาณนี้มาสองปีแล้ว เป็นการพยายามหลบหนีความเป็นจริงที่ลึกมากๆ ... หมอคาวลีย์รู้ทุกอย่าง เพราะก็ได้รับฟังมาสองปีเต็มๆ แล้ว เคยสร้างสถานการณ์แบบนี้มาแล้วเช่นกัน

ชัคก็คือหมอชีฮาน...ซึ่งไม่เคยออกจากเกาะไปไหนตลอดระยะเวลานี้


เท็ดดี้ฝันเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ((ทั้งเรื่องจะมีความฝันของเท็ดดี้แทรกเข้ามาเป็นระยะๆ ดูแล้วหลอนๆ แต่แฝงความจริงเอาไว้)) และตื่นขึ้นมาในฐานะแอนดรู

แอนดรูยอมรับความจริงว่าเขาคือแอนดรู ไม่ใช่เท็ดดี้

แต่...ฉากสุดท้ายในเรื่อง เปิดมาที่แอนดรูกลับมาเป็นเท็ดดี้อีกครั้ง เขาคุยกับหมอชีฮานในฐานะ "ชัค" ...และ...ก็หันไปเห็นผู้คุมถือโลหะอะไรบางอย่างพากันเดินตรงเข้ามา...


จบhtmlentities(' >')_<<br>


ฉากที่ give away คำใบ้ มีเยอะมากค่ะ

- ในตอนแรกที่เท็ดดี้กับชัคจะต้องมอบปืนก่อนเข้ารพ. เท็ดดี้เห็นว่ามือของชัคไม่ถนัดกับอาวุธปืน ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลก ในเมื่อชัคเคยเป็นทหารมาก่อน

- ฉากความฝันต่างๆ มีฉากร่วมรักระหว่าง แอนดรูกับโดโรเลส ซึ่งเท็ดดี้คิดว่ามันเพอร์เฟค

- ฉากที่ฝันถึงลูก

- ชอบฉากที่เฉลยเรื่องคำพูดของจอร์จที่พูดกับเท็ดดี้

สิ่งที่เท็ดดี้ได้ยินคือ "This is about you. And Laeddis. This is all it's ever been about. I was incidental. I was in the way."

แต่จริงๆ แล้วเป็น "This is about you. And, Laeddis, this is all it's ever been about...."

จอร์จเรียกเท็ดดี้ว่า Laeddis
Create Date :02 เมษายน 2553 Last Update :2 เมษายน 2553 7:39:28 น. Counter : Pageviews. Comments :10