bloggang.com mainmenu search
อ่านเล่มที่ 4 จาก ลิสของ TBR Challange จบในวันสุดท้ายของเดือน 4 พอดี ((แต่จริงๆ แล้ว เพิ่งจะมาอ่านรวดเดียว 3 เล่มในเดือนนี้แหละค่ะ ฮา)) ให้ความรู้สึกว่า เป็นไปตามตารางดีจัง เอิ๊กส์




เรื่อง : Life of Pi
เขียนโดย : Yann Martel





รายละเอียดจากปกหลัง

หลังจากที่เรือขนสินค้าจมลง เรือช่วยชีวิตลำหนึ่งลอยอยู่กลางทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิค ผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวคือเด็กหนุ่มอายุ 16 ปี ชื่อ พาย พาเทล บนเรือมี ไฮยีน่าหนึ่งตัว ม้าลายขาหักหนึ่งตัว ลิงอุรังอุตังตัวเมียหนึ่งตัว และเสือเบงกอลหนัก 450 ปอนด์อีกหนึ่งตัว...


.....


อ่านจากปกหลัง ดูปกหน้า แล้วไพล่ไปคิดว่าจะเป็นแนวผจญภัยแฝงปรัชญา คล้ายๆ กับเรื่อง Kensuke's Kingdom อะไรทำนองนั้น

เนื่องจากเห็นว่าเป็นหนังสือที่ได้รางวัล The Man Booker Prize ปี 2002 จึงซื้อมาตั้งแต่หนังสือปกอ่อนภาษาอังกฤษออกใหม่ๆ อย่างไม่ลังเล ... แล้วก็ดองเค็มเอาไว้ ... กะว่าจะไว้อ่านตอนเซ็งๆ หรือต้องการแรงบันดาลใจ แต่เห็นดองนานแล้ว แถมดองจนมีแปลไทยออกมาแล้วอีกต่างหาก จึงรีบจัดเข้าลิส TBR Challange และอ่านเสียที

สารภาพอีกหนึ่งอย่างว่า ไอซ์ไม่เคยอ่านหนังสือที่มีอะไรเกี่ยวกับ "อินเดีย" จบซักเรื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็น The Death of Vishanu, Bricklane, Life isn't all ha ha he he, Holy Cow ฯลฯ ... ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน พอเปิดอ่านหน้าแรกไปแล้ว เลยรู้สึกแหยงๆ นิดหน่อย 555


หนังสือแบ่งออกเป็น 4 ส่วนค่ะ


ส่วนแรกเป็น Author's Note

เป็นความในใจของผู้เขียนที่บอกความเป็นมาของการเขียนเรื่องนี้ ((อ่านตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องจริงเลยทีเดียว เอิ๊กส์))

เขาไปอินเดียเพื่อหาที่เขียนนิยาย และเขาก็ได้พบกับชายอินเดียคนหนึ่ง ซึ่งแนะนำให้เขาไปคุยกับ Pi Patel ผู้ซึ่งจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเขา เป็นเรื่องราวที่จะทำให้คุณเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า ... A story that will make you believe in God


ส่วนที่สองเป็น Toronto and Pondicherry

ตอนนี้จะเป็นการบอกเล่าประวัติเบื้องต้นของ Pi Patel ตั้งแต่ยังเด็ก ที่มาของชื่อจริง เรื่องราวของครอบครัวที่มีพ่อเป็นเจ้าของและผู้ดูแลสวนสัตว์ ทำให้พายเข้าใจธรรมชาติของสัตว์ได้เป็นอย่างดี

และมีการบอกเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้พายเป็นคนที่นับถือศาสนาถึง 3 ศาสนา นั่นก็คือ ฮินดู คริสเตียนแคทอลิก และมุสลิม


ส่วนที่สามเป็น The Pacific Ocean

ครอบครัวของพายต้องการอพยพไปแคนาดา พ่อของพายขายสัตว์ในสวนสัตว์ของตัวเองไปให้สวนสัตว์ต่างๆ ครอบครัวของพายและสัตว์บางส่วนโดยสารไปกับเรือ Tsimtsum ... เรือของญี่ปุ่น ... เรือลำนี้จม พายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงผู้เดียวในเรือช่วยชีวิต ... ในเรือลำนั้นมี ไฮยีน่าหนึ่งตัว ม้าลายขาหักหนึ่งตัว ลิงอุรังอุตังตัวเมียหนึ่งตัว และเสือเบงกอลหนัก 450 ปอนด์ ชื่อ Richard Parker อีกหนึ่งตัว

ส่วนนี้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรือ การที่สัตว์ต่างๆ เข้าห้ำหั่นกัน จนเหลือเพียงพายกับริชาร์ดเพียงแค่หนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัว พายต้องพยายามหาทางเอาชีวิตรอด โดยไม่ถูกริชาร์ดกินให้ได้

พายลอยเรืออยู่นานถึง 227 วัน กว่าเรือจะลอยไปเกยชายฝั่งของแม็กซิโก


ส่วนที่สี่เป็น Benito Juarez Infirmary, Tomatlan, Mexico

เป็นสถานที่ที่พายกำลังรักษาตัว และมีเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่นสองคนเข้ามาสัมภาษณ์เพื่อหาสาเหตุที่เรือ Tsimtsum จม ตอนนี้เป็นจุดคลี่คลายและเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด


........


ความรู้สึกขณะอ่าน ... ตอนแรก ... อืม เปิดเรื่องน่าสนใจแฮะ จะเป็นเรื่องแบบไหนหนอ ที่จะทำให้คนอ่านรู้สึก "เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า"



ตอนที่สอง ... อ่านไปได้ซักห้าสิบหน้า ชักสงสัยว่าเรื่องราวจะดำเนินไปทางไหนกันแน่ มีความรู้สึกว่าผู้เขียนเล่าโน่นเล่านี่ไปเรื่อยๆ ไม่เข้าเรื่องเสียที แถม...อย่างที่บอกตอนแรกนะคะ ไอซ์ไม่ถูกโฉลกกับหนังสือที่มีกลิ่นอาย "อินเดีย" ... ร่ำๆ จะวาง จะอ่านไม่จบเอา

ไอซ์เลยไปอ่านรีวิวในอเมซอน ซึ่งก็มีส่วนหนึ่งบอกว่า จะเข้าเรื่องจริงๆ ก็โน่นเลย เกือบหน้าที่ร้อย หลังจากนั้นจะสนุก และตอนจบก็เจ๋งมาก เลยอดทนอ่านต่อไปเรื่อยๆ

มันก็มีช่วงที่รู้สึกว่า อ่านสนุกและตลก สลับกับช่วงที่รู้สึกว่า มันมีแต่น้ำมากจนน่าเบื่อ ... คนเขียนจะปูเรื่องไปทางไหนกันแน่ ((ฟะ))

ตอนที่ชอบในช่วงนี้ก็คือ ตอนที่ผู้นำศาสนาทั้งสาม ตั้งแต่บาทหลวง อิหม่าม และ Pandit มาเจอกัน ต่างก็บอกว่า พายนับถือศาสนาของตน แล้วก็เถียงกัน ขำแบบแสบๆ ดีค่ะ



ตอนที่สาม ... เรือล่มและเข้าเรื่องตามที่เขียนไว้ในปกหลังเสียที เรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆ เหมือนกับตอนที่สองค่ะ คือ ไอซ์รู้สึกว่า มันมีช่วงที่สนุกสลับกับช่วงที่น่าเบื่อ ... ชอบตอนที่เริ่ม "ฝึกเสือ" ... บางช่วงก็อ่านผ่านๆ ไปบ้าง

มันก้ำๆ กึ่งๆ ระหว่าง ความ surreal และความ absurd ชอบกล อ่านแล้วทะแม่งๆ

บอกตรงๆ ค่ะว่า พยายามอ่านให้จบ เพราะอยากรู้ว่า ตอนจบที่หลายๆ คนบอกว่า อึ้ง และ เจ๋ง นี่ เป็นยังไง



ตอนที่สี่ ... บทสรุป ... ไอซ์คิดว่าเป็นบทที่ดีที่สุดของเล่มนี้ หลังจากที่อ่านแบบเรื่อยๆ เปื่อยๆ มาทั้งเล่ม ... บทสรุปลงท้ายได้กระชับ เนียนและเจ๋งดีจริงๆ ทำให้ต้องกลับไปย้อนคิดเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ตอนเรือแตกใหม่ตั้งแต่ต้น


.....


ความรู้สึกหลังอ่านจบ ... บอกไม่ถูกค่ะว่ารู้สึกยังไง มันกึ่งๆ ระหว่างชอบและเกลียดชอบกล ... อาจจะหวังกับเรื่องนี้มากไปหน่อยก็ได้

ช่วงประวัติของพายไอซ์ว่าปูเรื่องนานไปหน่อย หลายๆ ส่วนมันก็ไม่จำเป็นนะ ช่วงเรือแตกแล้วตอนอ่านรู้สึกว่ามัน "เว่อร์" อ่านไปขมวดคิ้วไปบ้าง มีช่วงที่สนุกบ้าง แต่จบดีจริงๆ ค่ะ ตอนจบนี่ฉุดทุกอย่างขึ้นมาหมดเลย

คือ...ตัวอักษรในเรื่องไม่สามารถ "ตรึง" ให้ไอซ์อยากอ่านทุกตัวอักษรได้ บางส่วนที่ผู้เขียนพยายามจะ "ขำ" กลับทำให้ไอซ์ว่า "ฝืด"

รู้สึกว่าต้อง "ทนอ่าน" เพื่อให้ถึง "ของดีในตอนท้าย" ยังไงไม่รู้แฮะ


ไอซ์ชอบสัญลักษณ์และการเปรียบเทียบ โดยเฉพาะ "เสือ" หรือ "สันดานดิบ" ของคน ชอบมากค่ะ



ที่ขัดใจเป็นที่สุดหลังจากอ่านเรื่องนี้จบก็คือ เรื่องนี้ไม่เห็นจะทำให้รู้สึกเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าที่ตรงไหน มันออกจะเป็นแนวศาสนาพุทธ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน การกระทำทุกอย่างอย่างมีสติ เสียมากกว่านะ



จำได้ว่าเคยอ่านรีวิวเห็นหลายๆ คนชอบเรื่องนี้ ... สำหรับไอซ์...เอาเป็นว่า โอเคที่ได้อ่าน ดีใจและโล่งใจที่อ่านจนจบ ((แม้ว่าบางช่วงระหว่างอ่านจะรำคาญเป็นอย่างมาก)) ไม่ต้องค้างคาใจ แต่...อ่านแล้วไม่เป็นไปอย่างที่หวัง เพราะไม่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจอะไรเลย ...

ไม่คิดจะอ่านซ้ำแน่ๆ ค่ะ

Create Date :30 เมษายน 2551 Last Update :30 เมษายน 2551 21:50:24 น. Counter : Pageviews. Comments :14