bloggang.com mainmenu search
จาก TBR Challange 2008 12 เดือน 12 เล่ม สำหรับปีนี้ ... มาถึงเดือน 5 แล้ว ก็รู้สึกว่า เกมนี้ไม่เหมาะกับพวกชอบอ่านหนังสือตามอารมณ์แบบไอซ์เลยจริงๆ นะ ^^"

Black Order มาจากลิสสำรองค่ะ ((เวลาอ่านจากลิสสำรองทีไร ให้ความรู้สึกว่าตัวเองกำลังโกงทุกที 555)) เล่มนี้เป็นงานเขียนของนักเขียนคนโปรดคนหนึ่ง โปรดงานเขียนของเขาทั้งในนามปากกา James Rollin และ James Clemen ตั้งแต่ยังไม่รู้เลยว่า สองนามปากกานี้เป็นคนเดียวกัน ^^



เรื่อง : Black Order
เขียนโดย : James Rollins






จากปกหลัง

เพลิงไหม้ร้านหนังสือเปิดเผยแผนการร้ายในการขโมยไบเบิ้ลซึ่งเคยเป็นของ Charles Darwin และ Gray Pierce แห่ง SIGMA ก็พบว่า เรื่องนี้เชื่อมโยงไปถึงนาซีแห่งเยอรมัน

ระหว่างนั้น Lisa Cummings กำลังตรวจสอบต้นตอของความโหดร้าย บ้าคลั่ง ที่เกิดขึ้นที่อารามในเนปาล และเธอก็กลายเป็นเป้าหมายของนักฆ่า

การสืบสวนนำ Pierce ไปสู่ห้องแล็ปที่เต็มไปด้วยความลับน่าสะพรึงกลัว และแผนการเก่าแก่ที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของมนุษยชาติ


.....


อ่านแล้วรู้สึกว่าปกหลังอธิบายหนังสือเล่มนี้ได้ไม่ดีเท่าไหร่แฮะ ^^"

เล่มนี้เป็นเล่มที่สองของซีรียส์ SIGMA ต่อจาก Map of Bones ค่ะ ((จริงๆ ยังมี pre-series อีกเล่มคือ Sandstorm ที่ตอนแรกไอซ์นึกว่าเป็นเล่มต่อจากเล่มนี้อีกทีเลยยังไม่ได้อ่าน แง)) ตัวละครที่เป็นทีมหลักเลยเป็นทีมเดียวกับเล่ม Map of Bones ถ้าได้อ่านก่อนก็จะรู้ถึงความสัมพันธ์ของตัวละคร แต่ถ้ายังไม่เคยอ่าน อ่านเล่มนี้เลยก็รู้เรื่องค่ะ อ่านแยกกันได้

Black Order นี้ก็ยังคงเป็นสไตล์ของ James Rollin ที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาตร์และเทคโนโลยีที่มีจริง ผูกเข้ากับจินตนาการจนกลายเป็นแนวผจญภัยที่อ่านสนุก


สำหรับ Black Order นั้น ประวัติศาสตร์ที่เป็นเบสของเรื่องนี้คือ เหตุการณ์จริงหลังจากที่ฮิตเลอร์พ่ายแพ้และนาซีล่มสลาย ฝ่ายพันธมิตรไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ รัสเซีย อเมริกา ฯลฯ ต่างแก่งแย่งแข่งขันเพื่อครอบครองเทคโนโลยีของเยอรมันเอาไว้ ขณะที่ฝ่ายเยอรมันเองก็พยายามปกป้องด้วยการทำลายห้องแล็ป ฆ่านักวิทยาศาสตร์

ที่ยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงวันนี้คือเหมืองในเมืองภูเขา Breslau มีห้องวิจัยที่ใช้โค้ดเนมว่า die Glocke หรือ The Bell ประชากรแถวนั้นเอ่ยถึงแสงประหลาด โรคร้าย และการตายที่ไม่รู้สาเหตุ

หลังจากสิ้นสงคราม The Bell ก็สูญหายไป โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเอาไว้ทำอะไร แต่ที่แน่ๆ ก็คือ The Bell นั้นมีจริง


....


เรื่องนี้เปิดเรื่องที่ตอนช่วงสงครามใกล้สงบ ทหารคนหนึ่งได้รับคำสั่งจาก Heinrich Himmler มือขวาของฮิตเลอร์ ให้ทำลายห้องแล็ปที่ Breslau ฆ่านักวิทยาศาสตร์ และนำข้อมูล รวมทั้งเด็กทารกซึ่งเป็น "ผลการวิจัย" ไปยังฐานลับแห่งใหม่ แต่ระหว่างการหลบหนีนั้น Tola นักวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นแม่ของเด็กทารกพาเด็กทารกหลบหนีไปได้ ผู้คนต่างคิดว่าทั้งแม่และเด็กตายไปแล้ว โดยที่ไม่รู้เด็กทารกได้รับการช่วยเหลือจากบาทหลวงในโบสถ์ใกล้ๆ นั้นเอง


กลับมาที่ปัจจุบัน...ผู้เขียนเล่าเรื่องสลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก


Himalaya : Everest Base Camp : Nepal

โรคประหลาดเกิดขึ้นที่อารามแห่งหนึ่งบนเขา Lisa Cummings ซึ่งเป็นแพทย์ที่กำลังตามทีมปีนเขาเพื่อการวิจัย ได้รับเชิญให้เข้าไปช่วยตรวจสอบ ที่นั่น...สัตว์ต่างๆ ตาย เหล่าพระกลายเป็นบ้า และเป็นศพ ...

ขณะที่ Lisa และทีมกำลังตรวจสอบอยู่นั้นเอง นักฆ่าก็ตามล่าพวกเธอ เหลือเพียงเธอและ Painter Crowe ... Director ของหน่วย SIGMA ที่เข้ามาทำการตรวจสอบเช่นกัน ... ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ Crowe เองก็ติดโรคร้ายลึกลับนี้เช่นกัน


Copenhagen : Denmark

Gray Pierce ถูกส่งไปตรวจสอบเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลกๆ เกี่ยวกับการประมูลหนังสือ ที่ทาง SIGMA คิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ง่ายๆ ซึ่งจริงๆ แล้วควรจะส่งเอเยนต์ระดับต่ำกว่ามา แต่ Cray เลือกมาที่นี่เพื่อที่จะนัดเจอกับ Rachel แฟนสาวที่เป็น carabinieri อยู่อิตาลี ((รักกันจากเรื่อง Map of Bones ค่ะ))

ไปๆ มาๆ เรื่องที่คิดว่าเป็นเรื่องเล็กกลับไม่ใช่เรื่องเล็กเสียแล้ว มีองค์การหนึ่งไล่ล่าไบเบิ้ลที่เคยเป็นของ Charles Darwin ... เรื่องราวลุกลามใหญ่โตเมื่อองค์การนั้นต้องการไบเบิ้ลเล่มนั้นมากขนาดเผาทำลายร้านหนังสือ ฆ่าคน และตามล่า Gray

ระหว่างที่หนีเอาชีวิตรอดนั้นเอง Gray ก็พยายามที่จะสืบเรื่องราวนี้ให้กระจ่าง


Hluhluwe-Umfolozi Game Preserve : Zululand : South Africa

นักวิจัยชาวอังกฤษถูกสัตว์ประหลาด สัตว์ที่ไม่มีใครรู้จัก และ...มีการปกป้องความจริงนี้เอาไว้ ความจริงที่จำเป็นต้องปกป้องจึงถึงขนาดต้องฆ่าผู้รู้เห็นเหตุการณ์ที่ต้องการสืบเรื่องราว


....


ตัวละครเด่นจากแต่ละประเทศต่างต้องผจญภัยกับเหตุร้ายตรงหน้าพร้อมกับสืบสวนเรื่องราวไปด้วย ต่างฝ่ายต่างต้องเอาชีวิตรอดโดยไม่รู้เรื่องราวของฝ่ายอื่นๆ และไม่รู้เลยว่า สาเหตุทั้งหมดโยงเข้าหาเรื่องเดียวกันทั้งหมด ... The Bell

((อ่านแล้วบางทีก็แอบหงุดหงิดค่ะ เพราะกำลังลุ้นที่หนึ่ง ฉากตัด ไปโผล่อีกที่ นั่นก็ลุ้นอีก แง่งๆ เลยต้องรีบอ่าน จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 555))

....


เล่มนี้เต็มไปด้วยแอ็คชั่นและการเอาชีวิตรอดของแต่ละฝ่าย และแน่นอนว่า มีการแก้โค้ต การอธิบายปรากฎการต่างๆ ด้วยทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ตามประสาหน่วย SIGMA ... นักวิทยาศาสตร์คอมานโด ^^

โค้ดเรื่องนี้จะเป็นพวก Celtic Runes และเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ค่ะ ... โค้ดมีนิดหน่อย ไม่เยอะเหมือนเรื่อง Map of Bones ... แก้ยากเหมือนเคย ^^"

ส่วนทางด้านวิทยาศาสตร์ในเล่มนี้ เชื่อมเรื่องที่เยอรมันต้องการทำให้โลกนี้มีแต่ perfect race ... super race ... The Bell เกี่ยวกับเรื่องนี้เอง มีการอธิบายเรื่อง evolution ด้วย quantum mechanic ... เป็นทฤษฎี quantum evolution ^^" ...ทฤษฎีนี้มีจริงๆ นะคะ อ่านแล้วก็...อืม พอจะกล้อมแกล้มไปได้ค่ะ ((แต่จะเริ่มเวอร์ตอนที่บอกว่า สมองและความต้องการส่วนลึกของมนุษย์สามารถทำให้เกิด quantum phenomena และสามารถทำหน้าที่เป็น quantum computer นี่แหละ =_="))

....



รวมๆ แล้วก็สนุกดีค่ะ อ่านเกือบจะรวดเดียวจบแบบวางไม่ลงเลย ((แต่ก็ต้องวางเพราะต้องทำงานเนาะ ฮา)) ถึงจะมีอะไรเวอร์ๆ แบบจับแพะมาชนกับแกะบ้างตามสไตล์ James Rolling แต่เนื่องจากเป็นนักเขียนคนโปรด อะไรๆ ก็มองข้ามไปได้หมดค่ะ ฮี่ๆๆๆ

ประวัติศาสตร์ที่เป็นที่มาของเรื่องน่าสนใจเช่นเคย ไอซ์ว่าจะไปหามาอ่านเพิ่มถ้ามีเวลา

เพิ่งรู้ว่าวิทยาศาสตร์ด้าน DNA ก้าวไกลไปมากแล้ว เช่น ที่ Stanford มีการทดลองสร้างหนูที่มีเซลล์สมองของมนุษย์ 1% ได้แล้ว ... และมีความพยายามที่จะสร้างหนูที่มีเซลล์สมองของมนุษย์ 100% ต่อไป เหอๆ

ด้านหลังของนิยายเล่มนี้ James Rollin ได้บอกถึงแรงบันดาลใจ ข้อมูล และแนะนำผู้สนใจให้ไปอ่านหนังสือเพิ่มเติมอีกหลายเล่มค่ะ


....


ก็ไม่รู้ว่าคนที่ชอบ Map of Bones จะชอบเล่มนี้ไหม เพราะจะมีแอ็คชั่นเยอะมากกว่าการจัดการกับโค้ต และมีวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมาก ((บางช่วงอ่านแล้วต้องอ่านทวนอีกรอบเพราะไม่ถนัดด้าน quantum mechanic อะค่ะ ฮา)) เล่มนี้อ่านแล้วจะได้กลิ่นอายงานเก่าๆ ของ James Rollin อย่าง Subterranean / Amazonia หรือ Excavation แต่เข้มข้นมากกว่า

ไอซ์ชอบพล็อตและสไตล์การดำเนินเรื่องแบบแก้โค้ตของ Map of Bones มากกว่า เรื่องนี้ไอซ์ว่าแอ็คชั่นเยอะไปหน่อย

แต่ก็นะ นักเขียนคนโปรดค่ะ ยังไงก็ชอบhtmlentities(' >')_htmlentities('< ')กำลังรอ The Judas Strain ฉบับปกอ่อนอย่างใจจดใจจ่อเลยเชียว ^^


ตอนนี้หนังสือของ James Rollin ที่ไอซ์เก็บเอาไว้ยังไม่ได้อ่านก็มี Deep Fathom / Ice Hunt และ Sandstorm ค่ะ ... เก็บไว้อ่านเวลาเซ็งๆ เพราะยังหาคนเขียนแนวนี้คนอื่นๆ ไม่ได้เลย แต่อาจจะต้องรีบเก็บมาอ่านแล้วล่ะค่ะ เพราะรู้สึกว่า James Rollin จะเขียนดีขึ้นเรื่อยๆ อ่านย้อนหลังงานเก่าๆ อาจจะจืดได้เนาะ ^^"


....


สุดท้าย...โน่นนี่จากในหนังสือที่หาเพิ่มเติมมาค่ะ ^^


รูป Heinrich Himmler และหน่วย SS ที่หลังจากนั้นเขาจะมีหน่วย SS ส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า "Black Order"




Chimeric Mouse ... เหอๆ

//www.livescience.com/technology/technovel_mouse_050217.html



รูปข้างบนนี้นักวิทยาศาสตร์สร้างหูคนขึ้นมาบนตัวหนู ... มีจริงๆ ค่ะ


Celtic Runes




หนังสืออ้างอิงที่ James Rollin แนะนำถ้าอยากอ่านต่อ

The Hunt for Zero Point




Himmler's Crusade




Unholy Alliance




Quantum Evolution





Create Date :23 พฤษภาคม 2551 Last Update :23 พฤษภาคม 2551 20:36:44 น. Counter : Pageviews. Comments :6