ปักกิ่งเกมส์ #2
ปักกิ่งเกมส์ #2
บล็อก ปักกิ่งเกมส์ จะเป็นบล๊อกเรื่องชุด จะมีต่อเนื่องไป จนจบการแข่งขัน โดยจะเลือกรายงานข่าวที่น่าสนใจในปักกิ่งเกมส์ ให้เพื่อนๆทราบ
2. มวยโอลิมปิก
นำมาจากข่าว ..สื่อจีนชู"อำนาจ"คู่แข่งแย่งทองกำปั้นโอลิมปิกกับเต็งหนึ่ง"ซู" ของหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 29 กรกฎาคม 2551
สื่อจีนฟันธง นักชกจีนคว้า 1 ทองมวยสากลสมัครเล่นจาก ซู จี้ หมิง .....ยก อำนาจ รื่นเริง ของไทยเป็นคู่แข่งสำคัญ พร้อมยาหอม ทีมขุนพลเสื้อกล้ามจีน จะประมาทไทยไม่ได้เด็ดขาด ชี้นักชกไทย ชกด้วยยากกว่า นักชกยุโรป จีนเจอทีไรมีปัญหาทุกที
สำนักข่าวซินหัวของจีน ออกมาฟันธง การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น ในกีฬาโอลิมปิก 2008 ปักกิ่งเกมส์ ว่า นักชกจีนซึ่งคว้าตั๋วโอลิมปิก ได้ 10 รุ่น น่าจะทำได้อย่างน้อย 1 ทอง จาก ซู จี้ หมิง ในรุ่น ไลต์ฟลายเวต (48 กก.)
ซู จี้ หมิง เป็นเจ้าของเหรียญเงิน เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ 2003, เหรียญทองแดงกีฬาโอลิมปิก 2004 และเหรียญทองเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ 2 สมัย ปี 2005 และ 2007 ...พร้อมวิเคราะห์ว่า ซู จี้ หมิง เป็นนักชกที่ใครเอาชนะยาก เพราะมีความรวดเร็ว ทั้งการโจมตี และหลบหนี คู่ชกมักไล่ไม่ทัน และพ่ายคะแนนไปในที่สุด
สื่อจีน วิเคราะห์อีกว่า ในรุ่น 48 กก. คู่แข่งของ ซู จี้ หมิง ที่น่ากลัวได้แก่ แยมเปียร์ เฮอร์นานเดซ กอนซาเลซ จากคิวบา ที่ ซู ไม่เคยเจอมาก่อน ...ตามมาด้วย แฮร์รี ทานามอ จากฟิลิปปินส์
และอีก 2 นักชก ที่เคยเอาชนะ ซู มาแล้ว ได้แก่ อำนาจ รื่นเริง ของไทย กับ ปูเรฟโดรี เซอร์แดมบา จากมองโกเลีย
ส่วนความหวังในรุ่นอื่น ๆ ของทีมนักชกจีน ที่มีลุ้นเหรียญทอง ได้แก่
รุ่นเฟเธอร์เวต (57 กก.) ลี หยาง
รุ่นเวลเตอร์เวต (69 กก.) ฮานาติ ซิลามู
และ รุ่นซูเปอร์เฮฟวี่เวต (เกิน 91 กก.) จาง จี้เล่ย
โดยมี คิวบา, รัสเซีย, คาซัคสถาน, สหรัฐ และไทย เป็นคู่แข่งที่สำคัญ
นอกจากนั้น ยังมีชาติที่มองข้ามอีกไม่ได้ อยู่ในกลุ่มมีลุ้นเหรียญเช่นกัน ได้แก่ อิตาลี, อังกฤษ, อุซเบกิสถาน, ทาจิกิสถาน, อาเซอร์ไบจาน, เยอรมนี, ตุกรี และเกาหลีใต้
ที่สำคัญ สำนักข่าวซินหัว ย้ำว่า ทีมนักชกจีน จะประมาททีมนักชกของไทยที่คว้าตั๋วไปโอลิมปิก 8 รุ่น ไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เพราะนักชกไทยมีความแข็งแกร่ง สไตล์การชกคล้ายกับนักชกจีน ...ที่ผ่านมานักชกจีนเจอกับนักชกไทย จะมีปัญหามากกว่าเจอกับนักชกยุโรป นักชกไทยต่อยยากกว่านักชกยุโรป
ด้าน เสธ.ทวีป พลเอกทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า.... ทีมนักชกไทยมองจีนเป็นคู่แข่งสำคัญในโอลิมปิกครั้งนี้เช่นกัน เพราะนอกจากจะเป็นเจ้าภาพได้เปรียบในเรื่องสภาพแวดล้อมแล้ว ยังมีนักชกน่ากลัวหลายรุ่น
นอกจาก ซู จี้ หมิงแล้ว ....ก็มีรุ่นไลต์เวต (60 กก.),
.ไลต์เวลเตอร์เวต (64 กก.),
.เวลเตอร์เวต (69 กก.) ....และรุ่นมิดเดิลเวต (75 กก.) ที่ได้สั่งเตรียมแก้ทางมวยไว้ให้นักชกไทย และต้องระวังนักชกจีนมาก เพราะจีนตั้งความหวังไว้ 2 ทอง จากมวยสากลสมัครเล่น
ส่วนประเทศอื่น ๆ ก็มีดี ในบางรุ่น ตามที่ สำนักข่าวซินหัววิเคราะห์ไว้ ...แต่ที่เป็นคู่แข่งสำคัญที่สุด สำหรับนักชกไทย คือทีมนักชก รัสเซีย, คิวบา และ สหรัฐ.
พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า โดยเฉพาะ รุ่น 48 กก. หาก อำนาจ รื่นเริง ของไทย จับสลากไปเจอกับนักกีฬาเจ้าภาพ โดยสิ่งที่เราต้องเน้นก็คือ ความนิ่งและความรัดกุม จะต้องไม่เต้นไปตามคู่แข่ง เพราะจะไปเข้าทางของศัตรู ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น สตาฟโค้ช ต้องวางแผนกันแบบนาทีต่อนาที
เช่นเดียวกับเรื่องของกรรมการ ที่ต้องระวังให้มาก เพราะครั้งนี้จะเน้นในเรื่อง การทำฟาวล์ และการกดให้คะแนนได้ยาก แต่การตัดคะแนน จะง่ายมาก
เสธ.ทวีป กล่าวว่า จากการที่ แดน แคมป์เบลล์ โค้ชทีมมวยสากลสมัครเล่นของสหรัฐอเมริกา ชุดโอลิมปิก 2008 ปักกิ่งเกมส์ ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าวเอพี ว่า ....
ทีมนักชกที่เป็น บิ๊กโฟร์ หรือทีมนักชกที่เป็นตัวเต็ง จะมีโอกาสคว้าเหรียญทองมากที่สุด 4 ชาติ ได้แก่ รัสเซีย, สหรัฐอเมริก, คิวบา และทีมนักชกไทย ....โดยเป็นเต็ง 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดับนั้น
โค้ชทีมมวยสหรัฐ คงจะมองจากประวัติของนักชก และผลงานที่ผ่านมา ทำให้ยกทีมนักชกไทยติดกลุ่มตัวเต็ง 4 ชาติแรก ในศึกมวยโอลิมปิก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้โดยส่วนตัว จะมั่นใจว่านักชกไทยมีศักยภาพเพียงพอ แต่ตนต้องการถ่อมตัว ไม่ยึดติดกับเรื่องนี้ และไม่อยากจะอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะจะเป็นการสร้างความกดดันให้กับนักชกของไทย ตลอดจนได้ย้ำกับนักชกของไทย อยู่เสมอว่า เมื่อขึ้นเวทีแล้ว จะประมาทคู่ต่อสู้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเจอกับนักชกชาติไหน ก็ตาม
เสธ.ทวีป กล่าวต่อว่า จากการที่โค้ชมวยสหรัฐ ยกให้รัสเซีย เป็นเต็ง 1, สหรัฐอเมริกา เป็นเต็ง 2 และคิวบาที่เคยเป็นเต็งหนึ่งมาตลอด หล่นมาเป็นเต็ง 3 ก็ด้วยเหตุผลว่า คิวบา ใช้นักชกหน้าใหม่ทั้งหมด จากปัญหานักชกเก่า ๆ ลี้ภัยและหนีไปชกอาชีพ โดยนักชกคิวบา 5 คน ที่คว้า 5 เหรียญทองในโอลิมปิก 2004 เอเธนส์เกมส์ ไม่มีใครมาป้องกันแชมป์ที่ปักกิ่งแม้แต่คนเดียว ก็เป็นเหตุผลที่สมควร
อีกอย่างหนึ่ง เพราะทีมนักชกรัสเซีย มีนักชกระดับแชมป์โลกมวยสมัครเล่น และรองแชมป์โลก รวมทั้งแชมป์ยุโรป อยู่ในทีมทั้งหมด จึงเป็นตัวยืนที่จะเป็นเต็งหนึ่ง ในปักกิ่งเกมส์ อยู่แล้ว
ขณะที่ทีมนักชกสหรัฐ ก็พัฒนาขึ้นมาก มีความแข็งแกร่ง และเป็นมวยที่ชกด้วยยาก ....ส่วนคิวบาแม้จะเป็นมวยใหม่ แต่ก็พัฒนาขึ้นมาจากระดับเยาวชน มีพื้นฐานที่ดี จึงไม่มีใครมองข้ามได้ ....สำหรับนักชกชาติอื่น ๆ จะมีดีในบางรุ่น
นอกจากนั้น เสธ.ทวีป ยังกล่าวอีกว่า ความจริงแล้ว นักชกจีนเจ้าภาพที่คว้าตั๋วโอลิมปิกมาได้ 10 รุ่น ก็น่ากลัวมาก ...แม้ แดน แคมป์เบลล์ โค้ช มวยสหรัฐ จะมองว่า น่ากลัวเพียงแค่รุ่นเดียว คือ รุ่นไลต์ฟลาย เวต (48 กก.) ซู จี้ หมิง นักชกเหรียญทองเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2007 ที่ชิคาโก
แต่จากการที่ ตนวิเคราะห์ข้อมูลในตอนนี้ ตอนนี้นักชกจีนพัฒนาขึ้นมาน่ากลัว อีกหลายรุ่น คือ รุ่นไลต์เวต (60 กก.) หู ฉิง, .....รุ่นไลต์เวลเตอร์เวต (64 กก.) เฉิง ไมไมติ เต๋อซุน ....และ รุ่นเวลเตอร์เวต (69 กก.) ฮานาติ ซิลามู
ซึ่งได้เตรียมข้อมูลไว้ให้นักชกไทย รับมือกับนักชกเหล่านี้หมดแล้ว พร้อมแผน 2 รองรับ ให้มีสมาธิ และแก้ปัญหาให้ได้ หากขึ้นเวทีแล้วสไตล์คู่แข่งผิดไปจากข้อมูลที่ศึกษามา.
yyswim
Create Date : 31 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2551 11:09:11 น. |
|
27 comments
|
Counter : 2481 Pageviews. |
|
|
|
นำมาจาก ..ข่าว ชีวิตล้มลุกคุกคลาน อำนาจ รื่นเริง ของหนังสือพิมพ์ มติชน คอลัมน์ คนกับเกมส์ ฉบับวันอาทิตย์ ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2550
แม้จะได้แค่เพียง รองแชมป์ ในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น ชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 29 ที่ผ่านมาก็ตาม แต่ด้วยฟอร์มการชกที่โดดเด่นของ **อำนาจ รื่นเริง** ในรุ่นไลท์ฟลายเวท ทั้งๆ ที่เพิ่งติดทีมชาติไทยเพียงไม่กี่เดือน ก็ทำให้ อำนาจ ถูกยกให้เป็นนักชกหน้าใหม่ ที่มีอนาคตของวงการมวยสากลสมัครเล่นไทย
ชีวิตของ อำนาจ หรือ เพชร กว่าจะก้าวมาติดธงไตรรงค์ที่หน้าอกได้ ต้องบอกว่า สุดโชกโชน
เส้นทางการชกมวยของ เพชร ไม่แตกต่างไปจากนักชกเสื้อกล้ามทีมชาติไทยในปัจจุบันเท่าใดนัก โดยเริ่มจากการชกมวยไทยตามต่างจังหวัดตั้งแต่เยาว์วัย
เพชร เป็นเด็กค่อนข้างเกเร อาจจะมาจากการที่พ่อ-แม่แยกทางกัน ตั้งแต่เพชรลืมตาดูโลก ทำให้ เพชร เที่ยวเตร่ไปเรื่อยเปื่อย ไม่ค่อยสนใจการเรียน แล้ววันหนึ่ง ลูกน้ำเค็มชาวจังหวัดชลบุรีในวัย 7 ขวบที่ชอบชกต่อยมวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ได้ไปเจอค่ายมวยที่อำเภอศรีราชา เลยแอบเข้าไปเตะกระสอบทรายเล่น แต่เตะผิดเวลา ดันไปเตะตอนที่นักมวยในค่ายกำลังนอนหลับพักผ่อน เลยทำให้ เพชร ถูกคนดูแลค่ายมวย ไล่ออกมา
วันต่อมา เพชร กับเพื่อนๆ ก็ยังไม่เข็ด เข้าไปเตะกระสอบทรายอีก แต่คราวนี้ เจ้าของค่ายชวนให้ฝึกซ้อม และกลายเป็นนักมวยในค่าย ขึ้นเวทีครั้งแรก หลังจากหัดชกมวยไม่กี่เดือน ในงานลอยกระทง เพชร พ่ายคู่ต่อสู้ ลงเวทีมาอย่างสะบักสะบอม แต่ เพชร บอกว่า ไม่เข็ด
เพชร ขะมักเขม้นขยันฝึกซ้อมแบบไม่หยุดหย่อน ทำให้ผลงานการชกดีขึ้นตามลำดับ และได้มีโอกาสเข้ามาชกในกรุงเทพฯ ที่เวทีมวยสำโรง เมื่อตอนอายุแค่ 10 ขวบ ลีลาการชกของ เพชร ถูกใจค่ายมวยชื่อดัง **ส.เพลินจิต**
เลยถูกซื้อตัวเข้ามาซ้อม และต่อยในเมืองกรุงตั้งแต่อายุ 10 ขวบ
เพชร ตัดสินใจเลิกเรียนในระหว่างเรียนชั้นประถมปีที่ 4 ซึ่งในเวลานั้นมีปัญหากับทางโรงเรียนในเรื่องใบเกิดด้วย
หลังจากเข้ามาอยู่ค่าย ส.เพลินจิต ได้ปีเศษ .... เพชร กลับหนีออกจากค่าย กลับบ้านดื้อๆ เพราะทนคิดถึงบ้านไม่ไหว และมาอยู่กับยาย ช่วยยายทำขนมขายได้พักใหญ่ๆ ก่อนจะกลับมาชกมวยอีกครั้ง ด้วยการขึ้นเวทีชกหาเงินในบ้านเกิด
ชีวิตของ เพชร หักเหอีกครั้ง เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นเต็มตัว ด้วยการติดยา ทำให้ถูกญาติส่งตัวไปรักษาและอดยา ที่วัดในจังหวัดอุดรธานี หลังจากเลิกยาได้ ....
เพชร ก็กลับมาชกมวยหากินแถบจังหวัดอุดรธานีอีกครั้ง ...ก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองกรุง สังกัดค่าย **ก.บูรพา** จนกระทั่งประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์รุ่น 112 ปอนด์ ของเวทีลุมพินี เมื่อตอนอายุ 20 ปี
แทนที่อนาคตจะรุ่งโรจน์ ในฐานะนักชกค่าตัวแพง แต่ เพชร กลับคิดสั้นด้วยการไปวิ่งราวสร้อยทอง หลังจากมีอารมณ์โมโห คนที่ เพชร เรียกว่า ลูกพี่ เลยทำให้ เพชร ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในคุก เมื่อปี 2548
เมื่อขาดอิสรภาพ เพชร ค่อยๆ สำนึกได้ ประพฤติตัวดี เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ประจวบกับกรมราชทัณฑ์ ตั้งค่ายมวยในเรือนจำ เพื่อให้นักโทษใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และอาจยึดเป็นอาชีพเมื่อพ้นโทษ
เพชร จึงเข้าไปฝึกต่อยมวยสากล จนฝีมือเข้าขั้น ก่อนที่จะได้รับการอภัยโทษ หลังจากติดคุกได้ปีเศษ จากโทษ 5 ปี เมื่อราว 4 เดือนที่ผ่านมา
หลังจากพ้นโทษออกมา เพชร ได้โอกาสขึ้นต่อยมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศไทย ปรากฏว่า ฟอร์มการชกโดดเด่น จนสมาคมมวยฯ เรียกเข้าค่ายฝึกซ้อม และติดทีมชาติครั้งแรกในศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ผ่านมา
เพชร แจ้งเกิดเต็มตัวในรายการนี้ หลังจากพลิกล็อคโค่น **ซู ซี หมิง** แชมป์โลกและแชมป์เอเชี่ยนเกมส์จากจีน ในรอบรองชนะเลิศ
ต่อจากนี้ จะตั้งใจฝึกซ้อม โดยมีเป้าหมายไปชกโอลิมปิก ที่จีน ผมได้บทเรียนชีวิตมาโชกโชนแล้ว จะไม่ให้ซ้ำรอยอีก ..นักชกวัย 26 ปี ให้คำมั่น