Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2548
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 

Somersault หารักในเมืองพลิกคว่ำ



(โปรดระวังมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องของหนัง)

ตีลังกา หรือ พลิกคว่ำ คือชื่อของหนัง ซึ่งหากจะพออนุมานหาความหมายจากตัวเนื้อเรื่องซึ่งไม่ได้มีคำพูดใดๆ สื่อความหมายนี้ออกมาชัดเจน ก็คงสื่อออกมาได้สองส่วนด้วยกัน นั่นคือสภาพจิตใจของตัวละครหลักในเรื่อง และเมืองที่พวกเขาอาศัย นี่จัดเป็นผลงานเรื่องแรกของ เคท ชอร์ตแลนด์ ผู้กำกับหญิงจากออสเตรเลีย ที่นำเสนองานที่เน้นสื่อสารทางด้านภาพ และการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกที่ดูน้อยนิด แต่ส่งผลกระทบหนักๆ ได้อย่างน่าพึงพอใจ

ไฮดี้(แอบบี้ คอร์นิช) เด็กสาววัย 16 หน้าตาสะสวย พอๆ กับความจิตป่วยรวมกัน เรื่องไม่ได้เล่าเรื่องแต่หนหลังของเธอ รู้ก็เพียงแค่ว่าเราเห็นชีวิตครอบครัวเธอเพียงคืนเดียว กับเช้าอีกวันหนึ่ง มีแม่(โอลิเวีย พิโจต์) ซึ่งดูเป็นสาวสมัยใหม่ คบกับแฟนหนุ่มท่าทางห้าวๆ มีรอยสักเต็มตัว พอแม่ออกไปทำงาน ไฮดี้ก็ไปขอจับรอยสักที่หน้าอก จากนั้นเธอกับแฟนของแม่ก็นัวเนียกันจนทำท่าจะเลยเถิด แต่แม่จับได้ก่อน แล้วเธอก็จากบ้านที่แคนเบอร์ร่าไปยัง จินดาไบน์ เมืองท่องเที่ยวของออสเตรเลีย

ที่นี่ดูเหมือนจะบ่งบอกชัดเจนว่าเธอก็เป็นหญิงสาวใจแตกคนหนึ่งในวัยอยากลอง เพราะเมื่อมาถึงไฮดี้ก็โทรศัพท์หาชายคนหนึ่งที่น่าจะบ่งบอกว่าเคยมีอะไรกันครั้งหนึ่ง แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างไร้ไมตรี ว่าแล้วคืนนั้นเธอก็จบด้วยการไปนอนกับคนที่เพิ่งเจอในผับแห่งหนึ่ง

ตื่นเช้ามาเธอแทบจะไร้เงินจนต้องลองหางานในร้านขายเสื้อผ้า แต่ก็ดูเหมือนจะถูกมองว่ามาเสนอตัวแทนเงิน นั่งพักได้ไม่นานก็เหมือนกับว่าจะมีชายวัยกลางคนในรถยนต์ตรงหน้าที่จ้องเธอราวกับเป็นลูกกวางน้อยที่รอถูกขย้ำ โชคร้ายมากกว่าโชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเธอไปเจอชายหนุ่มที่มองเธอตั้งแต่เมื่อคืน เขามีชื่อว่าโจ (แซม เวิร์ทธิงตัน)



“เมืองนี้น่าอยู่นะ” ไฮดี้เริ่มหาบางอย่างมาพูด
“มันก็แค่เมืองท่องเที่ยวห่วยๆ “ โจตอบอย่างเย้ยหยัน

ประโยคสนทนาของพวกเขาบ่งบอกให้รู้ว่าขณะที่เธอกำลังเปล่าเปลี่ยวในเมืองที่เธอไม่รู้จักใคร แต่โจ ที่อยู่เมืองนี้ดูมีเพื่อนฝูงมากมายกลับรู้สึกไม่ต่างกันสักเท่าไหร่

คืนนั้นจบลงด้วยการร่วมรักกันของคนทั้งคู่ ไฮดี้ได้รู้จักกับ ไอรีน(ไลเนตต์ เคอร์แรน) หญิงกลางคนที่เป็นเจ้าของโรงแรมเล็กๆ แห่งนั้น เธออยู่ตัวคนเดียว และใจดีพอจะหางานให้หญิงสาวคนหนึ่งช่วยดูแลอะไรเล็กๆ น้อยๆ และยกห้องของลูกชายที่หายไปให้ ส่วน…หนังเปิดเผยให้เราเห็นว่าเขาอยู่ในครอบครัวที่ฐานะร่ำรวย ทำงานช่วยบ้านที่เป็นฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่ เขาเองแม้จะหายไปจากชีวิตเธอได้พักหนึ่ง แต่ก็ไม่นานนักเขามาเจอไฮดี้ในร้านมินิมาร์ทที่เธอได้งานมาอย่างง่ายๆ เพราะพนักงานอย่าง เบียนก้า(ฮอลลี่ แอนดรว์) ใจดียอมให้เธอไปสมัครทำงานที่นี่ ว่าแล้วทั้งคู่ก็ไปมาหาสู่กันอีกครั้ง มีเซ็กส์ และคบกันอย่างเปิดเผยมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นที่ครหาแก่ลูกพี่ลูกน้องสังคมไฮโซของเขา แต่…มีหรือที่จะไปแคร์อะไรนัก ถึงตอนนี้ดูเหมือนไฮดี้จะโชคดีเหลือเกิน ราวกับเธอเดินทางมาถึงเมืองแห่งเทพนิยายอย่างไรก็อย่างนั้น ได้เจอกับเจ้าชาย และคนคอยช่วยเหลือสารพัด

ภายนอกที่ดูเหมือนเหลวแหลก แต่ไฮดี้ก็เป็นเด็กสาวช่างฝันคนหนึ่ง เธอซื้อถุงมือสีแดงมาปรบมือร้องรำทำเพลงสนุกสนานทั้งที่ตอนแรกยังแทบจะไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง เมื่อเริ่มทำงานก็สนุกสนานกับการได้ซื้อ และกินเหมือนกับเด็กที่เพิ่งได้ลิ้มรสขนมหวาน แถมยังแอบฝันเล็กๆ โดยการมีสมุดบันทึกติดภาพตัดแปะประกอบคำบรรยายเก๋ๆ แถมตั้งราคาให้เสร็จสรรพอีกต่างหาก

บ่อยครั้งที่หนังมีงานภาพที่ให้สีสันแปลกตาออกไปราวกับไม่ใช่ความจริง เหมือนที่ไฮดี้มักมองเมืองๆ นี้ผ่านสีสัน และมุมต่างๆ เมื่อรวมกับการกระทำมากมาย ก็ราวกับเธอจะทดแทน มองหาความสุขที่เธอยังไม่เจอแม้จะเอาตัวเข้าแลก นับตั้งแต่วันที่เธอจากแม่มา ด้วยใบหน้าที่ดูสดใสยิ้มแย้ม ไฮดี้ก็ไม่อาจเปิดเผยความจริงถึงสาเหตุที่เธอต้องระหกระเหินอยู่ในเมืองนี้ ด้วยหวังว่าคำโกหกแต่ละครั้งก็ยังช่วยเธอใช้ชีวิตต่อไปได้เรื่อยๆ …แต่โลกที่เธออยู่ก็ยังเป็นความจริงวันยังค่ำ

เรามักเห็นโจในสภาพตรงข้ามกับไฮดี้ จากท่าทีจริงจัง เอาการเอางาน แต่เขาก็ไม่ได้มองเธอต่างจากคนอื่น แม้เขาจะมีฐานะ เป็นที่ยำเกรงของผู้ชายในเมือง แต่ชีวิตกลับเปลี่ยวเหงา ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่ แม้จะเรียกร้องอย่างเปิดเผย เขาเฝ้าฝันถึงชีวิตและความรักที่สมบูรณ์พร้อม ไฮดี้เองก็เป็นเพียงสิ่งที่เขาพยายามจะค้นหา หลังจากที่ไม่พบในเมืองนี้ เหมือนกับที่ไฮดี้เองก็ไม่เจอ มันคือ…ความรัก

ราวกับผู้คนในเมืองนี้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสภาพที่เป็นอยู่ มีเพียงคนสามคนที่ยังเฝ้าคอยหาบางสิ่งที่หายไป หญิงต่างวัยสองคนที่ชื่อโบราณเหมือนกับอย่าง ไฮดี้ที่ออกจากบ้านมาเผชิญชีวิต ไอรีนที่รอคอยลูกชายให้กลับมาหาอีกครั้ง และ…ชายหนุ่มที่มีกลิ่นกายเดียวกับไฮดี้

ลำพังเพียงแค่เมืองท่องเที่ยวซึ่งผู้คนเพียงผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ท่ามกลางหิมะ และอากาศอันหนาวเย็น เหมือนที่ยามเช้าโจจะต้องราดน้ำร้อนชะโลมหน้ารถละลายหิมะที่เกาะอยู่ ก็เพียงพอทำให้มันสมกับเป็นเมืองที่ชวนหนาวเหน็บเข้าไปจับในใจเหมือนกับที่ตัวละครในเรื่องเผชิญ

วันหนึ่งไฮดี้ได้พบกับ น้องชายของเบียนก้าและครอบครัวที่ดูอบอุ่นราวกับชีวิตที่เธอใฝ่ฝัน แต่เบียนก้าเล่าว่าเด็กคนนี้เป็นโรคผิดปรกติบางอย่างที่จะแสดงอารมณ์ทางใบหน้าตรงกับสิ่งที่เขารู้สึกเท่านั้น น่าเศร้าก็คือเราแทบไม่เห็นเขายิ้ม และไม่สามารถตอบการ์ดทายคำศัพท์จากใบหน้าที่มีคำเฉลยว่า “Happy” ได้ จากนั้นไฮดี้ก็พบว่าอุดมคติที่อยู่ตรงหน้านั้นหาได้เป็นเธอมองแต่ภายนอกไม่

ก่อนที่ต่อมาเธอจะยังพบว่าเคยมีเมืองเก่าแต่เดิมตั้งอยู่ที่นี่ แต่ปัจจุบันมันได้ถูกฝังจมอยู่ในแม่น้ำไปเสียแล้ว ซึ่งนั่นก็อาจจะหมายความถึง “ชีวิต หรือสิ่งที่หล่อเลี้ยงมันอย่าความรัก” ของผู้คนที่นี่ได้ตายหายไปพร้อมกับเมืองที่จมนั้นเช่นกัน มันกลายเป็นเมืองที่ชีวิตถูกพลิกกลับให้กลายเป็นไร้ชีวิตไปเสียแล้ว

เมื่อโลกไม่ใช่เทพนิยาย มันก็ลงโทษเราหลังพ้นผ่านความสุขได้อย่างฉับพลัน ไฮดี้ก็ต้องพบกับความเจ็บปวดเพราะการหลีกหนีความจริงของตัวเอง เมื่อเธอลืมความทุกข์จากถุงมือสีแดง เธอก็ต้องสำลักความสุขเหล่านั้นอย่างทรมานด้วยพริกที่สีแดงเหมือนกัน พร้อมๆ กับการโกหกที่ส่งผลเลวร้ายแก่ตัวเธอเอง เช่นเดียวกับโจที่ยิ่งปิดบังความรู้สึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งเจ็บปวด และพบว่าคนที่เชื่อมั่นอย่างเขาเองก็ไม่อาจเข้าใจตนเองมากขึ้นเท่านั้น

หนังจบลงด้วยการให้ตัวละครทั้งสามต่างยอมรับความจริงซึ่งแสนเจ็บปวด แต่อย่างน้อยหลังจากไฮดี้ และโจที่ผ่านการมีเซ็กส์ พบปะ พูดคุยกันมาตลอดทั้งเรื่องโดยมองไม่เห็นสิ่งที่ต่างเฝ้าตามหาเลย พวกเขาก็ได้เริ่มมองเห็นเค้าลางของความรักสักที บางครั้งมันก็เป็นแค่เรื่องง่ายๆ แต่เรากลับเลือกมองข้าม ละเลยความง่ายที่อยู่ตรงหน้านั้นไป…ซึ่งนับเป็นประสบการณ์ล้ำค่ายิ่งกว่าภาพใดๆ ที่ไฮดี้ได้เคยบันทึก


ภาพสุดท้ายของหนัง ไฮดี้เปิดกระจกขณะนั่งรถ โบกมือรับสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง รับความภิรมย์แห่งชีวิตและธรรมชาติ…ที่เป็นจริง



เว๊บไซต์ภาพยนตร์ Somersault




 

Create Date : 15 สิงหาคม 2548
9 comments
Last Update : 29 เมษายน 2549 21:59:01 น.
Counter : 1181 Pageviews.

 

ชอบเรื่องนี้อย่างมากมาย อ่านแล้วก็อยากจะดูอีกซักรอบเลยนะเนี่ย แต่รู้สึกจะเหลือไม่กี่รอบแล้ว จะออกแล้วด้วย

คุณ Yuttipongเล่าได้แบบเก็บรายละเอียดมากเลย พึ่งเห็นนะเนี่ยว่ามีบล๊อคด้วย ไม่โปรโมทเลยนะเนี่ย เดี๋ยวจะแอบมาเป็นขาประจำอ่านอีกคนนะ

 

โดย: Androphobia (Androphobia ) 15 สิงหาคม 2548 17:58:48 น.  

 

ผมชอบ soundtrack somersault ของ decoder ring มากกว่าตัวหนังอีกอะ @(u_u)@

 

โดย: [wat] IP: 202.142.216.208 18 สิงหาคม 2548 11:38:16 น.  

 

แวะมาอ่านพร้อมกับเก็บเข้า favourite เป็นที่เรียบร้อย

 

โดย: joblovenuk 19 สิงหาคม 2548 0:50:36 น.  

 

หนังน่าสนใจ ที่หาไม่ได้ดูอีกแล้วเรา

 

โดย: หมื่นทิพ TRAVOLTA (เทพบุตรตบะแตก!! ) 20 สิงหาคม 2548 1:27:34 น.  

 

ฮิๆแฟนประจำตามมาอ่านจ้า

 

โดย: rachel IP: 202.5.81.71 21 สิงหาคม 2548 2:18:56 น.  

 

มาติดตาม หน้าใหม่คับ

 

โดย: Devil~StubBorn IP: 210.213.40.162 27 สิงหาคม 2548 6:26:31 น.  

 

"ชายหนุ่มที่มีกลิ่นกายเดียวกับไฮดี้"

แค่นี้ก้อเห็นภาพรวมของหนังเลยค่ะ
อ่านแล้วกระตุ้นให้อยากดู อยากเขียนบ้าง

เข้ามาแล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ

 

โดย: กี๋พกแป้ง 28 สิงหาคม 2548 14:25:26 น.  

 

ฮิๆแฟนประจำตามมาอ่านจ้า



โดย: rachel IP: 202.5.81.71 วันที่: 21 สิงหาคม 2548 เวลา:2:18:56 น.


เพิ่งรู้นะครับว่าผมมีแฟนประจำ ยังไงก็ขอขอบคุณในการติดตามอ่านครับ

 

โดย: yuttipung (yuttipung ) 14 กันยายน 2548 22:13:51 น.  

 

หนุกมากสำหรับเรื่องนี้..ดูแล้วเศร้า..เข้าใจว่าใครอะ..ที่รักเรา เอาไป8เต็ม10 ค๊าบ

 

โดย: A-leX IP: 203.121.171.114 30 มกราคม 2549 14:20:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.