Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
30 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
ว้อ…หมาบ้ามหาสนุก : อีกรูปแบบของการวิ่งหนี



จารีตสำคัญอย่างหนึ่งของคนระดับสามัญชนในสังคมไทยแต่อดีตก็คือการสืบทอดประเพณี และวัฒนธรรมพื้นบ้านต่างๆ ผ่านการบอกเล่าปากต่อปาก ไม่เน้นการจดบันทึก ซึ่งอิทธิพลเช่นนี้ยังรวมไปถึงวรรณกรรมที่มีลักษณะแบบมุขปาฐะ หรือวรรณกรรมที่มีการถ่ายทอดผ่านการบอกเล่า

งานในลักษณะนี้มักจุดเด่นคือ เนื้อหามีขนาดค่อนข้างสั้น, เน้นอารมณ์ขันโดยเฉพาะกับงานกลุ่มนิทานชาวบ้าน และแม้จะมีเนื้อหาบางส่วนคล้ายคลึงกับวรรณกรรมที่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร แต่จะมีรายละเอียดแตกต่าง รวมไปถึงทัศนคติที่มีต่อสังคมซึ่งแตกต่างไปจากจารีต หรือวัฒนธรรมส่วนกลาง

วรรณกรรมมุขปาฐะยังคงมีอิทธิพลอยู่ในสังคมไทยสืบทอดผ่านมาสู่ศิลปะแขนงต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงการแสดงตลกของคณะตลกในบ้านเราที่ส่วนใหญ่มีพื้นเพแสดงศิลปะพื้นบ้านมาก่อน รวมไปยังสื่ออย่างภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์

ไม่น่าเชื่อว่าผลงานของผู้กำกับ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ซึ่งโด่งดังในระดับนานาชาติ ก็นำลักษณะเด่นของวรรณกรรมแบบมุขปาฐะมาตีความใหม่ผ่านหนังอย่าง ดอกฟ้าในมือมาร ไปจนถึง แสงศตวรรษ และยั่วล้อกับบริบทยุคปัจจุบัน

แต่ที่ต่างกันคนละขั้วกับงานของอภิชาติพงศ์ แต่ก็ได้รับอิทธิพลวรรณกรรมมุขปาฐะมาเช่นกันและอยู่ในกระแสหลัก ไม่เคยห่างหายไปจากวงการภาพยนตร์ไทยในยุคหลังๆ เลยก็คือหนังตลกที่สร้างโดยกลุ่มนักแสดงตลก ซึ่งเริ่มจะมีที่ทาง และความนิยมมากกว่า ล่าสุดใน ว้อ ผลงานกำกับของ บรรจง สินธนมงคงกุล ซึ่งอำนวยการสร้างโดย เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือ หม่ำ จ๊กมก นักแสดงตลกชื่อดัง น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีของอิทธิพล และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของภาพยนตร์กลุ่มนี้ รวมไปถึงคุณภาพของงานสร้างที่พัฒนามากขึ้น

ย้อนกลับไปสมัยผู้เขียนยังเด็ก เรื่องเล่าหนึ่งที่ยังอยู่ในความทรงจำคือประกาศ-คำขู่ให้ระวังอันตรายของสุนัขที่ติดเชื้อจากโรคกลัวน้ำ เรียกกันง่ายๆ ว่าหมาบ้า ตั้งแต่ลักษณะรูปพรรณที่ผิดแผกของสุนัขที่ติดเชื้อ, อาการของผู้ถูกกัด, และการรักษาที่ทรมานไม่แพ้กัน ชนิดทำให้คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่หวาดกลัวกับสุนัขน้ำลายไหล หางตก กันอยู่เป็นระยะนานไม่ต่างกับเรื่องเล่าที่ต่างกันไป แต่กลายเป็นตำนานที่ดูน่ากลัวกว่าอย่าง ซีอุย, ผีปอป หรือตำนานผีในพื้นที่ต่างๆ

ว้อ เสมือนไปการนำเหตุการณ์ในอดีตนั้นมาสวมทับใส่ในขนบงานของหนังผี-ตลก กลุ่มเดียวกับ บ้านผีปอป หรือ โกยเถอะโยม แต่ปรับเปลี่ยนโดยพาเราไปพัวพันเหตุการณ์ความหวาดกลัวหมาบ้าในหมู่บ้านห่างไกลความเจริญ และปราศจากคนมีความรู้แห่งหนึ่งแทน

หลังการเสียชีวิตของเหยื่อหลายรายทุกคนต่างเชื่ออย่างแน่นอนว่า โชค หมาของผง(อนุวัตน์ ทาระพันธุ์) เด็กวัด ซึ่งมีเพียงตัวเดียวในหมู่บ้านคือตัวก่อเหตุคดีสะเทือนขวัญดังกล่าว ส่วนหนึ่งก็มาจากการปลุกปั่นของจิว(อำพล รัตนวงศ์) ลูกชายอันธพาลของผู้ใหญ่บ้านที่หลงรัก บงกช(เยาวลักษณ์ ตุ้มบุญ) คนรักของผง

จุดเด่น และจุดด้อยจากลักษณะแบบเรื่องเล่ายังอยู่ครบ โดยเฉพาะการตีความใหม่จนเหตุการณ์มีความเป็นแฟนตาซี หมาบ้าที่ทุกคนหวาดกลัวได้ถูกขยายขอบเขตจนเกินจริง ตั้งแต่คำร่ำลือ จินตนาการ จนปรากฎเป็นภาพที่เห็นของผู้ตายจากการถูกกัดเป็นแผลเหวอะหวะน่าสยดสยอง หรือสุนัขที่สายตาดุดัน แยกเขี้ยวคมกริบ เกินปรกติธรรมดา ซึ่งผ่านการตบแต่งให้เหนือกว่าสุนัขธรรมดาตัวหนึ่งด้วยเทคนิคพิเศษด้านภาพ

ฉากหนึ่งที่แสดงให้เห็นความหวาดกลัวเหนือจริงอย่างที่สุด คือขณะที่หลวงพ่อและชาวบ้านบางคนทนรวมกลุ่มไม่ไหว และเตรียมจะเดินหนีให้พ้นจากหมู่บ้านนี้ หมาบ้าตัวนี้ก็แสดงอิทธิฤทธิ์โผล่มาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียงสามารถกระโดดกัดชาวบ้านที่พยายามจะวิ่งหนีเอาตัวรอดจนคอขาดได้ในครั้งเดียว และทำเอาคนที่กำลังจะหนีตาย รีบเดินกลับแทบไม่ทัน - - ฉากนี้เรียกได้ว่าไม่ต้องสนใจเหตุผลกันอีกต่อไป เป็นฉากที่ทั้งเสียว และฮาไปพร้อมๆ กัน

แต่ขณะเดียวกันวิธีการเล่าที่เน้นความสั้นกระชับก็กลายเป็นดาบสองคม ที่แม้จะเปิดโอกาสให้นักแสดงตลกดาหน้ามาปล่อยมุขกันอย่างต่อเนื่อง แต่ฉากส่วนใหญ่ก็ซ้ำซากราวกับหลุดออกมาจากพิมพ์เดียวกัน และเผยให้เห็นความไม่ลื่นไหลได้เหมือนกันโดยเฉพาะกับมุขตลกที่ไม่ขำเพียงพอ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมาจากการแสดงของ สายสิน วงษ์คำเหลา ในบท น้าจุ่น ภารโรงหน้าตาย ซึ่งแม้จะแจ้งเกิดขโมยซีนได้มากกว่าใครในเรื่อง แต่บทจะถึงฉากที่มุขตลกเกิดฝืดก็พาเรื่องหยุดไปดื้อๆ

อย่างไรก็ดี จุดที่ทำให้ ว้อ ดูจะภาษีมีมากกว่าหนังตลกกลุ่มเดียวกัน ซึ่งจะเกิดจากความบังเอิญ หรือจงใจของผู้สร้าง เนื้อหาของหนังเองก็ไปพ้องกับสภาพสังคมปัจจุบันที่ยังอยู่ในภาวะความหวาดกลัวอย่างพอดิบพอดี ตั้งแต่ ความหวาดระแวงต่อผู้คนรอบข้างที่ความเห็นแตกแยก ความกลัวปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลัวความไม่มั่นคงที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางการเมือง และแต่ละฝ่ายต่างพยายามโยนความผิดต่างๆ ให้กับใครสักคนกลายเป็น ‘แพะ’ รับเอาความผิดทั้งหมด แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาหาทางรับมือ หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ต่างอะไรกับชาวบ้านที่กลัวหมาตัวหนึ่ง

และบางทีการจบที่เต็มไปด้วยการเทศนา สั้น และห้วน ซึ่งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข(ยืนยง โอภากุล) ตัวแทนจากภาครัฐ มาด่า ราเชนทร์(วชิระ พานนนท์) นักวิชาการจอมมั่วนิ่มว่า ‘รู้อะไรจริงบ้าง’ และกลุ่มผู้ใหญ่บ้านที่ถูกสวนกลับว่า ‘หัดช่วยตนเองบ้าง อย่าหวังแต่จะพึ่งคนอื่น’ ก่อนจะปล่อยเรื่องให้ทิ้งค้างคาไว้ราวกับหาทางจบไม่ลง ก็น่าจะเป็นบทสรุปที่เหมาะสมดีกับหนังซึ่งมีบทเฉลยไม่ยากเกินคาดเดา และเนื้อหาซึ่งถูกพาดพิงกลายๆ

เพราะเอาเข้าจริงแม้ปัญหาความขัดแย้งในปัจจุบันจะมีระดับความซับซ้อนมากกว่า การกลัวหมาบ้าในหมู่บ้านแห่งนี้ แต่สิ่งทีรับรองได้แน่นอนก็คือความสงบจะมาได้ไม่นาน ปัญหาเดิมๆ ก็คงจะเกิดขึ้นอีกเป็นแน่แท้ ตราบใดที่ยังมีความไม่รู้ และความรู้ไม่จริง โดยปราศจากการคิดแก้ปัญหาร่วมกันของคนในหมู่บ้าน หรือการช่วยเหลืออย่างจริงจังจากภาครัฐ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังแบบเดียวกับหมู่บ้านที่มีชื่อว่าประเทศไทย


Create Date : 30 กรกฎาคม 2551
Last Update : 24 มีนาคม 2552 15:49:55 น. 10 comments
Counter : 2103 Pageviews.

 
เป็นคนรักหมา ดูตัวอย่างหนังเรื่องนี้ทางทีวี
แล้วอยากไปดูจัง


โดย: Shallow Grave วันที่: 30 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:33:31 น.  

 
ยาวจัง...
มาแปะหน้าไว้ก่อนค่ะ
ยังไม่ได้นอนเลย เดี๋ยวกลับมาอ่านอีกทีนะคะ


โดย: กี๋พกแป้ง วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:33:02 น.  

 
Shallow Grave
^
^
^
แต่ในเรื่องเป็นหมาบ้า นา..

คุณกี๋
^
^
นี่จะมาบอกว่าไม่ได้นอนใช่ไหมครับ แหม ผมว่ายังไม่ยาวเท่าไหร่นะ


โดย: yuttipung IP: 58.9.200.163 วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:22:27 น.  

 
ชอบมาเลย


โดย: คนเลี้ยงหมา IP: 202.91.19.205 วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:16:27:53 น.  

 
เอ่อ... ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นคุณดูหนังเรื่องนี้ด้วย นี่ดูเพราะงานหรือเพราะอยากดูครับเนี่ย?

แต่เรื่องนี้ผมก็อยากดูนะครับ (ผมเป็นคนรักหมา) และเท่าที่ดูหนังตัวอย่างก็เหมือนว่ามันจะตลกดี


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:22:46:28 น.  

 
^
^
^

ไม่ว่าจะด้วยงานหรืออะไรก็ตาม นักวิจารณ์ก็ควรดูหนังได้ทุกประเภทอยู่แล้วครับ

ส่วนตัวไม่ได้อยากดูมากครับ แต่ถ้าเชิญไปดู และว่างก็จะดู

ใน Filmax ฉบับก่อนผมเขียนไปสองเรื่อง และเรื่องนี้เขาไม่ได้นำไปลง ก็เลยนำมาลงที่นี่ โดยเจตนาผมต้องการเขียนถึงหนังที่คนมองข้ามไปเยอะๆ ครับ เพื่อแสดงให้เห็นว่าหนังทุกเรื่องสามารถนำมาวิเคราะห์ได้หลายแง่มุม


โดย: yuttipung IP: 58.9.191.112 วันที่: 9 สิงหาคม 2551 เวลา:14:10:59 น.  

 
ยังไม่ได้ดูครับเรื่องนี้ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดูหนังเลย เพิ่งกลับจากเชียงรายมาครับ พรุ่งนี้ตั้งใจจะไปดู be kind rewind


โดย: joblovenuk วันที่: 9 สิงหาคม 2551 เวลา:18:39:48 น.  

 
ถ้าไม่ได้เครียดอะไรนัก ลองพักไป "ว้อ" กันสักนิด . . .


โดย: ฉลุยชัย คาราบาว IP: 203.152.26.195 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:14:29:58 น.  

 
ฮามากๆ อย่าดูอีก


โดย: LoVeKung IP: 118.172.128.167 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:11:23 น.  

 
..........................-*- *-* มันส์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆๆๆ เลยอ่ะ


โดย: Love IP: 118.172.128.167 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:13:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.