Bloggang.com : yuttipung : Sideways ลิ้มไวน์ค้นหาความหมายในชีวิต

Sideways ลิ้มไวน์ค้นหาความหมายในชีวิต

ฉันลองลิ้มชิมไวน์จนปลายทาง

กลับเคว้งคว้างไม่กระจ่างในทางรัก

รสอมฤตที่ชิดเชยเคยประจักษ์

กลับหน่วงหนักให้ยากนักจักลืมเลือน

หากตัวละครอย่างไมลส์ ช่างแต่งกลอนแบบกวีไทยสมัยก่อน จนกลายเป็นนิราศที่รำพันถึงคนรักระหว่างเดินทางนั้น บทสรุปของการออกชิมไวน์ของเขาและเพื่อนก็คงให้ผลไม่ต่างจากกลอนบทข้างบนนี้สักเท่าไหร่

บ่อยครั้งเส้นทางชีวิตก็ไม่ง่ายดายอย่างที่เราคิดฝัน ยิ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น ผ่านความผิดหวัง ความล้มเหลว ความสูญเสียมาไม่น้อย จนมีสภาพไม่ต่างจาก ผู้แพ้ และหลงลืมจุดมุ่งหมายในชีวิตไปหมด เหมือนกับตัวละครใน Sideways

ไมลส์(พอล เกียมาติ) ครูสอนภาษาอังกฤษ ชวนแจ๊ค(โทมัส ฮาร์เด้น เชิร์ช) เพื่อนที่เป็นอดีตดาราโทรทัศน์ ออกเดินทางไปยังแคลิฟอร์เนียเพื่อตระเวนเที่ยวชิมไวน์ และตีกอล์ฟ เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม เรื่องราวทั้งหมดก็เกิดจากความแตกต่างของพวกเขาทั้งคู่

แจ๊คกำลังจะแต่งงาน แต่ไมลส์เพิ่งหย่ากับคนที่เขารักและยังลืมไม่ได้ แจ๊คนั้นโผงผาง เจ้าชู้ ช่างคุยโอ้อวด เขาไม่ได้สนใจทริปครั้งนี้เท่ากับการเป็นอิสระก่อนสละโสด ไวน์ที่เพื่อนของเขาพยายามสอนวิธีการลิ้มรสนั้นไม่ได้ซึมซับเข้าหูแต่อย่างใด ส่วนคนที่พามาเองอย่างไมลส์กลับซึมเศร้า ช่างปรามาสตัวเอง วิตกจริตกับสิ่งต่างๆ ไปหมดแต่แรกเริ่มเดินทาง เมื่อรู้ว่าอดีตภรรยาจะมางานแต่งงานของแจ๊ค กลุ้มใจกับผลงานนวนิยายเล่มแรกที่ไม่รู้ว่าจะได้ตีพิมพ์หรือไม่

เรื่องชี้ให้เห็นบุคลิกของพวกเขาชัดขึ้นเมื่อทั้งคู่ได้พบหญิงสาวในการพักผ่อนครั้งนี้อย่าง มายา(เวอร์จิเนีย แมดเซ่น) และสเตฟานี่(ซานดร้า โอห์) ตัวไมลส์นั้นรู้จักกับมายามาก่อนแล้วในฐานะคอไวน์ที่สะสมและรสนิยมใกล้กัน และแจ๊คก็พยายามยุยงให้พวกเขากระชับความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่เขาล่วงหน้าไปกับสเตฟานี่ก่อนแล้วด้วยความช่างพูด เอาอกเอาใจ จนถึงขั้นเลยเถิดในเวลาไม่กี่วัน

อย่างไรก็ตามทั้งสองคนกลับมีสิ่งที่เหมือนกัน การมาเที่ยวของพวกเขาไม่ต่างจากการ โกหกตนเอง ปัจจุบันคนหนึ่งเป็นเพียงเป็นอดีตดาราที่ไม่มีงานแสดงให้เล่น เป็นได้แต่คนพากย์เสียงลงโฆษณา พอใช้อวดอ้างเท่านั้น เห็นได้จากความหวังในการตั้งต้นชีวิตใหม่อีกครั้งของแจ๊คกับครอบครัวมีอันจะกิน มีงานให้เขาทำ ส่วนไมลส์นั้นเราเห็นตั้งแต่ต้นว่าแม้จะอายุล่วงเลยมาจนเกือบ 40 เขายังกลับบ้านเพื่อขโมยเงินแม่เพื่อใช้ในการเดินทาง ตัวเขาเองก็มีความหวังเพียงได้ตีพิมพ์ผลงาน ตามที่เขาได้กล่าวแนะนำตนในฐานะ นักเขียน ทำให้การเออออห่อหมกกับแจ๊คที่พูดอวดเพื่อนอย่างไมลส์เป็นไปอย่างง่ายดาย

ไม่ว่าไมลส์จะมีรสนิยมในไวน์ที่ล้ำเลิศเพียงใด พิถีพิถันกับการดื่มไวน์แค่ไหน ก็คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทั้งเขาและแจ๊คนั้นต่างเมามายกับเมรัย เพียงเพื่อหลงลืมอะไรบางอย่างที่ขาดหายไปจากชีวิตนั่นเอง

แจ๊คเป็นตัวละครเพียงคนเดียวที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตคู่จริงๆ นั่นทำให้เขาสนุกสนานกับการโกหกถึงขั้นหลอกตัวเองเพื่อสืบสานความสัมพันธ์กับสเตฟานี่ในช่วงเวลาเที่ยวสั้นๆ จนวันหนึ่งเขาก็ต้องได้รับบทเรียนจากผู้หญิงที่ผ่านน้ำร้อนมาก่อน ทำให้ต้องตระหนักถึงการแต่งงานที่กำลังจะถึงว่าสำคัญแค่ไหน

ไมลส์ กับ แจ๊คอาจจะอยู่คนละฝั่ง คนหนึ่งซ้าย อีกคนขวา หากแต่ทั้งคู่ก็อยู่ ข้างทาง (Sideways)เหมือนกัน ไม่ได้เข้ามาสู่ตรงกลางของเส้นทางได้ซักครั้ง

แต่ท่ามกลางมุขตลกที่เรียกเสียงหัวเราะอยู่เป็นระยะ การถ่ายทอดอย่างเรียบง่าย สมจริง ทำให้เราค่อยๆ มองเห็นไมลส์ ผู้ชายขี้แพ้ เมารักและเมาไวน์ ว่าเป็นคนที่ละเอียดอ่อนใส่ใจกับทุกอย่าง ทั้งคนรัก เพื่อน งานเขียน หรือในการดื่มกิน ฉากที่เขาเปรียบความชื่นชอบในไวน์ปิโนต์ นัวร์(Pinot Noir) ซึ่งเป็นองุ่นพันธุ์ดีที่ต้องเลือกดิน เลือกพื้นที่การปลูก และหมั่นดูแลอย่างดีนั้น ไม่ต่างจากคำบอกเล่าบุคลิกที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาเอง

เมื่อท้ายที่สุดหลังการเดินทาง เขาได้พบกับคนรักเก่าอีกครั้ง ความเศร้าที่ถ่ายทอดออกมาอาจไม่โจ่งแจ้งแต่มันก็มากกว่าที่เขาดื้อรั้น หัวเสียระหว่างเที่ยวนัก วันเดียวกันนั้นเองไมลส์ได้ชิมไวน์ชั้นเลิศที่เก็บรักษามาอย่างดี ตอนนั้นมันดูไม่มีความหมายอะไรสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว

แล้วเราก็ไม่อาจจะหัวเราะเยาะเย้ยชายคนนี้เหมือนที่ผ่านมาได้อีก มันเป็นภาพสะท้อนมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ยังทุกข์ในห้วงรัก รู้จักเจ็บง่ายกว่าการลืม เช่นเดียวกับคนอีกมากมาย

บทบาทไมลส์ ที่เล่นโดย พอล เกียมาติ ชวนให้นึกถึงปัญญาชนวิตกจริตกับชีวิตแบบที่พบเห็นในหนังของวู้ดดี้ อัลเลน อันที่จริง อเล็กซานเดอร์ เพยน์ ผู้กำกับนั้นได้สร้างบุคลิกตัวละครแบบนี้มาก่อนแล้วดังที่ปรากฎใน Election(1999), และ About Schmidt(2002) แต่นิ่ง มีเสน่ห์ และสมจริงมากขึ้นใน Sideways ซึ่งการสร้างหนังออกนอกรัฐเนบราสก้าเป็นครั้งแรกของเพยน์ ได้สร้างประสบการณ์การเดินทางที่ล้ำค่ามากกว่าครั้งที่เราร่วมเดินทางไปกับ วอร์เรน ชมิต เมื่อหนังเรื่องก่อนเสียอีก

ประสบการณ์ข้างทางของไมลส์อาจเจ็บปวดกว่าแค่การเที่ยวจนลืมวันลืมคืน แต่ถึงอย่างนั้นไวน์ก็ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มที่ทำให้มนุษย์เมามายแต่ถ่ายเดียว มันอยู่คู่กับมนุษย์มาช้านานตั้งแต่แรกเริ่มการบันทึก ไวน์ปรากฎอยู่ในคัมภีร์ไบเบิ้ล เป็นเครื่องดื่มที่กลายเป็นวัฒนธรรมในหลายเชื้อชาติ หลายกรรมวิธี ผ่านภาชนะมาแล้วหลายรูปแบบทั้งถังไม้ หนังแพะ จนแก้วเจียระไน จากสิ่งย้อมใจของคนใช้แรงงานกลายเป็นความรื่นรมย์กับบรรดาชนชั้นกลาง และอีกสมบัติราคาแพงของชนชั้นศักดินาที่เอาไว้อวดอ้างสถานะของตน ไวน์อาจเป็นบทบันทึก สิ่งเลอค่าและปรัชญาอีกมากมายสุดแท้แต่คนจะตีความเครื่องดื่มชนิดนี้แตกต่าง แปรผันไปตามยุคสมัย เช่นเดียวกับสถานที่ปลูกอย่างแคลิฟอร์เนียที่ไม่ใช่ถิ่นดั้งเดิมของมันก็กลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อ หากแต่คุณค่าที่มีอยู่ในตัวของมันเองนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปรไป ไม่ได้ด้อยลงหรือสูงส่งขึ้น ไวน์มีชีวิตและความหมายในตัวเองที่ได้กำเนิดอยู่คู่กับมนุษย์มาจนทุกวันนี้

เช่นเดียวกับค่ำคืนนั้นของไมลส์ และมายา ถ้อยคำและความรู้สึกที่ทั้งสองได้ถ่ายทอดให้กันและกัน นวนิยายของไมลส์และความรู้สึกที่เธอได้อ่านมันจนจบ สิ่งเหล่านี้คือความสวยงามที่มีอยู่จริง

และไม่ต้องไปสนใจว่าจะมีอะไรมาเปลี่ยนมันไปได้

Create Date : 02 กรกฎาคม 2548

Last Update : 3 ธันวาคม 2548 12:03:14 น.

0 comments

Counter : 1813 Pageviews.