Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
23 กรกฏาคม 2548
 
All Blogs
 
The Incredibles : เรื่องของคนพิเศษ




ผู้กำกับและเขียนบท : แบรด เบิร์ด
ผู้ให้เสียงตัวละคร : เคร็ก ที.เนลสัน, ฮอลลี่ ฮันเตอร์, เจสัน ลี, แซมมวล แอล.แจ๊คสัน, และแบรด เบิร์ด
ทีมผู้สร้าง : พิกซาร์ สตูดิโอ




ผลงานอนิเมชั่นเรื่องแรกของแบรด เบิร์ดอย่าง Iron Giant ทำให้เราเชื่อได้ว่าเด็กคนหนึ่งสามารถเป็นเพื่อนกับหุ่นยนต์ยักษ์จากนอกโลกได้ ในงานล่าสุดอย่าง The Incredibles ก็สามารถทำให้เราเชื่อว่าซูเปอร์ฮีโร่นั้นกลายเป็นคนธรรมดาได้อย่างไม่น่าเชื่อสมชื่อเรื่องจริงๆ

The Incredibles เป็นทั้งหนังแอ๊คชั่นซูเปอร์ฮีโร่ ในขณะเดียวกันก็เป็นหนังตลก-ล้อเลียน หนังครอบครัว ที่น่าทึ่งก็คือแต่ละแนวที่กล่าวมาสามารถเล่าได้สนุก ครบถ้วนกระบวนความของหนังแต่ละประเภท

คงจะไม่กล่าวถึงงานสร้างการ์ตูนอนิเมชั่นซีจีของพิกซาร์ การออกแบบงานสร้าง ฉากตื่นเต้น โลดโผนเร้าใจ ฉากดราม่าอารมณ์เกินการ์ตูน หรือไตเติ้ลปิด ซึ่งเป็นสิ่งที่การ์ตูนค่ายนี้ดีเสมอต้นเสมอปลายและพัฒนาเรื่อยๆ อยู่แล้ว จะขอกล่าวถึงความดีเด่นของเนื้อเรื่องและตัวละครเป็นหลัก

หนังเปิดเรื่องโดยเล่าถึงอดีตยุค 60s อันรุ่งโรจน์ของซูเปอร์ฮีโร่ อินครีดิเบิ้ล(เคร็ก ที.เนลสัน) และฮีโร่คนอื่นๆ มันเป็นเหมือนกับทุกๆ วัน ตัวเขามีงานให้ช่วยเหลือไม่ขาดแม้แต่งานเล็กๆน้อยๆ ก็ดูเหมือนทุกคนต้องการซูเปอร์ฮีโร่ตลอด แต่เขาก็ดูมีความสุขกับงานพิทักษ์เมืองและโลกอย่างมาก แต่หารู้ไม่ว่าท้ายที่สุดมันจะเป็นวันที่พลิกชีวิตเขาและบรรดาซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายไปสิ้น

อินครีดิเบิ้ล และฮีโร่คนอื่น โดนคนให้เหตุผลอันหลากหลายที่ไม่ต้องการพวกเขาจนในที่สุดรัฐบาลต้องปลดระวางภารกิจของพวกเขาทั้งหลาย ทำให้ฮีโร่ทุกคนกลายเป็นคนธรรมดา อินครีดิเบิ้ล มนุษย์จอมพลังแต่งงานกับฮีโร่หญิงอีลาสติเกิร์ล สาวยืดได้หดได้ (ฮอลลี่ ฮันเตอร์) ใช้ชื่อว่าบ๊อบ และเฮเลน พาร์ร เวลาผ่านไปจนพวกเขามีลูกถึง 3 คน คนแรกคือ ไวโอเล็ตสาวรุ่น ซึ่งมีพลังในการล่องหนและสร้างสนามป้องกันตน, แดส เด็กชายวัยกำลังซน ผู้มีความเร็วเกินจะมองเห็น และแจ๊ค แจ๊ค ทารกผู้ยังไม่มีพลังอะไรแสดงเด่นชัด

บ๊อบ เบื่อหน่ายกับการปรับตัวในชีวิตประจำวัน เขาเลือกทำงานพิทักษ์คนแบบใหม่โดยกลายเป็นพนักงานบริษัทประกัน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ดั่งใจหวังในเมื่อบริษัทของเขา(ก็ทุกบริษัทประกันนั่นแหละ) ไม่ได้ต้องการสูญเสียเงินชดเชยให้ลูกค้าอย่างถูกควร นิสัยรักความยุติธรรมของบ๊อบทำให้เขาแทบจะเหลืออดกับชีวิตคนธรรมดาที่ไม่มีทางสู้อำนาจอีกรูปแบบของสังคม ที่ไม่อาจตัดสินกันได้ด้วยกำลัง มิหนำซ้ำกำลังเกินคนธรรมดาของเขารังแต่จะให้เกิดปัญหาเล็กๆน้อยๆ ในชีวิต และแน่นอนที่สุดเขาโหยหาอดีตอันรุ่งโรจน์ที่หายไปจากชีวิตมานาน

ไม่เว้นแม้แต่บ๊อบเอง ครอบครัวของเขาประสบปัญหาในการชีวิตกับพลังพิเศษที่มีอยู่ เฮเลนพยายามยืดหยุ่นบริหารครอบครัวแต่ดูเหมือนมันจะเกินแรงผิดกับพลังการยืดหดตัวที่เธอมี ไวโอเล็ตใช้พลังไปกับการหลบหนีเพื่อนและชายหนุ่มที่เธอแอบรัก แดสใช้ความเร็วไปกับการเล่นซนกลั่นแกล้งคนจนเกินปัญหา

ปัญหาที่บ๊อบประสบ ย่อมเป็นปัญหาที่ฮีโร่ทุกคนประสบ นำไปสู่การล่อลวงของตัวละครที่เสมือนด้านมืดแห่งจิตใจพวกเขาเอง คือ มิราจ (ภาพลวงตา) และทำให้บ๊อบได้พบกับเด็กที่อดีตของชื่นชมเขาอย่าง บัดดี้ ซึ่งอยากเป็นคู่หูของบ๊อบในนาม อินครีดิบอย แต่น่าเสียดายที่เมื่อเขาไม่ได้เป็น เขาจึงกลายมาเป็นตัวร้าย ภาคตรงข้ามของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ในนาม ซินโดรม(เจสัน ลี) ซึ่งมีชุดแต่งกาย ภารกิจลับในลักษณะเทียบเคียงและแทนที่ซูเปอร์ฮีโร่

หนังบอกสารแก่ผู้ชมอยู่บ่อยครั้งว่า “ทุกคนในโลกนี้เป็นคนพิเศษ” แต่ตัวละครส่วนใหญ่กลับไม่เข้าใจ เช่นแดสที่บอกกับคุณแม่ของเขาว่า “อย่างนั้นก็เท่ากับว่าไม่มีใครเป็นคนพิเศษ” บ๊อบเป็นพนักงานบริษัทไร้อันดับ

,ไวโอเล็ตเป็นวัยรุ่นเก็บตัว, แดสเป็นเด็กมีปัญหา และแม้แต่เฮเลนเธอก็ยังเริ่มหึงหวง และไม่เชื่อใจสามีของเธอเอง พลังพิเศษของพวกเขากลายเป็นปมด้อยมากกว่าปมเด่นไปเสียแล้ว

และนั่นทำให้พลังพิเศษที่แท้จริงของครอบครัวพาร์รไม่เคยนำมาได้ใช้ ทันทีที่ลูกๆ ของพวกเขาเจอสถานการณ์คับขัน พวกเขาต่างไม่สามารถมองเห็นพลังแฝงที่ซ่อนอยู่ในกายได้ เช่นเดียวกับบ๊อบ ที่เรื้อเวทีการต่อสู้มานานจนกลายเป็นตาลุงอ้วนๆ คนหนึ่งไปแล้ว

สาระที่แฝงเร้นไว้ใน The Incredibles ใหญ่เอาเรื่อง มันเป็นเช่นเดียวกับ Iron Giant คือการสะท้อนภาพสังคมอเมริกันยุคสงครามเย็นที่มุ่งเน้น “การสร้างภาพ” ให้กับประชาชน และผลกระทบในระดับปัจเจกหลังจากนั้น

ใน Iron Giant สายลับและคนทั่วไปแม้แต่ในชนบทของอเมริกามองประเทศฝ่ายตรงข้ามไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ต่างดาวและวัตถุประหลาดนอกโลก เช่นที่มันถูกสร้างภาพจากภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ ขณะที่ใน The Incredibles บ๊อบเองเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ประเทศเคยชื่นชมยกย่อง ได้รับการโหมประโคมจากสื่อและถึงขั้นเคยออกโทรทัศน์มาแล้ว สถานภาพของเขาในตอนนั้นไม่ต่างอะไรกับที่ซูเปอร์แมนเคยถูกอุปโลกน์เป็นดั่งสัญลักษณ์ของความรักชาติ แบบคนอเมริกัน ขณะที่เมื่อพ้นยุคสมัยบ๊อบกลับกลายเป็นดั่งตัวละครตกสมัยที่ความสามารถของเขาไม่มีใครต้องการ สถานภาพมันช่างแตกต่าง ผลกระทบของเขาและซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ ไม่ต่างอะไรกับผู้รอดชีวิตจากสงครามเวียดนามที่ปรับชีวิตเข้ากับสังคมไม่ได้ ภารกิจที่เขาเคยทำอย่างกล้าหาญถูกปกปิดด้วยหน้ากากที่ไม่อาจเปิดเผยตัวตน

แถมยังทำให้เกิดผู้ต่อต้านกลายเป็นศัตรูกับคนเหล่านั้นไม่ให้อยู่ในสังคม ซึ่งก็คือเด็กรุ่นหลังอย่าง บั๊ดดี้ ที่กลายเป็นคนอย่าง ซินโดรม ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นการสะท้อนภาพปัญหาการเกิดยับปี้ในสังคมอเมริกา กลุ่มคนที่หวังสร้างฐานะไม่สนใจปัญหาสังคม นอกจากเรื่องของตน เช่นเดียวกับที่ ซินโดรม ชื่นชมในศักยภาพและเทคโนโลยีที่ตนมีอยู่อย่างเหลือล้น

ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือเมื่อคนในระดับปัจเจกเหล่านั้นได้ถูกใช้แล้ว เมื่อเห็นว่าไม่มีประโยชน์คนเหล่านั้นก็อาจถูกกำจัดออกไปจากสังคม หรือกลายเป็นคนไร้ตัวตนที่ไม่มีใครสนใจ ซึ่งหนังสะท้อนภาพนั้นได้อย่างน่าขนลุกในฉากที่บ๊อบ หรืออินครีดิเบิ้ลพบข้อมูลลับการกำจัดซูเปอร์ฮีโร่ของซินโดรม ซึ่งมันยังบ่งบอกอีกด้วยว่าวัฏจักรของการสร้างภาพเองก็กำลังจะนำมาปัดฝุ่นอีกครั้งไม่เปลี่ยนแปร(เช่นเดียวกับนโยบายของสหรัฐฯในขณะนี้ไม่มีผิด)

อย่างไรก็ตามตัวละครที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ครอบครัวพาร์รเข้าใจและรู้หลักการปรับตัวในชีวิตมากขึ้น ก็ได้ปรากฎตัวขึ้นนั่นคือตัวละครขโมยซีนประจำเรื่อง เอ๊ดน่า โหมด(แบรด เบิร์ด) ดีไซเนอร์ชุดของซูเปอร์ฮีโร่ หญิงแก่ร่างเล็กที่ไร้ความสามารถพิเศษใดๆ แต่เธอก็ยังเฝ้ารอคอยในการสร้างชุดใหม่ๆ สำหรับฮีโร่ แม้ในยุคที่จะไม่มีพวกเขาเหล่านั้นแล้วก็ตาม มิหนำซ้ำใช่ว่าเธอจะอยู่เฉย กลับลับฝีมือคิดค้นพัฒนาไม่ให้ชุดเหล่านั้นตกสมัย พัฒนาให้มีประสิทธิภาพการใช้งานดียิ่งขึ้น

เมื่อนั้นเองที่ครอบครัวพาร์รได้พบกับความสุขและความวิเศษจากการเป็นคนธรรมดา เมื่อพวกเขาพบคุณค่าของพลังเหล่านั้นจริงๆ มันเป็นวันธรรมดาอีกวันที่บ๊อบไม่ต้องหัวเสีย เฮเลนไม่ต้องดุด่าลูกในการใช้พลัง แต่พวกเขากำลังชื่นมื่นที่เห็นลูกๆ มีความสุข

แบรด เบิร์ด ไม่ได้เล่าเรื่องอย่างจืดชืด เขามีจังหวะจะโคนในการเดินเรื่อง เร่งเร้าเต็มที่ในฉากตื่นเต้นหรือบีบคั้นอารมณ์ สนุกกับการใส่มุขตลก การแทรกฉากล้อเลียนมาในจังหวะที่เกินคาด หรือแม้แต่ทำให้เรายิ้มไปกับการตั้งชื่อตัวละครทุกคนที่ทำให้เรารู้ถึงลักษณะพวกเขาตั้งแต่ต้นแต่ก็อดขำไม่ได้

หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูเหมือนจะซ้ำซากในวันที่หนังใช้คนเล่นประเภทนี้ถูกสร้างมาในปริมาณเกินพอดี แต่หนังการ์ตูนอย่าง The Incredibles คือทางเลือกที่น่าเชื่อในคุณภาพ และทำให้เราเชื่อว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ยังมีที่ทางของมันจริงๆ


ป.ล. หนังอาจจะมีปัญหาอยู่บ้างก็ตรงความรุนแรงที่มาพร้อมกับฉากแอ๊คชั่น และความโหดตัวละครฝ่ายร้าย ในปริมาณมาก ผู้ชมควรมีอายุเกิน 13 ปีขึ้นไป

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง: //disney.go.com/disneypictures/incredibles/index.html




Create Date : 23 กรกฎาคม 2548
Last Update : 23 กรกฎาคม 2548 23:23:27 น. 11 comments
Counter : 3910 Pageviews.

 
เป็นการ์ตูนเรื่องที่ผมชอบมากๆ ครับ ทั้งสนุกและดนตรีโคตรเยี่ยม สมเป็นผู้กำกับ Iron Giant จริงๆเลยล่ะครับ


โดย: หมื่นทิพ TRAVOLTA (เทพบุตรตบะแตก!! ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:45:09 น.  

 
ตอนชมในโรง โอยชอบมากๆครับเรื่องนี้ ทำได้สุดยอดเกินคาดจริง โดยเฉพาะตัวละคอน edna mode หุหุ แต่พอเอา dvd กลับมานอนดูอีกรอบที่บ้าน ไหงดูไม่จบหลับไปซะก่อน @(u_u)@

[wat]


โดย: [wat] IP: 61.90.102.15 วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:8:32:51 น.  

 
ยังไม่เคยได้ดู Iron Giant เลยครับ คิดว่าคงน่าดูพิลึก ผมเชื่อว่าความเป็นฮีโร่เกิดจากวัฒนธรรมและสถาณการณ์หรือโอกาสทางการเมืองนะ อย่าว่ากันเลยนะครับว่าผมเฉยๆ กับหนังเรื่องนี้ ถึงแม้ Production มันจะดีก็ตาม อย่างไงผมยังชอบ Toy Story หรือ The Bug's life มากกว่า


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:31:59 น.  

 
นานาจิตตังนะครับ แต่นี่ก็ไม่ใช่อนิเมชั่นที่ผมชอบที่สุดเหมือนกัน ผมเองก็ชอบ 2D แบบดั้งเดิมอย่าง Beauty and The Beast หรือหนังของจิบลิสตูดิโอมากกว่าครับ


โดย: yuttipung IP: 210.246.67.89 วันที่: 27 กรกฎาคม 2548 เวลา:18:21:31 น.  

 
ปกติหนังอนิเมชั่นจะเป็นทางเลือกสุดท้าย
แต่ตอนนี้ชักจะน่าสนใจแล้วสิคะ

มาเยี่ยมตามสัญญาค่ะ แอดบ๊อกคุณ yuttipung ไว้แล้วนะคะ

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดูหนัง และไม่ได้เขียนเรื่องหนังเลย
อาศัยอ่านเอาจากบ๊อกเพื่อนๆ นี่แหละค่ะ

ท่าทางคงได้เป็นแขกประจำบ๊อกนี้ซะแล้ว


โดย: กี๋พกแป้ง วันที่: 27 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:47:01 น.  

 
ผมเพิ่งไปเจอใน film club น่ะครับ

ชื่อ: yuttipung e-mail: yuttipung@icqmail.com
อ่านตรงให้คะแนนแล้วงงครับ Kingdom of Heaven ผมยังไม่ได้ดู แต่เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน นี่สิ เขาเล่นเรื่องนี้ด้วยเหรอ
Jun 3, 2005 11:32:43

มายืนยันครับว่า นอร์ตัน (ขวัญใจผม) แสดงด้วยอย่างจริงแท้และแน่นอนครับ


โดย: oad_furlong IP: 203.151.140.119 วันที่: 7 สิงหาคม 2548 เวลา:0:52:20 น.  

 
Cast (in credits order) complete, awaiting verification
Martin Hancock .... Gravedigger
Michael Sheen .... Priest
Nathalie Cox .... Balian's Wife
Eriq Ebouaney .... Firuz
Jouko Ahola .... Odo
David Thewlis .... Hospitaler
Liam Neeson .... Godfrey
Philip Glenister .... Squire
Orlando Bloom .... Balian
Bronson Webb .... Apprentice
Kevin McKidd .... English Sergeant
Nikolaj Coster-Waldau .... Village Sheriff
Steven Robertson .... Angelic Priest
Marton Csokas .... Guy de Lusignan
Alexander Siddig .... Nasir
Velibor Topic .... Almaric
Michael Shaeffer .... Young Sergeant
Eva Green .... Sibylla
Brendan Gleeson .... Reynald
Nasser Memarzia .... Muslim Grandee
Jeremy Irons .... Tiberias
Jon Finch .... Jerusalem
Edward Norton .... King Baldwin
Lotfi Yahya Jedidi .... Old Ibelin Housekeeper (as Lofti Yahya Jedidi)
Samira Draa .... Sibylla's Maid
Ulrich Thomsen .... Templar Master
Matthew Rutherford .... Rider
Michael Fitzgerald .... Humphrey
Ghassan Massoud .... Saladin
Khaled El Nabaoui .... Mullah (as Khaled Nabawy)
Karim Salah .... Saracen Messenger (as Karim Saleh)
Shane Attwooll .... Reynald's Templar Knight
Giannina Facio .... Saladin's Sister
Emilio Doorgasingh .... Saracen Engineer
Peter Cant .... Peasant Boy
Angus Wright .... Richard's Knight
Iain Glen .... Richard Coeur de Lion

ไปค้นใน IMDB มามีจริงๆด้วย ขอบคุณมากครับที่มาตอบ


โดย: yuttipung IP: 203.118.106.69 วันที่: 8 สิงหาคม 2548 เวลา:11:46:47 น.  

 
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลย น่ารักดี


โดย: เด็กเดน IP: 61.19.218.129 วันที่: 6 ตุลาคม 2548 เวลา:14:05:31 น.  

 
เป็นอะไรที่อยากดูเหมือนกันแต่ผมมาอ่านคำวิจานช้าเกินไปอีกอย่างหนังก็ออกไปแล้ว


โดย: tiwa IP: 58.8.90.210 วันที่: 2 มีนาคม 2549 เวลา:22:06:35 น.  

 
ชื่อพี่สาวคนโตเหมือนชื่อเราเลยละ เราชอบการ์ตูนนี้มาก ดูเท่าไหร่ก้ไม่เบื่อเลย เยี่ยมจริงๆ


โดย: ไวโอเล็ต IP: 125.25.47.180 วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:8:58:26 น.  

 
^
^
^
ถ้าหน้าตาเหมือนกันด้วย คงน่าตกใจเลยนะครับ


โดย: yuttipung วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:14:49:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.