Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
13 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 
Paradise Now ไม่มีสวรรค์สำหรับใคร



ปัญหาความขัดแย้งของการแบ่งแยกดินแดน ระหว่างชาวยิว และชาวปาเลสไตน์ นั้นได้ต่อสู้ยืดเยื้อมายาวนานกว่า 60 ปีนับตั้งแต่ที่ชาวยิวคิดจะสร้างประเทศโดยตั้งถิ่นฐาน ณ ดินแดนปาเลสไตน์ ซึ่งเชื่อว่าเคยเป็นบ้านเกิดของตน จนมีการจัดตั้งรัฐอิสราเอลขึ้นแบ่งดินแดนกับปาเลสไตน์ จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง สู้รบกันมาตลอด และไม่ใช่แค่เพียงปัญหาของ 2 ฝ่ายเท่านั้น แต่ยังลุกลามกลายเป็นการแบ่งข้างระหว่าง 2 ขั้วอำนาจต่างให้การสนับสนุนแต่ละฝ่ายไปแล้ว ทั้งฝั่งอเมริกา และอังกฤษ ที่สนับสนุนชาวยิว กับชาวอาหรับ ที่อยู่ข้างชาวปาเลสไตน์

เพียงเฉพาะเหตุการณ์โศกนาฏกรรมวันที่ 11 กันยายน 2001 ณ ตึกเวิล์ดเทรด ดูจะเป็นสิ่งที่บอกถึงคนอเมริกา และทั่วโลกอย่างชัดเจนว่า ความขัดแย้งของสองประเทศนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวเราอีกต่อไป...นั่นทำให้มีผู้สนใจสร้างหนังเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวมากมายหลายเรื่องตามมา

เฉพาะปี 2005 มีงานทั้งจากอเมริกา และยุโรปทำหนังหลายต่อหลายเรื่อง ราวกับต้องการเป็นกระจกสะท้อนทัศนคติของตนเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้ง ทั้งการชี้ถึงต้นตอปัญหา เหตุการณ์ความรุนแรงที่คาบเกี่ยว ในลักษณะต่างๆ กันไป ไม่ว่าจะเป็น Munich ของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก, A History of Violence ของ เดวิด โครเนนเบิร์ก, Hidden ของ มิเคล ไฮเนเก้ หรือแม้แต่หนังรางวัลออสการ์ปีล่าสุด Crash ของ พอล แฮกกิส ซึ่งแม้จะมีมุมมองและกลวิธีนำเสนอแตกต่างกัน แต่ต่างก็เหมือนจะบ่งบอกชัดว่า ต้นตอของปัญหาที่ปะทุรุนแรงในปัจจุบัน นั้น แท้จริงมีมายาวนาน และสั่งสมมาโดยไม่ได้การเยียวยามันอย่างจริงจัง จนฝังรากลึกในพฤติกรรมของผู้คน และจากอคติของคนไม่กี่คนได้ก่อผลต่อคนจำนวนมาก ผู้ได้รับผลกระทบเหล่านั้นก็ก่อเกิดความเจ็บแค้นต่อเนื่องเป็นปมปัญหาต่อเนื่อง ถึงตอนนี้การจะยุติข้อขัดแย้งต่างๆ ย่อมไม่สามารถแก้ไขในระยะเวลาอันสั้น

เช่นเดียวกับผลงานจาก ฮานี อาบู-อัสซาด ผู้กำกับชาวปาเลสไตน์เองอย่าง Paradise Now ที่สามารถคว้าถึง 3 รางวัลจากเทศกาลหนังเบอร์ลินปี 2005 รวมถึงรางวัลหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมจากลูกโลกทองคำ รวมถึงรางวัลจากอีกหลายเทศกาล

คาเลด(อาลี ซูไลมาน) กับ ซาอิด(คาอิส นาเซฟ) ช่างซ่อมรถคู่ซี้ ในเขตเวสต์แบงค์ เมืองนาบลุส ภายนอกพวกเขาเป็นเพียงวัยรุ่นชาวมุสลิมธรรมดา ที่ยังรักสนุก เพลิดเพลินกับความบันเทิงเล็กๆ น้อยๆ อย่างการจิบชา และสูบยา เพื่อคลายเครียดจากการงานที่ต้องถูกโขกสับจากทั้งเจ้านาย และเจ้าของรถที่พวกเขาซ่อม ในช่วงพักจากงาน คาเลดมีนิสัยที่ห่ามกว่าทั้งท่าทางและคำพูด ขณะที่ซาอิดเป็นคนเงียบๆ แต่เขาเองก็มีสาวสวยมาแอบชอบ พวกเขาดูมีความสุขตามอัตภาพ และไม่ได้มีลักษณะของคนเคร่งศาสนาแต่อย่างใด

ใครจะไปคิดว่าอีกไม่นาน จามัล(เอเมอร์ ฮเลฮัล) คนจากองค์กรปาเลสไตน์จะมาแจ้งว่าพวกเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้เสียสละ หรือ วีรธรรมชน(Martyr) ซึ่งนั่นก็หมายถึงการปฏิบัติภารกิจมือระเบิดพลีชีพในเมืองเทลอาวีฟ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและความเจริญของอิสราเอล หากจะนับช่วงเวลาในการตัดสินใจ ไปจนถึงวันที่ลงมือของทั้ง คาเลด และ ซาอิด ทั้งหมดกินเวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น !...จากจุดเริ่มต้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ความผิดพลาดระหว่างการเข้าเส้นแบ่งเขต อิสราเอล-ปาเลสไตน์ ทำให้ภารกิจต้องเลื่อนไป ช่วงเวลานั้นเองที่ทำให้พวกเขาได้รับข้อมูลมากมาย รวมถึงความรู้สึกจากคนรอบข้าง

ช่วงนั้นเองที่ ซูฮา(ลุบน่า อซาเบล) ชาวปาเลสไตน์สาวสวยได้เข้ามามีบทบาท เธอเข้ามาในเขตเวสต์แบงค์เพื่อมาซ่อมรถในร้านที่ทั้งสองคนทำงาน ซูฮามีใจให้กับซาอิดอย่างเปิดเผย และเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนจากคนดู หรือคนนอก แม้จะเป็นลูกสาวของอาบู อัสซัม ผู้นำที่ได้รับความเคารพของที่นี่ แต่เพราะไปใช้ชีวิตอยู่ในยุโรปมานาน ซูฮาจึงเชื่อในวิถีทางที่ประนีประนอม นั่นทำให้เธอพยายามอธิบายถึงผลเสียที่ซาอิดกำลังจะกระทำ และพยายามทำความเข้าใจ ถกเถียง ในทุกวิถีทาง รวมถึงความรักที่มีให้กับเขา

แต่ก็เช่นเดียวกับปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของประเทศไทย ที่มีเบื้องลึก และปัญหาสั่งสมยาวนานกว่าที่ใครจะคาดคิด ความขัดแย้งของคนปาเลสไตน์ก็ฝังลึกจนยากจะมีใครไปเปลี่ยนแปลง และเกินกว่าที่เราจะมองอย่างผิวเผิน...การติดตามค้นหาซาอิด ของซูฮา ก็ทำให้เธอพบว่าร้านถ่ายรูปยังสามารถช่วยเพิ่มความคิดต่อต้านกับอิสราเอล, ซาอิดเองก็ไม่ใช่วัยรุ่นที่ขาดสติจากความคิดเพียงชั่ววูบ เมื่อเขาเปิดเผยอดีตให้ซูฮา และผู้ชมได้รับรู้ และนิสัยไม่ช่างพูดของซาอิดนั้นก็ทำให้เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

Paradise Now ต่างจากหนังจากประเทศในแถบเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่หนังอิหร่านโด่งดังด้วยงานซึ่งได้รับอิทธิพลศิลปะการทำหนังแบบ Neo-Realism ทั้งการถ่ายทำแบบทุนต่ำ- ดูสมจริงคล้ายสารคดี กับเรื่องที่เรียบง่ายแต่ชวนสะเทือนใจจากปัญหาสังคม หนังจากปาเลสไตน์เรื่องนี้กลับถ่ายทำที่สากลกว่า มีลักษณะการดำเนินเรื่องที่กระชับ และอารมณ์ขันแบบตลกร้าย

หนึ่งในฉากร้ายกาจที่อาจขำไม่ออก คือตอนที่ทั้งคาเลด และ ซาอิด มาพบเจอกันหลังจากที่ต่างตัดสินใจปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ จากคำชวนของคนในองค์กรที่บอกว่าวีรกรรมของเขานั้นจะได้รับการยกย่อง รวมถึงชีวิตหลังความตายที่พระเจ้าจะรับทั้งคู่ไปยังสรวงสวรรค์

แต่เมื่อถึงเวลาต้องบันทึกถ้อยแถลงปฏิบัติการของตนผ่านหน้ากล้อง คาเลดก็ได้รับบทให้อ่าน ออกท่าทางไม่ต่างกับนักแสดง ถึงตอนนี้ดูเหมือนเขาจะเริ่มรู้สึกลึกๆ แล้วว่านี่ไม่ใช่หน้าที่ในฐานะศาสนิกชนเสียแล้ว...เช่นเดียวกับซาอิดที่มีโอกาสเล็ดลอดเข้าไปในเมืองเทลอาวีฟ เฝ้ามองผู้คนที่ไม่มีความผิดต้องเตรียมรับเคราะห์จากการกระทำของตน

ครั้นจะขอยกเลิกหน้าที่ดังกล่าว ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ในเมื่อทั้งคู่ต่างก็เห็นเหตุระเบิด การสู้รบนองเลือด อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนไม่อาจหลงลืมความแค้นของชาวปาเลสไตน์ออกไปได้

ถึงตอนนี้เอง คาเลด และซาอิด ตระหนักแล้วว่านี่คงเป็น 2 วันที่ยาวนานที่สุดในชีวิต นอกจากพวกเขาจะไม่รู้สึกถึงโลกหน้าที่เป็นสวรรค์แล้ว ซ้ำร้ายยังเหมือนตกอยู่ในขุมนรกเลยด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าเนื้อหาของ Paradise Now ย่อมจะทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย โดยเฉพาะจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำดังกล่าว อย่างไรก็ตามหากมองด้วยใจเป็นธรรม ตัวหนังเพียงไม่ได้ให้ภาพพวกเขาเป็นฆาตกรเลือดเย็น ไร้ชีวิตจิตใจ แต่เลือกสำรวจสภาพของคนธรรมดาที่อยู่ระหว่างความเป็นความตายในชีวิต มีสิ่งใดบ้างที่เป็นแรงจูงใจให้ชายสองคนนี้ตัดสินใจกลายเป็นมือระเบิดพลีชีพในช่วงเวลาสั้นๆ

ท้ายที่สุดหนังเองก็ไม่ได้ให้ทางออกแต่อย่างใด(เช่นเดียวกับหนังการเมืองหลาย ๆ เรื่อง ในปี 2005) มันเพียงสะท้อนสภาพที่เกิดขึ้น และคงอยู่ในปัจจุบัน ส่วนทางแก้ไขปัญหาให้เกิดสันติภาพบนโลกนั้นจะเป็นได้หรือไม่

คำตอบคงอยู่ที่คนดูอย่าง เรา ท่าน ทุกคน


Create Date : 13 มิถุนายน 2549
Last Update : 13 มิถุนายน 2549 12:28:15 น. 5 comments
Counter : 969 Pageviews.

 
น่าสนใจจัง


โดย: พจอ3 IP: 202.143.162.134 วันที่: 13 มิถุนายน 2549 เวลา:15:19:37 น.  

 
ได้ดูแต่ Innocent Voice ค่ะ เรื่องนี้ไม่ได้ดู

ดู Always แล้วค่ะ ชอบนะคะ แม้บางช่วงจะบิ๊ลท์มั่กๆ แต่ก็ชอบอยู่ดีค่ะ แหะๆ

แวะมาทักทายค่ะ

ดูหนังดีๆ สองเรื่อง แต่ไม่ได้เขียนถึงหนังลงบล็อกตัวเองเลยค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 มิถุนายน 2549 เวลา:19:16:26 น.  

 
ทุกคนที่ไปดูเรื่องนี้บอกผมเป็นเสียงเดียวเลยครับว่าหนังดีมาก ผมก็อยากไปดูมากเลยครับ แต่กระเป๋าแบนแฟนทิ้งไปหน่อยช่วงนี้ เลยคาดว่าจะรอแผ่นน่ะครับ


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:21:53:18 น.  

 
^
^
^
กระเป๋าตุง แฟนตรึม เพื่อนฝูงกระหึ่ม บึ้มไปเลยมายเฟรนด์ 555

ของอย่างนี้นานาจิตตังครับ มีคนบอกว่าไม่ดีก็มี


โดย: yuttipung IP: 202.44.8.100 วันที่: 16 มิถุนายน 2549 เวลา:14:12:49 น.  

 
ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น


โดย: ฮารุ IP: 125.26.128.56 วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:11:56:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.