Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2548
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 
Farewell Kuro แด่เจ้าหมาเพื่อนยาก

ในฐานะที่เป็นไม่เคยเป็นคนเลี้ยงสุนัข ก็ยอมรับว่านี่คือสัตว์เลี้ยงที่เราคุ้นเคยที่สุดตั้งแต่สมัยโบราณกาล มันได้กลายเป็นเพื่อนร่วมทางกับมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย และแทบจะทุกชนชาติ ยิ่งเห็นได้ชัดว่าต่อมาสุนัขก็ได้มีบทบาทในการแสดงภาพยนตร์ ทั้งในฐานะนักแสดงนำหลัก และบทสมทบที่อาจจะเรียกคะแนนคนดูมากกว่าเสียอีก

แต่สำหรับคูโร่ มันเป็นสุนัขเพศเมียสีดำ ที่มีชีวิตอยู่จริงในช่วงปี 1960 ในโรงเรียนมัตสึโมโต้ ฟุกาชิ ร่วม 10 ปี จนเมื่อถึงคราวจากไป ผู้คนก็ได้จัดพิธีศพขึ้นให้เกียรติกับสุนัขตัวหนึ่งที่เคียงคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนักเรียนหลายพันคน และในที่สุดก็ได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวของมันกลายเป็นภาพยนตร์ใน Farewell Kuro เพื่อบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับมันอีกต่อหนึ่ง สุนัขตัวนี้ย่อมไม่ธรรมดา และต่างจากหนังสัตว์สี่ขาอีกหลายๆ เรื่อง

หนังสามารถแบ่งช่วงชีวิตของเจ้าคูโร่เป็น 3 ช่วง ตั้งแต่ช่วงยังเล็กที่ถูกเลี้ยงตามบ้านแถบชานเมือง จนวันหนึ่งมันก็ถูกปล่อยทิ้งไว้ตามลำพังหลังจากที่ครอบครัวนี้ต้องย้ายที่อยู่ ด้วยสัญชาตญาณมันจึงออกดั้นด้นไปตามถนนจนพบเรียวสุเกะ(ซาโตชิ ซึมาบุกิ) เด็กมัธยมที่กำลังไปเรียนแต่เช้าเพื่อจัดงานของโรงเรียนจึงเข้าช่วงที่ 2 และสุดท้ายคือช่วงบั้นปลายชีวิตของคูโร่

หากมองงานศิลปะด้วยมุมมองสร้างสรรค์สังคมเพียงลำพัง การสร้างหนังเพื่อระลึกถึงเพื่อนร่วมโลกอย่างเห็นความสำคัญแบบใน Farewell Kuro ผู้กำกับ มัตสึโอกะ โจจิ ก็สมควรได้รับคำชมอยู่แล้ว แต่หนังยังใส่การเปรียบเทียบให้สุนัขไม่ได้เป็นเพียงเพื่อน แต่ยังเป็นตัวแทนยุคสมัยของผู้คน จากยุคหนึ่งผ่านไปอีกยุคนับเวลาได้สิบปี มีความผันผวนมากมายโดยเฉพาะจากยุค 60-70 ยังได้ขึ้นชื่อเป็นยุคแห่งการแสวงหาเสรีภาพ ก่อนจะปิดฉากลงพร้อม ผู้คนที่บ้างล้มหายตายจาก บ้างถูกกลืนหายไปกับระบบ บ้างก็รู้สึกพ่ายแพ้ หรือมองไม่เห็นทางข้างหน้า

คูโร่ในตอนต้นจากเดิมที่เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงประจำครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง มันก็เดินไปตามถนนจนถูกดึงไปเข้าร่วมในขบวนพาเหรด ในฐานะสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักของไซโก้ หนึ่งในบุคคลสำคัญที่มีบทบาทต่อการเปลี่ยนระบบการปกครองของญี่ปุ่น นั่นยังรวมไปถึงภายในขบวนบุคคลสำคัญที่ต่างมุ่งเน้นถึงการมองหาความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นพระถังซัมจั๋ง หรือ มหาตมะคานธี จากนั้นมันก็กลายเป็นเพื่อนเล่นของนักเรียนทั้งชายหญิง ความเชื่องแสนรู้ถึงกับทำให้คนเคยขยาดต้องหลงรัก ที่รักใคร่ของครูใหญ่ สร้างความผวาให้กับครูที่กลัวสุนัขเป็นทุนเดิม และเป็นยามให้กับภารโรงประจำโรงเรียน กลายสภาพเป็นหนึ่งในสมาชิกสำคัญในโรงเรียนอย่างรวดเร็ว

อันที่จริงบทบาทของสุนัขแสนรู้ตัวนี้ต้องยอมรับว่าไม่ได้ปรากฏให้เราเห็นในปริมาณที่เทียบเท่ากับตัวละครคนอื่นๆ แต่คูโร่ก็ช่วยสร้างอิทธิพลให้กับคนในเรื่องแตกต่างกันไปจนแทรกซึมกลายเป็นอิทธิพลให้ปรากฏอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรักสามเส้าของ เรียวสุเกะ และ โคจิ(อาราอิ ฮิโรฟุมิ) ที่ต่างหลงรักยูกิโกะ(อิโตะ อายูมิ) แต่แสดงออกต่างกัน ตัวเอกของเราอย่างเรียวสึเกะไม่กล้าที่จะเปิดเผยความในใจ อยากคบหากันแบบเพื่อนต่อไปนานๆ แต่โคจิกลับอยากแสดงความรู้สึกแบบเปิดเผย เพราะมองถึงการเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้าที่ทั้งสองคนต้องไปเรียนต่อในเมือง และอิงกับแนวคิดเสรีตามยุคสมัย จนผ่านไปสิบปีเข้าสู่ช่วงชราของคูโร่ สายตาและชีวิตของสุนัขตัวหนึ่งก็ยังไปเกี่ยวข้องกับเคนจิ(คานาอิ ยูตะ) เด็กหนุ่มหัวรั้นที่นิสัยเกกมะเหรก ไม่ยอมเรียนต่อเพราะมองไม่เห็นหนทางข้างหน้าในยุคที่เงินเป็นตัวแปรสำคัญ ชี้วัดฐานะตามสายตาของเคนจิ แต่เราก็มองเห็นความเป็นคนมีจิตใจอ่อนโยนจากความรักใคร่ในตัวคูโร่ เอานมที่เขาส่งตอนเช้ามาให้มันได้ดื่มกินทุกวัน และตัวคูโร่เองก็กลายเป็นแรงผลักดันให้เขามองโลกในมุมที่ต่างออกไปจากเคย



คูโร่ได้ช่วยปลอบโยนจิตใจ และสร้างกำลังใจให้กับนักเรียนจำนวนมาก อย่างน้อยที่เราได้เห็นชัดเจนก็คือ ยูกิโกะที่คิดจะฆ่าตัวตาย หรือ เคนจิซึ่งมองไม่เห็นหนทางในการเรียนต่อ ใครหลายคนที่คิดว่าตนพ่ายแพ้ก็ยังเห็นคูโร่ที่ยังมีชีวิตคู่โรงเรียน ครู และนักเรียนมาได้นับสิบปี

คล้ายกับที่หนังนำเอาภาพยนตร์ในแต่ละยุคสมัยมาเปรียบเทียบแทนความรู้สึกของตัวละครในห้วงเวลานั้น ตั้งแต่ยุค American New Wave หรือที่ตัวละครในเรื่องเรียกว่า New Cinema ทั้งคำถามในยุคแห่งเสรีที่มีตัวละครแบบรักสามเส้าอย่าง The Graduate(1967) เหมือนกับที่ ยูกิโกะ ต้องเผชิญ ในการดูหนังครั้งต่อมา ก็ให้ภาพเปรียบบาดแผลของยุคสมัยจากเรื่อง Bonnie and Clyde(1967) ที่สองโจรหนุ่ม-สาวคือตำนานอาชญากรที่กลายเป็นตัวแทนของเสรีภาพที่มีบทสรุปลงท้ายอย่างเย้ยหยัน เหมือนกับที่เกิดกับโคจิ ล่วงพ้นไปสิบปี เรียวสึเกะ และอากิโกะ กลับมาเจอกันอีกครั้งหน้าโรงหนังประจำจังหวัด ในวันที่ผู้คนผ่านเหตุการณ์มามากมาย การปลอบขวัญให้มองเห็นว่าแม้พ่ายแพ้ยังชนะใจผู้คนได้ของโปสเตอร์ Rocky(1976) ก็แปรเปลี่ยนเป็นฮีโร่ของผู้คนในยุคนั้นแทนที่บาดแผลที่คั่งค้างจากยุคก่อน

คูโร่เองก็ทำหน้าที่ได้ไม่ต่างจากโรงภาพยนตร์ในเมืองมัตสึโมโต้ ครูคนหนึ่งถึงกับกล่าวว่าคูโร่เองก็เป็นเหมือนครูของโรงเรียนแห่งนี้เช่นกัน ในฐานะที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งมีคนผ่านเข้ามาเพื่อแสวงหาความรู้ และจากไปตามวิถีทางของตนแต่โรงเรียนและคูโร่ก็ยังอยู่รอเด็กนักเรียนรุ่นใหม่ๆ เข้ามา คูโร่จึงกลายเป็นเสมือนตัวแทนความทรงจำของยุคสมัยไปโดยปริยาย ยุคหนึ่งเรามองมันเป็นตัวแทนของสิ่งหนึ่ง เวลาผ่านไปมันก็กลายเป็นตัวแทนความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง เหมือนกับที่ผ่านไปสิบปี เรียวสึเกะ และอากิโกะ ก็หันกลับมาทำความเข้าใจกันมากขึ้น ยุคสมัยแม้จะสร้างความเจ็บปวด และความสุขระคนกัน แต่สังคมเองก็มีกลไกบางอย่างที่หล่อเลี้ยงให้เราก้าวไปข้างหน้าต่อไป

สาระของหนังจึงอยู่ที่ว่า มนุษย์เองนั้นแท้จริงขาดสังคมไม่ได้ แน่นอนว่าในทุกสังคมย่อมมีความหมายของมิตรภาพในระดับวงกว้างอย่างโรงเรียน ถึงระดับย่อยอย่างกลุ่มเพื่อนกลุ่มเล็กๆ แต่ที่แน่ยิ่งกว่านั้นเพื่อนที่ดีที่สุดในทุกยุคทุกสมัยของเราก็คือสุนัข สัตว์เลี้ยงแสนรู้ที่ไม่ยึดติด ไม่เอียงไปทางไหน แต่อยู่เคียงข้างเราเสมอมาไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพระดับไหน มันยังคงเป็น “เพื่อนร่วมทาง” กับเราอยู่เสมอ...คำๆ นี้ถูกย้ำชัดอีกครั้งในเพลงปิดเรื่องของหนังที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกับเพลง The Long and Winding Road ของ The Beatles

ผู้กำกับ มัตสึโอกะ โจจิ เล่าเรื่องราวของสุนัขตัวนี้ และผู้คนที่เกี่ยวข้องอย่างฉลาด ค่อยเป็นค่อยไป เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่เน้นความฟูมฟายให้มากจนเกินพอดีโดยเฉพาะเหตุการณ์ตอนท้ายซึ่งอารมณ์ของหนังอาจนำพาไปได้ในหลายช่วง แต่ผู้กำกับก็รักษาสมดุลไว้ได้อย่างน่าชื่นชม

แม้จะติดบรรยากาศที่ค่อนข้างพ้นสมัยไปบ้างตามยุคสมัยของเรื่อง รวมถึงวิธีการนำเสนอในตอนจบ แต่ความเชยหลายๆ อย่างก็ถูกทดแทนด้วยบรรยากาศที่สวยงามของภาพที่ถูกถ่ายทอด และดนตรีบรรเลงร่วมสมัยที่เปิดและปิดเรื่องได้อย่างไพเราะ ทำให้ความย้อนยุคในเรื่องดูร่วมสมัยได้มากขึ้น


...และถึงอย่างไรสุนัขก็ยังเป็นเพื่อนร่วมทางกับเรามาทุกยุคทุกสมัย ไม่เคยมีคำว่าเชย


Create Date : 29 สิงหาคม 2548
Last Update : 2 ธันวาคม 2548 20:36:35 น. 8 comments
Counter : 848 Pageviews.

 
เพิ่งไปดูมาเหมือนกันค่ะ

=)


โดย: hunjang วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:12:52:17 น.  

 
ไปดูมาเหมือนกันค่ะ

ชอบนะคะ ไปดูที่ลิโด้เหมือนกันหรือเปล่า?


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:13:05:15 น.  

 
จะดูพรุ่งนี้ ดังนั้นขอไม่อ่านนะค่ะ เดี๋ยวกลับมาอ่านอีกทีหลังจากดู


โดย: ปีกที่ไม่อาจจะโบยบิน (WhaT iT'S W๐l2tH ) วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:14:03:36 น.  

 
ึคนละโ่รงครับ ของผมที่เฮาส์


โดย: yuttipung IP: 61.91.191.10 วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:14:08:21 น.  

 
ไม่พลาดแน่ครับเรื่องนี้


โดย: jonykeano วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:14:53:11 น.  

 
ช่วงนี้หนังซึ้งๆ ออกมาติดต่อกันหลายเรื่อง ..
แต่คุโระนี่ผมไม่ได้ไปดูเฮะ ...

ผมดู 5x2 (ค่อนข้างดีหากดูลึกซึ้งนะ)
และก็ PS. (ธรรมดาถึงน่าเบื่อทีเดียว)


โดย: A-leX IP: 202.57.143.114 วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:15:07:44 น.  

 
หวัดดีครับ ผมได้ดูหนังติดกันเหมือนคุณ A-lex เลย เหมือนไม่มีผิด โดยรวมผมชอบทุกเรื่อง ถ้าจะจัดลำดับคงเป็น

5x2
Farewell Kuro
และก็ P.S. นั่นแหละ


โดย: yuttipung IP: 61.91.191.10 วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:15:14:14 น.  

 
แปะไว้ก่อนค่ะเรื่องนี้
เดี๋ยวดูแล้วค่อยกลับมาอ่าน


โดย: กี๋พกแป้ง วันที่: 5 กันยายน 2548 เวลา:2:09:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.