Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
28 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 
The Bow คันธนูผู้มั่นคง



ชายชรา (จอน ซองฮวาง) อาศัยอยู่กลางทะเลเวิ้งว้าง เงียบสงัด บนเรือคู่ชีพลำใหญ่ ลอยอยู่อย่างสันโดษ ไร้กลุ่มเรือ หรือเพื่อนร่วมผืนน้ำ วันหนึ่งๆ ชีวิตของชายผู้นี้ไม่มีสิ่งท้าทายอะไรนัก กับการขับเรือยนต์ลำเล็กประกอบอาชีพพาคนจากในเมืองมาตกปลา แต่ในไม่ช้าผู้คนที่แวะเวียนมาในเรือลำนี้ก็รู้ความลับบางอย่าง

ชายชราวัยหกสิบปีผู้นี้ อยู่กับ เด็กสาวรุ่นวัยสิบหก (ฮัน โยริม จาก Samaritan Girl) ที่เขาเก็บมาเลี้ยงแต่ยังเด็ก อาบน้ำ ขัดสีฉวีวรรณ หาเสื้อผ้า สอนการใช้ชีวิต ทำมาหากินบนเรือ โดยไม่เคยเหยียบย่างขึ้นสู่ฝั่ง
ลูกค้าประจำบางคนถึงกับแอบนินทาเรื่องลับๆ ว่าอีกเพียงไม่กี่วัน เมื่อเด็กสาวครบสิบเจ็ดปีบริบูรณ์ ก็จะถูกจับแต่งงานกับเฒ่าหกสิบคนนี้...ไม่ใช่คำพูดกล่าวหาลอยๆ เพราะภายหลังเราก็ได้เห็นชายชราตั้งหน้าตั้งตาขีดฆ่าวันในปฏิทินในแต่ละวัน ไม่ต่างกับวัวแก่รอเคี้ยวหญ้าอ่อนยามเขียวสด และหอมหวานที่สุด

นอกจากพฤติกรรมที่ไม่งามตามสายตาของคนทั่วไปแล้ว
เฒ่าทะเลผู้นี้ยังมีอีกอาชีพหนึ่งคือหมอดู วิธีการทำนายของเขาก็สร้างความประหลาดใจ ปนหวาดเสียวให้กับคนที่พบเห็นไม่แพ้กัน...การทำนายเริ่มต้นจากให้เด็กสาวลงไป แกว่งชิงช้าระหว่างลายวิจิตรที่วาดบนลำเรือ รอเวลาให้ชายชราซึ่งอยู่บนเรือลำเล็กกลางคลื่นทะเลซึ่งโยกไหวให้โคลงเคลง ง้างคันธนูยิงลูกศรไปดอกแล้วดอกเล่าให้ปักบนเนื้อไม้อย่างเฉียวฉิวจากอันตรายถึงชีวิตแก่ฝ่ายหญิง หากเธอก็หาได้ครั่นคร้ามไม่ ยังคงแกว่งไกวไปอย่างไม่รู้สึกรู้สา
คล้ายว่าเป็นเหตุการณ์แสนปรกติที่คุ้นเคย หลังจากยิงเสร็จครบ 3 ดอก เธอจะลุกขึ้นมาจากชิงช้า เพื่อกระซิบข้างหูบอกโชคชะตาของผู้ถูกทำนายกับเขา ประหนึ่งเทพธิดาที่มาเผยอนาคตแก่ผู้อัญเชิญ

ด้านปรกติของชายชราเป็นเพียงชาวประมงที่หลบหนีความเจริญ มีชีวิตอันเรียบง่าย แต่อีกด้านเขากลับมีเรื่องที่ท้าทายเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ

เด็กสาวเองนั้นเล่า บุคลิกที่เหมือนจะไร้เดียงสา แต่ความสาวที่ผลิแย้มในตัวเธอมากขึ้นทุกวัน ก็เพิ่มเสน่ห์ และจริตจก้านตามธรรมชาติของร่างกาย จนมีลูกค้านักตกปลาหลายต่อหลายคนมาแทะโลม แต่ดูเหมือนเธอเองจะยังเลือกภักดีกับชายชรามากกว่า อาจเพราะเธอไม่มีทางเลือกมากนักบนเรือกลางทะเลเวิ้งว้าง

ชายชราใช่จะไม่เคยพบเห็นความเจริญ เพราะเขาต้องใช้เรือยนต์ลำเล็กเดินทางไปรับ-ส่งลูกค้า รวมถึงออกไปซื้อของในเมือง เหตุผลประการเดียวที่เขาเลือกกำหนดให้ชีวิตของตน และหญิงสาวเป็นเช่นนี้ เป็นเพราะการแต่งงานกับหญิงที่เขาอุตส่าห์ฟูมฟักมาแต่อ้อนแต่ออก คือเป้าหมายสำคัญ และเป็นเป้าหมายเดียวในชีวิต...คิดแล้วอาจเป็นเรื่องน่าขัน และน่าชิงชังในสายตาคนนอก แต่สำหรับชายแก่ชาวประมงเช่นเขา นี่อาจเป็นสิ่งที่พึงหวัง และพึงกระทำได้ สำหรับการหาคนข้างกาย มีชีวิตให้เพียงครบความต้องการของมนุษย์คนหนึ่งบนโลก

จนวันหนึ่งเขาก็ไม่อาจปิดกั้นความเจริญ และโลกทัศน์ของเธอได้อีกต่อไปเมื่อ เด็กหนุ่มนักศึกษา(แซ ซิจอค) เข้ามาบนเรือลำนี้ ด้วยหน้าตาและบุคลิกที่คมคาย พร้อมกับเทคโนโลยีอย่างเครื่องเล่นซาวนด์อเบาท์ ก็ทำให้หญิงสาวสนใจเข้าไปใกล้ชิดสนิทสนมอย่างออกหน้าออกตา แม้จะสร้างความหึงหวงและโกรธขึ้งแก่ชายผู้เลี้ยงเธอมากแค่ไหน ก็หาได้สนใจไม่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาจนถึงขึ้นที่เด็กหนุ่มได้ทราบเรื่องราวความเป็นมาคนทั้งคู่แล้วถึงกับทนไม่ได้ ออกไปสืบประวัติเด็กสาวจนเชื่อว่าเธอเป็นเด็กทารกที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อสิบหกปีก่อน พร้อมเรียกร้องให้ชายชรารับผิดชอบปลดปล่อยเธอกลับคืนยังแผ่นดิน

ชีวิตที่มีเพียงสอง กลับมีผู้เข้ามาแทรกกลาง ชายชราจะเอาชนะเด็กหนุ่มได้อย่างไร และเด็กสาวจะเลือกชีวิตใหม่หรือเปล่า

The Bow มีอะไรหลายอย่างที่เหมือน 3-Iron ผลงานก่อนหน้าของ คิม คีดุก ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลักที่พูดน้อย จนถึงขั้นไม่พูดอะไรเลย แต่ดำเนินเรื่องโดยอาศัยดนตรีเป็นตัวกลบความเงียบ ช่วงท้ายที่ตัวหนังกลายเป็นงานแฟนตาซีเมื่อผสมผสานเรื่องเล่าที่ปะปนความเชื่อเหนือธรรมชาติของชาวเอเชียเอาไว้ รวมถึงการจบด้วยประโยคสั้นสรุปแนวคิดของหนัง ขณะเดียวกันก็รวมองค์ประกอบหลายๆ อย่างในผลงานเรื่องก่อนๆ ไว้เช่นกัน
ตั้งแต่เนื้อหาที่คาบลูกคาบดอกในเรื่องที่ขัดต่อศีลธรรมอันดี(Samaritan Girl), เหตุการณ์ที่เกิดกลางสายน้ำ(The Isle), งานจิตรกรรม และวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากนิกายเซ็น(Spring, Summer, Fall, Winter…and Spring), สาระที่ว่าด้วยอุดมคติกับความเป็นจริง(Real Fiction)

คันธนูถูกแทนเป็นหลายต่อหลายสิ่ง บางครั้งมันคือเครื่องมือเลี้ยงชีพในการทำนายโชคชะตา, บางครั้งก็เป็นอาวุธที่ใช้ต่อสู้ปกป้องตนและเด็กสาวจากคนภายนอก, บางครั้งก็เป็นเครื่องดนตรีไว้คอยจรรโลงใจ ขับกล่อมเพลงแก่เด็กสาว รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ที่เปรียบเสมือนความปรารถนาของชายชราผู้นี้ ไม่ต่างกับตัวแทนของอวัยวะเพศ…แต่เหนืออื่นใดคันธนูในเรื่องเป็นอีกตัวละครหนึ่งที่เป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างคนสองคน ต่างเพศ ต่างวัย ให้สื่อสารกันได้เพียงสองคน

นับตั้งแต่ Spring, Summer, Fall, Winter,… and Spring หนังของ คิม คีดุก ก็มีโทนที่เบาลงไปเยอะ ภาพความรุนแรงที่ผู้ชมบางกลุ่มอาจรับไม่ได้ ซึ่งยังคงมีให้เห็นประปราย แต่ก็ลดลงไปมาก จนน่าจะถือได้ว่า The Bow เป็นงานที่ดูง่ายที่สุดของเขา อย่างไรก็ตามงานของเขาก็นิ่ง และสุขุมขึ้นมากเช่นเดียวกันในการสื่อสารกับผู้ชม มีงานกำกับที่สวยงาม
ใช้ดนตรีช่วยดำเนินเรื่องได้อย่างมีพลัง การนำเสนอชีวิตคนชายขอบของสังคมซึ่งบางครั้งเข้าใจยาก อาจถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นนามธรรมมากขึ้น แต่เมื่อเทียบกับหนังในทางเดียวกัน ตัวละครในหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีลักษณะเป็นอุดมคติจนเกินไป พวกเขาเหล่านั้นมีดีมีเลวอยู่ในตัว ไม่ต่างกับมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง

จากตัวละครไร้ชื่อ สถานที่ซึ่งไม่มีการระบุหลักแหล่ง หรือกาลเวลาที่ชัดเจน ทำให้ตัวละครหลักทั้งสองแปลกและแตกต่างจากตัวละครอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด พร้อมกันนั้นสถานที่ซึ่งพวกเขาดำรงชีวิตก็ปลีกห่างจากผู้คนราวกับอยู่คนละโลก เป็นสองชีวิตที่อาจไม่เข้าใจโลกที่อยู่ฝั่ง แต่รู้ลึกซึ้งยิ่งกับนาวากลางมหาสมุทร ทางเลือกและบทสรุปของตัวละครใน The Bow เองก็ยังคงเป็นชีวิตที่หลายคนบนโลกทุกวันนี้อาจไม่เข้าใจ หากมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ มีการกระทำอีกมากมายในโลกที่ซับซ้อน แปลกประหลาดจนไม่สามารถหาคำอธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์, ด้วยการตีค่าของสังคม, ด้วยหลักศีลธรรม แต่ทุกอย่างบนโลกก็มีคำตอบในตัวของมันเสมอ หากเพียงเราเปิดใจ และยอมรับ


Create Date : 28 มิถุนายน 2549
Last Update : 18 กรกฎาคม 2549 13:06:09 น. 20 comments
Counter : 4519 Pageviews.

 
งานของคิมคิดุกนี่ผมเคยดูมาก็ 2 เรื่อง
คือ ซามาริทันเกิร์ล กับ สปริง ซัมเมอร์ ฟอล วินเทอร์ และเรียกว่าถูกจริต จะดูไปเรื่อย ๆ ครับ


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 28 มิถุนายน 2549 เวลา:23:58:11 น.  

 
ลองหาดู Bad Guy, Real Fiction, The Isle ดูนะครับ อาจจะไม่ถูกจริตแล้วก็ได้


โดย: yuttipung IP: 202.44.8.100 วันที่: 29 มิถุนายน 2549 เวลา:10:45:09 น.  

 
เห็นโฆษณาตอนไปดู Innocent Voice ค่ะ

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดวันอาทิตย์นี้จะไปเยี่ยมๆ มองๆ ที่ลิโด้


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 มิถุนายน 2549 เวลา:18:10:22 น.  

 
เยี่ยมๆ มองๆ แต่ไม่ดูใช่มั้ยครับ


โดย: yuttipung IP: 202.44.8.100 วันที่: 29 มิถุนายน 2549 เวลา:18:22:54 น.  

 
รอดูอยู่ค่ะ ที่ลิโด้ เอ้ะ หรือเข้าแล้ว

ชอบ the isle ค่ะ 3 iron คงต้องไปฝึกวิชามาอีกหน่อย
แต่ก็ชอบหนังที่ท้าทายแบบนี้นะ คิดว่าต้องหาดูแผ่น นั่งรับสาร กันฉากต่อฉาก

เห็นเพื่อนที่ดูแผ่นสีลม เล่าว่าชอบเรื่องนี้น้อยกว่า 3 iron ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าเทสเดียวกันเหรือเปล่า
ถ้าว่างก็จะไปพิสูจน์เองค่ะ


โดย: LUNATIC SPACE IP: 202.57.173.118 วันที่: 1 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:44:40 น.  

 
เรื่องนี้ พี่ว่าดูง่ายที่สุดของเขาแล้วครับ


โดย: yuttipung IP: 202.44.8.100 วันที่: 2 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:11:04 น.  

 
ตกลงก็ไม่ได้ไปแล้วล่ะค่ะ พอดีติดธุระ เสียดายจัง

อาทิตย์นี้ก็ไปเที่ยวซะด้วย หลังการเที่ยวก็คงไม่ได้ดูหนังอีกนาน (เพราะตังค์หมด )


สวัสดีวันจันทร์ค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 3 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:01:55 น.  

 
ไปดูไม่ทันเลยค่ะ


ขอบคุณค่าที่ไปแวะที่บล็อค


โดย: octavio วันที่: 9 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:23:59 น.  

 
ทันดูครับ ส่วนตัวผมก็ชอบนะครับ คิดว่าเป็นหนังที่ดูง่ายของคิม คิ ดัก ( ยังไม่ได้ spring ว่าจะเช่ามาหลายที่แล้ว ) มองโดยภาพรวมผมคิดว่า 3 iron ของพี่แกยังดีกว่าอยู่นิดๆน่ะครับ ( เรื่องนี้ว่าจะเขียนๆอยู่ แต่ผลัดไปผลัดมา จนเลยฟีลที่จะเขียนไปซะแล้ว )


โดย: job (joblovenuk ) วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:53:37 น.  

 
ต้องได้ฟีลด้วยหรือครับ อารมณ์ศิลปินเชียว


โดย: yuttipung IP: 202.44.8.100 วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:37:23 น.  

 


โดย: renton_renton วันที่: 19 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:50:45 น.  

 
อ่านแล้วนึกถึงหนังเรื่องนึงที่เคยดู เป็นเรื่องของมาเฟียหนุ่มกับสาวบริสุทธิ์ที่ถูกเขาหลอกจับมาขายตัว จากไม่เต็มใจและเกลียดชัง แต่สุดท้ายเธอก็ร่วมทางไปกับเขา ขายตัวไปเรื่อยๆ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันแบบไม่มีความสัมพันธ์กันทางกายเลย แต่ดูแล้วรู้สึกว่ารักกัน เป็นความสัมพันธ์ที่แปลกดีค่ะ

แต่กี๋จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้วอ่ะ เพื่อนให้ยืมดู เป็นดีวีดี

เรื่องนี้คุณท้อปได้มาจากไหนคะ น่าดูมากๆ อยากหามาดูมั่งอ่ะค่ะ


โดย: กี๋พกแป้ง วันที่: 20 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:36:53 น.  

 
กำลังจะเติม คิม คีดุก ลงในรายชื่อผู้กำกับคนโปรดแล้วครับ ขออีกเรื่องสองเรื่อง


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 20 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:49:46 น.  

 
ถึง คุณกี๋ เรื่องที่คุณกี๋ว่าคือ Bad Guy ครับเป็นหนังของผู้กำกับคนนี้เหมือนกัน ผมชอบกว่าเรื่องนี้เยอะครับ ดูจริงใจกว่า แม้จะไม่ลงตัวเท่าก็ตาม อ้อ แมงดา ครับ ไม่ใช่ มาเฟีย

ส่วนเรื่องนี้เข้าโรงนะครับ แต่น่าจะออกไปแล้ว


โดย: yuttipung วันที่: 21 กรกฎาคม 2549 เวลา:3:35:47 น.  

 
นับจำนวนคนเข้าบล็อคมีอยู่ในหมวดเมนู แหละครับ เข้าไปที่ manage your block แล้วดูด้านซ้ายมือน่ะครับ มันมีบอกอยู่ครับ


โดย: joblovenuk วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:22:48:14 น.  

 
แวะมาหาอีกรอบค่ะ

ช่วงนี้งานยุ่งเหรอคะ?


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 สิงหาคม 2549 เวลา:17:40:16 น.  

 
ก็พอสมควรครับ เพราะเพิ่งสอบเสร็จ ขอบคุณที่ยังติดตาม


โดย: yuttipung (yuttipung ) วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:13:51:38 น.  

 
เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เราชอบที่สุดของ คิม คิ ดุกแล้วจริงๆ ^^ คือเราว่าเรื่องนี้ก็ดูง่ายดีนะ เข้าใจง่ายสุดแล้วมั้ง


โดย: Fly to the sky วันที่: 13 สิงหาคม 2549 เวลา:22:07:25 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านเรื่องหนัง เพราะยังไม่ได้ดู

แวะมาทักทายจ้า : )


โดย: jimkong วันที่: 27 สิงหาคม 2549 เวลา:22:24:48 น.  

 
เริ่มติดตามดูหนังของเฮียคิมมาตั้งแต่ Spring เข้าฉายในเทศกาลหนังนานาชาติกรุงเทพ ยิ่งดูยิ่งชอบมากขึ้นเรื่อยๆครับ โดยเฉพาะ The Bow นี่แหละ ผมว่ามาสเตอร์พีซของเขาแล้ว(ไม่นับเรื่องก่อน Spring เพราะยังไม่เคยดู)

ล่าสุดดูเรื่อง Time ไม่ชอบเท่า 3เรื่องก่อนหน้านั้น แต่ก็ยังเป็นหนังเยี่ยมครับ


โดย: das Kino วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:19:36:45 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.