มัมมี่ทารกฝาแฝดเพศหญิง อายุประมาณ 5-7 เดือน ที่พบในสุสานฟาโรห์ตุตันคามุน หรือคิงทัต ที่เมืองลักซอร์ กำลังเข้ารับการตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อหาว่า เป็นพระธิดาของคิงทัตหรือไม่ และกว่าจะทราบผลการตรวจนั้น ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน
ดร.ซาฮี ฮาวาส อธิบดีกรม ศิลปากร ประเทศอียิปต์ กล่าวว่า "เมื่อได้ผลดีเอ็นเอแล้ว จะนำมาเปรียบเทียบกับทั้งฝาแฝดและกับทั้งดีเอ็นเอของคิงทัต การตรวจสอบนี้มีขึ้นในโครงการหาความสัม พันธ์ของราชวงศ์ ว่า มัมมี่นั้นเป็นของผู้ใดและเป็นเครือญาติทางไหน โดยเราต้องตรวจดีเอ็นเอกับมัมมี่นับร้อยศพ เพราะราชวงศ์ของคิงทัตนับว่ายังเป็นปริศนาอยู่ เราไม่ทราบว่า พระบิดาพระมารดาของพระองค์คือใคร แม้นักโบราณคดีหลายคนจะเห็นว่า คิงทัตน่าจะเป็นโอรสของฟาโรห์อะคีนาเทน แต่บางส่วนเห็นว่า น่าจะเป็นโอรสของฟาโรห์ที่ครองราชย์ต่อจากอะคีนาเทนมากกว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมต้องการทราบมากที่สุดคือ มัมมี่ใดเป็นของพระนางเนเฟอร์ตีติ ผู้ที่ได้ชื่อว่า มีพระสิริโฉมมาก"
นักโบราณคดีเชื่อว่า คิงทัตเข้าพิธีอภิเษกสมรสเมื่อพระชนมายุ 12 ปี กับ "พระนางอันคีเซนามุน" พระธิดาของฟาโรห์อะคีนาเทนและพระนางเนเฟอร์ตีติ ทั้งคิงทัตและอันคีเซนามุนไม่มีโอรสหรือธิดาที่รอดชีวิต และเมื่อคิงทัตชันษา 19 ปี พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์อย่างปริศนา
ฮาวเวิร์ด คาร์เตอร์ นักโบราณคดีชาวอังกฤษ เป็นผู้ค้นพบสุสานคิงทัตเมื่อค.ศ.1922 พระองค์ประสูติเมื่อ 1,341 ปีก่อนคริสตกาล หรือเกือบ 3,400 ปีที่แล้ว ศ.โรเบิร์ต คอนนอลลี ผู้เชี่ยวชาญด้านกายวิภาคศาสตร์ซึ่งทำงานกับกรมศิลปากรอียิปต์ มีความเห็นว่า "มัมมี่ 2 ศพที่พบน่าจะเป็นพระธิดาของคิงทัต และน่าจะเป็นฝาแฝดกัน แม้ว่ามัมมี่อีกศพหนึ่งมีรูปร่างใหญ่กว่า เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ผมเทียบกลุ่มเลือดของมัมมี่ทารกตัวใหญ่และกลุ่มเลือดของคิงทัต พบว่า ทั้งสองน่าจะเป็นพ่อลูกกัน" ก่อนหน้านี้ อียิปต์ประกาศว่า พบมัมมี่ของพระนางฮัต เซปซุต ราชินีที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในอียิปต์และมีพระชนม์ชีพอยู่เมื่อ 3,500 ปีก่อน แต่ภายหลังนักวิทยาศาสตร์เพียงแต่ให้ข้อมูลว่า กำลังทำการตรวจดีเอ็นเออยู่เพื่อยืนยันว่าเป็นมัมมี่ฮัตเซปซุต
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
