Bloggang.com : vodca : Review : Wine Dinner กับ Michelin Star Chef

Review : Wine Dinner กับ Michelin Star Chef

Cuisine & Wine

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 55 ที่ผ่านมา ได้รับเชิญจากทาง PR ของ Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel ให้ไปทาน Wine Dinner กับทางห้องอาหาร La Tavola ซึ่งเป็นห้องอาหาร Italian ของทางโรงแรม ที่ห้องนี้เคยได้ไปทาน Sunday Brunch หนนึงรู้สึกประทับใจ A La Carte Main Course ที่เป็น Beef Tenderloin Steak มากค่ะ
และ Wine Dinnerหนนี้ทางโรงแรมได้เชิญ Chef Igor Macchia ซึ่งเป็น Chef ที่ได้ 1 ดาวของ Michelin Star (ร้านของChef ที่อยู่ Italy ชื่อ La Credenza) และเป็นชาวItalianแท้ๆ มาปรุงอาหารในConcept ที่ว่า "Inspired by Italian Cuisine" ให้ค่ะ และนำ Frescobaldi Wine มาpairing ในวันนี้ค่ะ

FOOD & WINE
เข้าไปนั่งเมาท์มอยได้ซักพักมา พอหิวๆ และแล้วก็มี Sparkling Wineมาให้จิบพอชื่นใจ

Sparkling Wine

ของทานเล่น

อันนี้เป็นของทานเล่นรองท้องก่อน คอร์สจริงมาเสิร์ฟ เป็นขนมปังแบบต่างๆ ทานเล่นๆกะ Paste ซึ่งเราจำไม่ได้แล้วล่ะ ว่าอะไรบ้าง ฮาาา

หลังจากนี้ได้เวลาดื่มด่ำกับอาหารสุดแสนอลังการและโคตคิดเยอะ ณ บัดนี้ อุอุ

Danzante Pinor Grigio 2011

Grilled squid and fried prawns
with ginger and potato sauce

Grilled squid and fried prawns with ginger and potato sauce
ทานคู่กับเจ้า Danzante Pinor Grigio 2011 นี่ลงตัวมาก รสชาติเบาๆลอยๆ เป็นอาหารItalian ที่ไม่หนักดีค่ะ หมึกสดย่างมาเนื้อยังเด้งๆหอมกลิ่นทะเล กุ้งตัวกำลังดีทอดมา (แม้กุ้งจะไม่สดมากแบบที่เราหวัง) แต่ทอดยังไงได้แป้งบางขนาดนั้น รสชาติเรียบง่าย เน้นที่ตัววัตถุดิบมากจานนี้ ที่เด็ดสุดคือซอสมันฝรั่งกลิ่นขิงที่ราดมา เป็น appetizer ที่เบา เรียกน้ำย่อยได้อย่างลง
Danzante Pinor Grigio 2011 ตัวนี้ไม่หวาน แต่ตัวเนื้อเค้าก็ไม่เข้ม กลิ่นหอมแบบCitrus ลอยมานำโด่ง ตัวนี้จัดว่าดื่มง่ายค่ะ

Frescobaldi Pomino Bianco 2011

home made burrata ravioli, vegetables,
tomato sauce and basil

home made burrata ravioli, vegetables, tomato sauce and basil ทานคู่กับ Frescobaldi Pomino Bianco 2011
จริงๆ เราชอบเรียกว่า เกี๊ยวอิตาเลี่ยน ตอนแรกกินๆไป ทำไมมันหอมแปลกๆ สัมผัสหยุ่นๆ อ่อ เกี๊ยวห่อชีสนี่เอง จานนี้ว๊าวตั้งแต่ตัวเกี๊ยวและน้ำซอสที่ราดแล้ว มาเปรี้ยวนิดๆ ทานคู่กะไวน์ขาว Frescobaldi Pomino Bianco 2011 จะเห็นว่าสีทองอร่าม กลิ่นหอมผลไม้ และทานแล้วให้ความสดชื่นนน
ความยืดหยุ่น และกลิ่นของชีส ผสานกันกะแป้งที่ห่อ น้ำซอสที่ราดมา และความกรุบกรอบและกลิ่นของถั่วลันเตา ทำให้จานนี้ ทานไวน์ไป ละเลียดเจ้าเกี๊ยวไป มีความสุขจริงๆ
จะหาเชฟที่ทำอาหารอิตาเลี่ยนได้เบาๆ แต่ได้กลิ่นและรสแบบนี้จะมีไหมหนอ?

Castiglioni chianti DOCG 2010

Risotto with red pepper, parsley sauce and anchovie

Risotto with red pepper, parsley sauce and anchovie ส่วนตัวเราแล้วไม่โปรดเจ้าRisottoทั่วๆไปเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ที่เคยทานมาจะทานแล้วหนักท้อง และมีกลิ่นcheeseเยอะเกินไป
แต่จานนี้ทานแล้วLightมาก มีตัดเค็มเป็นระยะด้วย anchovies แม้ว่าเจ้าจานนี้จะมาที่อุณหภูมิไม่ค่อยร้อน (แอบเซ็งนิดหน่อย) แต่พอทานคู่กับCastiglioni chianti DOCG 2010 (Variety: 90% Sangiovese, 10% Merlot) แล้วPerfect Match มาก เพราะเจ้าCastiglioni chianti เป็น Wineแดงแบบไม่แรงไม่หนักค่ะ เลิฟมากเจ้าไวน์ตัวนี้ อยากจะสอยกลับบ้านเดี๋ยวนั้นเลย เป็น Wineแดงตัวแรกที่ตกหลุมนิดๆให้เค้า ฮ่าๆ

Nipozzano Riserva Chianti Rufina DOCG 2008

Braised beef cheek, tonka beans flavoured
green apple and vegetables

ดูความเปื่อยยุ่ยของแก้มวัวจากรูปนี้สิ

Braised beef cheek, tonka beans flavoured green apple and vegetables แก้มวัวที่ตุ๋นมาจนนิ่ม เปื่อย นุ่มมมม กินเข้าไปแทบจะละลายในปาก ทานแล้วนิ่มเหมือนลอยอยู่บนปุยเมฆ มีทั้งความหอมเนื้อตุ๋นในปาก จิบไวน์แดง Nipozzano Riserva Chianti Rufina DOCG 2008 ( Variety: Sangiovese 90%, 10% altre ) ที่ให้มาด้วย ฟิน!!! เป็นคู่ที่ประทับใจที่สุดในค่ำคืนนี้ มาpeakที่ Main Course พอดี

ปิดท้ายด้วยของหวานกันแล้วนะคะ

Pomino Vinsanto 2006

chocolate mousse, orange creme brulèe, fried spaghetti

ไวน์หวานPomino Vinsanto 2006 (Variety: Trebbiano, Malvasia toscana and San Colombano) ทานคู่กับ chocolate mousse, orange creme brulèe, fried spaghetti เป็นขนมอิตาเลี่ยนที่เบ๊าเบาอีกแล้วค่ะ แล้วcombination ของชอกโกแลตกะ ส้ม มันก็เข้ากันได้ดี มีคอนทราสกันนิดหน่อยอยู่แล้ว texture นี่เข้ากันได้ดีมาก มีทั้งความสมูทและหยุ่นๆ หวานแหววช๊อกโกแลต ตัดกลิ่นส้ม

ปิดท้ายมื้อไปแบบอิ่มเอม .......

ATMOSPHERE
ของห้องอาหารวันนั้น บรรยากาศดี เรียบๆ ไม่หรูหรามากแต่เก๋ และไฟหรี่ได้อารมณ์ทานข้าวโรแมนติกใต้แสงเทียนจ้ะ บรรยากาศต่างจากที่มาตอนกลางวันเยอะเลยค่ะ

SERVICE
บริการดีมั่กๆ ค่ะ พิ้งค์ขอแผ่นพับที่เป็นการแนะนำไวน์เค้าก็ให้กลับบ้านด้วยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ

VALUE
เนื่องจาก Review นี้เป็น Sponsor Review จึงไม่ขอวิจารณ์เรื่องความคุ้มค่า แต่ขอแจ้งราคาไว้คร่าวๆค่ะ
Wine Dinner 3,800 บาท++

LOCATION
518/8 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม 10210 / Tel. +662 125 5000
โรงแรมนี้มาง่ายมาก ถ้าท่านมาช๊อปที่เซนทรัลชิดลมบ่อยๆ หรือ รู้จักโรงเรียนมาแตร์ หรือตึกมณียาอันโด่งดัง โรงแรมนี้อยู่ติดกะสถานี BTS ชิดลมเลย มีป้ายให้อ่านเสร็จตั้งแต่บนBTS ว่าจะไป โรงแรม Renaissance ออกexit ไหน ส่วนใครขับรถมา click ดู แผนที่โรงแรม Renaissance Bangkok Ratchaprasong ได้

Please come to visit us