บ้านผางาม



วันที่ 21 ตุลาคม 2552 ขับออกจากบางแสน ชลบุรี เข้าเส้นทางหมายเลข 304 ฉะเชิงเทรา - กบินทร์บุรี - ปักธงชัย เพื่อกลับขอนแก่น แต่เพราะขับกลับคนเดียวเลยถือโอกาสแวะเที่ยวตามลายทาง ที่จริงก็ว่าจะแวะตลาดน้ำบางคล้า แต่เห็นป้ายเขียนตามทางว่า เปิดเสาร์-อาทิตย์ ก็เลยอด

มาแวะเที่ยวที่แก่งหินเพลิง เพื่อเก็บข้อมูล ก่อนที่จะขึ้นเขาใหญ่.... พอเลยทางขึ้นเขาที่ลาดชันที่ไปสิ้นสุดที่ป้อมตำรวจบ้านผางาม ก็นึกขึ้นได้ว่าที่นี่มี รีสอร์ทที่ขึ้นชื่อ และเป็นรีสอร์ทรุ่นเก๋าในอำเภอนาดี และอำเภอวังน้ำเขียวอยู่แห่งหนึ่ง ก้อเลยแวะเข้าไปดู พอดีมีห้องว่างอยู่ 3 ห้องเลยเลือกพักไปห้องหนึ่ง เพื่อชมบรรยากาศปลายฝนต้นหนาวที่นี่








ตรงทางเข้าจะมีป้ายน่ารักเขียนบอกผู้มาเยือนว่าที่นี่มีกิจกรรมต่างๆ อะไรบ้าง สนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดที่ link ด้านล่างครับ









ตรงหน้าร้านอาหาร "จันทร์กระจ่างฟ้า" จะมีสวนดอกไม้ และประดับด้วยหินไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เป็โลเคชั่นสำหรับถ่ายภาพ...










ด้านหน้าบ้านพราวหมอก 114 เป็นทางเดินเชื่อมเข้าหากัน พราวหมอก 114 ที่เราไปพักเป็นบ้านอยู่ wing 2 (Valley) ด้านหน้านี้หันเข้าทางเดิน และที่กางเต้นท์ ส่วนระเบียงจะหันไปทางหุบเขา มองเห็นเขาที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งต่อเนื่องกับเขาใหญ่ด้าน ปราจีนบุรี









ห้องนอน wing 2 นี้เป็นห้องติดแอร์ ไม่มีทีวี และตู้เย็นให้..... จากการได้นั่งคุยกับเจ้าของที่นี่ ก็ได้รับคำตอบว่า อยากให้บ้านผางามเป็นที่พักผ่อนกลางธรรมชาติจริงๆ จึงตัด TV และ ตู้เย็นออกไป.... แต่ถ้าผู้มาเยือนปราถนาจะดู TV ก็จะมีเปิดให้ตลอดทั้งคืนที่หน้า counter reception มีทั้ง เคเบิ้ลทีวีครบ..









ห้องน้ำกลมกลืนธรรมชาติ ประดับด้านในด้วยไม้ประดับพื้นก่อคล้ายๆแผ่นหิน เวลาอาบน้ำเสมือนเรายืนอาบบนก้อนหินธรรมชาติ (เห็นหลายที่แถวๆเขาเขียวทำแบบเดียวกันนี้) ส่วนหลังคาติดกระจกเป็น Skylights มองเห็นท้องฟ้า ดาว และเดือน คล้ายๆที่เกาะช้าง...







หลังคาห้องน้ำ Skylights







อ่างล้างหน้าดูน่ารัก







มองผ่านระเบียงสู่หุบเขา







ที่นั่งพักชมวิวที่ระเบียง










วันนั้นหลังจากเช็คอินเข้าไป ก้อไปเก็บของอาบน้ำ พอห้าโมงเศษๆหมอกเริ่มมาแล้ว ไม่นานก็คลุมทั้งหุบเขาด้านล่าง มองไม่เห็นแม้แต่บ้านพราวหมอก wing 1 ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ปลายฝนต้นหนาวก็ดีแบบนี้แหละ เหมาะที่จะชมหมอกแถวๆนี้...... เจ้าหน้าที่บอกเราว่าบางวันหลังฝนตก ก็เจอหมอก วันละ 2 - 3 ครั้งก็มี ถ้าจะมาซึมซับเอาสายหมอก กลางขุนเขา น่าจะเลือกช่วงเวลาเช่นนี้








แทรกตัวไปตามต้นไม้








ใช้ลานกลางเต้นท์ออกกำลังกาย : ที่จริงตรงนี้ใช้เป้นที่กางเต้นท์ แต่วันนี้กรุ๊ปทัวร์เข้ามา เจอสายหมอก บรรยากาศดี เลยดี๊ด๋ากันเสียตรงนั้น (บรรยากาศจริงหมอกเยอะกว่าที่เห็น)







ระหว่างบ้าน







อีกมุม









หลังนี้ของเจ้าของที่นี่ สร้างเลยสวนออกไปเวลาสายหมอกเข้ามาปกคลุมบรรยากาศคล้ายๆกับเมืองนอกแน่...... หลายๆคนเดินมาชักภาพกันตรงมุมนี้







ดอกบัวตองออกแล้ว









เรือโจรสลัด (เรียกเอง) ตรงนี้เป็นที่เล่น Water Challenge ลงไปในหุบเขาครับมีทางเดินเป็นคอนกรีตอย่างดี ขากลับขึ้นมาไปที่สวน และร้านอาหารได้เลย และระหว่างทางเป็นที่เล่น Sky Tour .....






ถ่ายภาพกับหมอกในสวน










ยามค่ำที่ร้านอาหารจันทร์กระจ่างฟ้า วันนั้น (ตอน 18.30 น) ไม่เห็นมีผู้คนขึ้นมาบนนี้มากนัก..... เจ้าหน้าที่บอกเราว่า กรุ๊ปใหญ่มีเลี้ยงที่ห้องประชุม เราก็เลยมีโอกาสได้ชักภาพบนนี้แบบโล่งๆ หลังมื้อเย็นบางกลุ่มก็ถือโอกาสร้องคาราโอเกะซะเลย ซึ่งที่นี่มีกติกาว่าต้องปิด 3 ทุ่ม..... แต่บรรยากาศกันเองมากๆ.








มองออกไปในสวน








จากระเบียงร้านอาหาร








ด่ำคืนที่โซนบ้านพัก














อีกภาพ









แสงทองเริ่มจับขอบฟ้า.... มีบางคนบอกว่าช่วงเวลาที่คนเรามีความสุขมันไม่ยาวนัก นี่อาจจะจริง เราเผลอแพ็บเดียวก็สว่างแล้ว เราเปิดม่านด้านตะวันออกไว้เพื่อให้รู้ว่าฟ้าจะสว่างเมื่อไหร่ คืออยากดูพระอาทิตย์ขึ้นเหนือยอดเขา...... แต่ดวงไม่ดี บนยอดเขามีหมอกเลยบดบังดวงอาทิตย์ซะ เห็นอีกทีก็จ้าเต็มฟ้าแล้ว...







ยามเช้าเหนือเขาใหญ่ด้าน อช.ทับลาน







ดอกไม้ยามเช้า ไม่รู้ชื่อดอกะไรแต่ใบคล้ายใบเสี้ยว







รอคนมานั่ง
















บ้านรวม เคียงดาว







ร้านอาหารจันทร์กระจ่างฟ้า








ท้องฟ้าเหนือบ้านผางาม







ป้ายนี้เอาไว้ถ่ายภาพ


หลังอาหารมื้อเช้า ซึ่งเป็นแบบไทยๆ เช่นข้าวต้มเห็ดหอม ผัดผัก ข้าวผัดกาแฟ และน้ำผลไม้ ซึ่งมีบริการที่ชั้นบน ร้านจันทร์กระจ่างฟ้า เวลา 700 - 900 น.

ประมาณ 9 โมงเศษๆเราขับออกจากบ้านผางามเพื่อเดินทางต่อไปขอนแก่น... จะว่าไปแล้วที่นี่ก็เป็นกึ่งกลางทางสำหรับพักรถ พักเหนื่อยคนขับเหมือนกัน...... บ้านผางามจึงเป็นแหล่งพักผ่อนกลางธรรมชาติที่ลงตัวอีกแห่งหนึ่ง และห่างจาก กทม. เพียง 3 ชม.เท่านั้นเอง








ลากันด้วยท้องฟ้าสวยๆ




การเดินทาง :

1. จากรังสิตผ่านนครนายก ผ่านปราจีนฯ และเข้าสี่แยกกบินทร์บุรี เลี้ยวซ้ายตามเส้นทาง 304 ที่จะไปนครราชสีมา จะมีป้ายบอกตลอดทาง

2. จากมีนบุรี ไปตาม สุวินทรวงศ์ ถึงฉะเชิงเทรา เข้า สาย 304 ไปทางพนมสารคาม และกบินทร์บุรี







ดูเพิ่มเติมที่ : https://www.pangam.com



_________ END ________