ขึ้นป้ายด้านบนว่าวันนี้เราจะทดลองขับรถตามถนนเลียบฝั่งทะเลตะวันตก หรื Scenic Route ช่วงชะอำ มาออกถนนพระราม 2 (ถนนสายที่35 ธนบุรี - ปากท่อ) ระยะทางประมาณ 99 กม. คือในเขต จ.เพชรบุรี 88 กม. และ เขตสมุทรสงครามอีก 11 กม. โดยเส้นทางนี้จะผ่าน ชะอำ หาดปึกเตียน หาดเจ้าสำราญ บ้านแหลม บางตะบูน และออกสายพระรามที่ 2 ที่ กม. 71 หรือ 72 ครับ (ดูแผนที่ด้านล่างประกอบครับ)

ที่จริงถนนเลียบชายทะเลตะวันตก กรมทางหลวงชนบทมีโครงการก่อสร้างจาก สมุทรสงตราม ไปถึงระนอง โดยจะผ่านจังหวัดต่างๆคือ ....

จังหวัดสมุทรสงคราม ระยะทาง 11 กม. โดยเริ่มต้นที่บริเวณ กม. 72 ของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) จังหวัดสมุทรสงครามแนวเส้นทางต่อเนื่องผ่านพื้นที่เกษตรกรรม นาเกลือ และชุมชน เข้าสู่ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี

จังหวัดเพชรบุรี ระยะทาง 88 กม. แนวเส้นทางต่อเนื่องจากสมุทรสงครามเลียบชายฝั่งทะเลผ่านพื้นที่แหล่งประกอบอาชีพพื้นถิ่น เช่น นาเกลือ หมู่บ้านประมง อ.บ้านแหลม สิ้นสุดที่ อ.ชะอำ

หาดชะอำยามบ่าย

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 250 กม. เริ่มต้นที่บริเวณ บ.หนองแก อ.หัวหิน ผ่านแหล่งท่องเที่ยว ชุมชน ลัดเลาะเลียบชายฝั่งทะเล ผ่าน อ.ปราณบุรี กิ่ง อ.สามร้อยยอด อ.กุยบุรี อ.เมือง อ.ทับสะแก อ.บางสะพาน และสิ้นสุดที่ อ.บางสะพานน้อย

จังหวัดชุมพร ระยะทาง 254 กม. เริ่มต้นที่บริเวณแยกทางหลวง 3253 (กม. ที่ 10+100) อ.ปะทิว ต่อเนื่องกับแนวเส้นทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลัดเลาะเลียบชายฝั่งทะเลผ่าน อ.เมือง อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน สิ้นสุดที่ อ.ละแมถนนเลียบชายฝั่งทะเลตะวันออก

จังหวัดระนอง ระยะทาง 80 กม. เป็นถนนเชื่อมต่อจากโครงข่ายหลักเข้าสู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เช่น น้ำตก ชายหาด และอุทยานแห่งชาติ เป็นถนนท่องเที่ยวเชิงอนุกรักษ์ แนวเส้นทางอยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมือง อ.กะเปอร์ อ.กระบุรี และกิ่ง อ.สุขสำราญ

(อ่านเพิ่มเติม)

แดดจ้าที่หาดชะอำ

บ่ายวันที่ 24 พ.ค. 2011 อากาศที่ริมหาดชะอำร้อนมาก ชายหาดที่ลาดยาวออกไปในทะเลเพราะเป็นวันที่น้ำลด เราขับเลาะชายหาดเพื่อหาทำเลนั่งพักดื่มน้ำ และหาที่โล่งๆสำหรับถ่ายภาพ... ก่อนที่เราจะเลาะชายหาดชะอำต่อไปทางทิศเหนือเข้าวัดเนรัญชรา

เราไม่ได้มาชะอำหลายปีแล้ว ล่าสุดน่าจะเป็นปี 2008 ที่มาสัมนาร่วมกับเพื่อนๆที่ทำงาน... วันนี้ชะอำเจริญขึ้นมาก พร้อมกับหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไป เลาะเรียบชายหาดจนถึงเมืองหัวหิน เต็มไปด้วยโรงแรมและรีสอร์ท ถนนที่ลงมาทะเลจากสี่แยกชะอำที่เงียบสงบ บัดนี้ร้นรวงเกิดขึ้นมากมามาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดรถราที่เพิ่มขึ้นแม้ในแม้แต่ในถนนเพชรเกษม (สาย 4) ก็ยังแน่นไปหมด โดยเฉพาะวันหยุด....

วันนี้เราจึงมาพาคุณๆเดินทางเลียบชายทะเลชะอำ ไปจังหวัดสมุทรสงคราม (ถนนพระรามที่ 2) ซึ่งเป็นถนนสายชมวิว (Scenic route) ที่สวยที่สุดสายหนึ่ง...เรามาเริ่มจากชมภาพบรรยากาศชายหาดชะอำก่อนนะครับ

ถ่ายย้อนกลับไปทางหัวหิน

แดดร้อนๆ ยังมีคนหาญกล้ามาเดินเล่นชายหาด

แต่เราหลบอยู่ในร่มกัน

เมื่อเราขับผ่านวัดเนรัญฯ และเลี้ยวซ้ายเลาะกำแพงจะออกไปทางถนนสายหลัก หรือทางเขาใหญ่ จะเห็นป้ายบอกให้เลี้ยวขวาเพื่อไปหาดปึกเตียน นั่นแหละเราเลี้ยวตามไปเลยครับ เมื่อข้ามสะพานเหล็กไปเล็กน้อย ก็จะเห็นสามแยกค่อนข้างใหญ่บอกทางไป ถนนพระราม 2 สมุทรสาคร กรุงเทพฯ นั่นแหละเลี้ยวตามไปเลย..

ตามเส้นทางช่วงนี้จะยังคงเป็นรีสอร์ท ที่พัก และป่าชายเลน เราจะพักกันป้ายต่อไปที่ "หาดปึกเตียน" ครับ

เริ่มตรงนี้ ที่เลยวัดเนรัญชราไปหน่อย

รีสอร์ท และโรงแรมหน้าหาดปึกเตียน

หาดปึกเตียน

เป็นหาดที่สวยงาม และเงียบสงบ ของจังหวัดเพชรบุรี ห่างจากตัวจังหวัด 21 กิโลเมตร อยู่ใขตของ ตำบลปึกเตียน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งหาดแห่งนี้อยู่ด้านทิศเหนือของหาดชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ด้านทิศเหนือของหาดปึกเตียนคือหาดเจ้าสำราญ

นางยักษ์พันธุรัตน์กลายเป็นสัญญลักษณ์ของหาดนี้

หาดปึกเตียน 2

หาดปึกเตียน 3

หาดปึกเตียน 4

ริมหาดปึกเตียน

ออกจากหาดปึกเตียน เรามุ่งสู่หาดเจ้าสำราญ เพราะวันนี้เรามีโปรแกรมจะไปเที่ยวเขาวัง หรือพระนครคีรีกัน (จะนำมารีวิวในโอกาสต่อไปครับ)...ถนนช่วงนี้ยังมีป้ายบอกชื่อหาดต่างๆ ให้เราแวะเข้าไปชม หรือคุณๆที่ชอบไหว้พระ ก็จะเห็นป้ายบอกชื่อวัดมากมายตามถนน

พอไปถึงสี่แยกไฟแดงตัดกับถนนสาย 3177 ถ้าเราเลี้ยวซ้ายก็จะเข้าเมืองเพชรบุรี แต่เราเลี้ยวขวาเพื่อไปหาดเจ้าสำราญ และหาโรงแรมที่พักแถวนั้น (ซึ่งก็มีหลายที่) ...... หาดเจ้าสำราญช่วงบ่ายแก่ๆวันนี้ร้อนมากๆ มีผู้คนเป็นกลุ่มๆปูเสื่อทานอาหารกันใต้ต้นสน ที่หน้าชายหาดในทะเล ทางการทำเขื่อนหินกั้นกระแสคลื่นไว้เป็นช่วงๆ เหมือนหาดแสงจันทร์ จ.ระยอง

หลังจากได้ที่พักติดชายหาดเรียบร้อยเราก็เดินทางเข้าเมืองเพชรฯ เพื่อแวะชมพระนครคีรี แล้วย้อนกลับมาพักที่ชายหาดนี้ ก่อนจะเดินทางในวันรุ่งขึ้น..

หาดเจ้าสำราญยามบ่าย

หาดเจ้าสำราญยามบ่ายอีกภาพ

หาดเจ้าสําราญ

อยู่ห่างจากตลาดเมืองเพชรบุรีระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3177 เป็นชายหาดที่เคยเป็น สถานที่ท่องเที่ยวสําคัญมากตั้งแต่สมัยโบราณ ตามประวัติเล่ากันว่า
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เคยเสด็จมาที่นี่พร้อมด้วย สมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงพอพระราชหฤทัยในความงามของ
หาดแห่งนี้มาก ทรงประทับแรมอยู่หลายวัน จนกระทั่งชาวบ้าน เรียกหาดนี้ว่า หาดเจ้าสําราญ มาจนถึงปัจจุบัน

หาดเจ้าสําราญ เจริญถึงขีดสุดในสมัยรัชกาลที่ 6 หาดเจ้าสําราญมีชื่อเสียงกว่า ชายทะเลแห่งใดๆในเมืองไทยสมัยนั้น พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้สร้างพระตําหนักที่ประทับขึ้น ณ ริมหาดแห่งนี้เรียกว่า พระตําหนักหาดเจ้าสําราญ สร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2461 ต่อมารื้อไปสร้างใหม่ที่มฤคทายวัน

ริมหาดเจ้าสำราญ

หน้าหาดเจ้าสำราญยามเย็น

ทะเลที่เงียบสงบ หน้าหาดเจ้าสำราญ

แนวหินกั้นกระแสน้ำทะเล ที่หาดเจ้าสำราญ

นาเกลือช่วงเลยหาดเจ้าฯไปทางบ้านแหลม

ระหว่างทางจะเห็นป้ายบอกแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นระยะๆ ที่น่าไปเที่ยวชมอีกแห่งคือ แหลมผักเบี้ย ถ้ามาจากหาดเจ้าสำราญ ไปบ้านแหลมก็จะเลี้ยวลงไปทางขวามมือ..


แหลมหลวง หรือ แหลมผักเบี้ย

อยู่ในตำบลแหลมผักเบี้ย ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรี 20 กิโลเมตร ตามเส้นทางเดียวกับทางไปหาดเจ้าสำราญ โดยแยกซ้ายยก่อนถึงหาดเจ้าสำราญเล็กน้อย (ถ้ามาจาก บ้านแหลม) ลักษณะเป็นหาดทรายมีปลายแหลมยื่นยาวออกไปในทะเลถึง 2 กิโลเมตร สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก นักท่องเที่ยวสามารถจะนั่งเรือหางยาวไปที่ปลายแหลม ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลแหลมผักเบี้ย โทร. 0 3244 1209

ถนนที่ตัดผ่านนาเกลือแถวบ้านแหลม

จุดชมวิวข้างทาง...ทำไว้เป็นช่วงๆ

อีกที่หนึ่งที่น่าแวะก่อนถึงบ้านแหลม (มาจากหาดเจ้าฯ)คือ บางขุนไทร

เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ติดริมทะเล ชาวบ้านมีอาชีพจับหอยแครง หอยเสียบ และหอยลาย โดยใช้กระดานถีบเลื่อนไปบนผิวเลนในช่วงน้ำลง และนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากจะนั่งเรือชมการเก็บหอย หรืออยากจะเก็บหอยด้วยตนเอง ด้วยวิธีนั่งแพ (แพ 1 ลำ นั่งได้ 3 คน และการจะออกไปเก็บหอยต้องดูเวลาน้ำขึ้นน้ำลง) สามารถติดต่อได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบล บางขุนไทร โทร. 0 3250 1254

น้ำกำลังลง...มองเห็นเรือประมงอยู่นอกอ่าว

ซูมเข้าไปใกล้ๆอีกหน่อย

วิว..จากจุดชมวิวครับ

ขับตามป้ายบอกทางแบบนี้ไปเรื่อยๆ

มาถึงอ่าวบางตะบูน

สิ่งที่น่าสนใจที่บ้านบางตะบูน..


ล่องเรือชมวิถีชีวิตบ้านบางตะบูน

บ้านบางตะบูนอยู่ทางตอนเหนือของอำเภอบ้านแหลม เป็นหมู่บ้านชาวประมงริมปากอ่าว นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือหางยาวของชาวบ้านที่บริเวณหน้าวัดปากอ่าวเพื่อชมวิถีชีวิตการทำประมงพื้นบ้าน การถีบกระดานเก็บหอยแครง การทำฟาร์มหอยแมลงภู่ เตาเผาถ่านไม้โกงกาง และบ้านเรือนริมน้ำ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สอบถามได้ที่เทศบาลตำบลบางตะบูน โทร. 0 3248 9234

นอกจากนี้ที่บ้านแสมชาย ซึ่งไม่ไกลจากวัดเขาตะเคราสามารถนั่งเรือพายชมหิ่งห้อยตอนพลบค่ำซึ่งมีมากในช่วงฤดูฝน ติดต่อเรือได้ที่ลุงจั่น โทร. 0 3240 9326

สะพานข้ามแม่น้ำบางตะบูน

ถ่ายลอดสะพานไปที่หมู่บ้านริมแม่น้ำ

ร้านอาหารแลเลริมแม่น้ำบางตะบูน

เลยบ้านบางตะบูนไป ก็จะเข้าเขตบางยี่สาร ซึ่งที่นั่นก็จะมีการล่องเรือชมหิ่งห้อยและวัเขายี่สารเป็นที่น่าสนใจด้วย....จากนั้นสมุทรสงคราม โดยทางเส้นนี้จะไปบรรจบกับถนนพระรามที่ 2 ที่ กม. 72 และ 73 ครับ



สรุปการเดินทาง

ถ้าคุณๆที่ไปจากกรุงเทพฯ

- ขับไปตามถนนพระรามที่ 2 เลยสมุทรสงคราม ไปประมาณ กม. ที่ 71 -72
- ให้สังเกตุปั้ม ปตท. และทางเข้าคลองโคน ทางซ้ายมือ ตอนเลยสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองไป
- ขับผ่านปั๊ม ปตท.ไปอีก 100 กว่าเมตรจะเห็นป้ายบอกทางไปบางยี่สาร บ้านแหลม สีเขียว ให้ออกซ้ายแล้ววนกลับเพื่อเข้าถนนสาย Scenic route
- เส้นทางสีแดง (ตามแผนที่) ครับ ช่วง 100 -200 เมตรแรกถนนจะแคบ หลังจากนั้นเป็นถนนมาตรฐานของกรมทางหลวงชนบทครับ.

ลากันด้วยภาพวิวหน้าอ่าวบางตะบูนครับ

แผนที่ถนนเลียบทะเลฝั่งตะวันตก ช่วงเพชรบุรี (สีแดง)