แวะมาบ่น..หนึ่งในวันห่วยๆของอาทิตย์นี้....เซ็งอะ
ตามหัวจั่วเลย...กะมาบ่นอย่างเดียว...แต่เริ่มต้นประโยคสวัสดีเพื่อนๆก็ใส่ Emo ตัวยิ้มๆไว้ก่อน..มันสัญลักษณ์ประจำตัวผมหน่ะ...แต่จริงๆวันนี้ยิ้มไม่ออก...เหนื่อย..เบื่อ...เซ็ง...โมโห...อ่อนใจ...ไหวหวั่น...และสุดท้าย..หิวโว้ยยยยยย
เอาหล่ะ....เมื่อท่านเตรียมพร้อมจะเป็นถัง...ผมก็จะเริ่มเทอารมณ์บูดแหล่ะนะ..อิอิ...
V V V V
เรื่องแรกเลยครับ....หาเรื่องใส่ตัว....
เมื่อคืนใคร (เมื่อวานตอนเช้าของบ้านเรา) ถ้าใครแว๊ปๆเข้ามาตอนประมาณ 6 โมงเช้าบ้านเรา ก็อาจจะเห็นว่ามีบล๊อกของผม ขึ้นอยู่บนลิสต์อัพเดท...ตอน..งดให้บริการ...จริงๆแล้วว่าจะปิดปรับปรุงชั่วคราว...ด้วยความที่อยากหรูเหมือนชาวบ้านเค้า...อยากเปลี่ยนbackground ของบล๊อกให้เป็นรูปสวยๆที่เราไปถ่ายมา....ก็เริ่มจัดแจงหารูป ปรับขนาดรูปซะดิบดี...พอมันขึ้นหาเว๊บ มันดันไม่ได้ตามขนาดเท่ากับหน้าเว๊ป ปรับไปปรับมา ใหญ่บ้าง เล้กบ้าง...ทนไม่ไหวในความ ง่าวววววว ของตัวเอง...เลยต้องลำบากพี่นัท Picike ฮ่าๆๆๆ...สงสารเจ๊นัทหน่ะ...เหมือนแกจะซวยเลย..ออนไลน์เจอผมพอดี เลยพอให้ช่วย...ปลุกปล้ำกับ background กันอยู่พักใหญ่...เห็นทีจะไม่ไหว..ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า....ไม่ได้แล้วต้องนอน เพราะรุ่งเช้าต้องตื่นแต่เช้า..ศึกหนักรออยู่....เนี่ยหล่ะ..เหนื่อย..หาเรื่องใส่ตัว
V V V V
รุ่งเช้า...อันแสนสวยงาม แดดดี อากาศเริ่มอุ่น.....ตื่นสายคร๊าบบ
ก็ไอ้ผลจากการนอนดึกเมื่อคืนก่อนนั่นหล่ะตอนหาเรื่องใส่บล๊อกนั่นหล่ะ....เล่นเอาลืมตามาแขวนอยู่บนผนังห้อง ในตำแหน่งที่ดีมากครับ...แบบว่าถ้านอนหงาย ลืมตาขึ้นมาทำมุม 45 องศากับพุง...จะเห็นว่า ขณะนี้ เวลา...XX:XX นาฬิกา....วันนี้ก็เช่นเคย ตื่นมาป๊ป มองนาฬิกา...สะดุ้งเฮือกกกกกก....8 โมง....มี Lab meeting 8 โมงครึ่ง...ตายห่า (ขออภัยในความไม่สุภาพ)..ตาเหลือกเลยครับ...เรื่องของเรื่องก็คือ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ จะตื่นเจ็ดโมง ทำธุระเสร็จก็ออกบ้นได้ 7 โมงครึ่ง...ถึงแลปก็คง 8 โมง..จะได้หยุดปฏิกิริยาที่ทำกับเซลล์ ครบ 12 ชั่วโมง พอดี..ก็จะพอดีเวลา lab meeting....คราวนี้...ถึงแลปก็เกือบ 9 โมง..สาย...อาย...เซ็ง....(ยังดีครับที่อาจารย์ไม่ว่าซักคำ)
V V V V
lab ทีทำไว้..เจ๊งงงงงง
จริงๆที่ว่าจะหยุดปฏิกิริยา ตอน 8 โมงหน่ะ...ถึงมันจะเลยมาหน่อย มันก็ไม่น่าจะเป็นไรมาก...พอเสร็จจาก lab meeting กลับออกมา มาดูเซลล์...ตายหมดครับ..ลอยคอกันเต็มไปหมด อย่างกtไททานิคล่มงั้นหล่ะ...ปวดหัว....เศร้า...เซ็ง....เสียจายยย
V V V V
อยู่จนเย็นค่ำ....
วันนี้เรียกได้ว่าเป็น LONG DAY ครับ...วันนี้กลับถึงบ้าน 3 ทุ่มกว่าๆ...เหนื่อย เพลีย..เพราะว่าตอนเย็นมี Journal Club หมายถึง นักเรียน หรือ นักวิจัยที่ได้รับมอบหมายให้ไปอ่าน งานวิจัยที่ตีพิมพ์ จะต้องเอาเรื่องนั้นมานำเสนอ เล่าให้ฟัง..แล้วก็วิจารณ์ อภิปรายกัน...วันนี้ตอนแรกอาจารย์บอกว่า 4โมงเย็น....ด้วยความที่เราแลปเจ๊ง...เราก็รอ...รอ...รอ..จน 4 โมงเย็น...
อาจารย์บอกว่ามีคนไข้...ยังไม่เสร็จจากคลินิค.เลื่อนไปเป็น 6 โมง....หน้าเริ่มหงิก...แต่เอาวะ.วิชาการ วิชาการ..วิชาการ...ก็รอ...รอ...รอ...พอเริ่มพูดกัน...ทุกคนก็กระตือลือล้นกันมาก..ซักถาม แสดงความเห็น ออกแบบการทดลอง...ปาไป 3 ชั่วโมง...กว่าจะเสร็จก็ 3 ทุ่มนิดๆ...เสร็จแล้ว เก็บของกลับบ้าน...ที่สำคัญ....หิวโว้ยยยยยย
V V V V
มาหลอกตูทำไม...(ไอ้สิงห์จ๊าดง่าวว)
กำลังจะกลับบ้านครับ...จะเดินไปป้ายรถเมลล์...มีผู้หญิง(แขกโพกผ้า) เดินเข็นรถเข็นเด็กมา..เดินสวนกับเรา ก็ทักเรา...ขอเงินครับท่าน...ขอเงิน...บอกว่สงสารเด็กเถอะ..ไม่มีเงินซื้อนม..เราก็สงสาร..ล้วงกระเป๋าหยิบให้ไปเกือบ 1 ปอนด์...ก็เหรียญมันเหลือไม่มาก...แล้วเค้าก็เดินจากไป.....เราเดินไปสักพัก...เจอผู้หญิงอีกคน...มาแบบเดียวกันเลย...เราสงสารเด็ก...ให้ไปอีก 50p เหลือเงินอยู่แค่นั้นหล่ะ...ยังมาถามต่อว่า ขอ 1 ปอนด์ไม่ได้เหรอ...เราก็บอกว่าเรามีแค่นี้...เค้าก็เดินจากไป....อ๊ะ...มาอีกครับ..คนที่ 3 แบบเดียวกันเลย..ทีนี้ หายโง่แล้วตู...แม่ง..เป็นแก๊งค์นี่หว่า...เซ็งเลย..เราก็บอกว่าไม่มีเงินแล้ว...เราก็เดินไป...คิดในใจว่า... "หน้าตากูมันดูโง่..หรือดูใจบุญวะ" ....คิดได้แป๊ปเดียว...มีผู้หญิงอีกคน คราวนี้ออกแนวฝรั่ง แต่ไม่ใช่คนอังกฤษอะ..เพราะพูดภาษาอังกฤษแป่งๆ...เดินเข้ามาเลย..ทักเราประโยคแรก " What did you do???" แปลให้เลยนะครับ... " เธอทำอะไรของเธอหน่ะ.....เห็นเธอตั้งแธอให้เงินคนแรกแล้วนะ....ทำไมเธอไม่คิดว่าเค้าจะมาหลอก..ฉันเดินตามหลังเธอมา...เห็นเธอให้เงินคนที่ 2 อีก...เธอถูกหลอกแล้วนะรู้ไหม...นี่มาเที่ยวเหรอ...เนี่ยแหล่ะนักท่องเที่ยว โดนบ่อย...คราวหลังอย่าไปให้รู้ไหม...ฉันว่าหน้าตาเธอ..ดูหลอกง่าย" ...ป๊าดดดดดด เครียดเลยครับ....โดนด่าว่า...ไอ้น่าโง่ (แปลเป็นภาษาบ้านเรา)....เซ็ง....เซ็ง...เซ็งกว่าเดิม...หิวกว่าเดิมอีกด้วย..
V V V V
................ยังไม่จบ.................. พักก่อนดีไหมครับ...นี่พิมพ์อยู่อารมย์ก็เริ่มร้อนอีก..เซ็งจริงๆ
V V V V
เอาหล่ะครับ...มาถึงเรื่องสุดท้ายแล้วหล่ะ..หวังว่าคงไม่มีอะไรซวยไปกว่านี้อีกแล้ว..พอซะทีสำหรับวันนี้
ก่อนเดิเข้าบ้านครับ...ด้วยความที่เงินหมดกระเป๋า...ก็ต้องกด ATM ก็เดินไปกด ATM...อืมสังหรณ์ใจแปลกๆ เลยกดเผื่อเยอะหน่อย...ปรากฏว่าพอเงินออกมาแล้ว บัตรมันไม่เด้งออกมาครับ...มันค้างติดอยู่ในเครื่องดึงก็ไม่ออก...เลยต้องโทรไปที่ธนาคาร...เค้าก็อายัติบัตรให้แล้วก็บอกไม่ให้เราทำอะไรกับเครื่อง..แล้วจะส่งการ์ดใหม่มาให้...พอวางโทรศัพท์ไม่ถึง 3 วินาที..บัตรอยู่ๆมันก็เด้งออกมาครับ...เป็นไง...ผีหลอก...เลยโทรไปที่ธนาคารอีกทีว่าไม่ให้อายัติแล้ว..เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่า..สายไปแล้ว...ข้อมูลอายัติไปเรียบร้อยแล้ว...จะกู้คืนก็ไม่ได้ ต้องมี supevisor ซึ่งเค้าไม่ทำงานกันหรอกตอน 3 ทุ่ม...แป่ว เค้าเลยบอกว่ารอบัตรใหม่ที่จะส่งไปอีก 5 วันทำการ...เซ็ง เซ็ง เซ็ง...
กลับเข้าบ้านมา ไม่มีเพื่อนอยู่ซักคน....ในตู้เย็นไม่เหลืออะไรเลย..นอกจากไข่ไก่ 2 ฟอง...อย่ากระนั้นเลย...ไข่เจียวนี่แหล่ะฟ่ะ...โชคดีเหลือกิมจิที่เพื่อนซื้อมาจากร้านเกาหลี...พอประทังชีวติน้อยๆที่น่าสงสาร..(หรือน่าสมเพชหว่า)
เอาหล่ะครับ....ถึงตอนนี้ก็คิดว่าคงไม่มีอะไรจะซวยไปกว่านี้แล้ว...คงจะเยงพอซะทีกับวันนี้....พรุ่งนี้เช้า จะต้องเดินทางไปเมือง Reading ครับ...มีงานประชุม BSCR spring 2007 (British Society of Cardiovascular Research) เกี่ยวกับงานวิจัยทางสาขาที่ผมเรียน (หัวใจและหลอดเลือด)....แล้วจะเก็บบรรยากาศมาฝากครับ...
ราตีสวัสดิ์ที่นี่...อรุณสวัดิ์บ้านเรา..
รักและคิดถึง
สิงห์นครพิงค์
Create Date : 29 มีนาคม 2550 |
|
23 comments |
Last Update : 19 มกราคม 2551 7:21:03 น. |
Counter : 839 Pageviews. |
|
|
|
สู้ต่อไปครับ ไอ้มดแดง (มันเกี่ยวกันไหมนี่) หุหุ คิดซะว่ามันเหมือนกับ SIN WAVE ก็แล้วกัน หุหุ ลงถึงจุดต่ำสุดเดี๋ยวมันก็ขึ้นมา ถ้ายังไม่ถึงจุดต่ำสุด หุหุ มันก็ลงต่อไปครับ