อ๊อด อ๊อด....ยอดมานุสสส
*~เมื่อรู้ว่าตัวเอง....เปลี่ยนไป...~*



เพื่อนๆเคย.....อยู่ๆก็จับความรู้สึกตัวเองทัน..ว่าง่ายๆก็คือ รู้ตัวเองขึ้นมาไหมครับ....


เมื่อวานนี้ตอนผมนั่งรถกลับมาจากมหาวิทยาลัย..กลับมาที่บ้าน ระหว่างนั้นในใจผมมันก็รู้สึกแปลกๆถึงตัวของตัวเอง...ไม่ได้คิดมากนะครับ แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ความรู้สึกที่ว่านี่ เป็นการมองดูตัวเองแล้วเข้าใจตัวของตัวเองขึ้นมาว่า จริงๆแล้วผมหน่ะเครียดอยู่..แต่มันเป็นความเครียดแอบแฝง...แล้วอาจจะหันเหไปทางซึมเศร้า หรือเรียกกันว่า Depressive แต่มันเป็นแบบที่ไม่รู้ตัว....



ทำไมผมถึงคิดว่าตัวเองDepress ....ผมก็ไม่แน่ใจนัก แต่เริ่มสงสัยตัวเองเฉยๆ ก็เลยลองนั่งคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น



เพื่อนรุ่นพี่ของผมคนหนึ่ง...เป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน พี่สาว และเพื่อนที่น่ารัก...โทรศัพท์มาคุยกันจากเมืองไทย...แล้วเล่าเรื่องสัพเพเหระไม่มีสาระอะไร แล้วตบท้ายการสนทนาว่า “อ๊อด...พี่ว่าแกเครียดๆนะ...แกเป็นอะไรหรือเปล่า” มันทันสะกิดความคิดผมขึ้นมาทันทีเหมือนกันว่า ไอ้สิ่งที่ตูคิดเมื่อเย็นบนรถเมลล์เนี่ย..มันถูกคอนเฟิร์มด้วยคนอีกคนหนึ่ง..ซึ่งจะว่าไป ไม่ใช่พี่เค้าคนแรกที่ทักผมมาแบบนั้น...ก่อนหน้านี่ก็มีคนทักอยู่หลายคนที่ทั้งโทรมาคุย และอีเมลล์มา หรือมาเขียนเม้นท์ใน Blog เท่านั้นที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของผม...แต่ผม...หาได้รู้ตัวไม่



จนเมื่อคืนระหว่างพูดคุยกัน ..ผมเองก็เหมือนตื่น...ปิ๊งแว๊บขึ้นมา เลยได้โอกาสทบทวนตัวเองเหมือนกันครับ...

เริ่มจากการเขียน Blog ช่วงหลังนี่ผมเขียนถี่ขึ้น...ไม่เพียงแค่เขียนนะ..อ่านของคนอื่นเยอะมากขึ้นด้วย (อันนี้มันก็ปกตินะ ชอบอ่าน) และเรื่องแต่ละเรื่องที่เขียนในช่วงหลังๆ มันเป็นเรื่องที่ เกิดความสงสัยในตัวของตัวเอง ถึงกับถามตัวเองในใจว่า “นี่กูเขียนหรอว่ะ”....ผมลองย้อนกลับไปอ่านที่ตัวเองเขียน ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นตัวหนังสือ...ผมว่าผมเริ่มแปลกตั้งแต่ลุกขึ้นมาแต่งกลอน ร้อยพันความคิดถึง....ไม่รู้สิครับ...ผมไม่ใช่คนที่เจ้าบทเจ้ากลอน...ไม่เคยคิดที่จะเขียนเลยด้วยซ้ำ ...แต่มันก็กลั่นออกมา..ถึงแม้จะไม่ได้เรื่องก็เหอะนะ....เพื่อนผมบอกว่า “เมิงนี่ท่าทางจะคิดถึงบ้านมากสินะ” ...ก็จริงๆมันก็คิดถึงหน่ะ คิดถึงมากๆด้วย...ผมตอบเพื่อนไปด้วยว่า....การใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก มันไม่ได้ง่าย สบาย และมีความสุขเหมือนอยู่บ้านเราหรอกนะ....อาจจะใช่สำหรับคนอื่น...แต่ไม่ใช่ผม....แล้วผมจะเล่าให้ฟังตอนหลังนะครับ (อาจจะเป็น ตอนต่อๆไป..ว่าผมคิดยังไง)



จริงแล้วผมว่าการเขียน Blog ก็เหมือนการจดบันทึกนะครับ...พอกลับมาอ่านแล้วก็จะรู้ว่าตัวเอง ณ ขณะนั้น คิดและรู้สึกยังไง....ผมก็ชอบ และยังจะเขียนต่อไป...อิอิ ทนอ่านต่อไปนะครับ


และตอน...“เวลานึกถึงใครสักคน....มันก็แค่นึกถึง หรือมันมีความหมายมากกว่านั้นนะ”.. พอผมกลับมาอ่านอีกครั้ง..ผมก็อึ้งครับว่า...นี่ผมเขียนจริงๆเหรอ....เพื่อนสนิทผมยังบอกเลยว่า ไม่คิดว่าผมจะเป็นคนจิตใจอ่อนไหวได้ขนาดนี้...ไม่เพียงแค่ไอ้แคทมันเม้นท์แบบนั้น...แต่เพื่อนๆ น้องๆที่ผมรู้จักหลายต่อหลายคน เกือบทุกคนเลยก็ว่าได้ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า...ผมนี่ช่างเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวจริงๆ .............ผมเองยังไม่คิดเลยว่า จะพรรณาถึงอะไรๆในใจตัวเองได้เป็นตัวหนังสือได้แบบนี้...อ่านแล้วนี่มันคนละคนกับที่รู้จักตัวเองมา 20 กว่าปีเลยนะ...........หรือนี่ มันคือตัวจริงๆของผมที่ผมเพิ่งรู้....หรือไม่ ก็อาจจะเป็นอะไรมาสิงอยู่ช่วงหนึ่งในช่วงจิตตก................



ความจริงแล้ว หากใครรู้จักผมก่อนหน้านี้....ผมไม่ใช่แบบนี้ โดยสิ้นเชิง...ตลก...สนุกสนาน...เฮฮา...เถื่อนในบางครั้ง....ทำงานเต็มที่..เลิกงานก็เฮฮา..ไม่มาคิดจิตตกเรื่องของตัวเอง...ถึงแม้จะมีบ้างเรื่องๆรักๆร้างๆที่เคยผ่านมา...แต่ไม่มีที่จะมานั่งคิดคร่ำครวญถึงอดีต...ผ่านแล้วผ่านไป บางทีไม่แคร์ใครเสียเลยก็มีนะครับ...รักความเป็นส่วนตัว...และหวงแหนความเป็นส่วนตัวเหมือนกัน


ผมเอง...ชอบจะออกไปนั่นมานี่...หานั่นหานี่ทำอยู่เรื่อย....ซึ่งสิ่งเหล่านี้..หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา....มันเปลี่ยนไป...ผมอยากอยู่แต่ในห้องนอน....ทำแลปกลับมา ก็เข้าห้องนอน....เพื่อนๆที่หอ ก็ไม่ค่อยจะได้เจอ ได้คุยกัน...ทำกับข้าวก็ไม่ค่อยทำ มีอะไรก็กินๆไป...กลับมานั่งเปิดคอมพิวเตอร์ อ่านblog เขียน blog พร่ำพรรณาถึงอะไรก็ไม่รู้....ฮ่าๆๆๆๆ ทำตัวแปลก...ผมว่าผมชักเป็นโรคติดคอมพิวเตอร์แล้ว หล่ะ.ติดblog มากกว่า...หลังๆอารมย์เสียบ่อย ทะเลาะกับเพื่อนแบบไร้เหตุผล....หงุดหงิด...ทำแลป กลับมาก็อยู่แต่ในห้องนอน...ตื่นเช้า....นอนดึก ซึ่งแปลกอะครับ...ปกติก็ร้องเพลง....แต่ไม่ได้คิดจะมาร้องแล้วเอามาลงblog แต่หลังๆยอมรับว่าเซ็งๆ เบื่อๆ ก็เลยลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้เล่นบ้าง...แต่เอาเข้าจริงๆ ....อารมณ์เบื่อเซ็งนั้น ก็ยังไม่หาย.........เพิ่งรู้ตัวเองว่าพฤติกรรมแปลกไป...แต่ยังไม่บ้าครับผม


แต่ดีใจที่ผมคิดว่าผมรู้ตัวเองทัน....คงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่....พยายามดึงตัวเอง..ความเป็นตัวของตัวเองกลับมา.............อาจจะห่างจากคอมพ์บ้าง....เอาตัวเองออกไปเจออะไรภายนอก....ให้ชีวิตได้รู้จักสังคมอื่นนอกสังคมไซเบอร์....(ดีใจและรู้สึกว่าผมโชคดีนะครับที่เป็นสังคมของ bloggang และ พันทิพ เพราะถ้าเป็นที่อื่นที่พาไปในทางเสื่อม...ผมคงแย่กว่านี้...และผมก็ดีใจที่ได้เพื่อนจากสังคมนี้ด้วย)



เมื่อตอนที่แล้ว...ทำแบบทดสอบสุขภาพจิต...ผมว่าไม่แม่นหล่ะครับ....ผมเองรู้ตัวแล้วหล่ะ....มันรู้สึกดีนะว่ารู้ตัวขึ้นมา....เอาหล่ะ...ได้เวลาที่ต้องกลับมาแล้ว..สิงห์ฯประจันบาน..ผมคงต้องกลับมาทำให้ชีวิตของตัวเองมีความสุข ที่เป็นความสุขจริงๆ....และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด.....หน้าที่ที่จะต้องทำให้เต็มที่ เต็มความสามารถ.... แต่ก็คงจะมาเขียนเรื่องราวต่างๆที่พบเจอในนี้อีกเรื่อยๆครับ....อาจจะแวะไปอ่านของเพื่อนๆคนอื่นๆด้วย...รักษาสุขภาพกันทุกคน


รักและคิดถึง



สิงห์นครพิงค์





ป.ล.


ผมหาสาเหตุของการปลี่ยนแปลงไม่เจอ....แต่ช่างมันเหอะ...ผมว่าจะไม่สนใจว่ามันจะเกิดจากอะไรก็ช่าง...ว่าไหมเพื่อนๆ

วันนี้เอาเพลงนี้มาฝากดีกว่า...ผมชอบฟัง....มีน้องสาวคนหนึ่งให้เพลงนี้มานานแล้ว....มันน่ารักดี อิอิ...แต่ไม่รู้ชื่อเพลง...ฟังแล้วมันหนุกดีครับ..





Create Date : 13 กันยายน 2549
Last Update : 19 มกราคม 2551 7:32:21 น. 23 comments
Counter : 976 Pageviews.

 
น่าจะเอาเพลงที่ร้องเองมาประกอบมากกว่านะคะ เพราะว่ากันอีกค่ะ

คิดถึงเมืองไทยก็กลับมาเยี่ยมบ้างนะคะ สาวไทยรอเพียบเลย
ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ


โดย: ก้อนหินก้อนหนึ่ง วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:17:54:25 น.  

 
แวะมาทักทายครับผมคุณสิงห์นครพิงค์ขอบคุณอย่างมากมายเลยครับที่เข้าไปเยี่ยมบ้านหลังน้อยๆของผม
ขอให้มีกำลังใจเข้มแข็งนะครับและฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไปให้ได้นะครับ ถึงจะเครียดแต่ขอให้ยิ้มสู้เข้าไว้ จากเพื่อนตัวน้อยๆนายบอยซ่าส์ครับ
ปล.เพลงเพราะมากครับ คงต้องบอกว่าไม่ชอบไม่ได้แล้ว ที่สำคัญผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพลงนี้ชื่ออะไร


โดย: lighthumpty~dumpty วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:18:12:50 น.  

 
เอาใจช่วยให้เจอความสุขที่แท้จริงนะครับ

บางครั้งการได้อยู่กับตัวเองคนเดียว โดยที่ไม่เจอใครสักพัก มันก็ช่วยให้เรามองเห็นความเป็นตัวตนมากขึ้นนะครับ

แต่อย่าอยู่ให้นานมากเกินไป เดี๋ยวจะบ้าครับพ้ม


โดย: justopor วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:18:15:09 น.  

 
เขียนเหมือนใจพี่คิดเลยว่าพี่เองก็เปลี่ยนไป ติดเพื่อนใน blog ติด 'net ให้เวลากับมันมากเกินไป

เมื่อวานวันเกิดเพื่อนชวนไปกินข้าวก็ไม่ไป บอกว่าต้องอยู่เวร อยากพักผ่อนก่อนไปทำงาน ตะกี๊น้องที่ทำงานชวนไปกินไอติมก็บอกว่าเจ็บคอ ไม่อยากกินไอติมแต่เจ็บจริงๆอ่ะ

แง๊ เราเป็นอะไรเนี่ย หรือเราจะติดโรคจากตาอ๊อด สารภาพมาซะดีๆนะเธอ

เขียนมาให้พี่ได้คิดนะเนี่ย เอาล่ะวันนี้พี่จะปิด comp 2 ทุ่มจ้า

เมื่อวานเราทำแบบทดสอบได้คะแนนเท่ากัน เราหลอกตัวเองกันรึป่าวอ๊อด?

แง แง เราเป็นโรค depression ง้านเหรอ
help me,please !


โดย: random-4 วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:18:27:05 น.  

 
เห็นด้วยกับความคิดนะครับ ใช้เวลาอยู่กับโลกความจริงให้มากขึ้น อยู่กับเพื่อนๆ เล่นกีฬา ออกกำลังกาย เที่ยวบ้างจะช่วยให้ไม่รู้สึกเหงา ๆ หรือไม่มีสังคม ใช้บล็อคเขียนระบายความรู้สึก อารมณ์ก็พอครับ ใช้ชีวิตให้คุ้มนะ จะได้ไม่เสียดายเวลามองย้อนกลับ


โดย: addicted2love-4UBaby วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:18:45:16 น.  

 
มาเอาใจช่วยค่ะ เพลงน่ารักจริงๆ ด้วย


โดย: เมื่อความรักเริ่มต้น วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:18:58:05 น.  

 
มาลาก่อนไปนอนจ้า คืนนี้อยู่เวรจ้า

ขอบคุณที่ทำให้คิดได้นะจ๊ะ


โดย: random-4 วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:19:53:08 น.  

 
เปี๊ยกเพิ่งจะมาได้คุยกับพี่อ๊อดไม่นานนี้เองอะนะคะ แล้วส่วนมากจะเป็นการซึมซับตัวตนของพี่ผ่านทางบล็อคนี้ซะมากกว่า ก็เลยไม่แน่ใจว่าเมื่อก่อนพี่เป็นคนสไตล์ไหน อิอิ แต่อย่างที่บอกว่าเปี๊ยกเคยถึงกับเอาไปพูดด้วยความแปลกใจนิดนึงว่า 'เอ...พี่สิงห์นครพิงค์เค้าดูเป็นผู้ชายอ่อนไหวเนอะ'

จริงๆ แล้วเพิ่งมาเป็นอย่างนี้หรอกเหรอเนี่ย อิอิ

เปี๊ยกค่อนข้างเห็นด้วยมากๆ เลยกับที่บอกว่าบล็อคมันเหมือนไดอารี่ของเรานะคะ จริงแล้วที่ว่าพอกลับมาอ่านแล้วเราก็จะรู้ว่า ณ วันนั้นๆ เราอยู่ในช่วงเวลาแบบไหน อารมณ์แบบไหน ถ้าหากเป็นช่วงที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อาจจะเจอว่าบล็อควันนี้หวานสุดๆ โลกเป็นสีชมพู พอวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าหม่นอีกแล้ว อะไรแบบนี้

เปี๊ยกก็เริ่มผูกพันกับบล็อคแล้วล่ะค่ะ ขอสารภาพ ก่อนหน้านี้ ก่อนจะเริ่มเขียนนิยาย เปี๊ยกเคยเขียนไดของไดอารีฮับค่ะ แต่เขียนได้แป๊บๆ ก็เลิก แต่พอมาเขียนบล็อคแล้วรู้สึกดียังไงไม่รู้บอกไม่ถูก รู้สึกว่านี่มันคือโลกของเรา ได้ระบาย ได้ถ่ายทอดความเป็นตัวเรา ถ้าวันไหนความลับมากหน่อยก็ใส่กุญแจล็อคไว้ แต่ส่วนมากจะให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เข้ามาอ่านซะมากกว่า แล้วที่รู้สึกดีมากๆ ก็เพราะตัวอักษรเหล่านี้นี่แหละทำให้คนรู้จักกันมากขึ้น

เชื่อไหมคะว่าบางคนอาจจะเพียงแค่แวะไปอ่านบล็อคของกันและกันเป็นปีๆ โดยไม่ได้เจอหน้า แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกันจริงๆ มานานคลอบคลุมระยะเวลานั้น เปี๊ยกคิดอย่างนั้นจริงๆ นะ

และมิตรภาพที่ได้จากตรงนี้มันก็มีค่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าแบบอื่นๆ เลย ฉะนั้น จะขอรักและผูกพันกับบล็อคต่อไปค่ะ (จบมันดื้อๆ แบบนี้เลย ฮ่าๆ)


โดย: อุรัสยา (อุรัสยา ) วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:19:53:52 น.  

 
เข้ามาอ่านและมาทักทายจ้า


โดย: opleee วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:20:06:36 น.  

 
พี่ก็รู้สึกน่ะค่ะ(ขนาดเพิ่งแค่รู้จักผ่านตัวอักษร)
ว่าสิงห์ฯเปลี่ยนไปรู้สึกว่าตอนช่วงแรกๆ
ที่สิงห์ฯมาอังกิดใหม่ๆ ดูจะเป็นคนที่ค่อนข้างซีเรียส ไม่ค่อยมีอารมณ์ขันมากนัก ดูเป็นชายหนุ่มที่ไม่ค่อยอ่อนหวาน(จากตัวหนังสือน่ะค่ะ)

แต่มาจนถึงทุกวันนี้ที่ได้มีโอกาสมาอ่านที่บล็อคของสิงห์
อ่านบ้าง ไม่อ่านบ้าง แต่ก็พอทำให้เรามองภาพของชายหนุ่ม
คนหนึ่งเปลี่ยนไป(จริงๆด้วยน่ะ)

ดูเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหว ปน หวานๆ น่ารักๆ ขี้เล่นขึ้น อัพเดทฯบล็อคถี่ขึ้น
คริๆ จะบอกว่า คนมาอยู่เมืองนอกก็เป็นอย่างนี้ล่ะเน๊อะ
บรรยากาศเหงาๆมันให้ใจมากๆเลย

สรุป ตุ๊บๆๆ ถอยๆ ดีกว่า ออกจากคอมฯบ้างก็ดีน่ะค่ะ นานๆเล่นถี่ เอ้ย นานๆเล่นที
โดยเฉพาะบล็อคแก้งค์ ติดแล้วติดเลย
กว่าจะแกะออกก็นานทีเดียว(เหมือนหลายๆคน)

ลองไปเดินช็อปปิ้งดูซิจ๊ะ เดินให้หมดแรงไปเลย ใช้เวลานอกบ้าน
มากกว่าในบ้าน
ช่วงนี้อากาศกำลังดีใช้ได้เดี๋ยวพออีกเดือน สองเดือน ก็อาจจะขี้เกียจออกนอกบ้าน
เพราะว่าหนาว ทีนี้ก็จะมีเวลาใช้หน้าคอมฯ
มากขึ้น

สรุปอีกรอบ พี่เขียนแล้วอ่านรู้เรื่องเปล่าค่ะ พี่อ่านเองก็ยังงงเองเลยค่ะ คริๆ แซวเล่นสนุกๆจ๊ะ


โดย: พ ริ ก ขี้ ห นู @ UK วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:20:12:39 น.  

 
อาจเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
ใจคนเลยปรวนแปรตาม
(ตอนนี้กำลังอินกับหนังseasons change ครับ)


โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:20:13:15 น.  

 
ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจที่ blog นะ เราพอเดาได้ว่าจิตตกน่ะ มันเป็นยังไง ข้างนอกมันนิ่งๆนะ แต่ข้างในมันรู้สึกพิกลๆ ใช่ป่ะ (คือว่า......ตอนนี้จิตตกเช่นกัน)
แต่ดีใจนะที่อ็อดรู้ตัวเองทัน
เคยเข้าไปอ่าน...และได้ฟังธรรมมะใน group ยา...รักษาใจที่อ็อดเขียนน่ะ (เออ...ตอนแรกอ่านแล้ว..นึกว่าอ็อดเตรียมตัวจะไปบวชอ่ะ) ได้คิดอะไรดีดี เยอะเลย อยากให้อ็อดลองกลับไปฟังและอ่านดู เผื่อจะทำให้หาความสุขนั้นได้
แล้วที่บอกว่า......รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปอ่ะ.....จริงๆแล้ว อ็อดไม่ได้เปลี่ยนไปหรอก อ็อดยังเป็นอ็อดคนเดิม...(และอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป......) แต่อารมณ์ ณ ตอนนี้ มันอาจจะมีขึ้นมีลงบ้าง
มีเหงา(...............จนต้องมานั้งร้องเพลงลง blog)
มีเศร้า(................เพราะทะเละกับเพื่อสนิท)
มีคิดถึง (.............จนต้องพรรณาออกมาเป็นกลอน blog)
และพฤติกรรม ต่างๆนานาที่อ็อดเล่ามานั่นแหละ....... (เหมือนเราตอนนี้ไง......เม้นท์ซะยาวเลย..ทั้งที่ไม่เคยเม้นท์ใครยาวๆอย่างนี้มาก่อน)
ขอให้หาความสุขที่ว่านั้นให้เจอเร็วๆนะ.........มันอยู่ในใจเรานี่แหละ........แต่มันกว้างใหญ่เหลือเกิน........
( เราก็ยังคง....ตามหาความสุขนั้นเช่นกัน.......เจอเมื่อไหร่บอกด้วยนะ)
สิงห์ สู้โว้ย...

ปล.. ห่างจากหน้าจอคอมพ์ได้ แต่อย่างหยุดเขียน blog นะ จะรออ่าน


โดย: tweety girl วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:20:54:07 น.  

 
พี่ว่ามันก็คงเป็นอารมณ์และเหตุการณ์ต่างๆ มันประดังประเดเข้ามา สิ่งต่างๆ เลยเป็นตัวแปรทำให้เราเปลี่ยนไป

แต่ยังดีนะค่ะว่าตัวเองรู้เท่าทัน .. ยังไงก็พยายามหาทางออกให้ตัวเองได้เร็วๆ นะจ้ะ


โดย: JewNid วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:21:27:22 น.  

 
ลืมบอกไป....เพลงนี้ชื่อ
ต่อให้ใครไม่รัก ของ Project H จ้า


โดย: tweety girl วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:23:01:33 น.  

 
People change. I'm not the same person I was 10 years ago. I may not be the same person I am today 10 years from now. But that doesn't matter as long as I'm happy.

Hope you feel better soon.

P.S. I love the background picture very much.


โดย: Rive Gauche วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:23:22:16 น.  

 
เราก็ติด blog เหมือนกัน เพิ่งมาเล่นไม่นาน แต่รู้สึกดี ได้เขียน ได้อ่าน แลกเปลี่ยนความคิดดี นอกจากนั้น ยังได้รู้จักเพื่อน ๆ อีกเยอะเลยค่ะ



โดย: lilac girl (Lilac Girl ) วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:23:52:57 น.  

 
ขอให้พบกับความสุขจริง ๆ ดังว่าอย่างเร็วไวนะคะ สำหรับครู...การได้อ่านเรื่องราวของคุณจนจบลงพร้อมกับรอยยิ้มทุกครั้ง นับเป็นความสุขอย่างเหลือล้นแล้วค่ะ...

...เทคแคร์นะคะ...


โดย: Kitten ConCerto วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:1:11:23 น.  

 
ออกกำลังคือทางออกครับ

เพราะถ้าเราอยู่คนเดียว นั่งคิดนั่นคิดนี่

เราก็จะจมอยู่กับความคิดตัวเอง

ช่วงก่อนผมก็เป็น อาจเป็นช่วง Midlife Crisis ด้วย ก็เลยดูเครียดๆ

หลังๆมาออกกำลัง ชวนเพื่อนๆไปบ้าง ไปคนเดียวบ้าง หากิจกรรมทำไม่ให้เบื่อ ก็รู้สึกดีขึ้นเยอะน่ะครับ

ที่สำคัญ กำลังใจจากเพื่อนๆในบล๊อกก็ช่วยได้เยอะเลยครับ

Get well soon



โดย: Dr.Manta (Dr.Manta ) วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:11:39:20 น.  

 
ยังไงก็มีผมเป็นเพื่อนกันนะครับ เป็นกำลังใจให้เสมอ


โดย: stawahna (stawahna ) วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:21:28:38 น.  

 
เยงไงก็ยังมีเพื่อนๆในบล๊อคแกงค์เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ


โดย: wls (winter love song ) วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:0:24:38 น.  

 
โดยปกติแล้วผมเป็นคนสุขภาพจิตดีนะ
เว้นแต่เวลาเครียดๆ ครับ ส่วนใหญ่เวลาเครียดจะรู้สาเหตุ
และสาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากเรื่องงานน่ะแหละ
ผมก็แก้เครียดด้วยการทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยครับ
เล่นเกม อ่านหนังสือ วาดรูป ร้องเพลง
พอเริ่มอาการทุเลาเบาบางค่อยกลับไปทำงานต่อ

ผมว่าคุณ oz มาถูกทางแล้วครับ
คือรู้ว่าตัวเองเครียดก็หาอะไรทำซะ ให้มันได้ปลดปล่อยซะบ้าง
เขียนหนังสือ ร้องเพลง เล่นเน็ท ถ้ามันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
หรือถ้าอาการหนักจริงๆ คงต้องชาร์ตแบตครับ
ด้วยการทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบ ไปเที่ยวไกลๆ ดูหนัง หรือแค่นอนเฉยๆ ก็ได้

ผมว่าผมได้มารู้จักคุณ oz ในช่วงเวลาที่สับสนสินะ
ผมเลยคิดว่าคุณเป็นคนที่อ่อนไหวใช่เล่น
แต่จริงๆ แล้ว... ก็เป็นคนอ่อนไหวและอ่อนโยนอยู่ลึกๆ ใช่มั้ยครับ



โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:2:12:23 น.  

 
เพิ่งมาอ่าน blog นี้ย้อนหลังค่ะ พี่ก็เห็นด้วยนะคะ เรื่องที่อ๊อดเปลี่ยนไปนิดๆ แต่ว่าก็ไม่เลวร้ายอะไรนะคะ พี่เข้าใจชีวิตคนที่มาเรียนต่างประเทศดี เรื่อง depressive น่ะ เกิดขึ้นได้ง่ายๆ พี่และพี่แปงก็เหมือนกัน เคยกอดคอกันร้องไห้อยากจะกลับเมืองไทยใจจะขาด สาเหตุก็มีหลายอย่าง ทั้งเหงา ทั้งกดดันเรื่องเรียน ทั้งสภาพอากาศที่ไม่คุ้นเคย และสำหรับอ๊อดคงมีเรื่องหัวใจด้วยนั่นแหละ เฮ้อ....
ส่วนเรื่องอินเตอร์เน็ต พี่ว่าก็มีอิทธิพลมากเหมือนกันนะคะ มีตัวอย่างเยอะเหมือนกัน เอาไว้เล่าทางอีเมลดีกว่าเนอะ


โดย: P´Porn IP: 85.176.119.156 วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:6:00:56 น.  

 
เพราะนายเป็นโสดนะดิ
ถึงได้ขี้เหงา
ลองมีลูก ทำงาน ไม่มีเวลาว่างดูดิ
เราคงได้อ่านอีกทีก็รายสามเดือนครั้ง


โดย: missdusita IP: 87.74.18.231 วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:6:32:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อ๊อดอ๊อดยอดมานุส
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]









Srawut Kumphune's Facebook Profile
Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
13 กันยายน 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add อ๊อดอ๊อดยอดมานุส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.