sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ ๑๑ พยัคฆ์กับนางสิงห์




รสิตาพลิกไปด้านข้างแล้วขดตัวเมื่อไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศกำลังทำให้เธอรู้สึกหนาวเหน็บ มือเรียวดึงผ้าห่มที่พาดหมิ่นเหม่อยู่แค่อกขึ้นคลุมร่างกายแล้วหลับต่อ...เธอซุกใบหน้ากับหมอนนิ่มก่อนจะควานมือหาหมอนข้างคู่ใจที่ไม่เคยอยู่ห่างกายด้วยความเคยชิน

มือเรียวควานหาของสำคัญอยู่อีกชั่วครู่เมื่อหาไม่เจอจึงพลิกตัวมาอีกด้าน...ก่อนจะบ่นงึมงำเมื่อรู้สึกหนักศีรษะและง่วงงุนจนลืมตาขึ้นยากเย็น

อลันยืนอยู่ข้างหน้าต่าง...มองร่างบอบบางที่เริ่มขยับตัวแล้วควานมือหาอะไรสักอย่างประกายตาเรียบเฉย...แม้จะตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมเขาต้องมานอนเฝ้าแม่นี่...ทั้งๆ ที่เดินกลับห้องตัวเองไปแล้ว...แต่เมื่อล้มตัวลงนอนดวงตากลับสว่างจ้า...จนต้องลุกขึ้นเดินไปเดินมาและเดินจนมาถึงห้องนี้...

ดวงตาคมกริบจ้องคนบนเตียงที่เปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ อย่างสนใจ...ว่าเธอจะทำอย่างไรหากเห็นเขา...

รสิตาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งพยายามไล่ความง่วงงุนที่ยังคงตกค้างแล้วกวาดตามองหาหมอนที่เธอใช้กอดมานับยี่สิบปี ดวงตาคู่สวยเบิกขึ้นเมื่อเห็นห้องที่นอนอยู่ดูแปลกตาและไม่คุ้นเคย

เฮือก! หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อหันไปทางหน้าต่างแล้วเห็นร่างสูงของใครคนหนึ่งยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้น...และเขากำลังจ้องมาที่เธอ...หญิงสาวก้มลงสำรวจตัวเองเมื่อเห็นอาภรณ์ที่อยู่บนร่างกายเป็นของเธอและค่อนข้างมิดชิดจึงเริ่มเบาใจ...แม้จะตกใจสุดขีดกับทุกอย่างรอบตัวแต่เพราะถูกฝึกมาอย่างดีจึงทำให้เธอคุมสติได้พอควร...

รสิตาสะบัดหน้าไล่อาการมึนงงแล้วเริ่มลำดับเหตุการณ์...แม้จะตกใจจนแทบช็อกแต่เธอกลับไม่หวีดร้องจนดูผิดวิสัยของผู้หญิง...

อลันจ้องคนที่กำลังนั่งกุมศีรษะและทำท่าครุ่นคิดด้วยความงุนงง...เพราะไม่เห็นเธอร้องกรี๊ดๆ เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไปที่มักตื่นตกใจกับสถานการณ์อันไม่คุ้นเคย

หญิงสาวพยายามระงับความตื่นตระหนกไว้ภายในแล้วใช้สติอันพร่าเลือนคิดหาทางออก...ดวงตาคู่งามเหลือบไปทางหน้าต่างแล้วลอบถอนใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่มีทีท่าจะขยับ...รอยยิ้มบางๆ ผุดออกจากมุมปากสีซีดเมื่อมองเห็นทางรอดวางหราอยู่บนโต๊ะไม้ขัดเงาหน้าโซฟา...และอยู่ห่างจากเธอไม่ถึงสองวา

รสิตานั่งก้มหน้านิ่ง...แต่ความคิดยังคงแล่นไปเมื่อสัมปชัญญะเริ่มกลับคืน...เธอนั่งฟังเสียงฝีเท้าของคนที่ยืนอยู่อีกด้านอย่างจดจ่อ...เวลาผ่านไปชั่วครู่เมื่ออีกฝ่ายไม่มีทีท่าขยับเธอจึงประเมินระยะห่างของเจ้านั่นกับทางรอดของตัวเอง...

ริมฝีปากสีซีดกระตุกยิ้มเมื่อรับรู้ได้จากท่าทีของอีกฝ่ายว่าเจ้านั่นกำลังอยู่ในภาวะเดาไม่ออก...ตามหลักจิตวิทยาหากเธอคือเหยื่อ...และผู้ชายที่ยืนนิ่งอยู่นั่นคือคนร้าย...มันจะต้องคิดหนักทีเดียวเมื่อเห็นเหยื่อดูนิ่งสงบจนเดาใจไม่ถูก...

เกือบสิบนาทีที่ทั้งสองต่างไว้เชิง...อลันจ้องท่าทางของอีกฝ่ายเขม็งไม่วางตาพร้อมกับประเมินท่าทีของเธออยู่เงียบๆ...ส่วนรสิตากลับใช้วิธีลอบจ้องเพื่อจับจังหวะและรอโอกาสอย่างใจเย็น...

อลันยังชะล่าใจกับท่าทางไร้พิษสงของหญิงสาว...เพราะคิดว่าเธออาจกำลังมึนงงเพราะโดนโปะยาสลบมาหลายชั่วโมง...ขณะกำลังจ้องเธอเพลินๆ อยู่ๆ ร่างเปรียวระหงก็ลุกพรวดพุ่งเข้าไปหยิบปืนบนโต๊ะ...แล้วลั่นกระสุนออกไปทันที

“เฮ้ย!!”

อลันแผดเสียงขึ้นอย่างตื่นตระหนกพร้อมกับกระโจนหลบกระสุนด้วยความเร็วตามสัญชาตญาณ ด้วยทักษะที่มีจึงทำให้เขารอดจากวิถีกระสุนไปได้อย่างฉิวเฉียด

เปรี้ยง!...เพล้ง!

กระสุนนัดแรกพุ่งทะลุกระจกจนเป็นรอยร้าว...แต่หญิงสาวยังเล็งเป้าไว้มั่น

“แกเป็นใคร!...”

แม้กระสุนไม่ได้เจาะเข้าตรงส่วนไหนของร่างกายในเวลานี้ แต่อลันก็ยังไม่วางใจเพราะนาทีต่อไปกระสุนนัดใดนัดหนึ่งอาจถูกส่งเข้ามาเป็นอีกหนึ่งประติมากรรมบนร่างกาย ชายหนุ่มกัดกรามแน่นเมื่อชะล่าใจจนถูกอีกฝ่ายยึดอาวุธ

“ฉันถามว่าแกเป็นใคร?”

เสียงถามเอาเรื่องของหญิงสาวยิ่งเพิ่มความขุ่นเคืองให้กับนักฆ่าผู้ไร้หัวใจ...จนได้ยินเสียงกัดกรามดังกรอดๆ ที่เขากำลังถูกต้อนให้จนมุมเพราะผู้หญิง...ให้ตายเถอะยัยบ้านั่นมันยิงก่อนถามอย่างธงไชยว่าจริงๆ...พอนึกถึงคำบอกเล่าของลูกน้องเขาก็แทบยกมือขึ้นทุบหัวตัวเอง...

“วางปืนลงก่อนสิ...เธอจะฆ่าฉันหรือยังไง”

อลันตะโกนออกมาจากหลังโซฟาด้วยน้ำเสียงขุ่นเขียว

“ฉันไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นแน่...ลุกขึ้นมา”

ดวงตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ เพื่อมองหาอาวุธ...ทำไมไม่พกระเบิดมาด้วยสักลูกนะจะได้ปาให้แม่นั่นกระจุยกระจายตายๆ ไปซะ...พอหาตัวช่วยไม่ได้อลันตัวร้ายจึงเริ่มคิดนอกกรอบ

“ฉันก็ไม่โง่ลุกขึ้นเป็นเป้าให้เธอยิงแน่”

“ขี้ขลาด...”

และเสียงหวานก็สาดคำสบประมาทกลับไปทันที และมันได้ผลเมื่อนักฆ่าผู้องอาจและหยิ่งผยองโผล่พรวดขึ้นยืนเต็มความสูงจนลืมตายเมื่อถูกอีกฝ่ายท้าทายด้วยคำพูดที่...ผู้ชายพันธุ์แท้ตอบได้คำเดียวว่า...ฆ่าได้แต่อย่าคิดมาหยามกันเด็ดขาด...

“ยอมโง่ลุกขึ้นมาเป็นเป้าให้ฉันแล้วเหรอ...บอกมาว่าแกเป็นใครต้องการอะไรจากฉัน”

รสิตาถามขณะเล็งปืนในมือไปที่ร่างสูงผึ่งผายด้วยประกายตานิ่ง...และมั่นคง

“ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอ...วางปืนลง”

อลันมองท่าทางสงบจนดูเยือกเย็นของหญิงสาวด้วยประกายตาหงุดหงิดในอารมณ์...เขาประมาทผู้หญิงอีกแล้ว...และดูเหมือนความประมาทครั้งนี้กำลังสร้างหายนะให้กับชีวิตเขาไม่น้อย...

“ไม่ต้องการอะไรแล้วแกจับฉันมาทำไม...และตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนบอกมา”

ดวงตาคมกริบจ้องปลายกระบอกปืนที่เล็งมาด้วยประกายตาเรียบเฉย แต่หัวใจกำลังเต้นอยู่ในระดับที่เรียกว่าเร็วยิ่งกว่าเสียงกลอง...แม้จะไม่กลัวตาย...แต่เวลานี้เขาไม่อยากตายเพราะน้ำมือของยัยนั่น...รู้ไปถึงไหนคงได้อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี...ที่พยัคฆ์อย่างนายอลันจะมาสิ้นลายเพราะประมาทนางสิงห์ร้ายในคราบลูกกวาง ก่อนจะผุดรอยยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงตบประตูดังโครมครามจากด้านนอก

“วางปืนลงแล้วมาเจรจากันดีกว่าไหม”

อลันเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าคนของตนกำลังเข้ามา ก่อนจะใช้ไม้นวมเข้าหลอกล่อเพื่อหาทางออกให้ตัวเอง

“อย่ามาลูกไม้ดีกว่า...คนอย่างฉันพลาดได้แค่ครั้งเดียว...เดินมานี่แล้วพาฉันออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”

รสิตาตะคอกเสียงกลับไปเมื่อเห็นลูกไม้เก่าๆ ของอีกฝ่าย แม้จะรู้สึกกังวลกับกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกแต่เธอก็ยังเชื่อว่าจะหนีรอดหากใช้อีกฝ่ายเป็นใบเบิกทาง

“ฉันว่าเธอน่าจะเจรจาเพราะยังไงไพ่ในมือของฉันก็แต้มสูงกว่าอยู่แล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นก็ลองวัดกันดูว่าไพ่ของแกกับลูกกระสุนของฉันแต้มเดิมพันของใครมันจะไฉไลกว่ากัน”

เปรี้ยง!...

พอพูดจบกระสุนนัดที่สองก็ถูกปล่อยออกไปทันที...อลันยืนกำมือแน่นเมื่อเห็นกระสุนนัดนั้นเจาะเข้าโซฟาห่างจากร่างเขาไปไม่ถึงศอก...แม้จะสะดุ้งแต่นักฆ่าอย่างเขาก็ไม่ได้ทำท่าตื่นตระหนกให้เสียหน้า

“เธอคิดเอากระสุนนั่นข่มขู่ฉันงั้นเรอะ”

“ฉันไม่ได้ขู่...แต่เอาจริง...แน่จริงก็ลองทำอะไรโง่ๆ ดูสิแล้วจะรู้ว่าฉันทำได้มากกว่าที่แกคิด”

อลันเข่นเขี้ยวอย่างสุดทนเมื่อถูกอีกคนข่มขู่ด้วยอาวุธคู่ใจของตัวเอง...ชายหนุ่มทำเสียงฮึ่มๆ เมื่อถูกท้าทายด้วยประกายตาดูแคลน

ให้ตายเถอะ! ผู้หญิง...ผู้หญิง...ฉันเกลียดผู้หญิง!...อลันแผดเสียงลั่นอยู่ในใจเมื่อเห็นความร้ายกาจของเพศที่เขาไม่เคยมองออกเลยสักทีว่าภายใต้ความงดงามของอิสตรีมันยังมีอะไรแอบแฝง

“อย่ามาท้าทายฉัน...”

เขาเข่นเขียวบอกอย่างฉุนเฉียว

“ฉันไม่ได้ท้า...”

“วางปืนลงถ้ายังไม่อยากถูกฝังอยู่ที่นี่...เธอก็รู้ว่าเวลานี้ในมือฉันมันมีไพ่อยู่หลายใบ”

อลันชี้มือสั่งอย่างมีอารมณ์

“เวลานี้ปืนในมือฉันกำลังขึ้นและไพ่ในมือแกก็ไม่มีเลยสักใบ...อยากลองดูไหมว่าใครจะแพ้และถูกฝัง”

รสิตาเลิกคิ้วแค่นยิ้มเยาะหยันเมื่อเห็นท่าทางโกรธจนควันพุ่งเป็นภูเขาไฟของอีกฝ่าย

“ที่นี่เป็นถิ่นของฉัน...ถึงฉันตายคนของฉันก็ไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่...ขอเตือนด้วยความหวังดีว่าถ้าฉลาดเธอควรวางไอ้ปืนบ้านั่นลงแล้วมาเจรจากัน”

แต่ก่อนที่หญิงสาวจะทันตัดสินใจประตูก็ถูกถีบเสียงดังผาง!...ตามด้วยร่างสูงปราดเปรียวของเอกทัศน์พรวดพราดเข้ามาพร้อมกับคนของเขาอีกจำนวนหนึ่ง

“คุณอลัน!...คุณพระ!!!”

เสียงของคนมาใหม่ที่อุทานอย่างตื่นตระหนกทำให้อลันรู้สึกฮึกเหิมขึ้น...ชายหนุ่มจ้องใบหน้าเผือดซีดของหญิงสาวแล้วผุดรอยยิ้มเยาะหยันเมื่อเห็นตัวช่วยกำลังพลิกสถานการณ์ให้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ...ก่อนจะแค่นเสียงถามอย่างผู้มีชัย

“เธอคิดไว้หรือยังว่าจะหนีออกจากที่นี่ยังไง...”

รสิตาวาดปืนในมือไปทางเอกทัศน์แล้วปล่อยกระสุนออกไปทันที...โดยไม่ถามอีกฝ่ายตามเคย

“เฮ้ย!...”

เอกทัศน์ที่นับว่าดวงยังแข็งพุ่งตัวไปอีกด้านได้อย่างฉิวเฉียด...พร้อมๆ กับคนของเขาที่ต่างกระโจนหลบเป็นพัลวันและเป็นจังหวะเดียวกับอลันถลันเข้าหาหญิงสาว...ชายหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งดันมือที่ถือปืนขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว...อีกมือตวัดรัดเอวเธอไว้แน่น...

รสิตาดิ้นอึกอัก...ไม่ยอมปล่อยปืนจากมือง่ายๆ แม้ว่าจะถูกเขาบีบจนเจ็บร้าวก็ตามที

“เป็นผู้หญิงอย่าทำเก่ง...”

อลันเข่นเขี้ยวอย่างหงุดหงิดเมื่อคนร่างเล็กยังไม่สิ้นฤทธิ์ง่ายๆ เมื่ออีกฝ่ายยังต่อต้านชายหนุ่มจึงหมุนร่างดึงเธอให้หันไปทางเตียงแล้วโถมตัวทาบร่างเปรียวระหงลงบนเตียง

หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อมือถูกบีบจนรู้สึกเหมือนกระดูกใกล้แหลกเต็มที เธออ้าปากเมื่อร่างแกร่งกำลังโถมน้ำหนักตัวกดทับจนทำให้หายใจแทบไม่ออก...

อลันมองท่าทางอ่อนแรงของคนใต้ร่างด้วยประกายตากร้าวดุ...ก่อนจะดึงปืนออกจากมือเรียวเล็กที่หมดสิ้นเรี่ยวแรงต่อต้านในอีกอึดใจต่อมา

ชายหนุ่มยืดตัวยัดปืนลงในลิ้นชักข้างหัวเตียงแล้วหันมาเล่นงานร่างที่เขาทาบทับไว้อย่างไม่คิดออมมือหรือสำนึกว่าเธอคือผู้หญิง

“คุณอลันอย่า!...”

เอกทัศน์พุ่งเข้าไปยึดแขนเจ้านายไว้แน่นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังเงื้อมือขึ้น

“เธอจะฆ่าฉัน...และนายนะทัศน์”

อลันปรายตาไปทางลูกน้องคนสนิทแล้วชี้ให้เห็นความผิดของอีกฝ่าย

“แต่เธอเป็นผู้หญิง...พวกเราไม่เคยใช้กำลังทำร้ายผู้หญิงไม่ใช่เหรอครับ”

เอกทัศน์ได้ทีรีบเพิ่มแต้มเพราะหวังได้คะแนนและความไว้วางใจจากพี่สาวของว่าที่ภรรยา

“เป็นผู้หญิงแล้วไง...นายไม่เห็นเรอะว่าเธอร้ายกาจแค่ไหน...”

อลันยังไม่ยอมถอยออกง่ายๆ เมื่อถูกอีกฝ่ายเล่นงานถึงสองนัด...แถมยังท้าทายด้วยคำพูดและท่าทางทางอวดดี

“ปล่อยฉันนะไอ้คนเฮงซวย”

ขณะเจ้านายและลูกน้องกำลังถกเถียงกัน...เสียงเกรี้ยวกราดก็ดังขัดขึ้น

“หุบปากของเธอได้แล้ว...ถ้าไม่อยากถูกฉันเลาะฟันออกมานับเล่น”

อลันสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมแล้วหันมาตะคอกข่มขู่

“แน่จริงก็ทำสิฉันไม่เคยกลัว”

รสิตาเชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทาย

“เห็นไหม...นายเห็นไหมว่ายัยนี่มันแสบขนาดไหน...” อลันหันไปทางเอกทัศน์แล้ววกกลับมาจ้องใบหน้ากราดเกรี้ยวของคนใต้ร่าง...จับขากรรไกรของเธอบีบอย่างไม่คิดปรานีแล้วเข่นเขี้ยวออกมา “ฉันควรฆ่าเธอแบบไหนมันถึงจะสาใจฉัน”

“ปล่อย!...”

รสิตาดิ้นรนเต็มกำลังแม้จะรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดแต่ยังดิ้นไม่ยอมถอย

“เก่งนักใช่ไหม..เก่งนักก็ดิ้นให้ตายไปเลย”

อลันเข่นเขี้ยวพร้อมกับออกแรงกดมือลงบนลำคอระหง

เอกทัศน์ยืนแทบไม่ติดเมื่อเห็นใบหน้าขาวซีดเริ่มเขียวคล้ำ...ชายหนุ่มรีบพุ่งเข้าไปดึงแขนของเจ้านายแล้วออกแรงลากเขาออกจากร่างเปรียวบาง

“ปล่อยฉันนะทัศน์...นายจะห้ามทำไม”

“คุณกำลังจะฆ่าเธอนะครับ”

“แล้วนายเห็นฉันกำลังท่องสวรรค์กับแม่นี่หรือยังไง...ให้ตายเถอะ...ยัยบ้านี่คิดจะฆ่าฉันเชียวนะ”

อลันผลักอกของลูกน้องคนสนิทแล้วหมุนกลับไปหาร่างเปรียวบางที่กำลังนั่งไอแค่กๆ อยู่บนเตียง

“ให้ผมเห็นคุณท่องสวรรค์มันยังดีกว่าเห็นคุณฆ่าเธอนะครับ...”

เอกทัศน์บอกออกไปตรงๆ

“ผู้หญิงแบบนี้น่ะเหรอ...” อลันเชยคางเธอขึ้นมาแล้วแค่นเสียงดูแคลน...”ผู้หญิงอย่างแม่นี่ร่างกายคงมีไว้แค่ซื้อขาย...เรือนร่างสกปรกโสโครกยั่วผู้ชายแบบนี้ฉันไม่มีวันกระเดือกให้เสียเหงื่อแน่” พูดจบก็ผลักหญิงสาวลงบนเตียงอย่างไม่ใยดี

รสิตารู้สึกทั้งจุกทั้งเจ็บเมื่อถูกอีกฝ่ายดูถูกซึ่งๆ หน้า...แม้เธอจะเข้าใจว่าทำไมนายวายร้ายนั่นถึงดูแคลนเธอแบบนั้น...แต่เมื่อถูกตราหน้าว่าไร้ราคาเธอจึงไม่คิดให้อภัย...

“ทัศน์ถ้าไม่ให้ฉันฆ่า...นายจะเอาเธอไว้เป็นนางบำเรอก็ได้นะ...ฉันอนุญาตเพราะแม่ฝาแฝดอีกคนคงให้รสชาติหวานจนนายเลี่ยน...ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศชิมแม่มะนาวนี่ดู...จากท่าทางคงจะผ่านมาเยอะบางทีมันอาจจะพอทำให้นายหายเบื่อของเดิมๆ ได้บ้าง”

อลันปรายตามองใบหน้าเผือดซีดของหญิงสาวแล้วเบะปากดูแคลน

“หมายความว่ายังไง...ไอ้สารเลว...แกพูดถึงอะไร?”

แม้จะทั้งจุกทั้งเจ็บแต่รสิตาก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ง่ายๆ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยถึงคู่แฝด

“อยากรู้เหรอ...เอาสิทัศน์ช่วยสงเคราะห์บอกให้หายโง่หน่อยเป็นไง...แต่ก่อนบอกฉันว่านายควรลิ้มลองของแปร่งๆ ดูสักรอบ...ท่าทางยั่วสวาทแบบนั้นดูท่าคงช่ำชองไม่เบา...ไม่แน่บางทีมันอาจจะดีกว่าของจืดๆ อย่างเมียนาย”

อลันยังปล่อยหมัดฮุคด้วยคำพูดดูแคลนไม่หยุด

“คงไม่ล่ะครับ...เวลานี้หัวใจของผมเป็นของคุณโรสผมรักเธอและสาบานว่าจะไม่แตะต้องผู้หญิงคนไหนต่อให้มีทุกอย่างเหมือนเธอผมก็ไม่คิด”

เอกทัศน์รีบปฏิเสธทันที

รสิตาหันไปจ้องหน้าเอกทัศน์ตาเขม็งอย่างไม่เป็นมิตรเมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดถึงรติญา...แม้ท่าทางของผู้ชายที่เพิ่งเข้ามาจะดูสุภาพและมีเหตุมีผลมากกว่าอีกคนแต่เวลานี้เธอก็ไม่คิดวางใจใคร

“หึหึ...คิดดูเถอะขนาดให้ฟรียังไม่มีใครเอา...” อลันปรายตามองใบหน้ากราดเกรี้ยวของหญิงสาวด้วยประกายเหยียดหยาม...” นายมันโง่ที่หลงระเริงอยู่กับความรักบ้าๆ นั่นฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าพวกเราเป็นนักฆ่า...คนเป็นนักฆ่าต้องไม่มีหัวใจ...” อลันเข่นเขี้ยวบอกก่อนจะขยับไปหยิบปืนในลิ้นชักและเดินออกจากห้องไปอย่างฉุนเฉียว

รสิตาฝังเขี้ยวลงบนริมฝีปากอย่างเคียดแค้น...แล้วจะได้เห็นดีกัน...ฉันจะทำให้คนอย่างนายนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าให้ได้...ฉันสาบาน!...





Create Date : 21 ตุลาคม 2553
Last Update : 21 ตุลาคม 2553 11:55:14 น. 7 comments
Counter : 1826 Pageviews.

 
วันนี้อากาศเย็นๆ ค่ะ ฝนไม่ตกแล้ว แต่วันศุกร์เดินทางเข้ากรุงเทพ ไม่รู้ว่าจะถูกน้ำขวางทางหรือเปล่า และหวังว่าคงไม่ไม่ถึงขนาดพายเรือเข้ากรุง ค่ะ....ยังไงก็จะพยายามตะเกียกตะกายไปให้ได้ค่ะ เรื่องเหลี่ยมรัก บก. แจ้งว่าทันงานหนังสือนี้แน่นอน...เพราะตอนนี้กำลังตีพุงอยู่ที่โรงพิมพ์แร้น......

ใครไปงานหนังสือก็แวะไปทักทายกันนะคะ ถ้าไปไม่ได้จริงๆ เอ๋จะรีบบอกค่ะ

รักษาสุขภาพทุกคนค่ะ


โดย: sansook วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:11:58:23 น.  

 
ทำเป็นเก่ง แล้วจะรอดมั๊ยเนี่ยพ่อหนุ่มอลัน...

พี่เอิงเริ่มอ่านนิยายของหนูเรื่องแรกก็คือเรื่องของพ่อหนุ่มทีปต์ แล้วก็ตามเก็บทุกหนุ่ม (ในสังกัดของหนู) จนถึงหนุ่มอลันเนี่ยแหละจ้า...

วันนี้ที่นี่ฝนตก ฟ้าคลื้ม อากาศเย็น (ที่บ้านเราเรียกว่าหนาว) เหมาะแก่การนอนห่มผ้า อ่านนิยายสนุกๆ เป็นที่ซู๊ดจ้า

หนูเอ๋ และมิตรรักแฟนนิยายทุกๆ คน ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ


โดย: เอิงเอย IP: 68.224.193.220 วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:22:52:19 น.  

 
อยากดูน้ำหน้าอีตาอลันจริง ๆ ...นู๋เอ๋จัดไปอย่าให้เสีย 55

ฝนทางนี้หนาวถึงคนทางโน้นรึเปล่าคะ ...คนไกล ๆ


โดย: jee IP: 10.249.112.88, 203.146.104.35 วันที่: 22 ตุลาคม 2553 เวลา:8:20:06 น.  

 
อลันเจอแม่สิงห์น้อยแล้ว อิอิ อลันจะทำยังต่อน่ะเมื่อต้องมารักกับลิลลี่ สนุก มาอัพต่อน่ะ


โดย: raimee IP: 118.173.81.35 วันที่: 22 ตุลาคม 2553 เวลา:16:26:47 น.  

 
เขียนได้น่าติดตามมากครับ
โชคดีในการเดินทางนะครับ
เห็นกระเป๋าใส่หนังสือ นึกถึงเจ้าของทุกทีครับ


โดย: หน่อย - ตั้ม (tumauto ) วันที่: 22 ตุลาคม 2553 เวลา:17:27:57 น.  

 
หวังว่าตอนนี้คุณเอ๋คงประจำที่งานหนังสือแล้ว

ขอให้หนังสือนิยายขายดีทุกเรื่องนะครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 24 ตุลาคม 2553 เวลา:20:38:36 น.  

 
วันนี้ขออนุญาตงดอัพยั่วรักนะคะ เดินทางไกลกลับมาเปื่อยค่ะเลยไม่ได้ปั่น....

พรุ่งนี้อัพแน่นอนสัญญาค่ะ

ต้องขอโทษด้วยนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ห่วงใยค่ะ


โดย: sansook วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:10:00:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.