sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ ๕ ความรักบนความขัดแย้ง




เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่ย่ำขึ้นเรือนหยุดมือเรียวที่กำลังสาละวนอยู่กับกองผ้าให้เงยหน้าขึ้นมอง ไอรดาวางผ้าอ้อมลงบนตะกร้า แล้วค่อยๆ ขยับลุกขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าบูดบึ้งของสามี

“ลุกขึ้นมาทำไมจ๊ะไอ...”

ราชรีบพุ่งเข้าไปประคองคนรักแล้วทรุดลงนั่งข้างๆ เธอ

“ไอได้ยินคุณราชทะเลาะกันคุณแพร...เสียงดังเชียว”

ไอรดาจ้องหน้าสามีด้วยประกายตาตำหนิ

“ผมกำลังกลุ้มใจกับความเอาแต่ใจของยัยแพร คุณก็เห็นไม่ใช่เหรอว่ายัยแพรมันแรงขนาดไหน”

“แต่ไม่เห็นต้องใช้คำพูดรุนแรงเลยนี่คะ...ไอเข้าใจว่าคุณห่วงเธอแต่คำพูดที่เต็มไปด้วยคำตำหนิติเตียนแบบนั้นมันไม่ได้ช่วยลดความขัดแย้งหรอกนะคะ”

ราชมองใบหน้าอวบอิ่มของภรรยาแล้วยิ้มบางๆ ก่อนจะเสเปลี่ยนไปถามเรื่องอื่น

“อีกอาทิตย์เดียวตาหนูก็จะคลอดแล้วใช่ไหมไอ”

“ค่ะ...ไอกำลังเตรียมข้าวของสำหรับเด็กอ่อน”

“ตื่นเต้นจังเลยที่จะได้เห็นหน้าตาหนูสักทีคุณเป็นยังไงบ้างลูกดิ้นแรงไหม...เจ็บตรงไหนหรือเปล่าจ๊ะ...”

ราชถามพร้อมกับวางมือลงบนครรภ์ภรรยาด้วยท่าทีอ่อนโยน จนไอรดายิ้มขบขันกับท่าทางเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของคนรัก

“คุณควรอ่อนโยนแบบนี้กับคุณแพรเธอบ้าง...ผู้หญิงไม่มีใครชอบคนปากจัดหรอกรู้ไหมคะ”

ไอรดาจ้องราชที่ทำหน้าเซ็งๆ แล้วยิ้มพรายออกมาเพราะเข้าใจดีว่าชายหนุ่มกำลังเซ็ง...ด้วยเรื่องอะไร

“ผมรักคุณนะไอรักจนหมดหัวใจ...รักจนรู้สึกเหมือนจะขาดใจตายเสียให้ได้หากข้างกายไม่มีคุณ...เพราะรักมากผมจึงอยากมอบแต่สิ่งดีๆ ให้กับคุณ”

ราชบอกพร้อมกับโอบกอดคนรักไว้ในอก

“คุณราชฟังไว้นะคะ...ความรักระหว่างสามีภรรยาถึงจะหวานชื่นแค่ไหน แต่วันหนึ่งมันสิ้นสุดลงความหวานชื่นนั้นก็จะจืดจางไป คนรักกับครอบครัวเทียบกันไม่ได้เลยสักนิดคุณควรมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนในครอบครัวมากกว่าใคร...เพราะหากสามีหรือภรรยาต้องเลิกรากันสุดท้ายสิ่งที่ผ่านๆ ไปมันก็จบอยู่แค่...คำว่าเคยเป็นของกันและกัน แต่กับคนในครอบครัวนั้นมันผูกพันจนแยกไม่ได้ถึงจะโกรธเคืองกันยังไงก็ไม่มีคำว่าเคยมาขวางกั้น”

“มันหมายความว่ายังไงจ๊ะไอ...ทำไมคุณถึงพูดราวกับว่าไม่เชื่อมั่นในความรักที่ผมมีต่อคุณ”

ราชนิ่วหน้าเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของคนรัก

“หากเราสองคนเลิกรากันไปสุดท้ายไอก็จะเป็นแค่คนที่เคยเป็นภรรยาของคุณ แต่กับพี่น้องรวมถึงพ่อแม่ต่อให้โกรธเคืองกันแค่ไหนก็ไม่มีคำว่าเคยเป็นพ่อเป็นแม่หรือเคยเป็นพี่เป็นน้อง...คนในสายเลือดตัดกันอย่างไรก็ไม่มีวันขาดเพราะฉะนั้นคุณราชต้องใส่ใจคนในครอบครัวให้ดีกว่าคนอื่นเข้าใจไหมคะ”

“เวลานี้คุณคือครอบครัวของผมนะไอ...คุณไม่ได้เป็นคนอื่น”

ไอรดาวางมือลงบนหลังมือหนาแล้วลูบไล้ไปมาเมื่อเห็นสีหน้ากึ่งตกใจและกึ่งงุนงงของคนรัก

“ไอเข้าใจค่ะแต่คุณควรอ่อนโยนและใส่ใจกับคุณแพรเหมือนกับที่คุณอ่อนโยนกับไอ...เพราะเธอคือครอบครัวของเรา”

ราชก้มมองมือเรียวที่ทาบลงบนหลังมือแล้วนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังไปทำความผิดอะไรมา

“คุณแพรเธอชอบอลันคุณก็ควรปล่อยให้เธอมีอิสระกับความรักที่เธอเลือก อย่าไปกะเกณฑ์หรือขีดเส้นทางให้เลย...อีกอย่างคำพูดที่คุณใช้มันรุนแรงเกินไปรู้ไหมคะ”

“แต่คุณก็รู้นี่ว่าอลันเขารังเกียจยัยแพรรวมถึงเกลียดผมจนเข้าไส้ ผมผู้ชายด้วยกันดูออกสายตาของพี่ชายคุณยามมองยัยแพรมันเหมือนเขาขยะแขยงจนแทบไม่อยากเฉียดกรายด้วยซ้ำ”

ราชอดพูดขึ้นไม่ได้เมื่อเห็นสายตาของอลันในยามมองน้องสาว

“อลันมีท่าทางแบบนั้นกับผู้หญิงทุกคนนั่นแหละค่ะเขาไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก ความจริงอลันไม่ได้รังเกียจคุณแพรหรอกนะคะแต่ที่ต้องกีดกันตัวเองออกห่างจากผู้หญิง ก็เพราะกลัวจะไปหลงงมงายอยู่กับความรักต่างหาก”

เมื่อเห็นสีหน้าไม่เชื่อถือของราชไอรดาจึงตัดสินใจเล่าความหลังของพี่ชายให้เขาฟัง

“อลันไม่เคยเชื่อมั่นกับผู้หญิงคนไหนนับตั้งแต่จับได้ว่าคนรักของเพื่อนเป็นสายลับจากซีไอเอ...ที่เข้ามาล้วงความลับขององค์กร...อลันไม่เคยวางใจผู้หญิงที่ใช้ความยั่วยวนของร่างกายเพื่อเขาใกล้เขา...และข้อนี้มันก็พิสูจน์ได้ไม่ใช่เหรอคะว่าผู้หญิงเป็นตัวอันตรายแค่ไหนหากคุณคือเป้าหมายของเธอ”

“แต่มันไม่เหมือนกันนะไอ...ถึงผมจะเป็นเป้าหมายของคุณแต่พรหมลิขิตก็ขีดเส้นมาให้เรารักกัน...คุณมองดูเราสิทุกวันนี้เรากำลังมีความสุขอยู่บนพื้นฐานของความรัก...เรากำลังมีลูก...ครอบครัวของเรากำลังจะสมบูรณ์แบบนะที่รัก”

“งั้นคุณช่วยกรุณานึกย้อนกลับไปหน่อยสิว่าหากไม่มีอุบัติเหตุนั่น...เราจะยังมีวันนี้อยู่ไหม...”

คำพูดของไอรดาทำเอาราชถึงกับอึ้งไปชั่วอึดใจเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

“แต่...ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปแล้ว...คุณเป็นอะไรไปจ๊ะทำไมวันนี้ดูแปลกๆ ไป”

“ไอแค่อยากให้คุณราชเข้าใจคุณแพรและให้โอกาสเธอลองเดินไปตามพรหมลิขิตของตัวเองบ้าง...การที่เธอมั่นใจในตัวเองมันไม่ใช่ความผิด...ลองให้โอกาสเธอค้นหาความรักในแบบฉบับของเธอ...อย่าไปบีบบังคับมาก...และที่สำคัญอย่าใช้คำหยาบกับน้องเพราะมันไม่น่าฟังเลย”

ไอรดาชี้นำด้วยความหวังดี

“ผมแค่ห่วงน้องไม่อยากให้ช้ำใจยามถูกพี่ชายคุณทำร้ายจิตใจด้วยคำพูดดูถูกดูแคลน ไหนจะถูกทำร้ายด้วยท่าทางเย็นชาเหมือนผีดิบนั่นอีก อลันร้ายกาจขนาดไหนคุณก็รู้...อีกอย่างคุณดูยัยแพรมันแต่งตัวสิยั่วได้ยั่วดีแบบนั้นขืนอลันหน้ามืดขึ้นมาแล้วลากเข้าถ้ำผมก็กลัวน้องจะรับไม่ได้กับความผิดหวังหากถูกอลันปฏิเสธน่ะสิ”

ราชบอกอย่างกังวล

“ความรักมีแค่คนสองคนเท่านั้นที่จะตัดสิน ถึงอลันจะร้ายกาจยังไงแต่ถ้าเขาไม่ต้องการทุกอย่างมันก็จะจบอยู่แค่นั้น...อลันไม่เคยแตะผู้หญิงเพราะความใคร่หรืออารมณ์ในเบื้องต่ำของตัวเอง... คุณวางใจเถอะค่ะอลันไม่ใช่เสือผู้หญิง”

ไอรดาประคองใบหน้าของคนรักไว้ในอุ้งมือแล้วบอกเล่าถึงอุปนิสัยของพี่ชาย

“แต่ผมก็ไม่วางใจอยู่ดี”

“คุณราชคนดี...ตอนที่ไอเลือกรักคุณอลันก็ไม่เคยเห็นด้วย...และไม่เห็นด้วยแม้กระทั่งตอนนี้...เรื่องของหัวใจมันไม่ใช่เรื่องที่เราจะไปกะเกณฑ์ให้ใครๆ เดินไปตามความต้องการของเรา...ทุกคนมีจุดมุ่งหมายของตัวเอง ไอเข้าใจความรู้สึกของคุณแพร และอยากให้คุณเข้าใจเธอด้วยวางทิฐิลงบ้าง แค่ความรักบนความขัดแย้งของเรามันก็ย่ำแย่พอแล้วอย่าทำให้คุณแพรเธอยืนอยู่บนถนนสายเดียวกับเราอีกเลย คุณควรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามโชคชะตาของพวกเขา เข้าใจไหมคะ”

ราชมองดวงหน้าอวบอิ่มหากยังคงงดงามไม่เปลี่ยนแปลงด้วยความรักอันมากล้น ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นประกายตาจริงจังของภรรยา เห็นทีเขาคงต้องปล่อยวางทุกอย่างแล้วปล่อยให้แพรไพลินเดินไปตามเส้นทางที่พรหมลิขิตเป็นผู้ชี้นำ


เจตน์มองร่างปราดเปรียวที่ก้าวออกมาจากห้องพักพร้อมๆ รติญาด้วยประกายตาเคียดแค้นอย่างไม่คิดปิดบัง

“เมื่อคืนแค่ทัศน์คนเดียวแต่คืนต่อไปถ้านายยังเล่นแง่ฉันสาบานว่ามันจะมากกว่านั้น”

อลันพูดพร้อมกับหมุนตัวไปเผชิญหน้าและพูดแทงใจเมื่อเห็นท่าทางอาฆาตพยาบาทของศัตรูสูงวัย

“ไอ้สารเลว...แกมันมาเกิดมาจากนรกขุมไหนกัน”

เจตน์เข่นเขี้ยวอย่างคับแค้นใจ

“ถามตัวเองดีกว่ามั้งว่าทำความชั่วไว้ในระดับไหนถึงได้ตกลงมาอยู่ในนรกที่มีฉันเป็นผู้พิพากษา อ้อและจะบอกเอาไว้ว่าฉันยังมีของขวัญให้นายอีกเยอะ...ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็ลองทำเรื่องโง่ๆ สักเรื่องสองเรื่องสิรับรองฉันจะจัดโทษที่ยมบาลยังไม่กล้าลงทัณฑ์ให้นายได้เห็นก่อนลงไปท่องอเวจี”

“ฉันขอสาปแช่งแก...ให้ตกนรกหมกไหม้...ตายไปก็อย่าได้ผุดได้เกิดขึ้นมาทำความชั่วอีก”

“งั้นก่อนที่ฉันจะตกนรกนายช่วยบอกมาก่อนได้ไหมว่าเด่นชัยมันเอาของไปซ่อนไว้ที่ไหน”

อลันไหวไหล่เหมือนไม่ได้ใส่ใจกับคำสาปแช่งของอีกฝ่ายนัก

“แกมันสับปลับไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย...ไหนว่าจะไม่แตะต้องเธอไง”

เจตน์ยังเดือดดาลไม่เลิกเมื่อไม่อาจรับได้กับความสูญเสีย

“ฉันไม่ได้แตะต้องเธอ...และไม่คิดแตะต้องด้วย”

อลันแค่นเสียงตอบกลับไป

“ปล่อยคุณโรสไป...ฉันขอล่ะอย่าลากเธอลงนรกเลย”

“ฉันว่า...นายคงเข้าใจอะไรผิดแล้วมั๊ง...เห็นนั่นไหม...” อลันชี้มือไปยังชิงช้าไม้ท่ามกลางสวนหย่อมขนาดย่อม “เท่าที่มองดูฉันไม่เห็นหล่อนเป็นเดือดเป็นร้อนเลยสักนิดที่จะอยู่ใกล้ชิดคนของฉัน...ฮึ...ของแบบนี้นายก็รู้นี่ว่ามันดียิ่งกว่าได้ขึ้นสวรรค์ได้ลองแล้วก็อยากลองอีก...เป็นยิ่งกว่ายาเสพติดเสียอีก”

“ฉันจะฆ่าแก...ไอ้สารเลว”

เจตน์กระโจนเข้าไปหาอลันอย่างบ้าคลั่งแต่ถูกสกัดไว้ด้วยชายฉกรรจ์ที่ยึดร่างเอาไว้

“นายจะเดือดร้อนทำไมนั่นไม่ใช่ลูกสาวของนายเสียหน่อย”

“ไอ้ชั่ว...ฉันสาบานว่าถ้าฉันหลุดรอดออกไปฉันจะฆ่าแก...ไอ้บัดซบแกทำแบบนี้กับคนเพศเดียวกับแม่แกได้ยังไงไอ้สารเลว”

เจตน์แผดเสียงข่มขู่อย่างเหลืออด

“ใครสารเลวกัน...พวกนายมันเลวยิ่งกว่าอะไร...ฉันจะให้โอกาสอีกครั้งบอกมาเดี๋ยวนี้ว่าไอ้เด่นชัยมันเอาของไปซ่อนไว้ที่ไหน...เจตน์ฉันมีความอดทนไม่มากหรอกนะ ถ้านายยังไม่อยากเห็นแม่นั่นตายทั้งเป็นอยู่ท่ามกลางคนของฉันขอล่ะอย่าบังคับให้ฉันต้องออกคำสั่งอีกเลย”

“ไอ้ลูกหมา...ไอ้หน้าตัวเมีย...”

“หยุดเห่าสักทีฉันไม่ได้มีเวลาเล่นเกม...บอกมาว่าของอยู่ที่ไหน...”

อลันคว้าหมับไปที่ปลายคางสากแล้วออกแรงบีบจนอีกฝ่ายเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด

“ฉันไม่กลัวตาย...เอาสิฆ่าฉันเลย”

แม้จะจนตรอกแต่ด้วยความที่เป็นนักเลงเจตน์จึงไม่ยอมอ่อนข้อง่ายๆ

“ได้...นายเลือกเองนะเจตน์...พวกแกอยากปล่อยอารมณ์กับแม่นั่นก่อนเดินทางสักรอบไหม”

อลันเข่นเขี้ยวพร้อมกับหันไปถามคนติดตามที่มีมากกว่าห้าคนด้วยประกายตาเอาจริง พอได้ยินคำสั่งของเจ้านายบรรดาลูกน้องที่อยู่ในนั้นต่างตบมือเกรียวกราวอย่างถูกอกถูกใจ

เจตน์มองกลุ่มชายฉกรรจ์ที่กำลังครื้นเครงกับคำสั่งด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ ใบหน้ากร้านแดดกร้านลมกวาดมองไปรอบๆ ตัวอย่างอาฆาตเมื่อเห็นบรรดาลูกน้องของอลันกำลังจัดคิวโดยจับไม้สั้นไม้ยาวด้วยความสนุกสนาน

“ผมคิวแรกครับคุณอลัน”

ชายร่างใหญ่ในชุดทะมัดทะแมงชูไม้ที่จับได้ขึ้นโชว์ด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่า

“ได้แล้วก็ไปขึ้นสวรรค์ซะ...อย่าให้ยับเยินมากนักล่ะเดี๋ยวคนอื่นจะหมดสนุก”

คำพูดของอลันเป็นเหมือนสายฟ้าที่กำลังฟาดลงมาบนกระหม่อมของเจตน์ เมื่อไม่อาจทนกับความเลวร้ายชายวัยกลางคนจึงแผดเสียงขึ้น

“ของอยู่ที่เกาะตะรุเตา...ได้โปรดอย่าทำร้ายเธอ...”

“แล้วไงอีก...ของที่พวกแกเอาไปมันเหลือครบหรือเปล่า”

อลันถลันเข้าไปกระชากคอเสื้อของเจตน์แล้วตะคอกถาม

“ของถูกปล่อยออกไปไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์...พวกเราไม่กล้าปล่อยออกไปเยอะเพราะเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเริ่มได้กลิ่น...”

“ของอยู่ไหน พวกแกปล่อยของให้ใครแล้วมีแผนยังไงต่อ”

“ตอนนี้ของส่วนหนึ่งพวกเราซ่อนไว้ที่อ่าวตะโละอุดังอยู่ทางทิศใต้ของเกาะตะรุเตา เมื่อสามเดือนก่อนพวกเราส่งของผ่านนายหน้าที่เกาะลังกาวี แล้วลักลอบข้ามน่านน้ำของมาเลเซียส่งของต่อไปยังอินโดนีเซีย อีกส่วนอยู่ปลายคลองพันเตมะละกาใกล้กับถ้ำจระเข้”

“พวกนายปล่อยของไปแค่ห้าเปอร์เซ็นต์แน่เหรอ...สารเลวเอ๊ย...ของนั่นมันมีค่าเป็นพันๆ ล้านแต่นายบอกฉันว่าปล่อยไปแค่นั้นงั้นเรอะ...ไอ้คนโกหก”

“พวกเราปล่อยได้แค่นั้นจริงๆ หลังจากได้ของมาพวกเราถูกหักหลังจากคนของนาย แกก็รู้นี่ว่าอาวุธพวกนั้นมันมีมูลค่ามหาศาล กว่าพวกเราจะขนย้ายถ่ายเทจนของไปอยู่ในที่ปลอดภัยพรรคพวกก็ล้มตายไปจนแทบไม่เหลือ...อีกอย่างเวลานี้นายใหญ่กำลังถูกคนจากองค์กรไล่ล่า...พวกเราไม่กล้าทำอะไรมากนักหรอก”

เจตน์บอกไปตามสถานการณ์

“นายกำลังจะบอกฉันว่ามันมีคนอยู่เบื้องหลังงั้นเรอะ”

อลันถามน้ำเสียงเครียดเพราะไม่ระแคะระคายสักนิดว่านอกจากเขา องค์กรยังส่งทีมอื่นออกไล่ล่าคนพวกนี้อีก

“แกคิดว่าพวกเราจะมีปัญญาขนอาวุธพวกนั้นมาเองหรือไง...ของพวกนั้นมันมีไม่ใช่น้อยๆ กว่าจะขนผ่านเครื่องบินขนส่งแล้วลากข้ามทะเลมาไว้ในที่ปลอดภัยได้มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ ฉันกับคุณเด่นชัยมันก็เป็นแค่หมากเล็กๆ ตัวหนึ่ง...พวกเรามีหน้าที่ขนย้ายและดูแลของเพื่อเตรียมส่งออกเท่านั้น ”

เจตน์ตอบด้วยท่าทางเป็นจริงเป็นจัง

“ถ้าพวกนายมีหน้าที่เท่านั้นแล้วกล้าดียังไงถึงเอาของออกเร่ขายแบบนั้น”

“ถึงจะรอคำสั่งของนายใหญ่แต่พวกเราต้องกินต้องใช้เหมือนกัน...”

“แล้วพวกแกจะส่งออกของไปทางไหน...บอกมาให้หมด”

“ของจะถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน...ส่วนหนึ่งมีเจ้าหน้าที่รอรับที่ชายแดนไทย-มาเลเซียตรงด่านวังประจัน อีกส่วนแยกไปปาดังเบซาร์ แล้วส่งต่อไปที่เมืองกางะของรัฐเปอร์ลิส และอีกส่วนจะถูกส่งออกทางเรือเดินสมุทรผ่านน่านน้ำของมาเลย์ไปยังอินโดนีเซีย ”

“ถ้าของมันยังอยู่ในความดูแลของนายจงนำทางไป...ฉันต้องเอาของที่เหลือทั้งหมดกลับไปคืนองค์กรนายรู้ใช่ไหม...”

“สิ่งที่แกอยากรู้ฉันบอกไปหมดแล้ว...ฉันช่วยแกก็ได้แต่ขอล่ะอย่าแตะต้องคุณโรส...”

“หากอยากให้ทุกอย่างยุตินายควรให้ความร่วมมือกับฉันอย่าคิดตุกติกเป็นอันขาดไม่อย่างนั้นฉันไม่ละเว้นใคร...แม้แต่คนเดียว...ส่วนผู้หญิงคนนั้นฉันจะให้ทัศน์ดูแลนายเลิกห่วงได้แล้ว...ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ”

อลันเข่นเขี้ยวข่มขู่ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องให้จัดการเรื่องคืนห้องและเตรียมออกเดินทาง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยชายหนุ่มจึงผลักประตูให้เปิดกว้างแล้วเดินตรงไปหาคนสนิท






Create Date : 13 ตุลาคม 2553
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 12:06:16 น. 3 comments
Counter : 1498 Pageviews.

 
ต้องขอโทษที่ไม่ได้แจ้งไว้ก่อน เมื่อวานงานยุ่งขอ ขอทดแทนเป็นสองตอนนะคะ อ่านให้สนุกค่ะ


โดย: sansook วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:12:06:54 น.  

 
เห็นว่างานยุ่งแล้วมาอัพให้สองตอนนะเนี่ย ไม่งั้นมีเคือง (อ่ะล้อเล่น)

รักษาสุขภาพเยอะๆ นะน้องเอ๋ พักผ่อนเยอะๆ เดี๋ยวร่างกายเค้างอนแล้วเกิดประท้วงหยุดงาน จะลำบากนะจ๊ะ เป็นห่วงนะจ๊ะ


โดย: เอิงเอย IP: 68.224.193.220 วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:20:41:42 น.  

 
ลง 2 ตอนแหนะ 555+++
ตอนแรกอ่านตอน 6 ก่อน งง
ทำไมไม่ต่อเนื่อง
ขอบคุณนะค่ะ คุณราชนี่อยู่ชมรมกลัวภรรยาจริงๆ หุหุ


โดย: googie IP: 125.24.176.8 วันที่: 14 ตุลาคม 2553 เวลา:5:05:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.